ตอนที่ 8 2.3
…
..
.
หลังจากที่อายาโนะโคจิถูกจับตัว ก็ถูกพาเดินมาจนถึงตรงซากุระ
“เฮ้ย! ไอ้เด็กเปรตหยุดมือนั่นซะ พวกแกฟูริน ถ้าเห็นพวกชาวบ้านถูกจับตัวเป็นตัวประกัน ก็ขยับไม่ออกแล้วสินะ” พร้อมกับขยับมีดเข้าใกล้คอของอายาโนะโคจิ
ซากุระที่กำลังสู้อยู่ หันมามอง จากนั้นก็ได้หมุนตัวเตะคนที่อยู่ข้างหลังให้ล้ม
จากนั้นพุ่งตัวเข้าไปหาทันที จนทำให้ผู้ชายคนนั้นตั้งตัวไม่ทันและโดนถีบจนปลิว
“เออ..ขอบคุณนะ”
“อย่าเข้าใจผิด ฉันแค่ไม่ชอบขี้หน้าหมอนี้ก็เท่านั้น…เล่นพกมีดติดตัวมาด้วย หัดเลือกวิธีการวิวาทให้มันดีกว่านี้หน่อยเถอะ”
หลังจากที่บ่นได้ไม่นานก็ได้มีชายคนหนึ่ง พุ่งเข้ามาหาจากด้านหลัง
ซากุระที่ไหวตัวทัน ได้หมุนตัวเตะเข้าไปที่บริเวณแก้มของผู้ชายคนนั้นจนปลิวติดกำแพง
“เจ้าพวกนี้มองออกง่ายชะมัด”
ถึงจะเจอไปขนาดนั้นกลุ่มผู้ชายพวกนั้นกลับไม่ยอมแพ้และค่อยๆลุกออกจากพื้น และกำลังจะพุ่งตัวเข้ามาหาทั้งสองคน
ถึงอย่างนั้นซากุระก็ไม่หวั่นไหว
ได้พยายามต่อสู้และปกป้องอายาโนะโคจิไปด้วย..แต่ถึงดูจะสู้ได้ แต่ว่า
‘เวรเอ้ย! ถ้าต้องมาคอยปกป้องคงไม่ไหวแน่..’
ถึงจะคิดแบบนั้นแต่เขาเองก็พยายามต่อสู้และปกป้องไปด้วย
ศัตรูเองก็ค่อยๆต้อนเข้ามาแล้วทำให้ซากุระ ต้องถอยหลังมาเรื่อยๆ
จนทำให้ทั้งซากุระและอายะโนะโคจิ ติดกับกำแพงทำให้ถอยไม่ได้อีกแล้ว
‘…ก็แล้วทำไมเราต้องมาปกป้องด้วย ถึงจะทำเพื่อสังคมหรือคนอื่นไปซะเท่าไหร่…มันไม่เห็นจะดีขึ้นเลยนิ’
ถึงจะมีความคิดแบบนั้น..ถึงจะถามกับตัวเองตลอดว่าทำไมถึงต้องสู้ แต่ว่าซากุระ พยายามสู้กับศัตรูที่อยู่ข้างหน้า
ทำให้ไม่ได้สังเกต
ชายที่จับตัวอายาโนะโคจิเป็นตัวประกันได้จับมีดที่อยู่บนพื้นแล้วค่อยๆคลาน ไปฟันขาของซากุระ
มีดที่กำลังไปโดนขาของซากุระ เจ้าตัวก็ได้สังเกตเห็น
‘เวรเอ้ย!! หลบไม่ทันแล้ว…เพราะงี้ไง ถึงไม่ควรปกป้องคนอื่น …เรากำลังทำบ้าอะไรอยู่ เราอยากทำอะไรกันแน่’
มีดที่ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนทำให้ซากุระมองและยอมรับเพราะ ‘ยังไงก็หลบไม่พ้น’
ตูบ!!
“มะ..มือฉัน!!!”
“??”
เท้าปริศนาได้ย้ำเข้าไปที่มือที่ถือมีดอยู่ จนทำให้ผู้ชายคนนั้นต้องปล่อยมีดในที่สุด
‘อะไรกัน! นี่อะไร?’
ซากุระที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ได้ลืมโฟกัสตรงข้างหน้า ที่ผู้ชายคนหนึ่งได้พุ่งเข้ามาพร้อมกับไม้เบสบอลกำลังมาฟัด
‘ตะ..ต้องหลบให้ได้’
แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของเขากลับไม่ขยับ ตามใจนึก ‘นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?’
ไม่ใช่ว่าขยับไม่ได้แต่ว่าขยับไม่ทันมากกว่า
ไม้เบสบอลที่ขยับเข้ามาใกล้ๆกำลังจะโดนหัวของซากุระก็ได้หยุดนิ่งด้วยมือปริศนา
ซากุระได้หันไปมองตามมือที่ยื่นมาจากข้างหลังของเขา
จุ่ๆก็ได้มีแรงลมผ่านตัวของเขาไป
‘เมือกี้มันอะไร?’
ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าก็ได้ถูกต่อยจนปลิวไปเสียแล้ว
เบื้องหน้าของซากุระ คือผู้ชายที่เขากำลังปกป้อง
“เป็นอะไรหรือเปล่าซากุระ”
‘ไอ้หมอนี่..ระ..เร็วมาก’
ถึงยังมีคำถามอยู่มากมาย แต่ว่าก็ได้มีผู้ชาย 2 คนได้พุ่งเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง
ซากุระที่กำลังตกใจสถานการณ์ แต่เห็นว่ามีศัตรูที่พุ่งเข้ามาอยู่ข้างหลัง ก็ได้ตกใจและกำลังจะบอก
แต่ก่อนที่จะได้บอก
อายาโนะโคจิ ได้ไหวตัวทัน หมุนตัวและตวัดขาของตัวเอง พุ่งเข้าไปตรงหน้าของผู้ชายคนหนึ่งจังๆ จนปลิวไปชนกับเพื่อนที่พุ่งเข้ามาด้วย จนกระเด็นออกไปทั้งคู่
‘ไอหมอนี่..ขะ..แข็งแกร่งนี่หว่า…เห็นบอกว่าอยู่โรงเรียนชื่อดัง ก็นึกว่าจะต่อยตีไม่เป็นซะอีก’
หลังจากที่เอาเท้าลงพื้นเสร็จ อายาโนะโคจิได้หันไปมองซากุระ ที่มีอาการตกใจอยู่ ได้เดินไปแตะไหลเบาๆ
“นี่นายไหวหรือเปล่า ไม่บาดเจ็บตรงไหนนะ”
ซากุระที่ถูกแตะไหล่ก็ราวกับสติกลับคืนมาทันทีใบหน้าค่อยๆเริ่มแดงขึ้นพร้อมกับถอยหลังชนกำแพงด้วยความตกใจ “ฮะ..อะไร..ไม่ได้เจ็บตรงไหนสักหน่อย!!”
อายาโนะโคจิที่มองพฤติกรรมของซากุระก็ได้เหลือบมองไปทาง ศัตรูที่อยู่ข้างหน้า และหันไปทางซากุระอีกครั้ง
“นี่ซากุระ เรามาแข่งกันดีกว่า ว่าใครจัดการพวกนั้น ได้เยอะกว่ากัน เริ่มนับตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าใครแพ้เลี้ยงไอศครีมให้คนที่ชนะด้วยแล้วกัน”
“หาาา…อะไรของแกวะ?!!”
“หรือว่านายอยากจะยอมแพ้ล่ะ”
ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องไม่เข้าใจกับสถานการณ์อยู่บ้างแต่ว่าเจอคำพูดแบบนั้นไปที เส้นเลือดก็ค่อยๆปูดขึ้นบนหน้าผากของซากุระ
พร้อมก้าวเท้ามาข้างหน้า “เออ..งั้นก็สวยสิวะ ก็มาดิ!!”
กลุ่มผู้ชายพวกนั้น คนที่โดนอัดไปก็ค่อยๆลุกขึ้น จากพื้น ทีละคน
บางคนที่ลูกเตะนั้นไปทีก็ถึงกับกลัวแต่ถึงอย่างนั้น
“พวกมันมีแค่ 2 คนเอง ถ้าเข้าไปพร้อมกันแล้วก็ อย่างงั้นก็จัดการไม่ได้น่า!!!”
‘“โอ!!!””
เพราะได้ยินคำพูดของเพื่อนในกลุ่มที่พูดไปแบบนั้นคนที่ดูจะใจเสาะก็ได้มีใจหึดขึ้นและมองดูสถานการณ์ แล้วคิดว่าก็คงจะไม่เป็นอะไรจริงๆ
พร้อมกับพุ่งเข้าไปหาทั้งสองคนทันที
ซากุระที่เดินมาอยู่ข้างๆอายาโนะโคจิก็ได้มองศัตรูที่อยู่ข้างหน้าโดยไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
อายาโนะโคจิที่เห็นอย่างนั้นจะได้มองไปข้างหน้า
““เอาล่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า””
ทั้งสองคนวิ่งไปหาศัตรูที่อยู่ข้างหน้าพร้อมกัน
ศัตรูมีทั้งหมด 15 คน
ทั้ง 15 คนนั้นวิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนพร้อมกัน
คนที่ 1 พุ่งเข้ามาหาซากุระ พร้อมกับง้างหมัดจะต่อย แต่ซากุระได้พุ่งตัวเข้าไปต่อยที่บริเวณหน้าเสียก่อน จนทำให้ผู้ชายคนที่ 1 ล้มไปอย่างง่ายดาย
ผู้ชายคนที่ 2 ได้วิ่งเข้ามาหาอายาโนะโคจิพร้อมกับไม้เบสบอลที่อยู่ในมือ พอถึงระยะที่หวดได้ ก็ง้างแล้วฟาดออกไป แต่ว่าอายาโนะโคจิก็สามารถย่อตัวหลบได้ทันพร้อมกับ ต่อยเข้าไปที่คางของผู้ชายคนอย่างจัง พอจัดการผู้ชายคนที่2 เสร็จ ก็ได้พุ่งเข้าไปเตะผู้ชายคนที่ 3 ทันที และหมุนตัวเตะเข้าไปที่ผู้ชายคนที่ 4 ที่อยู่ใกล้ๆ
พอเท้าถึงพื้น ก็ได้ดีดตัวขึ้นมาอีกครั้งและม้วนตัวเตะจากด้านบนเข้าไปที่บริเวณหัวของผู้ชายคนที่ 5 จนทำให้ล้มลงกับพื้น
ซากุระที่เห็นการเคลื่อนไหวกัน ดวงตาของเขาเป็นประกาย ‘เป็นการเคลื่อนไหวที่..สุดยอด–’
แต่ว่าไม่มีเวลาให้ชื่นชมแม้แต่น้อย ผู้ชายคนที่ 6 ได้พุ่งตัว เข้ามาจากด้านหลังของซากุระ
ซากุระที่รู้สึกตัวก็ได้ ตีลังกาหลบการจับของผู้ชายคนที่ 6 ขณะที่อยู่กลางอากาศ ก็ได้หมุนตัว แล้วฟาดขาลงไปที่หลังของผู้ชายคนที่ 6 อย่างจังจนทำให้ล้ม พอลงถึงพื้นได้ก็ต้องรีบถอยออกมาทันทีผู้ชายคนที่7 ได้มีมีดอยู่ในมือ
“ชิเล่นมีดอีกแล้วหรอ..ให้ตายเถอะ–”
ตูบ!!
แต่ก่อนที่จะได้คิดหาวิธีจัดการผู้ชายคนที่ 7 ก็ได้ปลิวออกไปเสียแล้ว ด้วยหมัดของอายาโนะโคจิที่ต่อยเข้าไปอย่างจัง
“เฮ้ย!! แกอย่ามาแย่งเหยื่อคนอื่นสิวะ!!” ขณะพูดก็ได้หมุนตัว เอาหลังมือฟาดเข้าไปที่หน้าของผู้ชายคนที่ 8 ที่พุ่งมา
หลังจากที่ต่อยผู้ชายคนที่ 7 เสร็จ อายาโนะโคจิได้ตวัดขาเข้าไปที่หน้าของผู้ชายคนที่ 9 แล้วพุ่งตัวไปต่อยผู้ชายคนที่ 10 จากนั้นก็หันไปมองทางซากุระ “ก็นายช้าเองนี่นา”
“หน่อย!!!” ซากุระวิ่งเข้าไปหาผู้ชายคนที่ 11 ง้างหมัดต่อยเข้าไปที่หน้า แต่ว่าผู้ชายคนที่ 11 สามารถหลบได้ แต่ซากุระไม่รอให้ตั้งตัวได้ เขาได้หมุนตัวและเตะเข้าไปที่หน้าอีกครั้ง จนทำให้คนที่ 11 ล้มไปทันที
แต่ว่าในจังหวะนั้นเองก็ได้มีชายคนที่ 12 พุ่งเข้ามาหาซากุระจากด้านหลังพร้อมกับฟาดไม้เบสบอลใส่ซากุระ แต่ว่าก่อนที่จะได้ทำแบบนั้น ก็โดน อายาโนะโคจิ จับไม้เบสบอลเอาไว้
“อะไรกัน? ขยับไม่ได้!”
ชายคนที่ 12 พูดพร้อมกับออกแรงตรงมือเพื่อดึงไม้เบสบอลออกจากมือของอายาโนะโคจิ แต่ก่อนที่จะได้ทำอย่างนั้น ซากุระได้กระโดดข้ามหัวของอายาโนะโคจิ พร้อมกับ เอาเข่าพุ่งกระแทกข้าไปที่หน้าของชายคนที่ 12 จังๆ
ก่อนที่ผู้ชายคนที่ 12 จะล้ม ซากุระได้ยื่นมือไปจับไหล่ทั้ง 2 ข้าง พร้อมใช้ผู้ชายคนที่ 12 เป็นฐานเพื่อตีลังกา เอาส้นเท้าฟาดลงไปที่หัวของชายคนที่ 13
พอลงมาจากพื้นเรียบร้อย ก็ได้พุ่งตัวเข้าไปหาผู้ชายคนที่ 14 ทันที และถีบเข้าไปที่ท้องของผู้ชายคนที่ 14 จนปลิวกระเด็นไปไกล
‘ไอ้เด็กเวรพวกนี้..เก่งเกินไปแล้ว’ผู้ชายคนที่ 14 ที่ที่ปลิวออกไปคิดเช่นนั้นก่อนที่สายตาจะไปเห็นอะไรบางอย่างและคว้ามันเอาไว้
จากนั้นก็ค่อยๆผลัดตัวเองลุกออกจากพื้นแล้วหันไปทางซากุระพร้อมกับพุ่งเข้าไปหาทันที
“ไอ้เด็กเวร!!!” พร้อมกับกำมีดเอาไว้ในมือเตรียมจะพุ่งใส่ซากุระ
แต่ก่อนที่จะได้ถึงซากุระ อายาโนะโคจิก็ได้มายืนขวาง
ถึงอย่างนั้นผู้ชายคนนั้นก็ไม่หยุด อายาโนะโคจิ แค่หรี่ตาลง
พอผู้ชายคนที่ 14 พุ่งแทงมีดเข้ามาหา เขาเพียงแค่เอียงตัวหลบเล็กน้อยพร้อมกับเอามือกำตรงข้อมือที่จับมีดอยู่ ให้มันพุ่งข้ามตัวของเขาไป
จากนั้นก็ใช้ขาสกัดการเคลื่อนไหว จนทำให้ผู้ชายคนที่ 14 เสียหลักตีลังกา หลังลงกับพื้นอย่างแรง
จากนั้นก็ได้ย่อตัวลง ต่อยเข้าไปที่หน้าของผู้ชายคนที่ 14 จนทำให้เขาสลบทันที
“แกเองก็เก่งไม่ใช่รึไง แล้วไงดันโดนจับเป็นตัวประกันได้กัน ไอ้หน้าจืด!!!”
ซากุระที่ถามด้วยความสงสัย ก็ได้มองไปทางอายาโนะโคจิ พร้อมกับหลบการโจมตีของผู้ชายคนที่ 15 จากนั้นก็ถีบบริเวณลำตัวของผู้ชายคนที่ 15 จนปลิวไปทางอายาโนะโคจิ
อายาโนะโคจิที่ลุกออกจากพื้นได้ไม่นานก็ได้มีร่างของผู้ชายปลิวมาทางเขา
เขาได้หมุนตัว ยกขาขึ้นเตะเข้าไปที่หน้าของผู้ชายที่ปลิวมา จนทำให้ร่างนั้นปลิวไปอีกทางหนึ่ง
หลังจากที่มองดูร่างนั้นปลิวไปอายาโนะโคจิได้หันไปมองซากุระ “ก็แค่อยากจะทดสอบนายก็เท่านั้น”
“หาาา!!! ทดสอบเนี่ยนะ..ทดสอบอะไรฟะ”
หลังจากที่ทั้ง 2 คนมองหน้ากันได้ไม่นานก็ได้เดินเข้ามาหากันอย่างช้าๆ
“ก็ทดสอบนาย ดูว่าจะเป็นเหมือนกับที่ฉันคิดไว้หรือเปล่า”
พอทั้งสองคนยืนประชันหน้ากันบรรยากาศรอบข้างเหมือนกับกำลังจะมีเรื่องกัน
“…และนายก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้อย่างนั้นจริงๆ”
“หาาา!?”
ซากุระที่ได้ยินอย่างนั้น หน้าค่อยๆเริ่มแดงขึ้นพร้อมกับหันไปทางอื่น
“อะ..อะ..อะไรของแกฟะไอ้หน้าจืด..หะ..ให้ตายเถอะ ฉันไม่ได้อยากจะ..ชะ..ช่วยนายสักหน่อย ก็แค่หมั่นไส้ไอ้คนที่จับนาย ปะ..เป็นตัวประกันก็เท่านั้นละนะ–”
“โอ!!~~”
“โห!!~สุดยอด!!”
“จัดการพวกนักเลงได้หมดที”
ชาวบ้านในเมืองหรือคนในละแวกนั้นต่างมองออกจากนอกหน้าต่างและเชียร์ซากุระและอายาโนะโคจิ กันใหญ่
“อะ…อะไร?” ซากุระมองไปทางซ้ายและขวาด้วยความตกใจและมึนงง กับสิ่งที่ตัวเองเห็น
“ชาวบ้านพวกนี้..มันไม่แปลกไปหน่อยหรอ..ปกติมันต้องด่ากันสิไหนออกมาเชียร์กันได้ล่ะเฮ้ย??”
“เรื่องนั้นก็..จะอธิบายยังไงดีเนี่ย?”
ก่อนที่อายาโนะโคจิจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้น
“เฮ้ย!!…พวกนายไม่เป็นไรนะ” ทาจิบานะได้รีบวิ่งมาดูทั้งสองคน ด้วยความเป็นห่วง พอเดินมาถึงก็ได้ตรวจสอบดูอย่างถี่ถ้วนว่าไม่เป็นอะไร “ดูเหมือนจะไม่เป็นไรสินะ..ค่อยยังชั่ว” เธอหันไปมองทางอายาโนะโคจิ
“แต่…ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะ ว่านายจะเก่งขนาดนี้เนี่ย”
“เธอไม่ได้ ถามนิ–”
“แล้วใครมันจะไปรู้กันฟะ ว่าแกต่อยตีเก่งขนาดนั้นน่ะ”
หลังจากที่โดนซากุระพูดขัดอายาโนะโคจิได้หันไปมอง “ไม่ใช่ว่า ลักษณะภายนอกมันไม่เกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทหลอกหรอ”
ซากุระที่เจอคำพูดนั้นไปทีก็ถึงกับชะงักไปเล็กน้อยพร้อมกับหันไปทางอื่น “ฮึก!….เออ…มันก็จริง”
“ฮึฮึฮึๆ~~อะไรอ่ะซากุระนายเนี่ย~ เขินง่ายจังเนาะ”
“ฉะ..ฉันไม่ได้เขินสักหน่อย..ยัยบ้าเนี่ย!!!”
“อ้อหรอ~~”
“เฮ้ย อะไรกันฟะ ไอสายตาที่ไม่เชื่อนั่นน่ะ!!”
หลังจากที่ทั้ง 3 คนได้คุยกันอยู่ก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาใส่ชุดฟูริน “พวกนายสองคน..เป็นเด็กปีหนึ่งหรอ”
ซากุระที่หันไปมองก็ได้หรี่ตาลง “เออ ก็ใช่ทำไมล่ะ”
“เออ ก็เปล่าหรอก..แค่จะพูดว่าขอบคุณที่ พวกนายจัดการไอ้พวกเวรนี้ให้”พรางหันไปมองร่างของผู้ชาย 15 คนที่นอนกองกับพื้นแวบเดียวพร้อมกับหันมาทางพวกซากุระอีกครั้ง
“ก็ไม่ได้อยากจะช่วยสักหน่อย ก็พวกนั้นมันแค่มาหาเรื่องก่อนเองก็เท่านั้น”
แต่ก่อนที่จะพูดคุยอะไรไปมากกว่านั้นเราชาวบ้านก็ได้ออกมาจากบ้านของตัวเองพร้อมกับวิ่งเข้ามาหาพวกซากุระ
ซากุระที่เห็นอย่างนั้นก็ได้ขยับตัวไปอยู่ข้างหลังของอายาโนะโคจิ ทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์ในตอนนี้
อายาโนะโคจิที่มึงงงกับพฤติกรรมของซากุระก็ได้หันไปมองจากนั้นก็เพิ่งนึกได้ว่า
ซากุระไม่ได้รู้เรื่องของฟูรินที่เป็นผู้พิทักษ์ของเมือง
“จะว่าไป นายยังไม่รู้เลยสินะ”
“ฮะ?…ระ…รู้อะไร”
“ก็เรื่องเกี่ยวกับเมืองและโรงเรียนฟูรินยังไงล่ะ”คนที่พูดแทรกคือทาจิบานะ จนทำให้ทั้งสองคนหันไปมอง
ซากุระที่อยู่ข้างหลังอายาโนะโคจิได้ชะเง้อหน้าไปมองด้วยความสงสัย “ยังไง…ละนั่น..?”
แต่ในจังหวะนั้นเอง ชาวเมืองก็ได้วิ่งมากรูรวมกันอยู่ตรง ซากุระและอายาโนะโคจิ พร้อมกับชมเรื่องที่จัดการเกี่ยวกับแก๊งพวกนั้นได้เพียงแค่ 2 คน
“โอ๊ยเก่งจังเลยนะจัดการได้ไง 2 คนสุดยอด”
“ขอบคุณที่ปกป้องเมืองของพวกเรานะ”
“คนที่จัดการไอ้แก๊งพวกนั้นให้นะสุดยอดเลยนะ”
“พวกนายเนี่ยสมแล้วที่เป็นฟูริน”
ซากุระที่พยายามหลบอยู่ข้างหลังอายาโนะโคจิก็ได้ชะเง้อหน้ามามองชาวเมืองด้วยความสงสัย พร้อมตะโกน “!!อะไรพวกแกวะ…เดี๋ยวนะ..ปกติต้องด่ากันไม่ใช่หร-”
แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นทาจิบานะได้เดินมาปิดปาก เสียก่อน จนซากุระหันมามองด้วยความมึนและสับสน
“คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้…..”
.
.
.
“ก็อย่างที่ว่ามานั่นแหละฟูริน ก็เป็นเหมือนกับผู้พิทักษ์ของเมืองนี้ เป็นคนที่หยุดคนที่มาทำร้ายเมือง ทำร้ายข้าวของ ประมาณนั้น”
พอทาจิบานะอธิบายให้ฟังซากุระได้ค่อยๆขยับออกจากหลังของอายาโนะโคจิ และหันไปมองนักเรียนฟูริน กำลังช่วยชาวเมืองเก็บข้าวของ
‘แบบนั้นก็เหมือนกับฮีโร่ที่ผดุงความยุติธรรมเลยนิ ท่ามกลางวิวาทด้วยสารรูปแบบนั้น…ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถูกคนอื่นหวาดกลัวหรือหลบเลี่ยงและเป็นที่ยอมรับเหรอ…’ ซากุระที่ก้มหน้าพรางคิดกับตนเองอยู่ก็ได้ทำสีหน้าที่เจ็บปวดออกมา..
แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น เข้ากับสัมผัสอะไรเบาๆตรงไหล่ของตัวเอง พอหันไปมองพบกับแขนของใครบางคนจับอยู่ พอหันไปที่ต้นแขน ก็พบกับอายาโนะโคจิที่จับไหล่ของเขาไว้
“ฉันก็บอกไปแล้วนะซากุระ ว่าลักษณะของนายมันไม่ได้น่าเกลียด มันไม่ได้อะไรเลย แค่นายเจอกับคนที่ไม่ได้ยอมรับในตัวของนายเท่านั้น ที่ทาจิบานะบอกว่านายเลือกที่นี่ถูกแล้ว ใช่นายเลือกที่ฟูรินนี่น่ะ ดีแล้วเพราะที่นี่อาจจะทำให้นายเปลี่ยนไปก็ได้”
ขณะพูดอายาโนะโคจิก็ได้ชี้ไปที่ชาวเมือง ที่กำลังชื่นชม มองมาทางนี้
“ก็อย่างที่ฉันบอกไปนั่นแหละ”
ในจังหวะนั้นก็ได้มีชาวเมืองเข้ามาหาซากุระ
“เฮ้ย น้องเองก็เจ๋งเหมือนกันนะแรกๆเห็นสู้คนเดียวอยู่นี่นา~~ สุดยอดไปเลยนะ”
“พ่อหนุ่มจ๊ะได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
อายาโนะโคจิมองไปที่ซากุระแล้วพูดขึ้น
“นายน่ะไม่ได้ตัวคนเดียวซากุระ เพราะว่าทุกคนในเมืองนี้ก็ต้องการนาย”
จนทำให้ซากุระหันไปมองพร้อมปัดมือที่อยู่บนไหล่ออก “อย่ามาพูดล้อเล่นนะ!! ฉันน่ะไม่ได้เป็นที่ต้องการของใคร!! แล้วไม่อยากเกี่ยวข้องกับใครด้ว-”
“แล้วทำไมน่าถึงมาช่วยฉันล่ะ”พอได้ยินคำพูดนั้นไปซากุระยิ่งเงียบไปสักพัก
“นายเองก็ไม่ได้อยากยอมแพ้เรื่องคนอื่น..ซากุระ” ขณะเงียบอยู่ได้หันไปมองทาจิบานะที่เป็นคนพูด
“ไม่ต้องยอมแพ้หรอก ก็อย่างน้อยฉันก็ยังมองซากุระอยู่นะเพราะงั้นนายเองก็มองมาทางนี้บ้างสิถ้าทำแบบนั้นก็จะได้เป็นอย่างที่นายต้องการได้แน่”
พอเจอคำพูดนั้นไปซากุระก็ราวกับรู้สึกอะไรบางอย่าง ความรู้สึกที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ เขาค่อยๆเงยหน้ามองดูชาวเมืองที่อยู่ข้างหน้า
ดวงตาที่เปิดกว้าง ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ตัวเองไม่เคยเจอ สัมผัสที่อยู่บนไหล่อีกครั้ง จนหันไปมอง อายาโนะโคจิมองมาพร้อมพยักหน้าให้
พอเห็นอย่างนั้นก็ได้ละสายตาพร้อมก้มหน้าลง สูดลมหายใจและปล่อยออกมา
พร้อมกับเงยหน้ามองฟ้า…
“นักเลงอยากเล่นบทฮีโร่งั้นหรอ แค่วิวาทให้ชนะ ฉันเองก็ทำได้เหมือนกันโว้ย!! โบฟูรินอะไรวะนั่น โล่ของเมืองอย่างนั้นหรอ..แม่งโคตรจะเท่ระเบิดไปเลยโวย~~~~!!!!!”ตะโกนออกมาสุดเสียง
‘ถ้าเป็นที่นี่ เราเองก็จะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้งั้นหรอ’
ทาจิบานะมองซากุระพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ชาวเมืองเองก็ได้มองไปที่ซากุระพร้อมกับยิ้มให้
แต่ว่ามีเพียงแค่คนเดียวที่มองไปทางซากุระ อยากไม่ละสายตา ‘ดูเหมือนจะไปได้สวยสินะ’
หลังจากที่เห็นซากุระ และชาวเมืองกำลังคุยกันอยู่ โดยไม่ได้สนใจมาทางเขา อายาโนะโคจิได้หันหลังแล้วเดินออกจากพื้นที่โดยไม่มีใครรู้ตัว
‘เราเองจะเป็นที่ยอมรับแบบนั้นได้หรือเปล่านะ ถ้าได้อยู่โรงเรียนฟูริน หรือได้อยู่เมืองแห่งนี้ เราจะเป็นได้อย่างซากุระหรือเปล่า..’ พอคิดแบบนั้นได้เจ้าตัวก็ใส่หัวไปมา พรางมองไปทางซากุระด้วยหางตา ‘ไม่ล่ะ..เราคงไม่มีวันได้เป็นแบบนั้น…ไม่มีวัน’
คิดได้แบบนั้นก็ได้หันไปมองข้างหน้าทางหลับตาลงแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยไม่ให้มีใครรู้ตัว แต่ถึงอย่างนั้น
“แล้วคุณพี่ จะไปไหนคะ~~” ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอยู่ข้างหลัง พอหันไปมองก็เป็น ทาจิบานะที่ได้เดินมาหา
“กำลังจะกลับบ้านน่ะสิ”
“เห~ไม่คิดว่าตัวเอง รีบกลับไปหน่อยหรอ”
อายาโนะโคจิที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้หยุดเดิน หันไปมอง “ฉันน่ะไม่ใช่คนในพื้นที่นี้ด้วยซ้ำ ไม่ได้อยู่ฟูริน ฉันไม่ได้เป็นฮีโร่ของเมืองด้วยซ้ำ”
“แล้วมัน เกี่ยวตรงไหนงั้นหรอ?”
“….”
ทาจิบานะ ที่ถามไปแบบนั้นก็ได้เดินเข้ามาใกล้อายาโนะโคจิมากขึ้น
“มันไม่เกี่ยวเลย ว่านายเป็นคนในฟูรินหรือพื้นที่นี้หรือเปล่า สิ่งสำคัญก็คือนายช่วยเมืองแห่งนี้เอาไว้ เพราะงั้นทำไมถึงคิดว่าตัวเอง ไม่สำคัญล่ะ”
“เรื่องนั้น–”
“แกจะไปไหนฟะ!!”
อายาโนะโคจิถูกขัดจังหวะ โดยซากุระที่วิ่งเข้ามาอย่างไวตรงมาทางนี้พร้อมกับตะโกนถาม
“นี่แก ลืมการแข่งของพวกเราไปแล้วรึไงกันหาาา!!
แต่ก่อนที่จะได้คุยอะไรไปมากกว่านั้นชาวเมืองที่เห็นทั้งสองคนอยู่ตรงนั้น ก็ได้พากันเดินมาทางนี้พร้อมกลับไปหาอายาโนะโคจิ
“เห!! พี่ชายจะไปไหนแล้วนั่น เรายังไม่ได้ตอบแทนเลยนะ”
“เรื่องนั้น ไม-”
“ทั้ง 2 คนเนี่ยอย่างเท่เลย ตอนบอกว่า ‘งั้นก็มาเริ่มกันดีกว่า’ นะอย่างเท่เลย~~”
“เออ..คือ”
ชาวเมืองพากันพูดโดยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จนทำให้อายาโนะโคจิไม่รู้จะทำตัวยังไงเพราะไม่เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน
‘ไม่มีใครฟัง แล้วนี่ควรทำยังกับสถานการณ์นี้ดีเนี่ย’ เขาคิดเช่นนั้น
ก่อนที่จะหันไปหาซากุระที่…กำลังหน้าแดงอยู่เพราะถูกชม เขาได้ละสายตาทันทีพร้อมกับหันไปมองข้างหน้า
มองไปยังชาวเมือง กำลังพูดคุยกันอยู่ เขาตัดสินใจพูดเสียงดังขึ้น เพื่อทำให้มีคนสนใจ
“คืออว่า!!… ผมไม่ได้อยู่ฟูรินแล้วก็ไม่ได้มาจากเมืองนี้ด้วยนะครับ เพราะงั้นคงไม่ต้องตอบแทนอะไรก็ได้ ผมแค่ช่วยซากุระก็เท่านั้น”
พอพูดเสร็จก็หันไปทางซากุระ
“แล้วก็เรื่องการแข่ง ฝ่ายตรงข้ามมี 15คน และฉันจัดการไป9และนายจัดการไป6 ฉันชนะ”
“ชิ! เออก็ได้ แกชนะ”ขณะพูดซากุระเดินเข้าไปใกล้อายาโนะโคจิมากขึ้น “แต่จำไว้เลยนะคราวหน้าฉันไม่แพ้แน่!…แต่ถ้าแกไม่อยู่ที่นี่ต่อ งั้นฉันก็เลี้ยงไอศกรีมให้แกไม่ได้น่ะสิ!!” พอพูดเสร็จก็ได้จ้องหน้าอายาโนะโคจิอยู่อย่างนั้น ราวกับไม่ยอมให้หนี
“….” เขาได้แต่เงียบแล้วเหลือบสายตาไปมองทาจิบานะที่หันมาทางนี้พร้อมกับชูนิ้วโป้งมาให้ เหมือนจะสื่อว่า ‘ก็ตามนั้นแหละนะ’
จนทำให้เขาต้องยอมแพ้และถอนหายใจออกมา
“เออก็ได้”
…
..
.
จบตอนที่ 2 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว
(ยังไม่ได้แก้คำผิด)
Chapters
Comments
- ตอนที่ 18 4.5 12 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 17 4.4 12 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 16 4.3 12 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 15 4.2 1 วัน ago
- ตอนที่ 14 4.1 1 วัน ago
- ตอนที่ 13 เหตุการณ์ก่อนปฐมนิเทศ 1 วัน ago
- ตอนที่ 12 3.3 2 วัน ago
- ตอนที่ 11 3.2 2 วัน ago
- ตอนที่ 10 3.1 2 วัน ago
- ตอนที่ 9 ใครๆก็เป็นได้ฮีโร่นะ 2 วัน ago
- ตอนที่ 8 2.3 2 วัน ago
- ตอนที่ 7 2.2 2 วัน ago
- ตอนที่ 6 2.1 กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 5 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 4 1.2 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 3 1.1 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 1 ฤดูใบไม้ผลิ แห่งการเปิดเรียน กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำจุดเริ่มต้น กรกฎาคม 1, 2025
MANGA DISCUSSION