Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล - ตอนที่ 48 พบกันใหม่ (2)
บทที่ 48 พบกันใหม่ (2)
“เรามีคนไข้ เรียกหมอเร็ว!”
เมื่อลุคมาถึงคลินิก เขาก็หาหมอและวางเรย์นาลงบนเตียงในห้องพยาบาล
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หมอก็ปรากฏตัวขึ้นและดูคนไข้อย่างใกล้ชิด
“อาการนี้เกิดจากความเหนื่อยล้าสะสมนะ นอกจากนี้ยังเป็นเพราะอากาศที่ร้อนจัดด้วย หากเธอได้รับน้ําและนอนพักฟื้นอยู่ในที่ร่มสักระยะ เดี๋ยวเธอก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”
ลุคและคนรับใช้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเธอจิบน้ําเรย์น่าก็ฟื้นขึ้น
“ที่นี่ที่ไหน?”
“เราอยู่ในคลินิกใกล้จัตุรัส พอดีท่านลอร์ดลุคเขา…อา! ไม่ได้นะเจ้าหญิง ท่านต้องพักผ่อนเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเรย์น่าพยายามจะลุกขึ้นจากเตียง พาเวลก็ขอให้เธอนอนพักเหมือนเดิม
“ข้าทําไม่ได้ ถ้าข้าไม่พบกับมาร์ควิสเมย์เยอร์และขอความช่วยเหลือ…”
“ไม่ว่าจะการเข้าพบมาร์ควิสหรือกอธิษฐาน ข้าก็เกรงว่าร่างกายของท่านในตอนนี้จะไม่มีทางทํามันได้หรอก”
ลุคตัดคําพูดของเธออย่างเฉียบขาดและหนักแน่น
ด้วยคําพูดที่บาดหูเหล่านั้น เรย์น่าจึงยอมทิ้งความดื้อรั้นและพักผ่อนแต่โดยดี
“ท่านฟิลิป เจ้ารีบไปหาอะไรให้เจ้าหญิงกินเถอะ เธอจะได้ไม่ต้องลําบากมากนัก
“ครับนายท่าน”
ตามคําสั่งของลุค ฟิลิปก็รีบออกไปในทันที
หลังจากนั้นไม่นาน ฟิลิปก็กลับมาพร้อมกับซื้อซุปที่มีเห็ดและเนื้อที่มาจากร้านอาหารใกล้ๆ
ในขณะที่พาเวลกําลังตักซุปให้เรย์น่า ลุคกับวิคเตอร์ก็ออกไปจากคลินิกเพื่อสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดเจ้าหญิงจึงคุกเข่าอยู่หน้าคฤหาสน์ของมาร์ควิสเมร์เยอร์เหมือนกับคนได้รับอาหารเหลือกัน!”
ขณะที่ลุคถามด้วยความโกรธเล็กน้อยวิคเตอร์ก็ถอนหายใจ
“เห้อ! ตามสัตย์จริงแล้ว…”
วิคเตอร์พูดคุยเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่สนามประลองกิกันท์
เคานต์โมนาร์ชได้เก็บเพิ่มภาษีกับผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าถึงสองเท่า ละเพื่อจุดประสงค์ในการร้องขอความเป็นธรรมจากเหตุการณ์ลอบวางเพลิงที่สลัมเจ้าหญิงจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากขุนนางชนชั้นสูง
“แต่ไอ้เจ้ามาร์ควิสเมย์เยอร์ที่ขี้ขลาดนั่น มันก็ไม่ได้ยอมให้เจ้าหญิงเข้าพบด้วยซ้ํา แม้ว่าเจ้าหญิงจะอ้อนวอนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะเปิดประตู
วิคเตอร์บอกลุคถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น
“บางทีการเจอเธอตอนนี้อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับเขา”
ลุคสามารถเข้าใจสิ่งที่มาร์ควิสกําลังเผชิญอยู่
เรย์น่านั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในลาเมอร์ แต่ในฐานะที่เธอเป็นเจ้าหญิงของประเทศอื่น มันจึงไม่ค่อยมีใครที่พร้อมจะช่วยเหลือเธอ
หากเขาเลือกที่จะพบเธอ มันก็จะยิ่งทําให้ความสัมพันธ์ของเขากับเคานต์โมนาร์ชมีแต่แย่ลงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นหากเขายังปะทะเข้ากับเคานต์โมนาร์ชที่มีสายเลือดของราชวงศ์อยู่ด้วยแล้วละก็ ทางราชวงศ์เองก็อาจจะทําในสิ่งที่เหลือเชื่อก็เป็นได้
แม้ความคิดของลุคจะไม่ได้แม่นยํามากนัก แต่มันใกล้เคียงกับความเป็นจริงมาก
นั่นก็เหมือนกับมาร์ควิสเมเยอร์สที่กังวลกับผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าที่กําลังเร่ร่อนไปทั่วจักรวรรดิ
ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องตัดสินอย่างเยือกเย็นในฐานะหนึ่งในสามขุนนางที่มีสถานะสูง
อํานาจของการเป็นขุนนางนั้นยังไม่เพียงพอที่จะใช้เพื่อต่อกรกับจักรพรรดิและมันจะยิ่งวุ่นวายเข้าไปอีก หากอาณาจักรใกล้เคียงให้ความช่วยเหลทือกบทางจักรวรรดิ
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากเขาก้าวผิดแม้แต่ก้าวเดียว เขาก็จะไม่ สามารถถอยออกมาได้อีก
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยอมปล่อยให้เรย์น่าเข้าไปในคฤหาสน์
“เจ้าหญิงยืนกรานที่จะสวดอ้อนวอนที่หน้าประตูจนกว่ามาร์ ควิสจะมาพบที่นี่เธออยู่ที่นั่นโดยไม่ได้จิบน้ําหรือรับประทานอะไร เป็นเวลาสามวัน”
“มันขนาดนั้นเลยหรอ”
“มันคือเรื่องจริง…แต่ชายชราแบบข้าก็ไม่สามารถทําอะไรได้
เลย!”
วิคเตอร์ทุบหน้าอกของเขาด้วยความหงุดหงิด
ลุคเข้าใจความรู้สึกของอัศวินชราที่กําลังหลั่งน้ําตา
เขายังรู้ดีถึงความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทําบางสิ่งเพื่อคนที่รักได้
“ยังไงก็ท่านลอร์ด ท่านมาที่นี่ได้ยังไง?”
วิคเตอร์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นมาก
ลุคพูดความจริงออกไป เพราะมันไม่ได้เป็นความลับขนาดใหญ่ที่จะต้องเก็บ
“ข้ากําลังจะกลับแล้ว หลังจากการซื้อกิกันท์เสร็จ”
“อา! แล้วรถพ่วงข้างนอก…?”
“ใช่แล้ว นั่นคือกกันท์ที่ข้าซื้อมาจากหอคอยเวทมนตร์ฮาริส”
เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น ตาของวิคเตอร์ก็เบิกกว้างราวกับว่าเขาประหลาดใจ
“ข้าได้ยินมาว่าท่านกําลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบากไม่ใช่หรอ?”
เป็นความจริงที่ทราบกันดีว่ารากันต์ผู้กล้าหาญนั้นใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติแต่สุดท้ายก็จบลงอย่างไร้เกียรติ
จากสิ่งที่วิคเตอร์รู้ แค่เขาบอกว่าเช่ากิกันท์มามันก็น่าเหลือเชื่อแล้ว
แต่นี่เขากลับบอกว่าซื้อมาแล้ว?
“ทุกวันนี้ทรันย์สินของเขาพัฒนาขึ้นแล้วหรอ หรือข้าตกข่าวอะไรไป?”
ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ลุคก็ได้ช่วยเรย์น่าไปถึงสองครั้งแล้ว
เมื่อทุกคนคิดว่าหดหนทางแล้ว เขาก็มักจะยื่นมือเข้ามาและช่วยเธอทันที่แทนที่จะหันหลังให้เธอ
“บางทีชายหนุ่มคนนี้อาจเป็นผู้ช่วยชีวิตคนเดียวของเราก็ได้”
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ววิกเตอร์ก็คุกเข่าต่อหน้าลุค
“ท่านเจ้า ข้าชายชราผู้นี้มีความกรุณาอย่างหนึ่งที่อยากจะขอจากท่าน”
“ได้โปรด ท่านกําลังทําอะไรน่ะ”
ลุคประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพยายามจะบอกให้วิกเตอร์ลุกขึ้น แต่วิคเตอร์ก็ส่ายหัวและนอนอยู่บนพื้น
“โปรดยอมรับเจ้าหญิงผู้น่าสงสารและผู้ลี้ภัยของเราด้วยเถิด! อย่างที่ทราบกันดีว่าถ้าท่านไม่ช่วยเรา เจ้าหญิงจะต้องกลายเป็น นางบําเรอของไอ้เคานต์เหี้ยนั่น! ได้โปรด…!”
ลุคไม่สามารถซ่อนความเร่าร้อนของเขาได้
เขารู้ดีถึงความภักดีของชายคนนี้และขนาดของที่ดินก็ใหญ่
แต่เคานต์โมนาร์ชจะปล่อยนางไปจริงๆหรอ?
ในกรณีที่เลววร้ายที่สุด พวกเขาอาจต้องทําสงครามกัน
“แม้ว่าวันหนึ่งข้าจะต้องไปฆ่าไอ้โมนาร์ชอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กําลังของรากันต์เราก็ยังมีน้อยอยู่”
นั่นคือสถานการณ์ที่ชัดเจนที่พวกเขาอยู่
อย่างไรก็ตาม ร่างของเซย์ม่อนก็ปรากฏขึ้นในห่วงความคิดของเขาแล้วถามว่า
“เจ้าต้องการให้มันเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่”
โศกนาฏกรรมของการสูญเสียหญิงอันเป็นที่รักไปในเงื้อมมือของผู้มีอํานาจมากกว่า?
เขายังคงไม่ลืมมัน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานกว่า 500 ปีแล้วก็ตาม
แต
“เธอไม่ใช่คาธารีน่า”
แม้จะเหมือนกันแต่เธอก็ไม่ใช่คนคนเดียวกัน
และด้วยเหตุนี้การแก้แค้นจึงเป็นไปไม่ได้
“ข้าเสียใจ แต่ข้าเองก็คงต้องหันหน้าหนี้
ลุคพยายามระงับอารมณ์ของเขาและพยายามปฏิเสธออกไป แต่ทันใดนั้นเอง เสียงของเรย์น่าก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง
“โปรดอย่ารังเกียจฉัน”
“จะ.. เจ้าหญิง!”
เรย์น่าเดินมาโดยได้รับการสนับสนุนจากพาเวล และเธอคุกเข่าต่อหน้าลุค
“ข้ายังสบายดี มันไม่สําคัญสําหรับข้าอีกต่อไปแล้ว แค่รับผู้ลี้ภัยที่น่าสงสารของเรา! หนึ่งพันไม่สิ หนึ่งร้อยก็ได้ ได้โปรดเถิด…ได้โปรดช่วยพวกเขาด้วย!”
เรย์น่าคุกเข่าลงกับพื้น และแล้วน้ําตาก็เริ่มไหลรินออกมาจากดวงตาของเธอ…
อ่านจนปวดท้อง อ่านประหยัดอ่านอย่างยืนหยัดอดทน