เพียะ!
พร้อมกับเสียงกระแทกดังลั่น คอของวอริเออร์ก็หันผิดทิศผิดทาง
ไม่ต้องตรวจให้เสียเวลา ก็รู้ได้ทันทีว่ามันตายแล้ว
“แค่ทีเดียว…”
“ใช่ ฉันแข็งแกร่ง”
แซบยอกโวออกมา พลางโชว์ท่อนแขนเรียวยาวของตัวเอง
แขนที่ดูนุ่มนิ่มนั้น เหมือนจะยืดได้เหมือนข้าวเหนียวถ้าดึง
“…บอสมันอ่อนขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“อ่อนมาก ๆ เลยล่ะ”
“เอ่อ โอเค…”
ไม่อยากจะเชื่อว่ามันอ่อนจริง
เขี้ยวมันยาวพอ ๆ กับหัวของฉัน
ฉันอดไม่ได้ที่จะอ้าปากแล้วกดเขี้ยวของตัวเองดู
เมื่อเทียบกับของวอริเออร์ ฉันเล็กกว่ามาก
ถึงของฉันจะดูแหลมกว่า แต่ก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
“คยออุลอยากมีเขี้ยวยาว ๆ ด้วยเหรอ?”
ยอรึมเอานิ้วสอดเข้าปากฉัน
เธอกดลงบนเขี้ยวเพื่อเช็คความแหลมคม ส่วนฉันก็ได้แต่อ้าปากค้างไว้ กลัวจะกัดนิ้วเธอเข้า
“ว้าว อันนี้ใช้แทนมีดได้เลยนะ?”
“อ-อืน…”
ฉันพูดไม่ชัด เพราะยังอ้าปากอยู่
ยอรึมเห็นเข้าเลยยิ้มแล้วชักนิ้วกลับ
“งั้นต้องระวังไม่ให้ไปกัดใครเข้านะ”
“ได้ ฉันจะระวัง”
ฉันคงไม่กัดใครหรอก แต่ระวังไว้ก็ไม่เสียหาย
ในจังหวะที่ฉันพยักหน้ารับ เลวีนัสก็วิ่งมาแอบหลังฉันทันที
“ราชา! ราชาด้านมืดฟื้นคืนชีพแล้ว…! นางถูกความมืดกลืนกินไปแล้ว…!”
เลวีนัสจับชายเสื้อฉันแน่น
มือของเธอสั่นระริก
“ไม่ใช่หรอก เธอแค่ปกป้องเลวีนัสน่ะ”
“งั้นเหรอ…?”
“ใช่ ราชาด้านมืดที่ใจดี”
“……!”
หูของเลวีนัสตั้งชันขึ้น เธอวิ่งปร๋อไปหาแซบยอก
หางไร้อารมณ์ของแซบยอกส่ายซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว
“ราชาด้านมืด! ขอบคุณที่ปกป้องเลวีนัสนะ!”
“อืม”
เลวีนัสซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของแซบยอก
สีหน้าที่เปี่ยมสุขของทั้งคู่ทำให้หางฉันส่ายเบา ๆ
เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากจนฉันอยากให้มันคงอยู่ตลอดไป
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
หลังออกจากดันเจี้ยนและอาบน้ำเสร็จ ฉันก็ลงไปที่สวนสาธารณะ
ฉันทิ้งของที่เก็บได้ไว้กับยอรึมและควอนอาริน แล้วเลือกที่จะไปเล่นกับเด็ก ๆ แทน
เพราะการเล่นกับเด็กให้ดี ก็ถือเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เหมือนกัน
“ราชา!”
เลวีนัสวิ่งมาจากที่ไกล ๆ โบกมือมาให้พลางสวมหมวกของกนอลล์วอริเออร์บนหัว
“หมวกเหรอ?”
“ใช่! น่ากลัวใช่ไหม?”
กรรรรร
เลวีนัสทำหน้าดุ เหมือนตอนฉันฝึกฝนความป่าเถื่อน
พูดตามตรง กรงเล็บที่ไม่แหลมนั่นไม่น่ากลัวเลยแม้แต่นิด
“อืม… ก็นิดหน่อย”
“คิคิ! แบบนี้เลวีนัสก็เหมือนราชาแล้วใช่ไหม?!”
“เหมือนฉันเหรอ?”
“ใช่! เป็นสัตว์ป่าแบบเดียวกับราชาเลย!”
“อ๊ะ…”
ฉันสงสัยว่าทำไมเลวีนัสที่ปกติขี้กลัวถึงได้สวมหมวกแบบนั้น
เธออยากจะเป็นสัตว์ป่างั้นเหรอ?
เป็นความคิดน่ารักที่เด็กเท่านั้นจะนึกขึ้นมาได้
“ใช่ เราเป็นสัตว์ป่าเหมือนกัน”
“เฮะเฮะ! วันนี้เราต้องทำตัวป่าเถื่อนแบบสัตว์ป่านะ!”
“ป่าเถื่อนเหรอ?”
“ใช่แล้ว!”
พอสวมหมวกเข้าไป การเคลื่อนไหวของเลวีนัสก็ดูหยาบกร้านขึ้น
ฉันยื่นกรงเล็บไปทางเธอ
“กรรร… แบบนี้เหรอ?”
“นั่น… น่ากลัวเกินไปแล้ว… ทำให้ดูป่าเถื่อนน้อยลงหน่อยสิ…”
“โอเค ลดความป่าเถื่อนหน่อย”
สวมหมวกเข้าไปก็ไม่ได้ทำให้เธอกล้าขึ้นจริง ๆ สินะ
ตามที่เลวีนัสแนะนำ เราจึงตัดสินใจลดระดับความดุลงหน่อย
“ย๊าา”
“เคียว”
ฉันแกล้งทำตัวเหมือนสัตว์ป่ากับเลวีนัสอย่างไม่ดุร้ายเท่าเดิม
ฉันรู้ว่ามันดูเด็ก แต่ก็ยอมเล่นด้วยทุกอย่างถ้าเป็นกับเธอ
ระหว่างที่เราเล่นกัน แซบยอก ซึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินเข้ามา
“ของบอสนี่”
แซบยอกเอื้อมมือไปทางหมวก
เลวีนัสหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ
“ราชาด้านมืด…! อย่าหักคอเลวีนัสนะ…!”
“โอเค ไม่หัก”
แซบยอกวางมือลงบนหัวของเลวีนัส
เจาะจงไปที่หมวก
“เลวีนัสเป็นลูกหมา”
“ลูกหมาเหรอ? นี่มันไม่ใช่แมวเหรอ?”
“ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่แมว เป็นลูกหมา”
“อะไรนะ…!”
เลวีนัสลืมตากว้างแล้วส่ายหัวไปมา
หมวกหล่นลงพื้นพร้อมกับการส่ายหัวของเธอ
“ไม่ใส่หมวกแล้วเหรอ?”
“ใช่! เลวีนัสนึกว่าหมวกนี่เป็นแมว!”
“อ๊ะ…”
เธออยากเป็นหนึ่งในครอบครัวแมว
ในหมู่พวกเราสามคน เลวีนัสเป็นมนุษย์สัตว์กระต่ายมีเขาเพียงคนเดียว
บางทีความต้องการจะเป็นสัตว์ป่าของเธอก็อาจมาจากความโดดเดี่ยวที่เป็นมนุษย์สัตว์กินพืชเพียงคนเดียว
มนุษย์สัตว์ในกิลด์ล้วนเป็นสัตว์กินเนื้อกันทั้งนั้น
‘ฉันน่าจะลองเลียนแบบมนุษย์สัตว์กระต่ายมีเขาบ้าง’
เลวีนัสต้องชอบแน่ ๆ
ฉันควรหาหมวกกระต่ายมีเขามาสวมบ้าง
“งั้นเราเล่นอย่างอื่นกันดีไหม?”
“อื้อ! มาเล่นอย่างอื่นกันเถอะ!”
“อืม…”
เราจะเล่นอะไรดีนะถึงจะสนุก?
ตอนที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้นเอง แซบยอกก็ยกมือขึ้นทันที
เธอสวมหมวกไว้บนหัว
“มาเล่นซ่อนแอบกันเถอะ”
“ซ่อนแอบเหรอ?”
“อือ ฉันเก่งเรื่องซ่อนตัวนะ”
ซ่อนแอบงั้นสินะ
ฉันไม่ติดอะไรอยู่แล้วถ้าเด็ก ๆ อยากจะเล่น
ฉันมาอยู่ตรงนี้ก็เพื่อเล่นกับพวกเธอ
“แล้วเลวีนัสล่ะ?”
“เลวีนัสชอบซ่อนแอบ! เลวีนัสก็เก่งซ่อนตัวเหมือนกัน!”
“ดีเลย งั้นมาเล่นซ่อนแอบกันเถอะ”
เกมถูกตัดสินเรียบร้อย
ฉันน่าจะต้องเป็นคนหาใช่ไหม?
พอเรากำลังจะเริ่มเกม
ฉันก็เห็นยูซังอาเดินเข้ามาจากระยะไกล
“คุณแมว คุณกระต่าย”
ทันทีที่ได้ยินเสียงของยูซังอา หูของทุกคนก็ผงกขึ้น
เราทุกคนต่างก็หันไปมองยูซังอา พร้อมแสดงความสนิทสนมในแบบของตัวเอง
“คุณมาคนเดียวเหรอ?”
“มาคนเดียวเหรอ?”
“ใช่! ก็เพราะซังอา ‘มีเขา’ ไงล่ะ!”
“อ่า…”
ยูซังอาหัวเราะเบา ๆ อย่างเข้าใจความหมายของฉายาที่ได้รับ
เธอไม่ได้ถือสาฉายาที่เด็กตั้งให้
“คุณเลิกงานแล้วเหรอ?”
“ใช่ ฉันออกมาเดินเล่นนิดหน่อยก่อนกลับบ้านน่ะ”
“อย่างนั้นเอง”
สวนสาธารณะของเรานี่เหมาะกับการเดินเล่นจริง ๆ
ฉันรู้สึกภูมิใจขึ้นมานิดหน่อย
“คยออุลกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
“พวกเรากำลังจะเล่นซ่อนแอบกัน”
“โอ้ ฉันเล่นด้วยได้ไหม?”
ยูซังอาพนมมือเข้าหากันเหมือนกำลังอ้อนวอน ฉันรู้สึกได้ถึงความอยากร่วมสนุกของเธอ
“งั้นคุณอยากเป็นคนซ่อนไหม?”
“ไม่ล่ะ ฉันจะเป็นคนหา”
“โอเค ดีเลย”
เลวีนัสดีใจที่ยูซังอาจะเล่นด้วย เธอลุกขึ้นกระโดดอย่างร่าเริง
หลังจากวิ่งไปรอบ ๆ เล็กน้อย เลวีนัสก็อุทานขึ้นมาอย่างตกใจ
“คุณเขา! ในเมื่อมีแค่พวกเรา เวลาเจอคนซ่อนแล้วไม่ต้องดึงผมใช่ไหม?!”
“ผมเหรอ?”
“ใช่! แบบนี้ไง!”
เลวีนัสดึงผมตัวเองขึ้น
เธอดึงแรงจนน่าตกใจ
“ทำไม… ต้องดึงผมกันด้วยล่ะ?”
ยูซังอารีบคว้าข้อมือเลวีนัสไว้
เธอตบเบา ๆ ที่ข้อมือ เป็นเชิงห้าม
“คุณไม่รู้เหรอ คุณเขา?! ปกติพอหาเจอแล้ว คนเจอก็ต้องดึงผมของคนที่ซ่อนสิ!”
“จริงเหรอ…?”
ใบหน้าของยูซังอาค่อย ๆ ซีดลง ขณะกระพริบตาด้วยความมึนงง
ฉันสะกิดที่เอวยูซังอา แต่เธอยังคงแข็งทื่อ ไม่ตอบสนองเลย
‘เลวีนัสก็คงมีประสบการณ์แบบเดียวกับฉัน’
ก็แน่นอนอยู่แล้ว
เธอก็ใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบากเหมือนกันกับฉัน
เธอคงเคยซ่อนตัวจากพวกผู้ใหญ่น่ากลัวหลายครั้ง
ซ่อนตัว แล้วก็โดนตีเมื่อถูกเจอ
“ซ-ซ่อนแอบไม่ใช่เกมที่พอหาเจอแล้วต้องดึงผมกันนะ…”
พอได้ยินคำอธิบายของยูซังอา เลวีนัสกับซแอบยอกก็เอียงคออย่างงุนงง
เหมือนกับว่าพวกเธอไม่เข้าใจเลยว่าเธอกำลังพูดอะไร
“งั้น คุณก็จะไม่ตบหน้าด้วยเหรอ?”
“ตบหน้า?”
“ใช่ เวลาเจอคนที่ซ่อนอยู่ ก็ต้องตบหน้าเขาเพื่อสั่งสอนไม่ให้ทำอะไรโง่ ๆ”
แซบยอกแตะที่แก้มตัวเองเบา ๆ
ยูซังอาหลับตาแน่น
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
‘อะไรเนี่ย…’
การที่เด็กพวกนี้คิดว่าพอถูกเจอแล้วจะต้องโดนตี
ยูซังอาพูดไม่ออก เพราะเข้าใจดีว่าทำไมเด็กพวกนี้ถึงพูดแบบนั้น
‘พวกเธอเคยต้องซ่อนตัวจากผู้ใหญ่สินะ?’
แล้วก็ถูกตบเมื่อถูกเจอ
ยูซังอาเผลอจินตนาการถึงภาพเด็ก ๆ โดนตีขึ้นมา
เธอรู้ว่าเด็กพวกนี้เคยมีชีวิตลำบาก แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
ในฐานะผู้ใหญ่ เธอทำได้แค่รู้สึกเสียใจ
“ไม่เป็นไรนะ… ซ่อนแอบไม่ใช่เกมที่พอหาเจอแล้วจะต้องตีหรือทำร้ายคนอื่น”
“เหรอ…?”
ดวงตาเลวีนัสเบิกกว้าง แสดงความไม่เชื่อในคำพูดของยูซังอา
จากนั้นคยออุลก็พูดกับเลวีนัส
“เวลาเราเล่นกันเอง เราไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตี มันก็เหมือนการฝึกซ้อมน่ะ”
ฝึกเพื่อหลีกเลี่ยงผู้ใหญ่
สำหรับยูซังอา คำพูดของคยออุลก็มีแต่ความหมายนั้น
“งั้น เราแค่แกล้งทำกันเหรอ?”
“อืม… เราไม่ต้องแกล้งทำก็ได้ แต่ถ้าแกล้งทำ อาจจะทำให้รู้สึกสมจริงมากขึ้นก็ได้นะ”
“จริงเหรอ?! งั้นก็แกล้งทำกันเถอะ!”
“เอายังไงดี?”
คยออุลหันไปมองยูซังอา
จากบทสนทนาของเด็ก ๆ ยูซังอาก็รู้ว่า คนที่ต้องเป็นคนหา ต้อง ‘แกล้งเป็นคนไม่ดี’ ด้วย
เธอรู้ว่าต้องบอกเด็กๆ ว่าซ่อนแอบไม่ใช่เกมแบบนั้น
แต่ต่อให้พูดออกไป เด็กที่ใช้ชีวิตแบบนั้นจะเข้าใจได้เหรอ?
ยูซังอามองไปรอบ ๆ อย่างหวังว่าจะมีใครมาช่วย
ในฐานะพนักงานต้อนรับของกิลด์ ยูซังอารู้จักคนในสวนหลายคน แต่พอสบตากับเธอพวกเขาก็รีบหลบตาไปทันที
‘พวกเขาฟังอยู่ทั้งหมดเลยนี่นา!’
ผู้ใหญ่แย่ ๆ ของจริง
ยูซังอาน้ำตาคลอเบ้า แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้เด็ก ๆ
“เอ่อ ขอฉันเป็นคนแอบได้ไหม…?”
“ได้เลย งั้นฉันจะเป็นคนหา”
“ขอบคุณนะ…”
ขอโทษนะ ที่อธิบายให้เข้าใจไม่ได้
แต่ฉันจะแสดงให้ดูแทน ด้วยการเล่นอย่างสนุก
ว่าซ่อนแอบจริง ๆ แล้วมันเล่นกันยังไง
ยูซังอาคิดกับตัวเอง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การจะทำให้เด็กที่ใช้ชีวิตแบบนั้นเข้าใจ ด้วยแค่คำพูดเพียงอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้หรอก
━━━━━━━━━━━━━━━━━━━
ขอบคุณ คุณพันธ์วงษ์ สำหรับการโดเนทครับ
MANGA DISCUSSION