มีวิดีโอหนึ่งถูกอัปโหลดขึ้นในเว็บบอร์ดออนไลน์
ในวิดีโอเป็นภาพของเด็ก ๆ ระหว่างการเดินทางด้วยรถไฟ
พวกเด็ก ๆ ดูตกใจเมื่อรถไฟเคลื่อนตัวลงสู่ใต้ดิน หูและหางของพวกเธอกระดิกตั้งขึ้นจากความตกใจ
ตอนผ่านประตูตรวจตั๋ว เด็ก ๆ คลานลอดเข้าไปพลางทำเสียง “บี๊บๆ” ด้วยปาก ซึ่งทำให้คอมเมนต์ล้นหลามด้วยความเอ็นดู
===========================
[BeastkinLover: น่ารักชะมัดเลย…]
[RealReal: ช่วงนี้รู้สึกแย่มากเลย แต่วิดีโอนี้ทำให้ฉันยิ้มได้เลย 555+]
[TrickShow: ดูคลิปนี้แล้วอยากมีลูกขึ้นมาเลย 555+]
===========================
แม้เด็ก ๆ จะพยายามขึ้นรถไฟโดยไม่จ่ายเงิน แต่ก็ไม่มีใครโกรธเลย
ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กมนุษย์สัตว์จะไม่รู้วิธีใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่
ผู้คนมองว่าเป็นเรื่องน่ารักน่าขำขันเสียมากกว่า
‘ไม่เลวเลย’
คังจินโฮรู้สึกพอใจที่ไม่มีใครตำหนิเด็ก ๆ
คำว่า ‘มนุษย์สัตว์’ เปลี่ยนพฤติกรรมไร้เดียงสาและมารยาทที่ไม่เหมาะสมของเด็ก ๆ ให้กลายเป็นความน่ารัก
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีเหตุผลต้องกังวลว่าเด็ก ๆ จะถูกต่อว่า
สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ค่อยมีใครที่โกรธเด็กมนุษย์สัตว์ซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับโลกภายนอกหรอก
คังจินโฮรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย และดูวิดีโอต่อจนจบ
……!
วิดีโอจบลงด้วยภาพที่เด็ก ๆ ตกใจเมื่อมองรถไฟที่แล่นผ่านด้วยความเร็วสูง ด้วยความตกใจ หูและหางของพวกเธอเลยตั้งชัน และโซเฟียก็กำลังรับเด็กคนหนึ่งที่กำลังล้มเอาไว้
แม้แต่คังจินโฮที่ขึ้นชื่อว่าเย็นชา ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าน่ารัก
‘ไม่เลวเลย’
ถึงหน้าตาของพวกเด็ก ๆ จะกลายเป็นที่รู้จักไปแล้ว แต่แล้วมันจะมีอะไรล่ะ?
ยังไงพวกเธอก็เป็นสมาชิกของกิลด์ นั่นคือสิ่งที่ตัองยอมรับอยู่แล้ว
สิ่งสำคัญคือ ผู้คนที่รู้จักเด็กมากกว่า
ไม่มีอะไรที่น่าอึดอัดไปมากกว่าการมีเรื่องกับคนที่มีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีอีกแล้ว
ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนของคังจินโฮ
เขาเดินไปที่หน้าต่าง
เมื่อมองลงไปตามเวลาเดิม เขาก็มักจะเห็นเด็ก ๆ อยู่ใกล้บ่อน้ำเสมอ
คังจินโฮจึงตัดสินใจเริ่มต้นวันใหม่ เหมือนทุกครั้ง ด้วยภาพเด็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา
━━━━━━━━━━━━━━━━━
“เฮ้ ราชาทั้งสอง!”
อแฮ่ม
เลวีนัสก้าวออกมา พร้อมกับยืดอกโชว์ต่อหน้าแซบยอก
ท่าทางแบบนี้มีไว้ใช้เฉพาะเวลาที่เธออยากโอ้อวดบางอย่างเท่านั้น
“มีอะไรเหรอ?”
“เลวีนัสซื้อของที่สุดยอดมาได้ล่ะ!”
“ของที่สุดยอด?”
“ใช่แล้ว!”
เลวีนัสดึงพวกเราพาไปยังจุดหนึ่ง
ตรงนั้นเราก็เห็นรถเข็นมือที่อยู่ในสภาพดีทีเดียวอยู่
มันดูดีกว่าคันเก่าที่ล้อแทบจะไม่หมุนเยอะเลย
“เชื่อไหม เลวีนัสจ่ายแค่แสนวอนเพื่อคันนี้! ถึงจะมือสองแต่ว่าเหมือนใหม่เลย!”
“ว้าว”
เงินแสนวอนนั่นน่าจะมาจากค่าตอบแทนจากดันเจี้ยนครั้งก่อน
ใช้เงินค่าตอบแทนไปกับของที่มีประโยชน์แบบนี้
ถ้ามีรถเข็นมือคันนี้ เราก็จะทำอะไรได้หลายอย่างเลย
เก็บผักก็ง่ายขึ้น เก็บของเก่าก็ได้มากขึ้น…
แค่เห็นรถเข็น หางของพวกเราก็กระดิกไปมาแล้ว
ระหว่างที่เราคิดว่าจะเอามันไปใช้อะไร แซบยอกก็ปีนขึ้นไปบนรถเข็น
เธอจับด้ามจับรถเข็นไว้ เหมือนกำลังขอให้ลากเธอไป
“ทุกคน ขึ้นมาเลย”
“อ๊ะ!”
เลวีนัสรีบปีนขึ้นรถเข็นตามไปทันที
แม้จะมีสองคนนั่งอยู่ แต่ก็ไม่ได้หนักเลย เพราะล้อทำให้ลากง่าย
“นั่งแล้วเป็นยังไงบ้าง?”
“ดีมากเลย”
“ตอนนี้เราก็มีรถแล้วนะ!”
ฉันลากเด็ก ๆ ที่ตื่นเต้นไปรอบ ๆ สวนสาธารณะ
ระหว่างทางเราก็เก็บขวดเปล่าใส่รถเข็นไปด้วย
หลังจากพาเด็ก ๆ ตระเวนเล่นอยู่พักหนึ่ง เราก็จอดรถเข็นไว้ตรงมุมหนึ่งของสวน
“สุดยอดไปเลย ฉันอยากได้รถเข็นอันใหม่มานานแล้ว”
“จริงเหรอ? อยากได้จริง ๆ เหรอ?”
“ใช่ รถเข็นมือมีประโยชน์ตั้งเยอะ”
รถเข็นมือคันเก่าของฉันต้องหยอดน้ำมันก่อนถึงจะขยับได้
แต่คันนี้กลิ้งลื่นมากโดยไม่ต้องออกแรงเลย
ไม่คิดเลยว่าจะมีรถเข็นมือดี ๆ แบบนี้อยู่ด้วย
ฉันลูบคานเหล็กของรถเข็นอย่างมีความสุข
“นี่ ไปเก็บขวดกันด้วยรถเข็นอันนี้ดีไหม?”
“อืม!”
ฉันลากรถเข็นพร้อมกับเด็กสองคนไปทางหน้าอาคารกิลด์
ที่นั่น เราเจอคนคุ้นหน้าคุ้นตา
ยอรึม จองยูนา และชเวจินฮยอก
“คยออุล มาทำอะไรตรงนี้เหรอ?”
“พวกเรามาเก็บขวดกันน่ะ”
“เหรอ?”
“ใช่ เราเพิ่งซื้อรถเข็นคันนี้มา แล้วล้อมันก็กลิ้งดีมากเลยล่ะ”
“เหรอ…?”
สีหน้าของยอรึมดูไม่ค่อยดีนัก
จองยูนาและชเวจินฮยอกก็มีสีหน้าแบบเดียวกัน
พวกเขาไม่ชอบรถเข็นงั้นเหรอ?
ท่าทีของพวกเขาดูสับสนหน่อย ๆ
“นี่เป็นรถเข็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะ…”
“ว้าว รุ่นใหม่ล่าสุดเหรอ?”
“ใช่ นั่งดูไหม? มันนั่งสบายมากเลยนะ”
เลวีนัสกับแซบยอกชี้นิ้วเชิญชวน พลางขยับที่ให้พวกเขาเข้าไปนั่งด้วย
เลวีนัสถึงกับโบกมือเรียกให้พวกเขาขึ้นมาด้วย
“ไม่เป็นไร”
ยอรึมหัวเราะพลางโบกมือปฏิเสธ แล้วก็เหลียวมองดูปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้าง
ตอนนั้นเองที่ฉันเพิ่งสังเกตว่ามีคนกำลังมองพวกเราอยู่มากมาย
“จะไม่ลองนั่งดูหน่อยเหรอ…?”
“อืม ก็… มันดูไม่ค่อยเหมาะกับพี่เท่าไหร่”
“อ่า…”
บางทีรถเข็นมืออาจจะไม่เหมาะกับฐานะของเธอ
ฉันรู้สึกผิดหวังขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
แม้แต่หูและหางของฉันก็ห้อยลงด้วยความเศร้า
‘น่าเสียดายจัง’
ยังไงยอรึมก็มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ส่วนฉันก็ต่ำกว่าคนธรรมดาทั่วไปซะอีก
ความต่างในการรับรู้แบบนี้คงเลี่ยงไม่ได้
“งั้น คยออุลอยากนั่งไหม? เดี๋ยวพี่ลากให้เอง”
“ไม่เป็นไร ฉันชอบเป็นคนลากมากกว่า”
“เหรอ…?”
“ใช่ มันคือความฝันของฉันเลยนะ ที่จะได้ลากรถเข็นดี ๆ สักอัน”
ฉันมักจะสัญญากับตัวเองเสมอเวลาที่ล้อของรถเข็นที่ขึ้นสนิมไม่ยอมหมุนต่อ
ว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะต้องลากรถเข็นรุ่นใหม่ล่าสุดให้ได้
แต่พอได้รถเข็นแบบนั้นมาอยู่ในมือแล้ว จะให้ฉันมานั่งแทนเข็นเนี่ยนะ?
ฉันจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดเลย
“เอ่อ อืม…”
ยอรึมลังเล มองจ้องไปที่รถเข็นเงียบ ๆ
ฉันไม่อยากบังคับคนที่ไม่อยากนั่ง เลยโบกมือบอกว่าไม่เป็นไร
“งั้นฉันจะไปเก็บขวดต่อแล้วนะ”
“อืม ได้สิ…”
หลังจากบอกลายอรึม ฉันก็เริ่มลากรถเข็นต่อไปข้างหน้า
แต่เดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าว รถเข็นกลับรู้สึกหนักขึ้นมาเฉย ๆ เลย
“ฮืม?”
ทำไมมันถึงหนักขึ้นมาล่ะ?
เมื่อหันไป ฉันก็เห็นยอรึมนั่งอยู่บนรถเข็นด้วยใบหน้าสีแดงพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยความเขินอายที่ต้องใช้พาหนะของคนธรรมดา
“งั้นพี่ขอนั่งสักเดี่ยวได้ไหม?”
“อ๊ะ! ได้เลย!”
เธอต้องเอาชนะความเขินอายเพื่อที่จะนั่งรถเข็น
ความใจดีของเธอทำให้หางของฉันกระดิกอย่างมีความสุข
“ขึ้นมาด้วยกันสิ พวกเธอสองคน”
ยอรึมผายมือเรียกจองยูนาและชเวจินฮยอก
ทั้งสองคนลังเลเหมือนที่ยอรึมลังเลเมื่อครู่
“ถ้าพวกเราขึ้นไปหมด คยออุลจะลากไหวเหรอ?”
“ไม่เป็นไรเลย! ล้อมันดีมาก!”
“จริงเหรอ?”
“ใช่! ฉันจะลากทุกคนเอง!”
การได้ครอบครองรถเข็นรุ่นใหม่ล่าสุดทำให้ฉันรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา
จองยูนาและชเวจินฮยอกลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะนั่งลงบนรถเข็น
ถึงจะมีคนอยู่บนรถเข็นถึงห้าคน แต่มันก็ยังโอเคอยู่
“คยออุล แบบนี้มันไม่หนักไปหน่อยเหรอ?”
“ไม่เป็นไร!”
ฉันออกแรงทั้งหมดที่มีเพื่อดึงรถเข็นไปข้างหน้า
แขนท่อนล่างของฉันสั่น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง รถเข็นกลับไม่ขยับเลย
“ฮือ?”
ทำไมมันไม่ขยับเลยล่ะ?
ขณะที่ฉันกำลังสงสัย รถเข็นก็เริ่มเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ขนาดใช้แรงทั้งหมดแล้ว แต่มันก็ขยับแค่นิดเดียวเอง
“ว้าว”
ฉันสามารถดึงมันไปข้างหน้าได้ทั้งที่มีคนอยู่ถึงห้าคน
มันเป็นรถเข็นรุ่นล่าสุดจริง ๆ ด้วย
ฉันลากรถเข็นอย่างมีความสุข
━━━━━━━━━━━━━━━━━
ผู้คนที่เดินผ่านหน้าอาคารกิลด์ต่างก็พากันมองไปทางเดียวกัน
มันเป็นภาพแปลก ๆ เด็กตัวน้อย ๆ คนหนึ่งกำลังลากผู้ใหญ่สามคนกับเด็กอีกสองคน
ตอนแรกดูเหมือนเป็นการใช้แรงงานเด็ก แต่พวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีเกินกว่าจะถูกเข้าใจผิดแบบนั้น
พวกเขาคือสมาชิกกิลด์ยอมยอง และเด็กมนุษย์สัตว์ที่กิลด์ดูแลอยู่
นี่คือเกมอะไรหรือเปล่า?
หรือการฝึกซ้อม?
ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ผู้คนก็มองดูภาพนั้นอย่างตื่นตาตื่นใจ
“ยูนา ช้าลงหน่อยสิ”
ยอรึมที่นั่งอยู่บนรถเข็น ส่งสัญญาณให้จองยูนา
เป็นสัญญาณบางอย่างที่หมายถึงให้ชะลอความเร็ว
“โอเค”
จองยูนาพยักหน้าแล้วโบกไม้กายสิทธิ์
decreased.
จากนั้นความเร็วของรถเข็นก็ลดลงเล็กน้อย
ความจริงแล้วคนที่ลากรถเข็นไม่ใช่คยออุล แต่เป็นเวทมนตร์ของจองยูนา
จองยูนากังวลว่าคยออุลจะผิดหวัง จึงแอบใช้เวทมนตร์ช่วยลากรถเข็นแทน
คยออุลที่ไม่รู้เรื่องนั้นก็ยังออกแรงลากรถเข็นสุดกำลัง
ด้วยเวทมนตร์ของจองยูนา ไม่ว่าจะออกแรงแค่ไหน ความเร็วของรถเข็นก็จะยังคงที่ แม้ว่าแขนของเธอจะสั่นก็ตาม
“แฮ่ก ฮื่อ…”
“คยออุล หยุดก่อนดีไหม?”
“อ-อีกนิดเดียว…!”
อะไรกันที่ทำให้เธอทุ่มแรงขนาดนี้กับรถเข็นคันนี้?
ยอรึมนึกถึงรถเข็นคันเก่าข้างเต็นท์ของคยออุล มันเก่าเสียจนแทบจะใช้งานไม่ได้แล้ว
คยออุลหวงแหนมันมากจนไม่ยอมทิ้ง
รถเข็นใหม่คงเป็นเหมือนความฝันของเด็กคนนั้น
‘ไม่ใช่ตุ๊กตาหรือของเล่น แต่เป็น…’
การได้ลากรถเข็น
เป็นคำพูดที่ไม่ว่าได้ยินกี่ครั้งก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดี
ยอรึมถอนหายใจหนัก ๆ ด้วยความรู้สึกอัดอั้นในใจ
แล้วในตอนนั้นเอง
“พวกเธอกำลังทำอะไรกัน?”
เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคย ยอรึมก็เงยหน้าขึ้น
หัวหน้ากิลด์คังจินโฮยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย ข้างกายมีหัวหน้ากิลด์ซาเครด แชจูยอนอยู่ด้วย
“พวกเธอกำลังรังแกเด็กอยู่เหรอ?”
“ม-ไม่ใช่ค่ะ! ไม่ใช่แบบนั้นเลย! พวกเรากำลังเล่นกันอยู่!”
“เล่น…งั้นเหรอ?”
แชจูยอนกับคังจินโฮหันไปมองคยออุล
พวกเขาเห็นคยออุลที่กำลังสั่นไปทั้งตัวอยู่
ภาพของคยออุลที่ออกแรงดึงรถเข็นอย่างสุดกำลังนั้นช่างน่าสงสารเหลือเกิน
MANGA DISCUSSION