ตอนที่ 5 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว
“อย่างนี้นี่เอง…พวกนายมาจากนอกเมืองงั้นหรอ?..ว่าทำไมถึงไม่ค่อยเห็นหน้ามาก่อน”
เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งที่ดังอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ
ตอนนี้ตัวผมและซากุระหรือเด็กที่พึ่งจะจัดการนักเลงพวกนั้น
ได้มานั่งอยู่ในร้าน ‘คาเฟ่โพทอส’
เป็นร้านอาหารของเด็กสาวที่ ถูกจีบเมื่อกี้
และตรงหน้าก็มีข้าวห่อไข่อยู่สองจาม ของซากุระจานหนึ่งและ…ของผมอีกจานหนึ่ง
ผมมองข้าวห่อไข่อยู่นาน….ผมเองก็ยังไม่ได้ช่วยอะไรเลยแท้ๆแต่กับถูกชวนมาด้วยนี่มันไม่แปลกไปไหนหรอก..
.
.
.
หลังจากจบการต่อสู้ ซากุระได้แนะนำตัวเองเสร็จก็ได้ เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ผมและเด็กสาวต่างมองหน้ากัน เธอยิ้มให้กับผมพร้อมกับเดินไปหาซากุระและหันมามองผม กวักมือเรียกเหมือนให้ตามมา
“เอ้ย!!—เดี๋ยวก่อนสิ..นี่..บอกว่าเดี๋ยวก่อนไง” เธอได้วิ่งไปจับแขนของซากุระ ที่เดินไปโดยไม่สนใจอะไร
จนทำให้ซากุระต้องหันไปมองพร้อมกับเอียงหัว
“ขอบใจมากนะ”
เธอขอบคุณแต่ว่า…ซากุระกับหันซ้ายและขวาราวกับหาอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นก็ได้เอานิ้วชี้ตัวเอง “เอ่ะ! ฉันหรอ!!”
“แล้วนอกจากนาย มันจะมีใครได้อีกแล้ว”
“เอ้!!—” ใบหน้าของซากุระเริ่มแดงขึ้น พร้อมหันตัวไปหาเด็กสาว “ฉันไม่ได้มาจัดการพวกนั้น!!…เพราะอยากจะช่วยพวกเธอสักหน่อย ก็แค่ไม่ชอบขี้หน้าไอ้พวกนั้นเท่านั้นแหละ!!”
…แล้วทำไม ตอนพูดต้องหน้าแดงด้วยเนี่ย?
“จะว่าไปนายหิวอยู่ไม่ใช่หรอ?”
“หา!!! ฉันไม่ได้หิวสัก–จอก!!~~~”เสียงท้องร้องดังออกมาจากท้องของซากุระ
…ไม่ไม่ นั่นมันหิวชัดๆเลยไม่ใช่หรอ
“เสียงท้องร้องขนาดนั้นยังกล้าปฏิเสธอีกนะ”
“…เออ..”
“อืม…งั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”
.
.
.
สรุปสุดท้ายพวกเรา ได้มาอยู่ในร้านของ
เด็กสาวจนได้
ผมน่ะ..เข้าใจอยู่แหละว่าตอบแทน แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำนะ คนที่ควรจะได้ก็คือซากุระที่เป็นคนช่วยไม่ใช่หรอ?
แล้วไงผมถึงได้ด้วยล่ะ
“คือว่านะ ….ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ทำไมจู่ๆถึงเสิร์ฟให้ด้วยล่ะ?”
หลังจากที่ผมถาม เด็กสาวได้หันมามองพร้อมกับยื่นช้อนมาให้พวกเรา
“สมมุติว่าถ้าซากุระไม่มา นายเองก็จะช่วยฉันใช่ไหมล่ะ”
“เรื่องนั้น…ก็ใช่อยู่หรอ”
“ถ้างั้นก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องถามเลยนิ…ก็ถือว่าโชคดีไปก็แล้วกัน”
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นผมได้ละสายตาจากเด็กสาว พร้อมหันไปมองข้าวห่อไข่
เออ…ถือว่าโชคดีสินะ…
…ตามที่มัตสึโอะเคยพูดเอาไว้ ชาวเมืองที่นี่เป็นคนใจดีสินะ
เอาเป็นว่า คงไม่มีใครปฏิเสธอาหารฟรีหรอกเนาะ
หลังจากที่คิดแบบนั้นได้ผมได้ยื่นมือจะไปจับช้อนแต่ว่า
“เออ!!…จะว่าไป นี่แกเป็นใครวะเนี่ย!?”
ผมได้หันไปหาซากุระที่ถามออกมาอย่างกะทันหัน ราวกับว่าเพิ่งจะนึกออกว่าผมมีตัวตนอยู่ตรงนี้ด้วย
“จนป่านนี้แล้วเพิ่งจะมาถามเนี่ยนะ”
“เออ..ก็มัน..ช่วยไม่ได้นี้น่า”
“เอาเถอะ..ฉัน อายาโนะโคจิ คิโยทากะ”
“…แก..อยู่โรงเรียนม.ปลาย ฟูริน ด้วยงั้นหรอ?”
ผมส่ายหน้า “เปล่าหรอก …อยู่โรงเรียนเซเร น่ะ”
ซากุระที่หันมามองผมก็เอียงหัวไม่เข้าใจ ผมตัดสินใจที่จะไม่อธิบายไปมากกว่านั้นพร้อมกับหันไปมองข้าวห่อไข่และยื่นมือไปจับช้อน
แล้วกำลังตัก แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น
ปั้ง!!
“เดี๋ยวนะ!! นี่นาย อยู่โรงเรียนเอกชนเซเร งั้นหรอ..เอาจริงดิ!!”
เด็กสาวได้ใช้มือทั้งสองข้างทุบตรงเคาน์เตอร์ด้วยความตกใจ พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาไกลผม
เออ….ผมจะได้กินข้าวห่อไข่ตอนไหนเนีย..
“เออ…ก็ใช่อยู่หรอก ทำไมงั้นหรอ?”
“แล้วมันเป็นโรงเรียนแบบไหนล่ะนั่น ไม่ยักจะรู้จัก”
“นี่นาย ไม่รู้จักงั้นหรอซากุระ เป็นโรงเรียนชื่อดังเลยนะ”
เด็กสาวได้หันไปมองซากุระด้วยความตกใจที่ซากุระไม่รู้จัก โรงเรียนเซเร
“ก็คนมันไม่รู้จักนิ! แล้วมันจะทำไมเล่า!!”
“เอ๋!!…ก็เปล่าหรอกไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ จะว่าไป ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลยสินะ
ฉันชื่อ [ทาจิบานะ โคโตฮะ] ยินดีที่ได้รู้จักนะทั้งสองคน”
หลังจากที่เธอแนะนำตัวเสร็จ ผมได้มองไปหาเธอหรือทาจิบานะแวบหนึ่ง และหันไปหาซากุระ ที่กำลังมองเธอ พร้อมยื่นมือไปจับช้อน
ผมที่เห็นอย่างนั้นก็ได้ยื่นมือไปกับช้อนพร้อมซากุระ และตักเข้าปาก
อ้าม~~..นี่มัน!!..ความกลมกล่อมของข้าวกับไข่ ผสมได้อย่างลงตัว รสชาติที่คือความเปรี้ยวและหวานของซอสมะเขือเทศที่ใส่เข้าไป…
““อร่อย!!!””
เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่คิดแบบนั้นซากุระที่ได้กินไปคำแรกก็ได้ อุทานพร้อมกับผมทันที พร้อมกับตักคำที่สองเข้าปากโดยไม่ลังเล
ทาจิบานะที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมา
“เออ…จะว่าไปพวกนายเนี่ยแปลกดีนะ” จู่ๆทาจิบานะก็ได้ถามออกมา “ปกติแล้วเนี่ย ไม่ค่อยมีคนเข้ามาที่เมืองแห่งนี้มากหรอกนะ…ก็เรียกว่าไม่เฉียดมามากกว่า”
“ฉันน่ะแปลกอยู่แล้ว”
ผมได้หันไปมองซากุระที่พูดออกมาแบบนั้น เจ้าตัวพูดโดยไม่ได้สนใจอะไรพลางหันไปกินข้าวต่อ
“ไม่ใช่ๆ ฉันไม่ได้หมายถึงพวกนาย แต่ที่เนี่ย เมืองแห่งนี้น่า จะพูดยังไงดีล่ะ เมื่อก่อนหน้านี้ เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยการทะเลาะวิวาทและการต่อสู้ระหว่างแก๊งจนหาความปลอดภัยแทบไม่ได้เลย คนส่วนใหญ่ก็เลยไม่กล้าเสี่ยง”
…เดียวนะ..มัตสึโอะบอกว่าคนในเมืองนี้เป็นคนดี..ไม่ใช่หรอ?…จริงๆตั้งแต่เดินเข้ามามันก็เจอพวกลอยขี่เขียนเติมไปหมด
หลังจากอธิบายได้แบบนั้น ก็ได้หันไปเก็บข้าวของภายในครัว จากนั้นก็หันมามองพวกเราอีกครั้ง “แล้วก็บอกไว้ก่อนนะฉันเองเมื่อก่อนก็เคยเป็นคนนอกนะ”
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จก็ได้หันมามองพวกเราอีกครั้ง
“จะว่าไปซากุระเนี่ยแปลกจังเลยนะ สีทั้งสองข้างไม่เหมือนกันด้วย ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์หรือวิกใช่ไหมล่ะแบบเปลี่ยนสีผมน่ะ”
หลังจากที่ถูกถามแบบนั้นซากุระได้หันไปมองทาจิบานะด้วยสายตาที่มุงร้าย “หาาา!!แล้วมันจะมีปัญหาอะไ–”
“สุดยอด~~เหมือนลูกแก้วเลย เป็นสีแบบนี้เอง”
ทาจิบานะเขยิบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ซากุระเพื่อมองดวงตา
ฟึก! ซากุระกับดีดตัวออกออกจากเก้าอี้ทันที “หาจะเอาใช่ไหม!!” พร้อมกับตั้งค่าเหมือนจะต่อสู้เฉยเลย?
“ฮะ? ไม่ได้จะหาเรื่องสักหน่อย”
ผมมองพวกเขาคุยกันแต่ก็ไม่ได้สนใจและกินข้าวห่อไข่เรื่อยๆขณะที่ฟังทั้งสองคนคุยกันโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับบทสนทนา
หลังจากที่ซากุระรู้ว่าทาจิบานะไม่ได้หาเรื่อง ก็ได้เดินกลับมาตรงเก้าอี้พร้อมนั่งลง
“เธอเนี่ยแปลกชะมัด ปกติแล้วต้องรู้สึกรังเกียจหรือไม่ก็ปฏิเสธเสียงแข็งสิ!”
“ก็นะ~เคยเห็นอะไรที่มันสุดยอดกว่านี้มาแล้วน่ะ” พร้อมจับยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปบนหัว “แบบนี้น่ะ”
…แบบไหนล่ะนั่น?
“แต่ว่านะ ฉันว่ามันก็ไม่ได้น่ารังเกียจเลยนะเอาจริงๆ มันออกจะเท่ด้วยซ้ำ”
ผมพูดแบบนั้นออกไป ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่นา อีกอย่างของแบบนี้หายากจะตาย คนส่วนใหญ่ก็คงอยากมีบ้างแหละ…เป็นสีผมธรรมชาติด้วยเนี่ย..โอกาสที่คนเราจะมีผม 2 สีนี้เนี่ยมันค่อนข้างจะหายากเอามากๆ…
ลักษณะของซากุระมันไม่ได้ดูน่าเกลียดเลยนะเอาจริงๆ…ผมเองก็อยากลองมีสีผม 2 สีดูเหมือนกันนะว่ามันเป็นแบบไหนนะ…
ผมลองนึกสภาพตัวเองที่มีผมสองสีดู…ก็หน้าจะเข้าอยู่ละนะ…รึเปล่าหว่า?…
ทั้งสองคนกลับมองมาที่ผม โดยเฉพาะซากุระที่มองมาทางผมพร้อมกับใบหน้าที่แดงขึ้น
“อายาโนะโคจิ ก็คิดเหมือนกันใช่ป่ะล่ะ หายากจะตายของแบบนี้เท่ออกด้วยนะ”
หลังจากที่เห็นผมพูดแบบนั้นคนที่เข้าร่วมคือทาจิบานะ มองไปทางซากุระ ที่มีอาการหน้าแดงเป็นอย่างมาก
“พวกนาย มันแปลกเกินไปต่างหาก!!”
“เอ๋~เขินอยู่หรอซากุระ”
หลังจากที่เห็นอาการของซากุระเธอก็กลับยิ้มออกมาอย่างขี้เล่นพร้อมกับชี้นิ้วไปหาซากุระ
“ไม่ได้เขินโว้ย!!…หยุดเลยหยุดเลยเว้ย!!”
จากตะโกนเสร็จก็ได้ดื่มน้ำเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองจากนั้นก็หรีตาลง
“การทะเลาะวิวาท มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณะสักหน่อย เพราะงั้นฉันถึงได้มาที่ฟูรินไงล่ะ”
“คะแนนมาตรฐานสุดห่วย การวิวาทสุดเก่ง เป็นศูนย์รวมของพวกเด็กเหลือขอ ยกพวกตีกัน ทิ้งความเป็นใหญ่ได้ทุกวัน…ได้ยินมาว่าไม่มีวันไหนเลย ที่จะได้วางมือจากการวิวาท ฉันจะขึ้นไปจุดสูงสุดของที่นั่น” พรางยิ้มอย่างมั่นใจ
จนทำให้ผมและทาจิบานะหันไปมอง “อ๋อ..เอาเรื่องนี่นา”
…เดี๋ยวก่อนนะ..โรงเรียนแบบนั้นมันมีไว้ทำอะไร …การทะเลาะวิวาทและก็ หาอันดับ 1 งั้นหรอ
ไม่ใช่ว่าโรงเรียนมันมีไว้สำหรับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ…การทะเลาะวิวาทนี่มันนับว่าเป็นการเรียนรู้หรือเปล่านะ..
อืม…..เอาเป็นว่าคิดไปก็เท่านั้นแหละนะ
“ก็ไม่ขนาดนั้น พวกกุ๊ยที่คนเกลียดกันนักหนาที่มีดีแค่เรื่องชกต่อย กลับเอาอันดับ 1 เหมือนเดิมพันเนี่ยสุดยอดจะตาย การต่อสู้ว่าใครจะเป็นสวะเหนือสวะ…นั่นน่ะ เหมาะเหม็งกับฉันเลย”
“เหมือนว่านายจะคาดหวังค่อนข้างสูงเลยนะ”
ผมตัดสินใจมองไปทางซากุระ ที่พูดออกมาอย่างมั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองนั้นเชื่อมั่น
สวะเหลือสวะงั้นหรอ?–
“อ่อ!!!~~~ก็ว่าทำไมถึงใส่ชุดเครื่องแบบตั้งแต่วันนี้ ทั้งๆที่โรงเรียนเปิดพรุ่งนี้ก็เพราะแบบนี้เองสินะ เพราะว่าตื่นเต้นใช่ไหมล่ะ~~”
ก่อนที่ผมจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นทาจิบานะกับพูดออกมาด้วยเสียงที่ร่าเริง พรางชี่นิ้วไปทางซากุระอย่างขี้เล่นอีกครั้ง
“ไม่ใช่โว้ย!แบบว่าไอ้นั่นไง ไอ้นั่นน่ะ…เพิ่งย้ายมาก็เลยไม่มีเสื้อผ้าใส่น่ะ”
“งั้นหรอจ๊ะๆ ตั้งหน้าตั้งตารอเชียวนะชีวิตในหลวงโรงเรียนเนี่ย”
“อึก!!…” ซากุระผู้น่าสงสารที่พยายามหาข้อแก้ตัว เพราะว่ากลับไม่รู้เลยว่ามันไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ในบทสนทนาก็ตามแต่ว่า
ชีวิตในรั้วโรงเรียนงั้นหรอ คงตอบได้ว่าผมเองก็ค่อนข้างที่จะสนใจเหมือนกัน ว่าตัวเองจะเป็นยังไงต่อจากนี้กันแน่นะ
ค่อนข้างจะตื่นเต้นเลยแหละ
“อ๋า~อย่าบอกนะว่า นายเองก็ด้วยหรอ อา ยา โนะ โค จิ” ผมหันไปมองทาจิบานะที่หันมาทางผมด้วยใบเห็นหน้าที่ยังมีรอยยิ้ม
…ผมตัดสินใจที่จะไม่ตอบโต้อะไรไปมากกว่านั้น หันไปกินข้าวต่อ
“เขินหรอ? ไม่กล้าตอบหรอ~~แหมน่ารักจังเลยนะนายเนี่ย ถึงหน้าจะนิ่งๆก็เถอะนะ~~”
ผมจ้องทาจิบานะอยู่สักพัก ราวกับจะสืบว่า ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย
“ฮึฮึฮึๆ~”
ถึงอย่างนั้นทาจิบานะกลับไม่เชื่อและก็ยังยิ้มอยู่อย่างนั้น…
จนผมหมดปัญญาแล้วหันไปกินข้าวต่อดีกว่า
“จะว่าไปพวกนายสองคนเนี่ยจะพูดยังไงดีล่ะ …อืม…”เธอทำถ้าครุ่นคิดอยู่นาน จนทำให้พวกผมมองหน้ากันและหันไปมองเธอสงสัยและจ้องมองรออยู่อย่างนั้น
“อีกคนที่แสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมา อีกคนดันไม่แสดงอารมณ์ออกมาจากทางสีหน้า แล้วเรื่องโรงเรียนก็ต่างกันสุดสุดอีก…ก็เพราะว่าอีกคนอยู่ในโรงเรียนที่เป็นอันดับต้นๆของประเทศ กับอีกคนที่อยู่ในโรงเรียนที่ค่าเฉลี่ยค่อนข้างที่จะห่วย เรียกง่ายๆว่าตรงข้ามกระทั่งโรงเรียน ลักษณะการแสดงสีหน้า…เรียกว่าเหมือนอยู่หรือตรงข้ามดีแล้วเนี่ย?”
ทาจิบานะที่ครุ่นคิดหาคำตอบ ว่าสรุปมันเป็นยังไงกันแน่นะ ก็ได้ถูกขัดจังหวะโดยคุณตาคนหนึ่งที่ลุกออกจากที่นั่งของตัวเอง
“โคโตฮะจัง ขอบใจสำหรับอาหารนะ เรื่องเงินก็ว่างไว้ที่โต๊ะเหมือนเดิมนะ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณตายามะ ขอบคุณที่อุดหนุนตลอดนะคะ”
เธอได้เลิกคิดพร้อมกับเดินไปส่งคุณตาตรงหน้าประตู
ผมได้ละสายตาจากคุณตา แล้วมองไปที่โต๊ะของเขาและเห็นของที่เขาลืมเอาไว้
ผมตัดสินใจสะกิดตัวของซากุระ จนทำให้เจ้าตัวหันมามอง ราวกับถามว่า มีอะไร
ผมชี้ไปที่นั่งของคุณตา ซากุระมองมาที่ผมด้วยความสงสัยแต่ว่า
เจ้าตัวก็เลยลุกออกจากที่นั้งของตัวเองและไปหยิบของให้กับคุณตาอยู่ดี “นี้คุณตา”
จากนั้นก็ยื่นของให้กับคุณตา “ลืมหยิบของไปด้วย”
““อ้อ””
“เออ..ถ้าจะขอบใจก็ไปขอบใจไอ้หน้าจืดตรงนู้น มันเป็นคนบอกฉัน”พร้อมกับชี้นิ้วมาที่ผม
“หรอขอบคุณมากนะ…เกือบงานเข้าแล้วไหมล่ะ”
พร้อมกับยื่นมือไปหยิบของจากมือของซากุระ “แหมๆช่วงนี้มักจะหลงๆลืมๆอยู่เสมอด้วยสิ”
.
.
.
หลังจากที่กินข้าวห่อไข่หมด ทาจิบานะได้หยิบจานไปล้างอยู่ตรงซิ่งล้างจาน
ตอนนี้ผมและซากุระ ต่างมองของที่อยู่ในมือตัวเอง
ซึ่งเป็นลูกอมที่คุณตาเป็นคนมอบให้กับพวกเรา
หลังจากที่ล้างจานเสร็จทาจิบานะได้เดินมาหาพวกผมพร้อมกับเสิร์ฟน้ำเปล่าให้ “เห็นบอกว่า เป็นของขวัญที่จะให้กับหลานชายของตัวเองน่ะ เขาบอกว่าช่วยได้มากเลยขอบใจนะ…แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยละนั่น”
ผมที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้ละสายตาไปมองซากุระที่หน้าเริ่มแดงสุดๆ…เป็นคนที่เขินง่ายเหลือเกิน
“นะ…นะ..หนวกหูน้า!! จะว่าไปผู้คนในเมืองแห่งนี้เนี่ย แล้วแต่เธอก็พิลึกกันหมด”
“เอ”
“มาทำดีกับคนหน้าตาแบบนี้ อีกอย่างเครื่องแบบของโรงเรียนนักเลงชื่อดังเชียวนะ กะ..กับคนแบบนี้ มา…ขะ..ขะ.. ขอบใจเนี่ยนะ ปกติมันต้องระแวงหรือไม่ก็สงสัยมากกว่านี้หน่อยสิ!!! ก็ก่อนหน้านี้ตอนเก็บกระเป๋าตังค์ให้ ก็ถูกชี้หน้าว่าเป็นคนเอาไปอยู่เลยนะ…มันต้องหัดระมัดระวังตัวเองให้มากกว่านี้หน่อยไม่ใช่หรอ!!!?” ผมยื่นมือไปจับไหล่ซากุระ
“ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนั้นสักหน่อย ซากุระ”
ซากุระหันมามองผมด้วยความไม่เข้าใจ
“คนอื่นอาจจะว่านายเป็นคนประหลาด น่าเกลียด แต่ว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแบบนั้นกันสักหน่อย หนึ่งในนั้นก็เป็นทาจิบานะ ที่อยู่ตรงนั้นไงล่ะ” ผมชี้นิ้วไปทางทาจิบานะที่หันมามอง จากนั้นผมก็ได้ชี้นิ้วมาที่ตัวเอง “แม้กระทั่งฉันก็ด้วย”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นซากุระดีดตัวออกจากผมทันที ด้วยความเขินอาย
แต่ว่าก็ยังไม่จบ ทาจิบานะก็ได้เสริมต่อ “ใช่ๆ..ไม่ใช่ทุกคนจะมองว่านายเป็นตัวประหลาดสักหน่อย อีกอย่างฉันได้บอกไปแล้วว่าลักษณะแบบนายมันเท่จะตาย…ฮึฮึฮึ~~”
หลังจากที่ หัวเราะเสร็จ เธอก็ได้หันไปทางซากุระ “ซากุระ นายเลือกถูกแล้วแหละที่เลือกฟูริน”
เธอตัดสินใจเดินออกจากเคาน์เตอร์และไปอยู่ตรงหน้าประตู พรางมองไปทางซากุระ สีหน้าที่ต่างออกไปจากเดิม จนทำให้พวกผมต้องหันไปมอง
“แต่ว่านะ..” เธอเว้นช่วงในการพูด เหมือนกับพยายามเรียกร้องความสนใจจากพวกเรามากขึ้น “ไม่มีทางไปจุดสูงสุดของฟูรินได้หรอก..ไม่มีวัน”
“หาาาา!!!??”
“ขืนยังมีสภาพนี้ อย่าว่าจะไปจุดสูงสุดเลย เป็นคู่ต่อสู้ของคนในฟูรินไม่ได้ด้วยซ้ำ”
คำพูดที่พูดออกมาแล้วกลับกำลังจะสื่ออะไรบางอย่างจนทำให้ซากุระนั้น ปั้ง!!! เอามือทุบโต๊ะและลุกออกจากเก้าอี้แล้วหันไปมอง
“จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกันเล่า!!..เธอไม่รู้ว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหนด้วยซ้ำ”
“ก็จริงอยู่ว่าอาจจะมีแรงเยอะ แต่ก็ไปถึงจุดสูงสุดของฟูริน ไม่ได้หรอกนะ” ค่อยๆยกมือขึ้นและชี้ไปทางซากุระ
“ก็เพราะว่านาย….ตัวคนเดียวยังไงล่ะ”
เมื่อเจอคำพูดนั้นตอกหน้าเต็มๆ …เหมือนการกระตุ้นอะไรบางอย่าง ซากุระเบิกตากว้างพร้อมกับสีหน้าที่โกรธจัด
พร้อมกับเดินเข้าไปหาทาจิบากะ
“ฉันไม่ได้อ่อนแอจนต้องพึ่งพาคนอื่นถึงจะชนะสักน้อย!!!”
“มันไม่ได้แค่เรื่องกายภาพ..ท่านายได้เจอพวกของเด็กฟูรินสักครั้ง ก็คงจะดี”
กริง!! เสียงของกระดิ่งได้ดังขึ้น ซากุระได้เดินออกจากร้านไปเสียแล้ว…
ผมได้แต่มองดูเหตุการณ์นั้นอยู่อย่างเงียบๆ
..
.
(ยังไม่ได้แค่คำผิด)
Chapters
Comments
- ตอนที่ 18 4.5 18 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 17 4.4 18 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 16 4.3 18 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 15 4.2 2 วัน ago
- ตอนที่ 14 4.1 2 วัน ago
- ตอนที่ 13 เหตุการณ์ก่อนปฐมนิเทศ 2 วัน ago
- ตอนที่ 12 3.3 3 วัน ago
- ตอนที่ 11 3.2 3 วัน ago
- ตอนที่ 10 3.1 3 วัน ago
- ตอนที่ 9 ใครๆก็เป็นได้ฮีโร่นะ 3 วัน ago
- ตอนที่ 8 2.3 3 วัน ago
- ตอนที่ 7 2.2 3 วัน ago
- ตอนที่ 6 2.1 กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 5 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 4 1.2 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 3 1.1 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 1 ฤดูใบไม้ผลิ แห่งการเปิดเรียน กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำจุดเริ่มต้น กรกฎาคม 1, 2025
MANGA DISCUSSION