ดาวออสเทรียน, ปี 20,998 แห่งปฏิทินเอจิส

 

     แสงสว่างสีฟ้าจางจากจอภาพโฮโลกราฟิก สาดกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนหลายร้อยชีวิตที่นั่งเรียงรายอยู่ภายในห้องเรียนขนาดใหญ่ของสถาบันเพาะบ่มแห่งออซริน—สถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในมหานครแห่งนี้ ซึ่งเปิดรับนักเรียนกว่าแสนคนในแต่ละปี

 

     ภายในสถาบันแห่งนี้ เมื่อศาสตราจารย์ผู้สูงวัยกดเปิดสื่อการสอนบนแผงควบคุม บรรยากาศในห้องก็เงียบลงทันที

 

     ภาพยนตร์เริ่มฉาย

“นับย้อนกลับไปเมื่อหลายพันล้านปีก่อน จุดเริ่มต้นของจักรวาลได้ให้กำเนิดพลังงานบางสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน—พลังงานที่ไร้นิยาม ไร้ชื่อ และไร้ผู้ใดในจักรวาลเข้าใจมัน… จนกระทั่งมันพัดผ่านมายังดาวออสเทรียน ดาวต้นกำเนิดของมนุษยชาติ”

 

     พลังงานนั้นไม่เพียงแค่ปรากฏตัว มันแผ่กระจายไปทั่วดินฟ้า และเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่สัมผัส พืชพรรณกลายพันธุ์ สัตว์ป่ากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดขึ้น แข็งแกร่งขึ้น มนุษย์ก็เช่นกัน—ร่างกายของพวกเขาค่อย ๆ ตอบสนองต่อพลังงานนี้ เกิดการวิวัฒนาการที่ไม่เคยมีมาก่อน

“นักวิทยาศาสตร์แห่งยุคนั้น เรียกพลังงานลึกลับนี้ว่า ‘พลังคริสตัล’ หรือ Crystal Essence”

     สัตว์และพืชที่วิวัฒนาการผ่านพลังงานนี้ได้รับการขนานนามว่า สัตว์คริสตัล—พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งและดุร้าย

 

     แต่การวิวัฒนาการนั้นมันไม่ได้หยุดอยู่แค่สิ่งมีชีวิต

 

     ดวงดาวทั้งดวงเริ่มเปลี่ยนแปลง ขยายขนาด แข็งแกร่งขึ้นราวกับมีชีวิต—คล้ายกับว่ามันก็กำลังวิวัฒนาการไปพร้อม ๆ กับทุกสิ่ง

     และเมื่อพลังคริสตัลแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ สิ่งหนึ่งก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในร่างกายของบางคน… พื้นที่ลึกลับที่ไร้ตัวตนซึ่งถูกขนานนามว่า โลกวิญญาณ (Spiritual World)—โลกภายในที่ซ่อนอยู่ภายในวิญญาณของแต่ละคน ที่ศูนย์กลางของโลกวิญญาณนั้น มีบางสิ่งแปลกประหลาดรอคอยการตื่นขึ้นอยู่…สิ่งนั้นคือ เมล็ดคริสตัล (Crystal Seed)เมล็ดที่หลับใหลจนกระทั่งเจ้าของร่างเติบโตถึงอายุ 18 ปี มันจึงจะสามารถปลุกขึ้นได้

แต่เมล็ดแห่งพลังนี้ไม่สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง ต่างจากสัตว์คริสตัลที่ดูดซับพลังคริสตัลได้โดยตรง มนุษย์จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษในการหล่อเลี้ยงเมล็ดภายในนั้น และวิธีเดียวที่ได้ผลก็คือ…

การสกัดแกนคริสตัล (Crystal Core) จากสัตว์คริสตัล และดูดซับพลังงานที่เก็บไว้ภายใน

     เมล็ดคริสตัลที่ได้รับการบ่มเพาะจะเติบโต เปลี่ยนแปลงร่างกายของผู้ถือครองให้แข็งแกร่งขึ้น มีอายุยืนยาวขึ้น และที่สำคัญที่สุด—มันยังมอบ พลังพิเศษเฉพาะตัว ให้กับผู้ถือครองอีกด้วย บางคนปลุกพลังแห่งเปลวไฟ บางคนควบคุมสายน้ำ บางคนก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งดุจโลหะ พลังนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และผู้ที่สามารถบ่มเพาะเมล็ดคริสตัลจนตื่นขึ้นได้ จะได้รับสมญานามว่า…

 

     “ผู้วิวัฒน์” (Evolvers)—ผู้แทนของมนุษยชาติยุคใหม่

 

      และเมื่อเหล่าผู้วิวัฒน์ได้ถือครองพลัง ยุคใหม่ของมนุษย์ถึงได้เริ่มต้นขึ้น ศาสตร์แห่งการบ่มเพาะจึงถือกำเนิด—ยุคแห่งการฝึกฝน วิวัฒนาการ และการต่อสู้กับสัตว์คริสตัลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

…แต่ทั้งหมดนั้น ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโชคชะตาอันยาวไกล

     เพราะเมื่อ 25,000 ปีก่อน ดาวออสเทรียนได้เผชิญกับหายนะครั้งยิ่งใหญ่แผ่นดินไหวรุนแรง พายุไซโคลนพัดอย่างกับจะทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง ภูเขาไฟที่หลับใหลมาแสนนานก็ระเบิดขึ้นส่งเสียงดังราวกับเสียงคำรามของมักรก็ไม่ปาน…

 

     เมื่อมนุษยชาติคิดว่าหายนะได้ผ่านพ้นไปแล้ว… รอยแยกมิติจำนวนนับไม่ถ้วนก็เปิดขึ้นทั่วทั้งดาวออสเทรียนอย่างฉับพลัน ฝูงสัตว์คริสตัลจำนวนมหาศาลหลั่งไหลทะลักออกมาจากรอยแยกเหล่านั้นราวกับพายุโลหิต

 

     เพราะอย่างนั้น ยุคมืด จึงได้เริ่มต้นขึ้น

 

     มนุษย์ถูกผลักดันให้ถอยร่นอย่างต่อเนื่อง สูญเสียทั้งมรดกทางวัฒนธรรมและเทคนิคการบ่มเพาะโบราณมากมายที่ไม่อาจกู้คืนได้

แต่ละประเทศได้ยืนหยัดสู้กับศัตรูแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถปกป้องประเทศได้ ประเทศชาติทั้งหมดจึงล่มสลายและรวมตัวกันกลายเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชื่อ…

 

     พันธมิตรเอจิส (Aegis Alliance)

 

     ภายใต้ธงเดียวกัน มนุษยชาติได้ส่งยอดผู้วิวัฒน์ออกไปต้านทานสัตว์คริสตัลตามแนวรอยแยก พวกเขาสามารถหยุดยั้งการรุกรานได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทำลายรอยแยกมิติที่ยังคงคุกคามโลกได้เลย

 

     ในยามที่ทุกคนสิ้นหวังจนไม่เหลือหนทางรอด นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ค้นพบสิ่งใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อีกครั้ง นั่นคือ!…

ในตัวพวกสัตว์คริสตัลที่มาจากรอยแยกนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน…

 

     ผลึกวิญญาณ (Soul Crystals)

 

     ด้วยพลังของผลึกวิญญาณนี้ วิถีแห่งวิวัฒนาการสายใหม่จึงถือกำเนิดขึ้น ผู้วิวัฒน์ที่เคยติดอยู่กับขีดจำกัดเดิมสามารถ ทะลวงขีดจำกัดนั้นออกไปได้ จากจุดนั้น มนุษย์จึงเข้าสู่…

 

     ยุคแห่งการบ่มเพาะครั้งที่สอง

 

     ฝูงสัตว์คริสตัลที่เมื่อก่อนเป็นฝ่ายบุกรุกคืบเข้ามากลายเป็นถูกผลักกลับ มนุษย์ชาติเริ่มที่จะยึดดินแดนที่เคยเป็นของตนกลับคืนมา และผู้วิวัฒน์ถูกส่งออกไปทำภารกิจสำรวจตามรอยแยกเหล่านั้น ที่ปลายทางของรอยแยก… สิ่งที่รอมนุษยชาติอยู่นั้นคือความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่า

     รอยแยกเหล่านี้เป็น เส้นทางสู่โลกอื่น โลกที่เต็มไปด้วยพลังคริสตัลเข้มข้นยิ่งกว่าโลกออสเทรียนหลายเท่า พลังงานที่บริสุทธิ์เหล่านี้ทำให้สัตว์คริสตัลในดินแดนเหล่านั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างมหาศาล และเบื้องหลังรอยแยกเหล่านั้น—ทรัพยากรใหม่จำนวนนับไม่ถ้วน ซ่อนอยู่รอให้ผู้กล้าค้นพบ

 

     มนุษยชาติจึงก้าวกระโดดทั้งในด้านเทคโนโลยีและวิถีแห่งการบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว เส้นทางใหม่เปิดออกให้กับผู้ที่กล้าก้าวเดิน

     

     แล้วภาพยนตร์ก็หยุดฉายลง ณ จุดนั้น

 

     ศาสตราจารย์ปิดหน้าจอแสดงผลโฮโลกราฟิกก่อนจะหันกลับมามองนักเรียนของตน ครึ่งหนึ่งของห้องแทบจะหลับกันหมด บ้างก็นั่งเหม่อ บ้างก็ก้มเล่นโทรศัพท์ ไม่สนใจบทเรียนเลย เขาตบมือดัง “แปะ!” สองสามครั้งเพื่อดึงความสนใจ ก่อนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

 

     “ฉันรู้ว่าพวกเธอเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว แต่ตามหลักสูตรของพันธมิตรเอจิส เราต้องให้พวกเธอ—ว่าที่ผู้วิวัฒน์—ได้เรียนรู้เรื่องราวแห่งยุคใหม่ของมนุษยชาติ”

 

     “เพราะวันนี้…คือวันปลุกพลังของพวกเธอ”

 

      “ตอนนี้พวกเธอส่วนใหญ่อายุครบ 18 แล้ว เมล็ดคริสตัลในโลกวิญญาณของพวกเธอก็พร้อมจะถูกปลุกขึ้นเช่นกัน และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการบ่มเพาะของพวกเธอ”

 

     สิ้นเสียงของอาจารย์ นักเรียนทั้งห้องก็พากันเงยหน้าขึ้น ดวงตาของแต่ละคนเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น เพราะความฝันสูงสุดของเยาวชนในยุคใหม่ ก็คือการกลายเป็นผู้วิวัฒน์ผู้ยิ่งใหญ่ ออกสำรวจรอยแยกเพื่อค้นหาทรัพยากรล้ำค่า และสะสมเครดิตโนวา ซึ่งปัจจุบันเป็นสกุลเงินเดียวที่ใช้ทั่วทั้งพันธมิตร

 

     วันนี้… อาจเป็นวันที่พวกเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ หากโชคเข้าข้าง และสามารถปลุกพลังพิเศษที่แข็งแกร่งได้ พวกเขาอาจถูกสโมสรหรือกิลด์ชั้นนำรับตัวไปฝึกฝน การบ่มเพาะก็จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

 

      เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นในห้องเรียน บรรยากาศอบอวลไปด้วยความหวัง ความฝัน และความตื่นเต้นในหัวใจของเหล่าเยาวชน…

     วันนี้คือวันที่ทุกอย่างจะเริ่มต้น

 

     “หวังว่าตอนปลุกพลังฉันจะได้รับพลังดีๆ นะ!”

 

     “ฉันก็เหมือนกัน ครอบครัวฉันยากจน… หวังว่าจะเปลี่ยนโชคชะตาได้”

 

      “ฉันก็หวังแบบนั้นแหละ!”

 

     “เฮ้ พวกนายได้ยินมั้ย? อัลเลน เกรแฮม ห้อง 3-2 ปลุกพลังควบคุมไฟระดับ B ได้ด้วยล่ะ!”

 

     “โห ระดับ B เลยเหรอ!? เขาน่าจะไปถึงขอบเขตเหนือสามัญได้แน่ๆ ถ้ามีพลังระดับนั้น!”

 

     “อาาา อิจฉาชะมัด… ฉันก็อยากปลุกพลังเจ๋งๆ แบบนั้นบ้าง!”

 

     เสียงพูดคุยเต็มไปด้วยความหวัง เสียงฝันของเยาวชนที่ยังไม่ถูกชีวิตบดขยี้ ต่างพูดถึงอนาคตอันสดใสที่พลังตื่นขึ้นสามารถมอบให้

ณ มุมหนึ่งของห้องเรียน “เคียร์แรน” นั่งเงียบ ไม่ได้ร่วมวงสนทนา เขากุมศีรษะ ฟันขบแน่น ดวงตาปรากฏร่องรอยความเจ็บปวด

นักเรียนคนหนึ่งที่นั่งใกล้ๆ เขาหันมาถามด้วยความกังวล

 

     “เฮ้ เคียร์แรน นายโอเคไหม?”

 

    เขาหันไปช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียว เหงื่อไหลรินทั่วหน้าผาก ร่างนั้นสวมฮู้ดสีดำตัดส้มเข้มกับกางเกงดำ ดวงตาสีน้ำตาลดูอิดโรย

 

     “ไม่เป็นไรหรอก โธมัส… แค่ปวดหัวนิดหน่อยนะ” ยังไม่ทันจบคำ คลื่นความเจ็บปวดลูกใหม่ก็โจมตีเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขาต้องกุมหัวอีกครั้ง

 

     “นายน่าจะไปห้องพยาบาลนะ นายดูไม่ไหวแล้วจริงๆ” โธมัสกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาเห็นเคียร์แรนทรมานแบบนี้มาตั้งแต่ยี่สิบนาทีก่อน มันไม่ใช่อาการปวดหัวธรรมดาแน่นอน

 

     “เดี๋ยวปลุกพลังเสร็จแล้วค่อยไปก็ได้ ใกล้ถึงคิวพวกเราแล้ว”

แม้จะเจ็บปวด เขาก็ฝืนตัวเองให้สงบนิ่งลง เพราะเขารู้ดีว่าวันนี้สำคัญแค่ไหน

 

     “วันแห่งการตื่นขึ้นของพลัง” — วันที่เมล็ดคริสตัลในโลกวิญญาณของมนุษย์จะปลุกตื่น พร้อมกับมอบพลังพิเศษหนึ่งอย่างให้แก่เจ้าของมัน

หากพลังนั้นปรากฏเป็นขวาน คนผู้นั้นจะมีพรสวรรค์ในการใช้ขวานเหนือกว่าคนทั่วไป สามารถเรียนรู้วิชาเกี่ยวกับมันได้ง่ายดายหากสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้ ก็อาจได้รับพลังของสัตว์นั้นเช่นกัน

 

     “พลังของเมล็ดคริสตัล” จึงกลายเป็นปัจจัยที่กำหนดเส้นทางชีวิตของผู้คนไปโดยปริยาย

     พลังที่ตื่นขึ้นมานั้น แบ่งเป็นสองประเภทหลัก:

     สายต่อสู้ (Combat Crystal Seeds)

     สายสนับสนุน (Utility Crystal Seeds)

 

     และในแต่ละประเภท ยังแบ่งออกเป็น 5 รูปแบบ:

     การอัญเชิญ (Manifestation)

     การแปลงร่าง (Transformation)

     ธาตุ (Elemental)

     การเสริมพลัง (Reinforcement)

     จิตใจ (Mental)

     แต่ละแบบก็มีจุดเด่นและจุดอ่อนแตกต่างกันไป

 

     ระหว่างที่โธมัสยังพยายามเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนไปห้องพยาบาล เสียงของอาจารย์ก็ดังขึ้นในห้องเรียน

 

     “ถึงตาของห้องเราแล้ว! ทุกคนไปรวมกันที่หอประชุม อย่าลืมว่า พิธีตื่นพลังไม่ใช่เรื่องเล่นๆจากวันนี้ไป… พวกเธอก็จะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำของตน!”

 

     หลังจากคำพูดเด็ดขาดของอาจารย์ จึงนำกลุ่มนักเรียนเดินตรงไปยังหอประชุมใหญ่ของสถาบัน

 

     เมื่อมาถึงหอประชุม นักเรียนทุกคนได้เห็น ผู้อำนวยการของสถาบัน ยืนอยู่หน้าแท่นศิลาที่ใช้ในพิธี โดยมีบุคคลสำคัญหลายนายอยู่รายล้อมบนแท่นนั้น มีหินสีน้ำเงินขนาดใหญ่ส่องแสงประกายอ่อนโยน ส่วนด้านล่างของแท่น มีวงเวทย์ขนาดใหญ่สลักอักขระเรืองแสงสีน้ำเงินไหลลื่นเป็นสาย

 

     เมื่อทุกคนเข้าประจำที่ ผู้อำนวยการก็ก้าวขึ้นหน้า กล่าวต้อนรับด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     “ขอต้อนรับสู่พิธีตื่นพลัง วันนี้จะเป็นวันชี้ชะตาของพวกเธอ เส้นทางแห่งการบ่มเพาะกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ณ ที่แห่งนี้”

 

     “พวกเธอบางคนอาจผิดหวังกับผลลัพธ์ในวันนี้ แต่จงอย่าลืมว่า… พลเมืองทุกคนของพันธมิตรเอจิสที่มีโลกวิญญาณ ต่าง ก็มีหน้าที่ที่ต้องบ่มเพาะพลัง ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง… แต่เพื่อพันธมิตรด้วย”

 

     “แม้มวลมนุษย์จะเข้มแข็งขึ้นมากในยุคแห่งการบ่มเพาะครั้งที่สอง แต่อย่าลืมว่า… ทุกวันยังมีเมืองถูกฝูงสัตว์คริสตัลโจมตี

     รอยแยกใหม่อาจเปิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และศัตรูของพันธมิตรเอจิสก็ยังเฝ้ารออยู่ตามชายแดน”

 

     “การบ่มเพาะ ไม่ใช่แค่หนทางสู่ขุมพลัง… แต่มันยังหนทางในการรับประกันความอยู่รอดของพวกเธอ หากในวันหนึ่งเมืองนี้ต้องเผชิญกับหายนะ”

 

     คำกล่าวของผู้อำนวยการเปรียบเสมือนน้ำเย็นสาดใส่หัวใจของนักเรียนทุกคนที่ก่อนหน้านี้ยังเต็มไปด้วยความคึกคัก

     เพราะความจริงก็คือ… ไม่มีใครรู้ว่าอีกฟากหนึ่งของรอยแยกมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง เมืองที่ใกล้โอซรีนที่สุด ยังอยู่ห่างออกไปร่วมหนึ่งหมื่นกิโลเมตร

     และกว่าจะเดินทางไปถึง ต้องฝ่าดงฝูงสัตว์คริสตัลที่พร้อมจะฉีกทุกชีวิตเป็นชิ้นๆ สำหรับชาวเมืองโอซรีนจำนวนมาก… พวกเขาจะไม่มีวันได้เห็นเมืองอื่นเลยตลอดชีวิต

 

      “เราจะเริ่มพิธีแล้ว… เมื่อชื่อของเธอถูกเรียก ให้เดินเข้ามาในวงเวทย์ แล้ววางมือลงบนแกนผลึก หลังจากนั้น เธอจะรู้สึกถึงพลังของเอสเซนส์คริสตัลที่ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย”

 

     ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างผู้อำนวยการเดินเข้าไปใกล้แท่นพิธี ก่อนจะเริ่มเรียกชื่อนักเรียนทีละคน

 

     “อิวิง เฟฮาสเตอร์”

 

     นักเรียนคนหนึ่งเดินตรงไปยังแท่นอย่างช้าๆ มือของเขาสั่นระริกเมื่อเข้าใกล้แกนผลึก เส้นอักขระเรืองแสงที่สลักอยู่ในวงเวทย์ก็เริ่มส่องแสงจ้า

     วิ่งไหลราวสายน้ำตรงเข้าสู่แท่นทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับผลึก เสมือนว่าแกนผลึกนั้นมีชีวิต พลังงานที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาไหลเวียนอยู่ภายในตัวมัน เส้นอักขระเรืองแสงยังคงส่องแสงเจิดจ้าจนถึงปลายเท้าของเด็กหนุ่ม ทันใดนั้น

 

     เขารู้สึกถึงความร้อนรุนแรงที่ไหลเข้ามาจากพื้นวงเวทย์ แทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูในร่างกายก่อนจะหลั่งไหลเข้าสู่โลกวิญญาณของเขา มุ่งตรงสู่ “เมล็ดคริสตัล” ที่อยู่ในจิตวิญญาณ… แล้วภาพลวงตาของเมล็ดคริสตัลก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ มันเริ่มเปลี่ยนรูปร่าง เป็นภาพของมือที่ถูกปกคลุมด้วยดิน พร้อมแสงสีเหลืองอบอุ่นเปล่งประกายออกมา มีรากเล็กๆ งอกออกจากตัวเมล็ดอย่างแผ่วเบา ชายข้างแท่นพิธีชูหินสีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมขึ้นในมือ แล้วยื่นไปทางเด็กหนุ่ม แสงจากหินส่องออกมาสแกนร่างของเขาทั้งหมด

 

     “กำลังวิเคราะห์ข้อมูล… นักเรียน อิวิง เฟฮาสเตอร์ ชั้น 3-4 จากสถาบันโอซรีน ความสามารถที่ปลุกสำเร็จ: ผิวหนังหิน (Stone Skin) ระดับ D”

     อิวิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนรอยยิ้มจะปรากฏบนใบหน้า ‘ระดับ D! ฉันได้ระดับ D!’ ความปลื้มปีติฉายชัดในแววตาของเขา

 

     พันธมิตรเอจิสได้กำหนดระบบการจัดลำดับความสามารถของเมล็ดคริสตัล โดยพิจารณาจากพลัง, อัตราการดูดซับพลังเอสเซนส์คริสตัล, และศักยภาพในการพัฒนา จึงแบ่งเป็นระดับต่างๆ ตั้งแต่ F จนถึง S+ แม้ความสามารถระดับต่ำจะถูกมองว่าอ่อนแอ แต่ความจริงคือ มันอาจมีหนทางพัฒนาเฉพาะทางที่สาธารณชนไม่รู้จักก็เป็นได้

 

     หลังจากยุคมืด มรดกทางพลังของมนุษยชาติได้สูญหายไปมาก ที่เหลือรอดก็ถูกเก็บซ่อนไว้ในมือของสมาคมต่างๆ หรือขุนนางชั้นสูง พันธมิตรเอจิสประเมินความสามารถโดยพิจารณาจากวิถีทางที่คนทั่วไปเข้าถึงได้เท่านั้น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ฝึกตนระดับสูงหลายคน

     บางผู้ฝึกตนเหนือสามัญถึงกับเสนอให้ยกเลิกระบบจัดระดับนี้ เพราะเชื่อว่ามันไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของแต่ละบุคคล

 

     “นักเรียนต่อไป บริตนีย์ ฮิลลอร์บ” เด็กสาวเดินขึ้นมาทำตามขั้นตอนเดิม

 

     “นักเรียน บริตนีย์ ฮิลลอร์บ ชั้น 3-4 จากสถาบันโอซรีน ความสามารถที่ปลุกสำเร็จ: พลิ้วไหวขั้นสูง (Enhanced Acrobatics) ระดับ F”

 

     “นักเรียน โธมัส ดาชอน ชั้น 3-4 จากสถาบันโอซรีน ความสามารถที่ปลุกสำเร็จ: เกราะเกล็ด (Scale Generation) ระดับ D”

 

     “นักเรียน ซัลมา เหม่ยหลิน ชั้น 3-4 จากสถาบันโอซรีน ความสามารถที่ปลุกสำเร็จ: ภูมิคุ้มกันพิษ (Venom Invulnerability) ระดับ F”

 

     นักเรียนแต่ละคนก้าวเข้าสู่พิธีด้วยความหวัง บางคนยิ้มด้วยความดีใจ ขณะที่บางคนก็ต้องหลั่งน้ำตาเพราะผิดหวัง พิธีตื่นพลังนั้นเปรียบได้กับการพิพากษาโชคชะตาของผู้ที่มีโลกวิญญาณ บางคนจะโผบินสู่ท้องฟ้า… ขณะที่บางคนต้องกัดฟันเงยหน้ามองชะตาตนเองด้วยความเจ็บปวด

 

     “นักเรียนต่อไป… ไรอัน อาร์วอสต์”

 

     ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น เคียร์แรนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผู้มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับเขาเดินตรงไปยังแท่นอย่างเงียบๆ ใบหน้ามีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ทว่าเส้นผมสีน้ำตาลและดวงตาสีเขียวมรกตของไรอันคือสิ่งที่แยกพวกเขาออกจากกัน… เมล็ดคริสตัลภาพลวงตาปรากฏขึ้นบนศีรษะ เป็นภาพของกำแพงพลังรูปทรงลูกบาศก์

 

     “นักเรียน ไรอัน อาร์วอสต์ ชั้น 3-4 จากสถาบันโอซรีน ความสามารถที่ปลุกสำเร็จ: บาเรีย (Barrier) ระดับ E”

 

     เมื่อไรอันได้ยินผลประเมิน เขากัดฟันแน่นก่อนจะหันหลังกลับ ระหว่างเดินกลับ เขาหันไปมองฝาแฝดของเขา—เคียร์แรน—ซึ่งกำลังมองเขาอยู่จากกลุ่มนักเรียน แล้วจึงเบือนสายตาลง เดินกลับไปอย่างเงียบๆ

 

     ‘ไรอัน…’

 

     ความรู้สึกสับสนมากมายไหลบ่าเข้าสู่ใจของเคียร์แรน ไรอันคือน้องฝาแฝดของเขา… การได้เห็นสีหน้าของน้องชายหลังจากรู้ผลการตื่นพลัง ทำให้บางอย่างภายในจิตใจเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

 

     “นักเรียนต่อไป… เคียร์แรน อาร์วอสต์”