Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2890 ดอกปาล์มปีศาจเบ่งบาน
ตอนที่ 2890 ดอกปาล์มปีศาจเบ่งบาน
เวลานี้ การที่ราชันแท้จริงจินผู่ท้าสู้กับหลี่ชิเย่ก็เพราะความจำเป็น เขาเองก็เกรงว่าหลี่ชิเย่จะลงมือต่อพวกของราชันแท้จริงเคอะสือกะทันหัน
หลี่ชิเย่จ้องมองดูราชันแท้จริงจินผู่ทีหนึ่ง หัวเราะและกล่าวว่า “นับว่าราชันแท้จริงแปดลัคนามีฝีมือบ้างโดยแท้ แต่ว่า พลันที่ข้าลงมือเจ้าก็รับได้ไม่กี่กระบวนท่า แค่ครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าก็สามารถซัดเจ้าลงไปหมอบได้”
คำพูดที่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นของหลี่ชิเย่ ทำเอาทุกคนถึงกับอึดอัดหายใจไม่ออก แต่ว่าในเวลานี้ไม่มีใครคนหนึ่งคนใดออกปากด่าว่าเขาสักคำอีกแล้ว
ก่อนหน้านั้นหลี่ชิเย่เคยบอกว่าแค่หนึ่งหรือสองกระบวนท่าก็สามารถซัดพวกของราชันแท้จริงเคอะสือจนหมอบ ได้ทำให้นักศึกษาทั้งหมดต่างเข้าใจว่าหลี่ชิเย่กล่าววาจาสามหาว
แต่ว่าเวลานี้เมื่อหลี่ชิเย่บอกว่าแค่ครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าก็สามารถซัดราชันแท้จริงจินผู่จนลงไปหมอบกับพื้น ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่กล้าส่งเสียงอีกแล้ว ไม่มีใครกล้าด่าว่าหลี่ชิเย่นั้นกล่าววาจาสามหาว ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำอีก
จะอย่างไรเสีย เมื่อครู่นี้เป็นหลี่ชิเย่ที่อาศัยหนึ่งหมัดซัดพวกราชันเซียนเคอะสือจนแหลกละเอียดไป และอาศัยหนึ่งฝ่ามือตามอารมณ์จัดการกับพวกราชันเซียนเคอะสือจนลงไปกองกับพื้นเสมือนดั่งลมฤดูใบไม้ร่วงที่กวาดเอาใบไม้ทั้งหมดให้ร่วงลงมา
แม้จะกล่าวว่า “ราชันแท้จริงจินผู่คือราชันแท้จริงแปดลัคนา แต่ว่า เมื่อหลี่ชิเย่บอกว่าจะอาศัยครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าซัดเขาให้หมอบนั้น พลันทำให้นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนไม่มีความมั่นใจไปแล้ว”
“เป็นไปได้รึ?” มีนักศึกษาเมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่ชิเย่แล้วต่างไม่เชื่อเป็นพิเศษ ถึงกับซุบซิบด้วยความกังขา
“นี่มันคงเป็นไปไม่ได้กระมัง ครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าก็สามารถซัดราชันแท้จริงแปดลัคนาให้หมอบได้ หรือเขาคิดว่าตนเองเป็นปราชญ์อัจฉริยะหลันซูรึ? ไม่แน่นักปราชญ์อัจฉริยะหลันซูก็ไม่สามารถซัดราชันเซียนจินผู่จนหมอบในครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าได้อยู่แล้ว” มีนักศึกษาที่ไม่ค่อยจะยอมรับกับสิ่งนี้นัก
ความจริงแล้ว ในเวลานี้ นักศึกษาจำนวนมากต่างรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จะอย่างไรเสีย กำลังความสามารถที่อาศัยครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าซัดจนราชันแท้จริงแปดลัคนากองกับพื้นเป็นเรื่องที่เกินไปแล้ว
แม้แต่ตัวราชันแท้จริงจินผู่เองก็รู้สึกสะดุ้งในใจเมื่อได้ฟังคำพูดเช่นของหลี่ชิเย่ คำพูดคำนี้ของหลี่ชิเย่เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พลันทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาต้องสั่นคลอน
แต่ว่า จะอย่างไรเสียราชันแท้จริงจินผู่ก็คือราชันแท้จริงแปดลัคนาคนหนึ่ง ไม่ทำให้เขาต้องลุกลี้ลุกรนเพียงเพราะคำพูดคำเดียวของหลี่ชิเย่
ราชันแท้จริงจินผู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ทำจิตใจให้มั่นคง แม้ว่าในขณะนี้เขาสามารถสะกดจิตสะกดใจเอาไว้ได้ แต่ว่า คำพูดคำนี้ของหลี่ชิเย่ยังคงมีแรงกดดันที่สูงมาก
ที่หลี่ชิเย่พูดด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่าสามารถอาศัยครึ่งหรือหนึ่งกระบวนท่าซัดเขาให้หมอบนั้น ดูไม่เหมือนเป็นคำพูดที่โอ้อวด ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้จริงย่อมทำให้ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกหวาดกลัวในใจแล้ว เจอะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเพียงนี้ มีเพียงปราชญ์อัจฉริยะหลันซูผู้เป็นอาจารย์ของเขาจึงต่อกรกับเขาได้…
แต่ว่า เมื่อราชันแท้จริงจินผู่นึกมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดความคิดของตนทันที ไม่กล้ามีความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายอีกต่อไป
“สัจธรรมของพี่ท่านเรียกว่าเป็นสุดยอดโชคชะตาที่สูงสุด” ราชันแท้จริงจินผู่พูดขึ้นช้าๆ ว่า “อานุภาพหนึ่งหมัดเมื่อครู่ของพี่ท่านปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้า ข้าเองก็ไม่กล้ารับมือตรงๆ”
ในเวลานี้คำพูดของราชันแท้จริงจินผู่พูดได้ค่อมต่ำ และถ่อมตนมาก ที่เขาพูดมาก็เป็นความจริง
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ก็จะไม่ทำให้ราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกหวาดกลัวในหลี่ชิเย่ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าได้ศึกษาวิชามาน้อยนิด เป็นเพียงความสามารถพิเศษที่ประหลาดเท่านั้นเอง ไม่ทราบว่าพี่ท่านยินดีที่จะศึกษาด้วยกันกับข้าหรือไม่”
เวลานี้บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อเห็นราชันแท้จริงจินผู่พูดได้ค่อมต่ำและมีความถ่อมตนยิ่งนักถึงเพียงนี้ สมควรทราบว่าราชันแท้จริงจินผู่นั้นเป็นราชันแท้จริงแปดลัคนาคนหนึ่ง เป็นศิษย์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู เคยถ่อมตนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“คนโหดอันดับหนึ่ง นับว่ามีคุณสมบัติที่จะเรียกเช่นนี้” ในเวลานี้ ไม่ทราบว่ามีนักศึกษาเท่าไรรู้สึกสะดุ้งในใจ และตระหนักได้ว่า เกรงว่าราชันแท้จริงจินผู่ก็ไมใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่
นาทีนี้ มีนักศึกษาที่นึกถึงฉายาของหลี่ชิเย่เอง ในเวลานี้พวกเขาต่างรู้สึกว่า ฉายา ‘คนโหดอันดับหนึ่ง’ เหมาะสมกับหลี่ชิเย่โดยแท้
“เจ้าเป็นเผ่าปาล์มปีศาจน่ะสิ” หลี่ชิเย่มองดูราชันแท้จริงจินผู่ทีหนึ่ง และกล่าวว่า “สิ่งที่เผ่าปาล์มปีศาจถนัดที่สุดก็คือการหว่านเมล็ดพันธุ์ ขอเพียงสายลมพัดมาเบาๆ ก็สามารถทำลายแคว้นล้างโลกหล้า กระทั่งทำลายล้างทุกแดนในพริบตาเดียว นับเป็นเผ่าพันธุ์ที่ล่อแหลมและอันตรายโดยแท้”
ราชันแท้จริงจินผู่กล่าวและแฝงรอยยิ้มว่า “พี่ท่านชมเกินไปแล้ว พี่ท่านที่แข็งแกร่งเพียงนี้ แค่ขยับตัวมิทำลายฟ้าดินเช่นกันรึ ความสามารถเล็กๆ น้อยๆ ของข้าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง เทียบไม่ได้กับพี่ท่าน”
“เอาเถอะ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ให้ข้าได้ชมดอกไม้บานหว่านเมล็ดพันธุ์ของเจ้า และข้าจะรับมือก็แล้วกัน”
“ขอบคุณพี่ท่านที่ส่งเสริม” ราชันแท้จริงจินผู่แสดงคารวะแบบจีน ได้เห็นท่วงท่าของราชันแท้จริงเต็มที่
“เริ่มได้ ข้าจะดูว่าดอกปีศาจของเจ้าแข็งแกร่งสักเพียงใด” หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้ตามอารมณ์ เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ตกลง” ราชันแท้จริงจินผู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเอง นัยน์ตาของเขาดูเจิดจ้า เหมือนกลายเป็นดวงตะวันสองดวงอย่างนั้น
“ราชันแท้จริงจินผู่จะสำแดงดอกไม้บานและหว่านเมล็ดพันธุ์แล้วล่ะ” ในเวลานี้นักศึกษาทุกคนต่างมีกำลังขึ้น และร้องเสียงดังขึ้นมา
“นี่ นี่มันอันตรายเกินไปแล้วกระมัง” กระทั่งมีนักศึกษาที่ตกใจจนถอยหลังไปพันลี้ เมื่อได้ยินว่าราชันแท้จริงจินผู่จะมีการสำแดงดอกไม้บานและหว่านเมล็ดพันธุ์ ห่างไกลจากเดิมมากขึ้นไปอีก
“มันอันตรายมากจริง” นักศึกษาที่เคยเห็นดอกไม้บานและหว่านเมล็ดพันธุ์ของราชันแท้จริงจินผู่รู้สึกหวดหวั่นพรั่นพรึง และกล่าวว่า “ขณะราชันแท้จริงจินผู่ยังอยู่ในวัยรุ่นนั้น เขาเคยเป็นศัตรูกับแคว้นเป่าเซียน เขาแค่สำแดงดอกไม้บานหว่านเมล็ดพันธุ์เท่านั้นเอง มองเห็นดอกปาล์มปีศาจโยกเบาๆ ทั่วทั้งแคว้นเป่าเซียนปรากฏต้นปีศาจปาล์มงอกขึ้นมา ฉับพลันก็ถูกดูดจนแห้งในพริบตาเดียว แคว้นเป่าเซียนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว”
เมื่อนึกถึงราชันแท้จริงจินผู่แค่ดอกปาล์มปีศาจโยกตัวก็ทำลายแคว้นที่แข็งแกร่งยิ่งได้แคว้นหนึ่ง กระดูกกองสุมดั่งภูเขา มาวันนี้เมื่อหวนนึกถึงแล้ว ก็ทำให้นักศึกษาผู้นี้ต้องสั่นเทิ้มขึ้นมา
“เมื่อไรที่เผ่าปาล์มปีศาจสำแดงดอกไม้บานหว่านเมล็ดพันธุ์ ก็สามารถทำลายแคว้นล้างเผ่าพันธุ์” นักศึกษาจำนวนไม่น้อยเมื่อเอ่ยถึงดอกไม้บานหว่านเมล็ดพันธุ์ของเผ่าปาล์มปีศาจแล้ว ล้วนแล้วแต่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีนักศึกษาจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตกใจจนทยอยกันก้าวถอยหลังไปเล่า
ดอกปาล์มปีศาจบานเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเหลือเกิน ไม่ทราบว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรเมื่อพูดถึงดอกปาล์มปีศาจบานแล้วก็ต้องรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
“วางใจเถอะ ราชันแท้จริงจินผู่คือราชันแท้จริงแปดลัคนาแล้ว เขาสามารถควบคุมดอกปาล์มปีศาจของตนได้ดั่งใจปรารถนา ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว” มีนักศึกษาดูจะมีความมั่นใจในดอกปาล์มปีศาจบานของราชันแท้จริงจินผู่เหลือเกิน
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ยังคงสร้างความเคารพยำเกรงต่อผู้คนไม่น้อย นักศึกษาจำนวนมากยังคงทยอยกันถอยหลังออกไป ดึงระยะห่างให้มากพอ
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ เห็นราชันแท้จริงจินผู่ได้เผยร่างแท้จริงขึ้นมา เป็นต้นปีศาจปาล์มต้นหนึ่ง เป็นต้นปีศาจปาล์มที่คล้ายเจริญเติบโตมานับพันล้านปีแล้ว
ต้นปีศาจปาล์มต้นนี้เหมือนแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายที่เก่าแก่โบราณ เหมือนว่าได้ก้าวข้ามกาลเวลามาพันล้านปีและเจริญเติบโตอยู่ท่ามกลางฟ้าดินแห่งนี้
ต้นปีศาจปาล์มที่คล้ายดั่งมังกรชิวหลงทั้งยังมีเถาวัลย์ที่พันรอบต้น มองดูแล้วแปลกประหลาดอย่างยิ่ง แต่ก็ดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี
ราชันแท้จริงจินผู่นั้นหาใช่เป็นต้นปีศาจปาล์มทั่วไป มันคือต้นปีศาจปาล์มที่มีสีทองต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าเขาถูกลิขิตว่าต้องเป็นพันธุ์ประหลาด มีความแตกต่างตั้งแต่กำเนิด มีพรสวรรค์ที่ยากจะหาใดเทียมในหล้า ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงได้กลายเป็นราชันแท้จริงแปดลัคนา
ดอกปาล์มปีศาจแลดูคล้ายดอกตูมของต้นฟันสิงโต ในขณะนี้ดอกปาล์มปีศาจเพียงแค่เป็นดอกตูมที่กำลังจากเบ่งบานเท่านั้นเอง ยังไม่ได้บาน
ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้ที่รู้สึกสั่นเทิ้มอยู่เท่าไรขณะที่มองดูดอกตูมของดอกปาล์มปีศาจที่กำลังจะเบ่งบาน มีผู้กล่าวว่า ดอกปาล์มปีศาจคล้ายดอกฟันสิงโต เมื่อดอกของมันเบ่งบานเต็มที่แล้ว ปุยดอกจะปลิวไปตามลมทั้งหมด และล่องลอยไปตามลม
แต่ว่า ขณะดอกปาล์มปีศาจเบ่งบานมันจะไม่เหมือนเช่นดอกฟันสิงโตที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งความโรมานอย่างนั้น ขณะที่ดอกปาล์มปีศาจเบ่งบานก็จะบ่งบอกถึงความตาย ทั้งยังเป็นความตายที่กินบริเวณกว้างขวาง กระทั่งเป็นการทำลายแคว้นล้างเผ่าพันธุ์
ขณะปุยดอกของดอกปาล์มปีศาจเบ่งบานนั้น เมื่อมันไปเกาะติดอยู่สถานที่แห่งใดมันก็จะหยั่งรากในพริบตาเดียว อีกทั้งยังดูดกลืนเลือดแก่นหรือชีวิตทั้งหมด และหรือพลังแก่นฟ้าดินของทุกๆ สิ่งที่มันไปเกาะติดด้วย
ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จังหวะที่ปุยดอกของเผ่าปาล์มปีศาจปลิวกระจายไปนั้น ก็จะมีการหยั่งรากลงผืนแผ่นดินทุกๆ ตารางนิ้ว และทุกๆ สิ่งมีชีวิตของฟ้าดินแห่งนี้ จะดูดกลืนทุกๆ สิ่งมีชีวิต และหรือทุกๆ ตารางนิ้วของผืนแผ่นดินของผืนแผ่นดินนี้จนแห้งในพริบตาเดียว เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างของที่ตรงนี้ให้กลายเป็นแห้งตาย
เฉกเช่นราชันแท้จริงจินผู่ที่เป็นราชันแท้จริงแปดลัคนา การเบ่งบานของดอกปาล์มปีศาจของเขายิ่งทวีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อใดที่ถูกมันล็อกเป้าหมายเอาไว้แล้ว เมื่อดอกปาล์มปีศาจของมันเบ่งบาน ไม่ว่าคนผู้นั้นจะมีอภินิการเช่นใด ไม่ว่าจะมีสุดยอดสัจธรรมเพียงใด ก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงไปได้ เนื่องจากปุยดอกจะไปดูดเกาะติดบนตัว และดูดพลังแก่นจนแห้ง ดูดชีวิตจนแห้ง
ดังนั้น จึงเคยมีคนพูดเอาไว้ว่า เมื่อไรที่ถูกราชันแท้จริงจินผู่ล็อกเป้าหมายไว้ หากดอกปาล์มปีศาจของเขาบานเบ่ง เจ้าก็มีแต่ความตายสถานเดียว และแคว้นของเจ้าก็จะกลายเป็นสถานที่ที่มีกระดูกกองสุมดั่งภูเขา
“สามารถหลบหนีพ้นปุยดอกของราชันแท้จริงจินผู่รือไม่นะ?” มีนักศึกษาซุบซิบด้วยความกังขา เมื่อเห็นราชันแท้จริงจินผู่เผยร่างแท้จริงขึ้นมา
“เรื่องนี้พูดยาก ได้ยินว่ามีระดับคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นคนนั้นก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงการดูดเกาะของปุยดอก” นักศึกษาผู้หนึ่งกล่าวว่า “ภายหลัง ได้อาศัยฝีมือที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง จึงได้ทำการเผาปุยดอกนั้นไป”
เสียงแว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง เห็นเพียงราชันแท้จริงจินผู่ที่เผยร่างแท้จริงออกมาปรากฎประกายสีทองที่สั่นไหวโอนเอนไปมา ที่ที่เขาอยู่กลับกลายเป็นอาณาจักรๆ หนึ่ง ประกายสีทองที่เขาแผ่กระจายออกมาได้ทำการครอบหลี่ชิเย่เอาไว้ในพริบตาเดียว
“เขาได้ทำการล็อกตัวคนโหดอันดับหนึ่งเอาไว้แล้ว” มีผู้ที่ร้องเสียงหลงออกมา เมื่อมองเห็นประกายสีทองที่ราชันแท้จริงจินผู่แผ่กระจายออกมาได้ล็อกตัวหลี่ชิเย่เอาไว้แล้ว
ประกายสีทองพลันครอบคลุมหลี่ชิเย่เอาไว้ ทุกคนมองออกไปและเห็นว่า หลี่ชิเย่ในขณะนี้อยู่ภายในอาณาจักรของราชันแท้จริงจินผู่แล้ว นี่เป็นอาณาจักรของพันธุ์ประหลาด
เวลานี้ ต่อให้หลี่ชิเย่พยายามวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต แต่ว่า ยังคงต้องถูกประกายสีทองครอบคลุมเอาไว้ เนื่องจากเขาได้ถูกราชันแท้จริงจินผู่ล็อกตัวเอาไว้แล้ว
“เวลานี้ต่อให้หลี่ชิเย่วิ่งหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียวก็ไม่มีประโยชน์” มีผู้กล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่าถูกราชันแท้จริงจินผู่ล็อกตัวอาไว้แล้ว “เว้นแต่เขาผู้นั้นจะมีฝีมือที่ฝืนลิขิตสวรรค์เผาผลาญปุยดอกทิ้งเสีย หาไม่แล้ว เขาจะต้องถูกปุยดอกดูดเกาะติดแน่นอน”
“น่าสนใจ” แม้หลี่ชิเย่จะถูกราชันแท้จริงจินผู่ล็อกตัวเอาไว้แล้ว แต่ว่าไม่ได้มีอาการร้อนรนแม้แต่น้อย เพียงมองดูแวบหนึ่งเท่านั้น เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในเวลานี้เอง เหมือนว่ามีสายลมพัดโชยมาเบาๆ ดังฟ่าวววระลอกหนึ่ง ครั้นเวลาที่สายลมที่พัดโชยมาเบาๆ นั้น ดอกปาล์มปีศาจแต่ละดอกได้บานเบ่งแล้ว เดิมทีที่อยู่ในลักษณะดอกตูมต่างทยอยกันเบ่งบาน
“ดอกปาล์มปีศาจบาน” มีนักศึกษาร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อมองเห็นดอกปาล์มปีศาจเบ่งบาน
………………………………………………………..