ตอนที่ 9 ใครๆก็เป็นได้ฮีโร่นะ
..
.
วันที่เช้าอากาศแจ่มใสเหมาะสมกับการไปเรียนอย่างสุดที่สุด~ …เวลาตอนนี้ก็น่าจะ 8 โมง
แล้วตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่ร้าน ‘คาเฟ่โพทอส’
แล้วทำไมผมถึงมายืนอยู่ที่นี่งั้นหรอ?
ก็เพราะว่าผมตัดสินใจว่าจะมากินข้าวเช้าที่นี่ก่อนที่จะไป โรงเรียนเซเร ในการเปิดเรียนวันแรก
แน่นอนว่าที่นี่ มันไกลจากอพาร์ทเม้นท์ของผมเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นวันธรรมดา ที่ต้องไปโรงเรียนก่อน8 โมงแล้วละก็…การเลือกมากินที่นี่ก็คงทำให้ไปโรงเรียนสายอย่างแน่นอน
แต่ว่าวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก กิจการการเรียนมันเลยไม่มี มีแค่ปฐมนิเทศ ตอน 10:00 น
เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจมากินข้าวเช้าที่นี่ก่อนที่จะไป
ก่อนที่จะออกมาผมได้ทำกิจวัตรประจำวันเช่นวิ่งตอนเช้า ที่ทำเป็นประจำตั้งแต่ได้มาอยู่อพาร์ทเม้น
ช่วยไม่ได้ ผมคิดว่ายังไงก็คงต้องออกกำลังกายบ้าง รู้สึกเลยว่า 1 ปีที่ผ่านมา ร่างกายของตัวเองนั้นอ่อนแอลงมากกว่าเมื่อก่อนขนาดไหน
จริงๆผมก็อยากลองไปเข้ายิมดูบ้างนะแต่ก็คิดอีกทีมันก็คงจะไม่ดีนักและค่อนข้างจะไกลด้วย
เพราะงั้นเอาเป็นว่าแค่วิ่งตอนเช้าก็พอแล้วแหละ
ติดๆ!
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น จากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมยกขึ้นมาดู ก็พบกับการแจ้งเตือนแบตโทรศัพท์ใกล้หมด…
จะว่าไปผมเองก็ลืมชาร์จแบต ก่อนนอนด้วยนี่นา..
ช่วยไม่ได้ละนะที่แบตจะหมด เมื่อวานเองผมก็เล่นเกมในโทรศัพท์ของตัวเองค่อนข้างจะบ่อย มันเป็นเกมแนวกาชาที่ต้องเปิดสุ่มหาตัวละคร
…ผมคิดว่ามันก็สนุกดี..แม้ว่ามันจะ..เออ..ช่างมันแล้วกัน..
เอาเป็นว่าโทรศัพท์เอง ก็เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกัน
หลังจากที่ผมออกมาจากโรงเรียนโคโดออีคุเซ โทรศัพท์มันก็กลายเป็นเครื่องใหม่ที่ประธานซาคายานางิ ซื้อให้ มันค่อนข้างที่จะดีกว่าโทรศัพท์ในโรงเรียนนั้นเอามากๆ
เพราะงั้นช่วงนี้ ผมเองก็ค้นหาหรือดูวีดีโอในโทรศัพท์ค่อนข้างจะบ่อย
แม้กระทั่งตอนกลางคืนก่อนนอนผมเองก็ดูคลิปแมวก่อนนอน…
ไม่ใช่ว่าผมเป็นทาสแมวหรืออะไรนะก็แค่สนใจเฉยๆน่ะ
เอาเป็นว่าคุยเรื่องนี้ต่อไปมันก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา
การที่ผมลืมชาร์จแบตโทรศัพท์นี่เอง มันก็คงเป็นความสะเพร่าของผมที่ดันลืมชาร์จแบดนั่นแหละ
เพราะงั้นก็ช่างมันแล้วเข้าไปในร้านดีกว่า
ผมที่คิดได้แบบนั้นและวนเวียนอยู่ในความคิดตัวเองนานเหลือเกิน ก็ได้เอาโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าพร้อมกับ เปิดประตูเข้าไปในร้าน
กริ่ง!!เสียงเล็กๆของกระดิ่งดังขึ้นจากด้านบน ประตู
ทำให้คนที่อยู่ในร้านหันมามอง แต่ว่าตอนนี้มันเป็นช่วงเช้าอยู่ เพราะงั้นในร้านตอนนี้ก็เลยไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว
มีเพียงแค่ทาจิบานะที่กำลังเตรียม วัตถุดิบอยู่ตรงเคาน์เตอร์ทำอาหาร
เธอได้หันมามองผมเพราะเสียงกริ่งของประตู
“ยินดีต้อน–…อ้าว อายาโนะโคจิ..นายมาทำอะไรที่นี่?…ไม่ใช่ว่าวันนี้โรงเรียนเปิดหรอ”
“ก็ใช่ กะว่าจะมากินข้าวเช้าที่นี่แล้วค่อยไปนะ”
ผมก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ประตูค่อยๆปิดลงอัตโนมัติ ทำให้มีสิ่งกริ่งดังอีกครั้งหนึ่ง
“หรอ~แล้วอยากกินอะไรล่ะ”
ผมได้เดินมานั่งเก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์ ทาจิบานะที่เห็นก็ได้หยิบเมนูยื่นมาให้กับผม
ผมรับไว้พร้อมกับดูเมนู แต่ถึงอย่างนั้นผมก็กินแค่อย่างเดียวแหละเนาะ ก็มันอร่อยนี่นา..ไอ้นั่นน่ะ
ผมดูเมนูได้เพียงแค่แปบเดียวเท่านั้น พร้อมกับมองหน้าทาจิบานะ “เอาเหมือนเมื่อวาน”
เธอที่ได้ยินอย่างนั้นก็เอียวงหัวสงสัยว่า ทำไมผมถึงไม่บอกเมนูกันแน่นะ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ หันกลับไป และเริ่มทำทันที “ หมายถึงข้าวห่อไข่สินะ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่ถึงอย่างนั้นก็คงจะรู้อยู่แล้วเพราะว่าเมื่อวานผมก็คิดแค่อย่างเดียวนี่นา
ขณะที่เตรียมกระทะอยู่ทาจิบานะได้หันมามองผม“แต่ว่าดูนายจะถูกใจ เข้าห่อไข่เหลือเกินนะ”
“ก็นะ” ช่วยไม่ได้จริงๆสำหรับผมข้าวห่อไข่ที่ทาจิบานะทำมันอร่อยแบบสุดๆเลย มันเป็นรสชาติที่ผมชอบ จะพูดยังไงดีล่ะมันอธิบายได้ยากนะแต่ว่า
ผมที่ชอบรสชาติไม่จัดจ้ามากเกินไป ข้าวห่อไข่ของทาจิบานะ นั้นทำได้อย่างลงตัวไร้ธิติเลยล่ะ
เล่นซะอยากจะมากินทุกวันเลยล่ะนะ
แต่ก็เป็นไปไม่ได้….จริงๆอยากจะถามว่ามีแบบ ส่งถึงบ้านไหม..แต่ก็คงไม่มีแล้วเนาะ
ขณะปล่อยกระทะให้ร้อนเงียบๆอยู่บนเตาแก๊ส ทาจิบานะหันมาเตรียมกาแฟ…
ทั้งที่ผมยังไม่ได้สั่งด้วยซ้ำ…เอาเป็นว่าช่างก่อนละกันเนาะ
อ๋อ จะว่าไปเมื่อวาน หลังจากที่ผมอยู่ต่อ
ทั้งผมชาวเมืองซากุระหรือแม้กระทั่งรุ่นพี่ฟูริน ก็มาช่วยกันเก็บกวาดข้าวของในเมืองที่กระจัดกระจายจากพวกนักเลง แน่นอนว่าพวกค่ากระจกที่ทำแตกหรือของที่กระจัดกระจาย คนชดใช้ก็คือกลุ่มนักเลงพวกนั้นนั่นแหละ
ถ้าไม่ชดใช้ล่ะก็ยังไงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายละนะ
หลังจากที่ เก็บกวาดเข้าของเรียบร้อยผมและซากุระก็ได้ มาร้านนี้อีกครั้ง
.
. ย้อนเวลาไปเมื่อวาน
.
“แล้วทำไมถึงกลับมาร้านนี้ต่อละเนี่ย”
“ไม่รู้สิ..ทาจิบานะเป็นคนบอกให้มา”
“อะไรของยัยนั่นไม่เข้าใจเลยให้ตายเถอะ”
หลังจากที่เข้ามาในร้านและนั่งกันเสร็จ ซากุระได้หันไปมองประตูพร้อมกับบ่นออกมายังไม่ชอบใจ
เอามือเท้าค้างไว้บนโต๊ะ มืออีกข้างใช้นิ้วชี้เคาะกลับโต๊ะ ดัง ก๊อกๆๆ เป็นจังหวะ ไปมา
คงจะรู้สึกไม่พอใจที่จู่ๆก็โดนให้มานั่งโดยไม่รู้ต้องมาทำอะไร
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถูกเรียกมา จริงๆผมคิดว่า หลังจากที่เก็บข้าวของในเมืองเสร็จผมก็กะจะกลับอพาร์ทเม้นท์ของตัวเองทันที
แต่ทำไมไม่รู้เหมือนกัน ทาจิบานะบอกให้มารอในร้านก่อน
กริ่ง!! เสียงของกระดิ่งประตูดังขึ้นบ่งบอกว่ามีคนเข้ามาในร้านทั้งผมและซากุระหันไปมองพร้อมกัน
คิดว่าเป็นทาจิบานะที่เป็นคนให้เรามา แต่ว่ากลับไม่ใช่ คนที่เดินเข้ามา ใส่เสื้อโค้ทสีดำเหมือนกับซากุระ เป็นเสื้อประจำโรงเรียนม.ปลายฟูริน หรือจะพูดง่ายๆก็คือรุ่นพี่ที่มาขอบคุณพวกเรา จัดการพวกนักเลงในตอนนั้น
“เอา! พวกนายมาแล้วหรอไวดีแฮะ.. เออใช่… ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะ ฉันชื่อ[ฮิอิรากิ โทมะ] อยู่ปี 3 โรงเรียนฟูริน ยินดีที่ได้รู้จัก พวกนายอยู่ปี 1 ใช่ไหมล่ะ ฉันว่าจะขอคุยด้วยหน่อยนะ”
หลังจากที่เข้ามาในร้านไม่ทันไรก็แนะนำตัวทันที รุ่นพี่คนนี้..ให้ตีความและมองจากคนภายนอกล่ะก็คง…ไม่ต่างอะไรกับพวกนักเลงเลยแม้แต่น้อย ลักษณะที่ดูน่ากลัว..ดวงตาขวาง คิ้วขมวดเข้าหากัน หรือแม้กระทั่งฟันที่แหลมคล้ายๆกับฟันของฉลาม…บรรยากาศรอบตัวให้ความรู้สึกน่ากลัวและปล่อยแรงกดดันออกมาตลอด
ถึงอย่างงั้น..ถ้าไม่บอกว่าอยู่ม.ปลายปี 3 หรือเป็นนักเรียนแล้วก็..ผมคงคิดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานที่อายุน่าจะราวๆสัก 25 ได้แล้วนะ
อืม..การคิดแบบนั้นมันก็เป็นการเสียมารยาทเสียเปล่าเพราะงั้นหยุดคิดซะดีกว่านะเรา
หลังจากที่รุ่นพี่ฮิอิรากิก้าวเข้ามาในร้าน ตรงเข้าไปที่เก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์ หันมามองพวกเรา
“เออ!..จะว่าไป พวกนายสองคน… เออ..ไอหัว 2 สี ชื่อซากุระใช่ไหม แล้วส่วนอีกคนชื่ออายาโนะโคจิสินะ”
“เออใช่ทำไม”
“ใช่ครับ”
หลังจากที่ถามเสร็จก็ได้หย่อนตัวลงบนเก้าอี้และหันมาทางพวกเราต่ออีกครั้ง
“เปล่าหรอก…ฉันแค่จะมาพูดอีกครั้ง ขอบคุณพวกนายจริงๆที่ปกป้องเมืองนี้เอาไว้…”
พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณอีกครั้ง…
“แต่ว่านะ…พวกนายดูเหมือนจะสนุกกันสินะการต่อสู้เมื่อกี้เนี่ย”
“ฮะ!!?..สนุกเนี่ยนะ?”
“เออสิวะ!! ดูสนุกสุดๆไปเลยโดยเฉพาะนายซากุระ”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของรุ่นพี่ฮิอิรากิ แบบนั้นไปซากุระหันมามองผม พร้อมกับทำสีหน้าที่ถามออกมาว่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอ
ถึงจะทำด้วยสีหน้าแบบนั้นก็เถอะนะ แต่ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
มันดูสนุกขนาดนั้นหรอ ผมไม่รู้หรอกนะว่าผมสู้แล้วมันดูสนุกแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า
ผมก็เพียงแค่รู้สึกว่าต้องจัดการศัตรูที่อยู่ข้างหน้าก็เท่านั้น
แต่สนุกงั้นหรอ?
ถึงผมจะมีความคิดแบบนั้นเข้ามาในหัว แต่ว่ารุ่นพี่ฮิอิรากิ ดูเหมือนยังจะมีคำถามอยู่เลยจ้องไปทางซากุระกับผมสลับกัน
“จะว่าไปพวกนายเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันหรือเปล่า หรือเป็นเพื่อนที่เรียนโรงเรียนมาด้วยกันงั้นหรอ”
“….”
เดี๋ยวหมายความว่าไง ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนั้นออกมากันนะ ผมและซากุระก็คงมีความคิดเดียวกันอยู่พวกเราต่างมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ
ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นรุ่นพี่ฮิอิรากิ ก็ได้ยกมือจับคางตัวเอง พบกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ถ้าเป็นอย่างนั้นการที่พวกนายอยู่ฟูรินทั้งคู่ก็คงจะเป็นคู่หูที่ดีเลยแหละ”หลังจากที่พูดก็ดูจากอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
แต่ปัญหาก็คือผมไม่ได้อยู่ฟูรินน่ะสิครับ แล้วไงถึงคิดว่าผมอยู่ฟูรินกันได้ล่ะเฮ้ย?
พอหันไปมองซากุระที่มองไปทางรุ่นพี่ด้วยสี…เหมือนเห็นคนบ้าที่กำลังมโนไปไกลอะไรไปประมาณนั้นเลยแหละ สีหน้ามันบอกแบบนั้นจริงๆนะ
ผมตัดสินใจที่ว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้คงเข้าใจผิดไปชัวร์ๆเพราะงั้น ควรที่จะพูดให้มันถูกต้อง
“เออคือว่า–”แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นรุ่นพี่กลับพูดโผล่ต่อทันทีโดยไม่มีช่องว่างให้ผมแทรกเลยแม้แต่น้อย
“พวกนายก็คงจะเป็นคู่ที่ดีเลยละนะอืมๆ~..ในอนาคตก็ต้องทำงานด้วยกันฉันล่ะเฝ้ารอสุดๆไปเลยแหละ ฮาๆๆ~”
และหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานเสียจน ผมสามารถเห็นภาพมโนของเขาในอนาคตที่ยิ้มแป้นออกมาและเห็นผมกับซากุระเป็นคู่หูกันอยู่ในฟูรินเลยแหละ
เป็นรุ่นพี่ที่มโนไปไกลได้ดีจริงๆเลยนะครับ สุดยอดจริงๆรุ่นพี่ฮิอิรากิ!!!
ปัง!!
เสียงทุบมือลงบนโต๊ะของซากุระดังสนั่นภายในร้าน จนรุ่นพี่หันไปมองด้วยความตก ซากุระยืนขึ้นมันไปมองทางรุ่นพี่
“อะไร!!..ทำไมอยู่ๆก็เสียงดังกันฟ–”
“โอ๊ย!! ฉันทนฟังก็พอแล้วโว้ย!!”
รุ่นพี่ได้หันไปมองทางซากุระที่มองไปทางตัวเอง พร้อมกับยกมือชี้หน้า
“นี่แกช่วยฟังที่คนอื่นกำลังจะพูดได้ไหมฟะ อย่างแรกเลยนะเว้ย ฉันกับหมอนี่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเพิ่งจะรู้จักกันเมื่อกี้เนี่ยแหละ และอย่างที่ไอ้หมอนี่ไม่ได้อยู่ฟูรินโว้ย!!!!”
“ฮะ?”
“ตกใจอะไรเฮ้ย!! ฉันกับหมอนี่เนี่ยนะจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันมองยังไงก็ไม่ใช่ชัดๆ”
เพราะซากุระที่ตะโกนออกไปเต็มเสียง และได้พูดสิ่งที่ผมจะพูดออกไปทั้งหมด
ทำเอาซะรุ่นพี่หน้าเหวอเลยทีเดียว
ถึงอย่างนั้นผมก็ขอบคุณซากุระในใจนะ ที่ตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมาไม่งั้นเราก็คงเข้าใจผิดแบบไม่มีทางกู่กับได้อย่างแน่นอน
“แต่ว่า…ที่กำลังสู้กับพวกนักเลง พวกนายเข้าขากันได้สุดๆเลยนะ เหมือนรู้จักกันเมื่อก่อนอะไรประมาณนั้นน่ะ ทั้งอีกคนดูหลังให้จัดการคนที่อยู่ข้างหลังให้กับอีกคน”
หลังจากที่รู้ความจริง รุ่นพี่ได้พึมพำออกมาเหมือนกับพูดกับตัวเองแต่ถึงอย่างนั้นก็หันมามองทางซากุระด้วยสีหน้าที่เหวอ เหมือนไม่อยากจะเชื่อคำพูดของซากุระ
กริ่ง! เสียงกระดิ่งดังขึ้นขัดจังหวะ ความตกใจของรุ่นพี่ไปในที่สุด ทุกคนหันไปมองทางประตู
พบกับร่างหญิงสาวที่คุ้นเคยและในมือที่ถือถ้วยไอศครีมมา 2 ถ้วย
“โคโตฮะจังมาช้าจัง”
“โทษทีๆ พอดีว่าชาวเมืองมีเรื่องจะคุยก็เลยคุยนานไปหน่อยนะ”
ทาจิบานะที่เดินเข้ามาในร้านหันไปคุยกับรุ่นพี่ฮิอิรากิ ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินมาที่โต๊ะของผมกับซากุระและวางถ้วยไอศครีมไว้ข้างหน้าพวกเรา
“เอานี่ ชาวเมืองเขาได้ยิน เรื่องที่พวกนายคุยกันก่อนที่จะสู้นะ ก็เลยฝากมาให้กับฉัน”
ทั้งผม ซากุระหันไปมองถ้วยไอศครีมที่อยู่ข้างหน้า
““ขะ..ขอบคุณ””
ถึงจะมีความคิดที่สับสนที่อยู่ ทำไมถึงได้สิ่งตอบแทนอะไรแบบนี้กลับมาแต่ว่า..
ไม่คิดเลยว่า…จะตอบแทนอะไรแบบนี้…
ขอบคุณอย่างสูงเลยครับ…คุ้มค่ากับการที่ได้ช่วยเลยละนะ
ดีจริงๆที่ยังไม่รีบกลับบ้านน่ะ
ผมคิดแบบนั้นก่อนจะยื่นมือไปจับช้อนพลาสติกขึ้นมาพร้อมกับตักเข้าไปทันทีโดยไม่รีรอแม้แต่น้อย
พอไอศครีมเข้าปากปุ๊บ รสชาติของความหวานก็พุ่งเข้ามาทันที..อร่อยอะ~
ถึงรู้สึกว่าช่วงนี้จะเจอแต่ปัญหามากมายแล้วก็กินไอศครีมก็บ่อยเช่นเดียวกัน แต่ว่า…
ไอศครีมเนี่ยยิ่งกินก็ยิ่งอร่อยนะหยุดกินไม่ได้เลยฮะ รสชาติมันอร่อยจริงๆนะ
ผมน่ะชอบไอศกรีมจริงๆนั่นแหละ หลังจากที่ลองกินครั้งแรกตอนที่ ปิดเทอมฤดูร้อน ปีที่แล้วน่ะ…ช่วงนั้นที่ยังไม่เคยลิ้มลองก็ยังตกใจกับรสชาติของมัน แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เองก็รู้สึกเลยว่ามันอร่อยจริงๆ กินไม่เบื่อเลยแหละ
ถึงอย่างนั้นพอผมหลุดออกจากความคิดตัวเองเสียงรบกวนเสียงรอบข้างเสียงพูดคุยกับหายไปหมดเลย
พอหันไปมองหน้าซากุระก็เห็นเจ้าตัวเจ้ามองมาทางผมอย่างไม่วางตา ตาเบิกกว้างอ้าปากค้างดูเหมือนจะตกใจกับอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยว? เกิดอะไรขึ้น”
“นะ…นะ…นี่แกเปลี่ยนสีหน้าได้ด้วยหรอวะ”
ซากุระตะโกนใส่ผมอย่างทันท่วงที กับสิ่งที่ตัวเองเห็น.. ถึงจะมีอาการตกใจและอึ้งไปสักพัก ก่อนจะตั้งสติกลับมาได้ทันที พร้อมกับตะโกนถามออกไปแบบนั้น
“นี่ฉันก็เป็นคนเหมือนกันนะ แน่นอนสิ สีหน้าฉันก็เปลี่ยนได้…มั้งนะ”
“‘มั้งนะ’..งั้นหรอ…ไอ้มั้งนะนั้นหมายความว่ายังไงฟะ”
ผมเองก็ยังไม่ค่อยรู้เหมือนกัน เพราะว่าตัวเองพูดไปแบบนั้นนี่นา
ผมไม่ค่อยเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองมาก ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนไม่ได้ก็แค่..รู้สึกว่าไม่จำเป็นก็เลยไม่เปลี่ยน..อืม…
“ฮ่า~~~”
ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงหัวเราะดังขึ้นอยู่ข้างๆผมหันไปมองทาจิบานะหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“ตลกอะไร?”
“เปล่าๆ พวกนายเนี่ยสนิทกันดีจังนะนึกว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันเลยล่ะ”
ดูเหมือนว่าความคิดแบบนั้นจะไม่ได้มีเพียงแค่รุ่นพี่ฮิอิรากิคนเดียวที่คิด ดูเหมือนว่าทาจิบานะเองก็จะคิดเหมือนกัน
นี่มันเหมือนจริงๆนะหรอไอ้เพื่อนสมัยเด็กเนี่ย?
“มันเหมือนงั้นหรอ”
เหมือนว่าผมเองจะไม่ใช่คนที่คิดแบบนั้นเพียงแค่คนเดียว
ซากุระที่หันไปทางทาจิบานะก็ทำสีหน้าเหมือนกับกำลังถามอยู่ว่า ‘มันเป็นอย่างนั้นรึไงฟะ’ ออกมา ก่อนที่จะหันไปทางไอศครีมและค่อยๆจับช้อนแล้วก็ตักเข้าปากตัวเอง
“จะว่าไป อายาโนะโคจิ นายเนี่ย~ ดูจะชอบไอศครีมจังนะ”
พอเจอคำถามแบบนั้นไป ผมก็ได้หันไปทางทาจิบานะ “มันอร่อยนี่นะจะไม่ชอบได้ยังไงกัน” พร้อมกับไอศกรีมเข้าปากอย่างพึงพอใจ
ทาจิบานะเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา “หรอ~ก็ดีแล้ว”
พอพูดเสร็จก็ได้หันหลังและเดินไปยังครัว
“นี่โคโตฮะจัง…อายาโนะโคจิไม่ได้เรียนฟูรินหรอ”
“อ้าวนี่ฉันไม่ได้บอกหรอกหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ!!”
“อ้อหรอ..ไม่รู้เลยแฮะ”
เธอตอบเหมือนไม่ได้สนใจ รุ่นพี่ฮิอิรากิที่เห็นอย่างนั้น ก็ได้นั่งก้มหน้าเหมือนกำลังจิตตกอะไรบางอย่างอยู่ “งั้นหรอ..งั้นแปลว่ามีแค่ซากุระคนเดียวสินะที่เรียนโรงเรียนฟูรินน่ะ…เอาจริงดิ!!”
“ให้ตายเถอะน่าปวดหัวแน่ๆ ถ้ามีเพียงแค่ซากุระคนเดียวเข้ามาเนี่ย… ถ้ามีอายาโนะโคจิเข้ามาด้วยละก็ ก็จะคุม ซากุระได้แน่ๆ…แต่ว่าแบบนี้ก็ลำบากสิ!!”
“หาา!!!! หมายความว่ายังไง!! ฉันเนี่ยนะจะถูกไอ้หมอนี่..ไอ้หน้าจืดเนี่ยนะคุม!!”
ซากุระที่กำลังตักไอศครีมเข้าปากไปพอได้เจอคำพูดนั้นไป ก็ได้ยืนขึ้นพร้อมกับชี้หน้าไปทางรุ่นพี่ พรางตะโกนออกมายังไม่พอใจ ขณะที่มีไอศครีมอยู่ในปาก…
“นิ!กินให้หมดก่อนแล้วค่อยพูดสิ”
พอผมพูดไปแบบนั้นซากุระได้หันมาทางผม และค่อยๆนั่งลงอีกครั้ง “…เออรู้แล้วนะ”
‘เฮ้ยๆ..คุมอยู่หมัดเลยไม่ใช่หรอ…’รุ่นพี่และทาจิบานะคิดพร้อมกัน
หลังจากที่ซากุระนั่งลงและทำตัวสงบเสงี่ยมอีกครั้งรุ่นพี่และทาจิบานะที่เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้มองหน้ากันเพียงแค่แวบเดียว พร้อมกับหันมาทางผม
“แล้วอายาโนะโคจิ นายเรียนที่ไหนล่ะ”
“โรงเรียนเอกชนเซเร”
หลังจากที่ได้ยินชื่อโรงเรียนรุ่นพี่ฮิอิรากิ ดูแต่ตกใจเป็นอย่างมาก
“งั้นหรอเนี่ย!..ฉันได้ข่าวมาว่า เป็นโรงเรียนต้นๆของประเทศเลยนี่นา นายนี่เป็นคนฉลาดอย่างที่คิดเลยนะ….การสอบเข้ามันยากมาก คะแนนเฉลี่ยก็สูงด้วย แต่ดันวิวาดเก่งเนี่ยนะ…นี่นายจะ ครบเครื่องไปไหม?”
“ไม่หรอกครับ ผมก็เป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่งก็เท่านั้น”
“นักเรียนธรรมดาๆ…ธรรมดาเนี่ยนะ!! จะบ้าเหรอคนธรรมดาบ้านเตี่ยแกสิ ที่กระทืบคนได้ขนาดนั้น”ซากุระพูดขณะกินไอศครีมโดยกินไอศครีมที่ตักเข้าปากให้หมดและค่อยพูด(คุมได้จริงๆด้วยโว้ย)
“นั่นสิคนธรรมดาสินะ..เชื่อก็บ้าแล้ว!!”รุ่นพี่พูดขึ้น
“ผมเป็นคนธรรมดาจริงๆหน้าตาก็งั้นๆการเรียนก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นก็แค่โชคดีและสอบผ่านได้แถมเรื่องการต่อสู้ก็แค่อยู่สูงกว่ามาตรฐานเล็กน้อยเท่านั้น”
‘ไอ้หมอนี่อยากเป็นคนธรรมดาขนาดนั้นเลยหรอ!!’ ทุกคนที่อยู่ในร้านคิดพร้อมกันและพากันมองอายาโนะโคจิ ด้วยสายตา เชื่อก็บ้าแล้วคุณพี่!!
…
..
.
(ยังไม่ได้แก้คำผิด)
Chapters
Comments
- ตอนที่ 18 4.5 2 วัน ago
- ตอนที่ 17 4.4 2 วัน ago
- ตอนที่ 16 4.3 2 วัน ago
- ตอนที่ 15 4.2 3 วัน ago
- ตอนที่ 14 4.1 3 วัน ago
- ตอนที่ 13 เหตุการณ์ก่อนปฐมนิเทศ 3 วัน ago
- ตอนที่ 12 3.3 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 11 3.2 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 10 3.1 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 9 ใครๆก็เป็นได้ฮีโร่นะ กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 8 2.3 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 7 2.2 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 6 2.1 กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 5 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 4 1.2 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 3 1.1 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 1 ฤดูใบไม้ผลิ แห่งการเปิดเรียน กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำจุดเริ่มต้น กรกฎาคม 1, 2025
MANGA DISCUSSION