ตอนที่ 16 4.3
..
.
“อายาโนน..โคจิจัง…คิโยะปง…คิโยจัง..คิโยจิ…คิโยะจิน..?”
“เธอพึมพำอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะ?”
ตั้งแต่เราเริ่นเดินกันมา เป้าหมายคือบ้านเพื่อนของมิยามาเอะ ก็เดินมาได้สักพักแล้ว
ผมและมิยามาเอะต่างแบ่งขนมที่ได้มากินกันคนละครึ่งมาตลอดทาง ไม่ค่อยมีเรื่องพูดคุยกันมากนัก..มีเพียงแค่บรรยากาศที่รู้สึกถึงความสงบจนไม่อยากจะพูดหรือปริปากอะไรทั้งนั้น
แต่ว่าจู่ๆมิยามาเอะก็เริ่มพึมพำอะไรคนเดียวก็ไม่รู้
เธอทำท่าทีครุ่นคิดอย่างจริงจังพึมพำอยู่อย่างนั้นตลอดทาง
ผมเองก็ไม่ค่อยอยากจะสอดรู้สอดเห็นอะไรขนาดนั้น มันเสียมารยาท แต่ว่าไม่สนใจไม่ได้จริงๆนะ..ที่พึมพำ มันเหมือนมีชื่อของผมหลุดออกมาด้วยนิ
“อ๋อ พอดีว่ากำลังคิดชื่อเล่นของนายอยู่ไง”
“ชื่อเล่นของฉันเนี่ยนะ”
“ช่าย~~”
เดี๋ยวก่อนนะชื่อเล่นงั้นหรอ เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวันด้วยซ้ำนะ จะเรียกชื่อเล่นกันเลยไม่ข้ามขั้นไปหน่อยหรอ
ปกติการเรียกชื่อเล่นเนี่ยมันต้องเป็นคนที่สนิทกันมากๆไม่ใช่รึ
พอผมทำสีหน้าสงสัยไป มิยามาเอะก็ดูเหมือนจะเข้าใจ “ก็เพราะว่า นามสกุลของนายมันยาวไปน่ะ”
“..เป็นงั้นหรอ..”
ชื่อของผมมันยาวไปงั้นหรอ? อา ยา โนะ โค จิ ก็แค่ 5 พยางค์เองนะ ส่วน คิ โย ทา กะ ก็แค่ 4 พยางค์เอง มันยาวยังไงละนั้น?
“ก็เพราะงั้นแหละ ชอบชื่อไหนมากกว่ากันล่ะระหว่าง คิโยะจิน หรือ คิโยะปง ละ?”
“คิ..คิโยะปง?”
จะพูดว่าไม่ได้ยินชื่อนี้มานานก็ไม่ได้แฮะ แต่ว่าก็รู้สึกคิดถึงเหมือนกันนะ ‘คิโยะปง’ เนี่ย
เมื่อก่อนเคยมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบตั้งชื่อเล่น เพื่อนในกลุ่ม ผมเองก็ได้ชื่อนั้นมาตอนนั้นนั่นแหละ
หรือว่ามิยามาเอะ ก็เป็นพวกที่ชอบตั้งชื่อเล่นให้กับเพื่อนงั้นหรอ
“ชอบชื่อนั้นหรอ?”
“ก็ไม่ได้เป็นพิเศษหรอก”
มันก็เป็นแค่ชื่อที่ถูกเรียกโดยอดีตเพื่อนในกลุ่มของผม มันก็เท่านั้น
ชื่อนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่าชื่อไว้สำหรับเรียก
แต่ว่าถ้าถูกเรียกด้วยชื่อนี้อีกก็คงไม่ได้รู้สึกแย่ เพราะผมเองก็เริ่มจะชินกับชื่อเล่นนั้นแล้วจริงๆ
“แต่จะเรียกว่า ‘คิโยะปง’ ก็ได้”
“งั้นหรอ…”
มิยามาเอะถึงจะตอบเหมือนกับเข้าใจแต่ว่าก็ดูจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ พลางพยักหน้างึดๆ
“งั้นก็เป็น ‘คิโยะจิน’ ก็แล้วกันนะ~”
“ฮะ?…เดี๋ยวนะ จะให้เรียกทำไม ถ้าสุดท้ายแล้วเธอก็เป็นคนเลือกอยู่ดีเนี่ย?”
สุดท้ายถึงมีตัวเลือกอยู่ 2 ตัวเลือกได้ให้ผมเลือกก็ตาม แต่คนที่เลือกก็คือ มิยามาเอะ ที่เป็นคนถาม
พอผมหันไปทางมิยามาเอะ และจ้อเขม็ง เป็นเชิงไม่พอใจ มิยามาเอะที่เห็นอย่างนั้นก็เมินผมทันที ด้วยใบหน้าที่ไม่รู้ไม่ชี้ “ก็..ฉันชอบชื่อนี้มากกว่า”
ถ้างั้นจะให้ผมเลือกทำเพื่อ!
ถึงจะพยายามแสดงความไม่พอใจออกไปมากขนาดไหนแต่ว่ามิยามาเอะ ดูจะไม่สนใจ พร้อมกับก้าวเท้ายอย่างฉับไวมากกว่าเดิม แลัวนำหน้าผมไปเสียแล้ว
ยัยนี่เอาแต่ใจเกินไปแล้ว
จนผมแอบสงสารเพื่อนของเธอเลย
ต้องรับมือกับคนแบบนี้นี่มันน่าจะลำบากน่าดู
ผมแอบคิดว่าเด็กที่ชื่อ ซายัจจิ คนนั้นนี่สุดยอดเลยแหละ
ผมคิดเช่นนั้นพลางถอนหายใจออกมาเร่งฝีเท้าของตัวเองให้ทันกับการเดินของมิยามาเอะ แต่ก่อนที่จะได้ทำอย่างนั้น
มิยามาเอะ ได้หยุดเดินกะทันหัน ก่อนจะหันหลังกลับมา “นายเองก็เรียกชื่อฉันบ้างสิ” เธอเอ่ยเช่นนั้น และระบายยิ้มออกมาอย่างเด็กๆ
“ให้เรียกชื่องั้นหรอ”
“ใช่ๆมันจะได้แฟไง ฉันก็จะเลือกนายว่า คิโยะจิน สวนคิโยะจิน จะเรียกฉันแบบไหนก็แล้วแต่เลย ก็แบบชื่อเล่นที่อยากจะเรียก…อืม~~”
เธอยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเอง พลางครุ่นคิด อยู่สักพัก “แบบ..โนโน้จัง โนอาจัง อาจัง อะไรประมาณเนี้ย”
ดูเหมือนว่าคงอยากให้ผมเรียกชื่อจริงๆเพราะเล่นซะคิดชื่อเล่นมาให้เสร็จสรรพ…แต่ว่า เรียกชื่อเล่นงั้นหรอ…แถมแต่ละชื่อนี่มัน..
…มันต้องใช้ความกล้าพอสมควรเลยนะ
พอผมหันไปมองหน้ามิยามาเอะ เธอหันมามองผมด้วยแววตาแห่งความหวัง…
ทำไมต้องจ้องด้วยสายตาแบบนั้นกันเล่า
อยากให้เรียกชื่อเล่นกันขนาดนั้นเลยหรือไงกัน
ถึงจะมองด้วยสายตาแบบนั้น มันก็ควรจะมีขอบเขตสักหน่อยนะ ว่าสิ่งที่ทำได้กับสิ่งที่ทำไม่ได้เนี่ย
สำหรับคนอื่นน่ะการเรียกชื่อเล่นน่ะมันก็คง..ไม่มีอะไรไปมากกว่าชื่อ..สำหรับผมเองก็ไม่ต่างกันหรอก
แต่ว่าการเรียกชื่อเล่นของเด็กผู้หญิงนี่มัน…
ไม่ค่อยอยากยังไงก็ไม่รู้
ถ้าเป็นชื่อปกติผมก็เรียกได้อยู่นะ..
“โนโนอะ”
“…”
พอผมพุ่มพำชื่อ‘โนโนอะ’ออกไป เธอก็หันมาทางผมอย่างฉับไวพร้อมกับ…
จ้อง—มองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่าและไร้อารมณ์
ดูเหมือนจะผิดหวังสินะครับ
“ทำตัวแบบนี้…เดี๋ยวก็ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงหรอกนะ”
“โทษทีนะ..แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงเลยสักนิด…ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นในหัวด้วยซ้ำ”
เรื่องนี้ผมไม่ได้โกหกนะ สำหรับผมแล้วการเป็นที่นิยมของผู้หญิงนั้นหรอ..แฮะ
หาเพื่อนให้ได้สักคนก่อนเถอะคุณ!
สำหรับผมแล้วตอนที่อยู่โรงเรียนโคโดอิคุเซ… แค่การหาเพื่อนก็แทบกระอักเลือดอยู่แล้ว
ให้ไปเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงงั้นเหรอ…เป็นไปไม่ได้ ‘หมื่นล้านเปอร์เซ็นต์’เลยล่ะ
ที่เธอบอกว่า ‘เดี๋ยวก็ไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง’ นั้นหรอ
ผมรู้ตัวเองดีอยู่แล้วโว้ย!!
“เอ๋!? แปลกคนชะมัด ไม่ใช่ว่าปกติแล้วผู้ชายส่วนใหญ่ก็อยากเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงหลอกหรอ”
“เรื่องนั้น…ฉันก็ไม่เถียงหรอกนะ”
ก็เป็นเรื่องจริง ผู้ชายส่วนใหญ่ล้วนก็อยากเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง ที่ชื่นชอบของผู้หญิงมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ชายที่อยากเป็น คนเนื้อหอมอยู่แล้ว
แต่สำหรับผมแล้วน่ะ ผมก็แค่อยากใช้ช่วงเวลาอันแสนสงบสุข ไปกับการได้ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนก็เท่านั้นแหละ
“แต่ว่า ฉันก็แค่อยากใช้ชีวิตสงบสุข ก็พอ..ไม่มีความคิดที่อยากจะเนื้อหอมเล็กสักนิด”
“งั้นหรอ” พอเจอคำตอบที่ไม่คาดคิดโนโนอะ ดูจะประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “แต่ว่านะ…ฉันว่าท่านายยิ้มสักหน่อยเนี่ย..คงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงง่ายๆเลยนะ”
“เป็นอย่างนั้นหรอ”
แค่ยิ้มเนี่ยนะแล้วผมจะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงจริงป่ะเนี่ย?
พอคิดได้แบบนั้น ผมก็เลยลองหันไปมองโนโนอะ แล้วก็ยิ้มออกมา
“..…ช่วยลืมๆที่ฉันพูดไปเถอะ”
“เดี๋ยวสิ! ไงงั้นล่ะ”
สิ่งที่ได้จับมาคือการจ้องมองอย่างไร้อารมณ์ ราวกับผิดหวังกับสิ่งที่ได้เห็น
ถ้ารู้สึกผิดหวังขนาดนั้นแล้วจะพูดทำไมเล่า!
เหมือนกับการให้ความหวังว่า ‘โอ้~ xxคุง น่าจะเนื้อหอมแท้ๆเลยน่า~’ แล้วถ้าพูดกับไปว่า ‘งั้นเรามาคบกันเลยไหมละ’ สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ‘ฉันว่าอย่าเลย…’
อะไรประมาณนั้นนั่นแหละ ผมน่ะไม่ต้องการ ความหวังลมๆแล้งๆแบบนั้นหรอกนะ ยัยบ้าเอ๊ย
แล้วอีกอย่างไอ้การที่บอกว่า ถ้ายิ้มแล้วจะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงงั้น แล้วพอลองยิ้มให้ ก็ได้การตอบรับแบบนี้มัน…
เหมือนกับโดนปฏิเสธตัวตนภายใน 1วิ เลย
อยากจะร้องไห้ชะมัด กระซิกกระซิก
“ฉันว่า…คิโยะจิน ต้องพยายามสักหน่อยแล้วล่ะนะ ในเรื่องการหาเพื่อนเนี่ย”
“…เธอไม่บอกฉันก็รู้นะ…”
“เอาเถอะๆ..ยังมีฉันนี่ไงที่เป็นเพื่อนอยู่ด้วยเพราะงั้นหายห่วงนะ ส่วนเรื่อง..ที่ยิ้ม..ก็พยายามหน่อยละกันนะ..”
“..นี่มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?”
ผมยิ้มได้แย่ขนาดนั้นเลยหรอ ผมไม่ได้เป็นคนที่ยิ้มบ่อยด้วยสิ ไม่สิ ต้องเรียกว่าไม่ค่อยแสดงสีหน้ามากนัก…
แถมเธอเองก็บอกว่าให้พยายามเรื่องหาเพื่อน มันก็ไม่แปลกหรอก การเผยรอยยิ้ม ออกมาให้เห็น ก็ต้องเป็นตอนที่เปิดใจให้กับอีกฝั่งขึ้นมาบ้าง ถ้ามีความสัมพันธ์แบบนั้นก็คงเรียกว่าเพื่อนได้นั่นแหละ
แต่ว่าเพราะผมยิ้มออกไป…โดนตอบกลับมาแบบนั้นนี่มันแย่ขนาดนั้นจริงๆงั้นหรอเนี่ย..
พอหันไปมองแล้วเอียงหัวเป็นเชิงคำถามให้กับโนโนอะ เธอยกมือขึ้นโบกไปมา “มันก็..ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก..แค่ดูฝืนๆหน่อยน่ะ”
“นั่นแหละที่เรียกว่าแย่”
“แฮะๆ~ก็ไม่รู้จะพูดยังไงอ่ะ”
เข้าใจความรู้สึกอยู่หรอกว่าไม่อยากให้รู้สึกแย่ กับเรื่องแบบนั้น
ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรหรอก….เออ..คิดว่าแล้วนะ..
เอาเป็นว่าช่างเรื่องนั้นไปเถอะน่า!
“แล้วนี่อีกไกลหรือเปล่า..ที่จะถึงบ้านเพื่อน”
“…ก็อีกสักพักละนะ แต่ก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้นหรอก”
งั้นหรอดูเหมือนว่า…อีกสักพักก็จะถึงสินะ…
คิดได้แบบนั้นผมก็ได้เหลือบมองข้างหลังด้วยหางตา..
ดูเหมือนว่าจะหมดเวลาเล่นแล้วล่ะ
“แต่ว่านะ..ไปถึงแล้วเนี่ยคงต้องโดนซายัจจิ เทศนาเรื่องมาช้าแน่เลย..คิดแล้วก็เพลียเอะ?—”
“ฝากถือหน่อยสิ”
พอผมส่งถุงที่ถือไปให้กลับโนโนอะ เธอก็รับไว้ด้วยอาการสับสน จากนั้นผมได้เดินไปข้างหลัง
“เอ๊?..ทำอะไร–เอ๋!!—”
และย่อตัวเอามือข้างซ้ายประคองต้นขา เอามือข้างขวาประคองบริเวณหลังของเธอ
“ทะ..ทำอะไรนะ!!?…คิโยะจิน”
ใช่แล้วตอนนี้ผมอุ้มโนโนอะท่าเจ้าหญิงอยู่นั่นเองมันก็คงไม่แปลกหรอกมั้งที่เธอจะตกใจขนาดนั้น
จู่ๆผู้ชายที่เพิ่งเจอกันก็มาอุ้มตัวเองด้วยท่าที่น่าอายแบบนี้แต่ว่า…
“โทษที ที่ทำอะไรกะทันหันนะแต่ไม่มีเวลาแล้วล่ะ”
“ถึงแล้วจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะนะ..แต่แบบนี้มันไม่เร็วไปหน่อยหรอ..ข้ามขั้นไปหน่อยมั้ง”
โนโนอะละสายตาจากผมและเอานิ้วสองข้างจิ้มหากันอย่างเขินอาย…ถึงแม้ว่าท่าทางจะน่ารักแค่ไหนก็ตามแต่ว่านะ..
อย่างเธอมีสิทธิ์พูดแบบนั้นกับเขาด้วยหรอ
เดี๋ยวปั๊ดปล่อยร่วงซะหรอก! ผมคิดแบบนั้นในใจก่อนที่จะก้าวเท้าวิ่งออกมาอย่างเต็มแรง
“โทษทีนะแต่ไม่มีเวลาแล้วล่ะ”
“ถึงบอกว่าไม่มีเวลาก็เถอะแต่ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบขนาดนั้นเลยนิ!..ว๊าย!!..เร็วไปแล้ว!!”
ถึงแม้จะอยู่ในอาการที่ตกใจ แต่เธอก็หันมามองผมด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงทำอะไรแบบนี้
ถึงแม้ว่าอยากจะเล่าสถานการณ์ให้ฟังก็ตาม…
แต่ว่าตอนนี้ในหัวกลับมีความคิดมันตีกันไปหมดจนไม่รู้จะเล่ายังไง..
ทำไมถึงมีความคิดตีกันอย่างนั้นหรอ..
เพราะว่าผู้หญิงเนี่ย…ตัวนุ่มจริงๆเลยนะ…
นั่นคือความคิดของผมในตอนนี้ ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ผมเป็นมือใหม่ในเรื่องแบบนี้ ไม่ค่อยได้จับตัวผู้หญิงมากขนาดนั้นสักหน่อยนิ!!
อีกอย่างผมเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน มันก็คงมีความคิดแบบนั้นเข้ามาในหัวมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอ
เพราะงั้นผมไม่ผิดนะ
แถมไอ้มือที่จับต้นขานี่มัน…ต้นขายัยนี่จะนุ่มไปไหม!!
ตอนที่วิ่งแล้วตัวเขย่าไปมา มันทำให้มือที่ผมจับมันรับน้ำหนักไปด้วย..มันเลยสัมผัสมากกว่าปกติ…
“คิโยะจิน นี่นายกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!”
พอได้ยินเสียงของโนโนอะที่ถามอย่างกะทันหัน ผมก็นึกว่าเธอถามเรื่องว่าทำไมผมถึงอุ้มเธอเสียอีก..
แต่พอมองหน้าของเธอและมัน…เหมือนจะไม่ใช่แฮะ สายตาที่มองช่างเย็นชาชะมัด…รู้ได้ไงคิดอะไรอยู่ในหัวเนี่ย
“ปะ..เปล่าสักหน่อย”
“อย่าทำเป็นไกเลยนะ…สีหน้านายมันฟ้องอยู่เห็นๆกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ชัดๆ”
สีหน้าผมมันฟ้องงั้นหรอ…เอาจริงดิ ปกติผมก็ไม่แสดงสีหน้าไม่ใช่รึไง
“สายตานายแล้วมันมองต้นขาขึ้นอยู่นะ แถมวิธีการจับนี่มัน เหมือนจะพยายามสัมผัสเลยไม่ใช่หรอ”
พอผมทำสีหน้าที่สงสัยว่ารู้ได้ไงเธอก็บอกออกมาทันทีเลย..แหมช่างเป็นคนที่สังเกตจริงๆเลยนะครับ
แล้วไอ้ท่าทีเขินๆเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดแล้วล่ะ…เป็นคนที่เป็นอารมณ์ได้ไวเหลือเกินนะ–
“โอ๊ย!เจ็บ..เจ็บๆ” จู้ๆเธอยื่นมือทั้งสองข้างมาหยิกแก้มผมอย่ายืดออกจากกัน..
“คิโยะจิน ไอ้คนลามก”เหมือนจะทำโทษผมที่คิดเรื่องแบบนั้นอยู่
“แล้วสรุปแล้วเนี่ยทำแบบนี้เพราะอะไรบอกมาเลยนะ!!”
“ละ..รู่และนะๆ”(รู้แล้วนะๆ)
พอได้ยินอย่างนั้นเธอก็ได้หยุดหยิกแก้มผม พร้อมกับมองมาทางผมราวกับจะสือว่า พูดมาเร็วๆสิ
“งั้นก็ลองมองไปข้างหลังดูสิ เดี๋ยวก็เข้าใจเอง”
“ข้างหลังงั้นหรอ?”
พอได้ยินอย่างนั้นเธอก็ได้ชะเง้อหน้ามองข้ามไหล่ของผม และตกใจทันที “เดี๋ยวนะ! ไหงถึงตามมาได้ล่ะ?”
“ก็ไม่รู้สิ”
มันก็ไม่แปลกหรอกที่เธอตกใจ เพราะว่าข้างหลังของเรา นี่กลุ่มชายกำลังพยายามวิ่งไล่ตามพวกเรามาอยู่
ใช่แล้วครับ มันก็คือกลุ่มที่มาจีบโนโนอะ นั่นเองแต่ดูเหมือนว่าจะเรียกพวกเยอะซะด้วยสิ…มาเป็นสิบกว่าคนเลยแฮะ
ถ้าจะให้สู้มันก็คงทำได้อยู่แหละ แต่ว่ามันก็คงจะยากเอามากๆ…การที่จะต้องปกป้องคนพร้อมๆกับสู้กับคน 10 คนไปด้วยนะมันยากเอามากๆ
ผมเลยตัดสินใจที่จะหนีมากกว่าจะต่อสู้
“โนโนอะ ช่วยบอกทางไปบ้านของเพื่อนเธอจะได้หรือเปล่า”
“ก็ได้อยู่หรอก..ถ้างั้นก็ไปข้างหน้าและ—เอะ!!ข้างหน้าๆ!!”
พอโนโนอะที่กำลังบอกทางไปบ้านเพื่อนของตัวเองก็ได้ตกใจพร้อมกับชี้มือไปข้างหน้า
พอหันไปมองพบกับกลุ่มผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่งที่ดักรอพวกเราอยู่
ผมหยุดวิ่งพร้อมกับหันไปมองข้างหลัง ที่กลุ่มผู้ชายอีกกลุ่มกำลังวิ่งมาติดๆ
ข้างหน้าและข้างหลังถูกดักทางเอาไว้
ดูเหมือนจะรู้ตำแหน่งอยู่แล้วสินะ
พอหันมามองโนโนอะที่กำเสื้อของผมไว้แน่น สีหน้าของเธอดูจากวิตกกังวลเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ในตอนนี้
มันคงไม่แปลกสักเท่าไหร่หรอก ทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกดักทางเอาไว้หมดแล้ว บริเวณด้านข้าง ซ้ายและขวาก็เป็นกำแพงอยู่ ความกว้างก็แค่ทำให้รถ 2 คันวิ่งผ่านได้ก็เท่านั้น
แถมฝ่ายตรงข้ามเองก็มีมากกว่า 20 คน
จะให้หนีมันก็ทำไม่ได้เพราะโดนดักไว้หมดแล้วจะให้ต่อสู้กับคน 20 คนพร้อมกันและต้องปกป้องโนโนอะไปด้วยอีก..นี่ก็แทบเป็นไปไม่ได้เดี๋ยวด้วยซ้ำ
ถ้ามีแค่ผมคนเดียวอยู่อันนั้นก็อีกเรื่อง
“คิ..คิโยะจิน..ทำไงดีล่ะ”
โนโนอะกำเสื้อผมไว้แน่นมากกว่าเดิม น้ำเสียงเองก็สั่นเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าจะรออยู่อย่างนี้ต่อไปก็ทำอะไรไม่ได้…
“ไม่ต้องห่วงหรอก…จับฉันไว้แน่นๆก็แล้วกัน”
“เอะ! จะทำอะไร?”
ผมยกโนโนอะขึ้นเล็กน้อยเพื่อจัดท่าทางใหม่อีกครั้ง แล้วทำให้ขยับอะไรได้มากขึ้น
“ก็จะฝ่าไปตรงๆเนี่ยแหละ”
“เอะ!!!”
พอพูดเสร็จผมก็ได้ ออกวิ่งไปข้างหน้าทันที
เอาจริงๆผมเองก็อยากจะให้ เธอขี่หลังมากกว่า ผมจะได้ขยับมือได้ง่ายมากขึ้น
แต่ว่าผมเองก็จะไม่สามารถปกป้องข้างหลังได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้การที่ โนโนอะจะโดนลูกหลงมันก็มากขึ้น
ผมก็เลยตัดสินอุ้มถ้าเจ้าหญิงเนี่ยแหละ ปกป้องง่ายกว่า ถ้าฝ่ายนั้นพยายามเล่นงานโนโนอะ ผมก็สามารถกันได้ ถึงแม้ว่าผมจะต้องเจ็บตัวนิดหน่อยก็ตาม
แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น
ปิ๊บๆๆ!!!
เสียงบีบแตรรถดังขึ้น จนทำให้ศัตรูข้างหน้าต่างพากันกระโดดหลบรถที่พุ่งออกมาที่ไหนก็ไม่รู้
ผมหยุดวิ่งพร้อมกับมองดูรถที่วิ่งมาทางพวกเราจากนั้น
รถเก๋งสีดำ พุ่งมาทางผมจากนั้นก็ดริฟและจอดอยู่ตรงหน้า พร้อมกับประตูที่เปิดออก เสียงของเด็กสาวที่อยู่ในรถดังขึ้น
“ขึ้นมาเร็วเข้า!!”
ตอนนั้นในหัวของผมไม่คิดอะไรพร้อมกับพุ่งเข้าไปหารถเก๋งทันที
…
..
.
(ยังไม่ได้แก้คำผิด)
Chapters
Comments
- ตอนที่ 18 4.5 1 วัน ago
- ตอนที่ 17 4.4 1 วัน ago
- ตอนที่ 16 4.3 1 วัน ago
- ตอนที่ 15 4.2 2 วัน ago
- ตอนที่ 14 4.1 2 วัน ago
- ตอนที่ 13 เหตุการณ์ก่อนปฐมนิเทศ 2 วัน ago
- ตอนที่ 12 3.3 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 11 3.2 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 10 3.1 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 9 ใครๆก็เป็นได้ฮีโร่นะ กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 8 2.3 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 7 2.2 กรกฎาคม 6, 2025
- ตอนที่ 6 2.1 กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 5 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว กรกฎาคม 4, 2025
- ตอนที่ 4 1.2 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 3 1.1 กรกฎาคม 3, 2025
- ตอนที่ 1 ฤดูใบไม้ผลิ แห่งการเปิดเรียน กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำจุดเริ่มต้น กรกฎาคม 1, 2025
MANGA DISCUSSION