เสียงสายฝนกระทบพื้นหลังคาดังเปาะแปะ อาร์เจนตาหมดสติไปราวสองวินาที หากในการต่อสู้กับศัตรูที่ระดับใกล้เคียงกันหรือโหดเหี้ยมจริงๆ เธอคงไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีก
บาดแผลบริเวณที่โดนชกยังคงรู้สึกปวดร้าว บางทีกระดูกบริเวณใบหน้าคงหัก พอลองนึกสภาพของตัวเองดู ตอนนี้คงไม่มีหน้าไปพบใคร
กลิ่นสนิมของธาตุเหล็กเจือปนในปาก ได้ยินเสียงกระแทกดัง ตึง! แรงๆ หญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่านั่นคือเสียงที่จะนำภัยมาสู่ตนเอง
“ลากันแค่นี้ล่ะนะ เซนิท”
ได้ยินเสียงผู้ชายจากไกลๆ มันไม่ได้มาจากความทรงจำ แต่ระยะห่างคงห่างกันราวหนึ่งชั้น เธอมั่นใจว่ามันเป็นเสียงของ นูริน ศัตรูของเธอ
เสียงวิ่ง กระแทกเท้าแรงๆเข้ามาใกล้ ตอนที่พยายามยันตัวลุกขึ้นก็รู้สึกได้ว่าไม่มีอาวุธอยู่ใกล้ตัว
แย่แล้ว นั่นคงเป็นสิ่งแรกที่หญิงสาวคิด ก่อนเส้นผมสีเงินจะถูกกระชากด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล ร่างกายของเธอถูกยกขึ้นมาจากพื้น
ดวงตาที่ปกติมักมองโลกหลังกรอบแว่น บัดนี้เห็นร่างกายใหญ่โตคล้ายมนุษย์ ส่วนสูงมากกว่าเธอเกือบสองเท่า ผิวกายเป็นสีขาวล้วน ดวงตาสีแดงจ้องมองเธออย่างหิวกระหาย ปากที่อ้ากว้างเผยให้เห็นฟันแหลมคมอัดเรียงกันแน่นเหมือนนักล่าที่สนแต่การขย้ำเหยื่อด้วยพละกำลัง
มือถูกบีบแน่น
ขาถูกบีบแน่น
ร่างกายทั้งท่อนบนและล่างถูกดึงทึ้ง เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
ความเจ็บปวดราวกับกล้ามเนื้อกำลังถูกฉีกขาด ไม่สิ… สัตว์ประหลาด ตัวนี้ ตั้งใจจะฉีกเธอให้ขาดจริงๆ
ร่างกายที่โดนลิดรอนอิสรภาพไปส่งเสียงรุนแรง แต่ว่า
ในเมื่อเรี่ยวแรงในร่างกายยังไม่หมดไป ก็ยังพอมีทางออก
“[ไอซ์ซิเคิล สเปียร์…]”
พริบตานั้น ในอากาศอันหนักอึ้งก็ปรากฏแท่งน้ำแข็งเรียวยาว
“หลบเร็ว!”
คนออกคำสั่ง – นูริน ตะโกนให้ร่างใหญ่โตนั่นหลบ
ร่างเพรียวของหญิงสาวผมเงินถูกโยนลอยไปกระแทกกับผนัง การโจมตีของเธอพลาดเป้า แต่อย่างน้อยก็ได้อิสรภาพคืนมา
ร่างกายเจ็บระบมไปหมด บางทีกระดูกคงหักหลายแห่ง ภายในรู้สึกเหมือนมีอะไรพยายามจะทิ่มแทงออกมาทุกครั้งที่หายใจเข้าออก
แต่เธอไม่คิดจะยอมแพ้
“…ท่านชิน”
เป็นถ้อยคำปริศนาราวกับเวทมนตร์ เป็นถ้อยคำที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ตัวว่าเอ่ยมันออกมา
เธอจะต้องรอดเพื่อกลับไป
มือที่ไร้ซึ่งอาวุธไม่ได้หมดหนทางต่อสู้
ในเมื่อมันเป็นอิสระแล้ว การต่อสู้ของเธอจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
“[ไอซ์ซิเคิล สเปียร์]!”
หอกน้ำแข็งปรากฏในมือทั้งสองข้างของหญิงสาว
ร่างกายสะบักสะบอม ชุดเมดฉีกขาด แว่นตาสูญหาย
ใบหน้าที่งดงามเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและรอยบาดแผล แต่ว่ายังไม่ยอมแพ้
อาร์เจนตาถีบตัวพุ่งออกไป ขณะที่อีกฝ่ายพุ่งใส่ตนราวกับตอบรับคำท้า
“หยุดนะ! อย่าพุ่งชนแบบนั้น!”
คำเตือนของผู้ออกคำสั่งไม่เข้าหัว มัน อีกแล้ว
หมัดอันหนักแน่นที่รุนแรงพอจะบดขยี้เธอได้ ถูกปล่อยออกมา
มันคือหมัด ที่ทำให้อาร์เจนตาหมดสติไปได้ แต่หากรู้ตัวแต่แรกมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหลบพ้น – เธอเอี้ยวตัวหลบแบบเฉียดฉิว และเข้าไปคลุกวงในกับอีกฝ่าย
หญิงสาวแทงหอกเข้าที่ปลายคาง ตั้งใจจะแทงให้ทะลุไปถึงสมองที่เป็นตัวสั่งการการเคลื่อนไหว แต่ว่าผิวหนังและกล้ามเนื้อส่วนศีรษะของอีกฝ่ายก็หนาเกินไปจะทำเช่นนั้นได้
โฮก!!! เสียงร้องคำรามอย่างเจ็บปวดดังขึ้น อาร์เจนตากระโดดใช้ปลายเท้าเตะซ้ำที่ปลายหอก รู้สึกได้ถึงความลึกที่ซ้ำเข้าไปใกล้จุดที่เธอเล็งมากยิ่งขึ้น แต่ในเมื่อมันไม่ถึง ก็ยังล้มศัตรูตัวยักษ์ลงไม่ได้
“[วินด์ ชิลด์]”
เธอร่ายเวทมนตร์ประเภทลมปกคลุมร่างกายตนเอง เพราะรู้สึกได้ถึงการสั่นไหวแปลกๆในอากาศ
“ชิ…”
ได้ยินเสียงเดาะลิ้นจาก นูริน ที่อยู่อีกชั้น
อาร์เจนตาสะบัดแขน เปลี่ยนหอกในมือเป็นดาบน้ำแข็ง
เสียงร้องดัง โฮก! คำรามขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เธอตวัดดาบฟันแขนที่กำลังเงื้อขึ้นเพื่อเตรียมชก
ถึงมันจะแข็งแกร่ง แต่ดูเหมือนว่าทักษะการต่อสู้ของมันจะไม่ได้มีมากนัก
ข้อดีคงเป็นพละกำลังและความรู้สึกทนทานต่ออาการบาดเจ็บในมากกว่า สิ่งมีชีวิตทั่วไป แต่ข้อเสียคือ มันไม่มีทักษะด้านการต่อสู้นัก
คมดาบเฉือนเข้าไปในเนื้อ แม้จะไม่ขาดแต่สายเลือดของมันก็พุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผล
มันไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บ แต่สัญชาตญาณของมันก็ทำงาน
วินาทีที่มันหันไปดูบาดแผลของตัวมันเอง อาร์เจนตาก็กระโดดม้วนตัวไปอยู่ด้านหลัง แล้วจากนั้น-
“ขออภัยด้วยนะ”
ดาบน้ำแข็งขยายตัวใหญ่ขึ้น กลายเป็นดาบหนาเล่มใหญ่กว่าเดิมมากกว่าห้าเท่า ใหญ่มากพอที่ต้องใช้มือสองข้างถือ
มัน หันมาราวกับรู้ตัวแล้วว่าอาร์เจนตาตั้งใจจะทำอะไร
มือใหญ่ยักษ์พยายามคว้าตัวหญิงสาว แต่แค่หันตัวก็เชื่องช้าเต็มที
คมดาบใหญ่ฟาดเข้าที่คอ เสียงของมีคมกรีดเข้าไปในเนื้อส่งเสียงดัง กึด!
จากขวาไปซ้าย ดาบที่ทำหน้าที่ลุล่วงสลายหายไป
ร่างใหญ่โตตรงหน้ายังคงยืนนิ่ง สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงคือ คอของมันถูกตัดสะบั้น
น้ำพุสีแดงพุ่งกระฉูดออกมาเป็นสายจากส่วนคอที่เคยมีหัวตั้งอยู่
ใบหน้าที่แยกไม่ออกว่าเคยเป็นใครกลิ้งตกแทบเท้าของอาร์เจนตา ร่างกายของเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยอุณหภูมิที่พุ่งสูงจนเหมือนคนเป็นไข้
ชนะแล้ว
จะบอกแบบนั้นก็ว่าได้ แต่ นูริน ที่เป็นเป้าหมายก็อาศัยจังหวะนี้วิ่งหนีไปแล้ว
…
สายฝนที่โปรยลงมาไม่ขาดสาย กับผมที่หยุดอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับ – สถานที่ที่ผมเคยมาซื้อของกับอาร์เจนตาในวันแรกที่เรามาถึงเมืองอควาเดียแห่งนี้
เบื้องหน้าของผม หรือถ้าหากระบุตำแหน่งของฝั่งให้แม่นยำก็คือ ฝั่งตรงกันข้ามของคลองในเมือง คือเด็กทารกยักษ์ ‘เอลซัธ’ ที่กำลังรื้อร้านขนมปังและซัดอาหารเข้าปากไปไม่หยุดหย่อน
ด้านหลัง ผมเห็นร่างหนึ่ง ร่างที่เคยสวยงดงาม แต่ตอนนี้ย้อมไปด้วยสีแดงของการถลอก เส้นผมหลุดร่วงไปหลายหย่อมจนเผยให้เห็นหนังศีรษะ ร่างนั้นเชื่อมโยงกับทารกยักษ์ผ่านสายรก
“คุณไอลิน…”
ไม่อยากใช้คำว่าโชคดีที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผมก็คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ผมวิ่งขึ้นสะพานหิน ข้ามฝั่งไปหามัน
พอเห็นในระยะใกล้ นอกจากกลิ่นเหม็นที่มันเพิ่งขับถ่ายออกมาแล้ว ตัวของมันยังใหญ่กว่าครั้งก่อนมาก
“เห้ย ไอ้เด็กเวร!”
ผมพยายามเรียกร้องความสนใจจากมัน แต่เสียงร้องดัง แอ้ ของมัน ดูไม่สนใจตัวตนของผมเลยสักนิด
ช่วยไม่ได้ ผมรวบรวมพลังเวทมนตร์ในตัว สรรสร้าง [เอิร์ธ แฮนด์] ขึ้นมาเป็นกำปั้น
แม้จะเล็กเมื่อเทียบกับท่อนขาของทารกยักษ์ แต่ก็น่าจะหนักแน่นพอจะซัดมันได้
ผมกำหมัดในใจ
มือหินทรงกำปั้น ง้างขึ้นเหมือนขีปนาวุธที่กำลังเล็งเป้าหมาย
ผมทำท่าเหวี่ยงหมัดใส่อากาศ ใส่แรงเข้าไปให้สุด
มือหินพุ่งใส่ เอลซัธเต็มแรง
ปั่ก! เสียงหมัดกระทบผิวหนังทารกดังลั่นท่ามกลางความเงียบสงบ เด็กทารกยักษ์ส่งเสียงร้องงอแงด้วยความเจ็บปวดก่อนจะหันมาหาผม
ดวงตาของมันยังลืมไม่เต็มที่ ปากของมันเต็มไปด้วยคราบมากมาย คงหาอะไรกินระหว่างทางมาเยอะกว่าที่ผมคิด
“แอ๊!!”
มันร้องคำราม หากเป็นเด็กปกติคงไม่น่ากลัว แต่นี่คือทารกยักษ์ที่สามารถซัดคนปลิวได้พอๆกับโดนรถชน
มันวิ่งเข้าใส่ผม ผมวิ่งหลบออกไปด้านข้าง
การตอบสนองของมันรวดเร็วกว่าที่ผมคิด มือห้านิ้วยกขึ้นมาและฟาดลงใส่ตัวผมด้วยความเร็วสูง
หากคิดจะหลบ คงไม่พ้นทั้งหมด ดังนั้นต้องตอบสนองในทันที
“[เอิร์ธ วอลล์]!”
ผมสร้างกำแพงหินขึ้นมาขวางเอาไว้ มือที่ตะปบลงมาฟาดกระทบกำแพงหินดังสนั่น
หากพลาดแม้แต่นิดเดียว ตัวผมคงบี้แบนไม่มีเหลือ ชีวิตในต่างโลกของผมคงสิ้นสุดลงที่ตรงนั้น
ปัง! ปัง! ปัง!
เอลซัธยังคงโจมตีเข้ามา เป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยการย้ำคิดย้ำทำ สมเป็นเด็กทารกที่ไม่มีระบบความคิดที่ซับซ้อน ทั้งที่หากอ้อมมือมาข้างหลัง ผมก็โดนจับได้แล้วแท้ๆ…
เห้ย!
ผมอุทานออกมาเสียงดัง เพราะความคิดดันเป็นจริง
ตอนที่รู้ตัวร่างของผมก็ถูกคว้า เอลซัธจับตัวผมเอาไว้และบีบร่างเล็กของผมเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่โดนนักล่ากัดก้านคอ
กร๊อบ กร๊อบ
ได้ยินเสียงเหมือนกระดูกในร่างถูกบีบอัด แม้จะยังไม่ถึงขั้นหักแต่คงกำลังได้รับความเสียหาย
ในหัวนึกหาทางเอาตัวรอด ถึงแม้พอจะนึกได้แต่ยังไม่เคยทดลองทำดู ซึ่งก็ไม่แน่ว่าอาจจะไม่สำเร็จก็ได้ แต่ใช่ว่าโอกาสพลาดจะสูงเสียเมื่อไหร่
ผมเลือกที่จะใช้ [เอิร์ธ วอลล์] ห่อหุ้มตามแขนและขาเหมือนที่ผ่านมา ทว่าครั้งนี้เลือกที่จะเปลี่ยนรูปร่างของมันออกไปให้เหมือนเข็มที่ทิ่มแทงออกจากร่างกาย
“แอ๊!!”
เสียงของทารกยักษ์ร้องไห้งอแง ราวกับจะฟ้องให้ทุกคนเห็นถึงความเจ็บปวดของมัน
มือที่จับผมเอาไว้คลายออก ร่างของผมร่วงลงพื้นดัง ปั่ก!
ผมพ่นล่มออกมาด้วยความเจ็บปวดที่แล่นปลาบไปทั้งตัว แต่ตอนนี้ต้องลุกขึ้นให้ได้
“แว๊!!”
เอลซัธร้องคำรามและพุ่งจู่โจมผมอีกครั้ง
ถึงจะเร็วกว่าก่อน แต่ก็ยังถือว่าช้า
สายตาของผมยังตามทัน
ฝ่ามือของทารกยักษ์ท่หมายจะคว้าจับผมอีกครั้งเองก็ไม่สามารถเล่นงานผมได้อีกแล้ว
ผมหลบการโจมตีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชกตรงๆ การพุ่งชนหรือความพายามในการเข้ามากัดของอีกฝ่าย
จากนั้น ก็ใช้ [เอิร์ธ วอลล์] คลุมตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงไปอีกครั้ง
และในตอนที่มันพยายามจะเข้ามากัดเป็นรอบที่สอง ผมมุดตัวลงล่าง เปลี่ยนส่วนมือให้เป็นปลายแหลมคมแล้วอัดเสยขึ้นไป
แม้จะไม่ถึงขั้นแทงทะลุหนังเหนียวๆ แต่ก็มากพอจะสร้างอาการบาดเจ็บให้มันได้
เสียงกรีดร้องโหยหวนราวกับฉากทารุณกรรมเด็กวัยแบเบาะดังขึ้น ผมไม่ปล่อยให้จังหวะที่เอลซัธยังร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดนี้สูญเปล่า หลังจากโจมตีอีกฝ่ายจังๆได้หนึ่งที ก็รีบวิ่งออกด้านข้างเพื่อทำอีกหนึ่งเป้าหมายให้ลุล่วง
นั่นคือการตัดสายใยที่เชื่อมระหว่างมันกับไอลิน
[เอิร์ธ แฮนด์] ที่ถูกสรรสร้างขึ้นบีบจับรกเส้นใหญ่เอาไว้แน่น วิธีที่ดีที่สุดที่ผมคิดออกคือการ ตัด ด้วยของมีคม ทว่าผมไม่มีของที่คมกริบขนาดตัดฉับได้ในระยะเวลาอันสั้น
[เอิร์ธ วอลล์] ที่ตอนนี้ทำหน้าที่ต่างอาวุธในมือแปรเปลี่ยนเป็นคมมีดหิน ดูพึ่งพาไม่ได้แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไร
ผมเงื้อแขนขึ้น วินาทีถัดมา เสียงดัง ฉับ เบาๆก็เข้ามาในหู
เลือดปริมาณมากออกมา กลิ่นคาวอันไม่พึงประสงค์ทำให้ต้องนิ่วหน้าหนี
เอลซัธที่ยังเป็นทารกรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นไปถึงส่วนระบบประสาท ตอนนี้กำลังดิ้นทุรนทุราย
ร่างของไอลิน ถึงจะไร้ชีวิต แต่ก็ไม่ถูกลากไปไหนมากกว่านี้อีกแล้ว
ทว่า…
การต่อสู้ของผมยังไม่จบลง
เอลซัธที่ร้องคำรามด้วยเสียงแหลมสูงของทารก – ตัวของมันกำลังพองออก
ไม่ว่ามองยังไงนั่นก็คือลางไม่ดี
แขน บวมเป่งเหมือนสูบลม
ขา บวมเต่งเหมือนอัดน้ำเข้าไป
ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆจนเหมือนเป็นลูกบอลขนาดยักษ์
ดวงตาซ้ายที่กรอกแนวขวาง ดวงตาขวาที่กรอกไปมาในแนวดิ่ง เป็นภาพที่ชวนสยดสยองกว่าที่คิด
ส่วนเดียวที่ไม่ได้ขยายใหญ่ตามคงเป็นปาก ซึ่งกลายเป็นส่วนที่ไม่สมดุล
เบื้องหน้าของผม เอลซัธ ที่เป็นทารกยักษ์ ได้กลายสภาพเป็นลูกบอลมนุษย์
มนุษย์ไม่สามารถคลานสี่ขาแบบสัตว์ได้ เพราะอย่างไรก็ยังติดส่วนของเข่าที่ธรรมาชาติบังคับให้ติดพื้น
ทว่าเอลซัธในสภาพลูกบอลที่มีแขนขางอกนั้นกลับใช้มันต่างเท้าทั้งสี่ได้ดี แถมยังพุ่งใส่ผมด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมหลายเท่า
ผมหิ้วปีกของร่างไอลินแล้วรีบหลบเข้าไปในร้านขนมปัง หากวางร่างเอาไว้ในจุดปลอดภัยย่อมดีกว่า
“ขอโทษนะครับ คุณไอลิน”
ความรู้สึกผิดที่ก่อตัวทำให้ผมหันไปกล่าวเช่นนั้นกับเธอ – หญิงสาวผู้ไม่มีโอกาสกลับมาได้ยินคำของผมเป็นครั้งที่สอง
ก่อนสองขาของผมจะออกวิ่งอีกครั้ง โดยมีลูกบอลยักษ์สี่ขาไล่กวดมาอย่างบ้าคลั่ง
MANGA DISCUSSION