ตอนที่ 1 ฤดูใบไม้ผลิ แห่งการเปิดเรียน
.
.
.
ท้องฟ้าสีครามของฤดูใบไม้ผลิ กลิ่นหอมของซากุระที่พัดมากับสายลมกระทบกับเส้นผมจะทำให้มันขยับไปมาแล้วรู้สึกสดชื่น บรรยากาศดีแบบไม่ก้อนเมฆสักก้อนช่างเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ง่วงนอนซะเหลือเกิน
ผมกำลังนั่งอยู่ตรงม้านั่งและรอตัวของเด็กสาวที่กำลังต่อแถวซื้อไอศครีมให้กับตัวของเธอและผม…จะว่าไปผมเองก็ยังไม่ได้ถามชื่อเธอด้วยซ้ำ..
…เอาเป็นว่าค่อยถามก็แล้วกัน
ผมได้กวาดสายตามองดูสวนสาธารณะแห่งนี้
วิวที่สวยงามของสวนสาธารณะแห่งนี้มีสนามเด็กเล่นมีทุ่งหญ้าให้กับเด็กในการวิ่งเล่นมันเป็นสถานที่ ที่ดีนะมันเหมาะครอบครัว
ผมเห็นเด็กที่กำลังวิ่งเล่นในสวนสาธารณะอย่างสนุกสนานท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่นและอากาศที่แจ่มใส พวกเขาวิ่งเล่นในสวนสาธารณะอย่างสนุกสนาน ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังออกมานั้นเป็นเสียงของความสนุกสนานจากเด็กๆ
บางคนที่มากับคุณพ่อคุณแม่ก็เรียกคุณพ่อคุณแม่ของตัวเองให้มาเล่นด้วยหรือไม่ก็มากับเพื่อนสนิทและเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน
ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่มีเพียงแค่เด็ก แต่ยังมีพวกวัยรุ่นที่มากับกลุ่มเพื่อน มาเดินดูดอกซากุระที่กำลังล่วงโรยนอกเหนือจากใกล้เดือนเมษายนแล้ว
มันเป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะเปิดเรียนเต็มที่ คงอยากจะใช้ วันหยุด ปิดเทอมฤดูใบไม้ร่วง อย่างเต็มที่ก่อนที่จะเปิดเรียนใหม่
ภาพที่แสนจะธรรมดาแต่สำหรับผม ที่ตัวผมอยู่แต่ในโรงเรียนของ โคโดอิคุเซ เกือบ 1 ปี ก็ไม่ค่อยได้เห็นภาพนี้สักเท่าไหร่ ภาพส่วนใหญ่มีแต่เด็กนักเรียนม.ปลาย ไม่ค่อยมีเด็กเล็กๆมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้
…จะว่าไปทำไมผมถึงได้ออกจากโรงเรียนโคโดอิคุเซอย่างนั้นหรอ …
เหตุผลน่ะมันก็…
.
.
.
“พ่อของเธอได้เสียชีวิตแล้วจากอุบัติเหตุเครื่องบิน…”เสียงของ ประธานซาคายานางิ ดังกึกก้องไปทั่วห้อง
“….”
ตอนนี้ผมอยู่ในห้องผู้อำนวยการ ในห้องมีผมกับ
[ซาคายานางิ อาริสุ] ที่เป็นลูกสาวของประธานซาคายานางิ
หลังจากที่สอบพิเศษปลายภาคก่อนขึ้นปี 2 และผมสามารถเอาชนะตัวของซาคายานางิมาได้ในการสอบ
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้คุยกันนิดหน่อยและรู้ว่ามันแปลกเกินไปที่จู่ๆ ผมก็ชนะมาได้ ไม่ใช่ว่าผมไม่สามารถเอาชนะเธอได้นะ แต่ว่า ในตอนนี้คนที่เป็นผู้อำนวยการตัวแทน [สึกิชิโระ]
ซึ่งเป็นคนที่พ่อของผมส่งมาเพื่อทำให้ผมถูกไล่ออก การที่ผมสามารถเอาชนะมาได้มันค่อนข้างที่จะแปลก
ในจังหวะนั้นเอง ประธานซาคายานางิก็ปรากฏตัวขึ้น ชวนพวกเรามาคุยในห้องผู้อำนวยการ
ซึ่งสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ก็คือ [อายาโนะโคจิ มัตสึโอมิ]นั้นหรือพ่อของผมได้เสียชีวิตไปเสียแล้ว
ตอนนี้เองก็มีเพียงแค่บรรยากาศที่เงียบ ช่วงอึดอัดอยู่เล็กน้อย ต่างคนต่างไม่มีใครพูด
มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เนื่องจากว่า ได้รู้ข่าวที่ค่อนข้างจะช็อค
ถามว่าผมช๊อคไหมก็คงตอบว่า ใช่
เขาเป็นเพียงคนที่ผมรู้จักในฐานะคนเป็นพ่อแน่นอนในความสัมพันธ์ของพวกเรามันเป็นเพียงแค่ตัวอักษรในแผ่นกระดาษ ถ้าถามความรู้สึกล่ะก็คงตอบว่าเหมือนกันคนแปลกหน้า
ที่รู้จักกันเพียงแค่ผิวเผิน เขาเป็นคนที่ให้ผมได้รับการศึกษาที่ยอดเยี่ยมจากสถานที่ที่มีชื่อว่า ‘ห้องสีขาว’
แต่ถึงอย่างนั้น…ผมเองจะรู้สึกยังไงกับสิ่งนี้กันแน่ ดีใจงั้นหรอ หรือจะเสียใจดีนะ…
เพราะว่าเขาเป็นครอบครัวหรือสายเลือดเดียวกันกับผมที่ผมรู้จัก…
“แล้วต่อจากนี้อายาโนะโคจิคุงจะเป็นยังไงหรอคะคุณพ่อ”
คนที่ทำลายความเงียบในบรรยากาศห้องคือตัวของซาคายานางิ ถามกับพ่อของตัวเอง
“อืม…นั่นสินะ..ก็คงตอบได้ว่าคิโยทากะคุง…เธอเป็นอิสระโดยสมบูรณ์แบบแล้ว มรดกของอาจารย์ ก็จะตกอยู่ที่เธอ…แล้วก็เรื่องของห้องสีขาว เธอไม่จำเป็นจะต้องกังวลเลย ทางนี้เป็นคนจัดการเอง ….แน่นอนว่าพวกเราจะปิดทำการห้องสีขาว”
ประธานหันมามองผมพร้อมกับ ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เพราะงั้น ต่อจากนี้เธอจะทำไงต่องั้นหรอ?”
“….เรื่องนั้น”ผมเว้นวรรคในการพูด…และ ละสายตาจากประธานซาคายานางิ และหันไปมองตัวของซาคายานางิ ที่หันมามองผมด้วยสายตาสงสัย
ผมเห็นอย่างนั้นก็ได้ละสายตาจากเธอ
แน่นอนว่าสิ่งที่ผมได้ยินแล้วเจอมา ณ ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ผมเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้มา
อิสระที่ตัวเองก็ไม่คาดคิด..แต่ถึงอย่างนั้นถ้าผมได้มาจริงๆ
…สิ่งที่ผมอยากจะทำต่อจากนี้มันก็..
“ประธานซาคายานางิ..ผมจะลาออกจากโรงเรียนโคโดอีคุเซ ครับ”
“..งั้นหรอ”
ประธานซาคายานางิตอบเรียบๆเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมจะพูดแบบนั้นออกมา เขาใช้หลังมือทั้งสองข้างเท้าค้างของตัวเอง
“นั่นคือการตัดสินใจของเธอสินะที่คิโยทากะคุง
ฉันจะเคารพการตัดสินใจของเธอ ก็แล้วกันนะส่วนเรื่องคะแนนในชั้นเรียน เพราะเธอออกจากโรงเรียนจะโดนลบ 50 คะแนนห้อง โอเคนะ”
“ครับ ผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว”
ใช่ ผมไม่สนใจหรอกว่าห้องของตัวเองจะเป็นยังไง ..ก็ที่ผมได้เป็นอิสระแบบนี้ ก็แค่สนใจ สิ่งต่อจากนี้ว่าจะเป็นยังไงกันแน่ ผมแค่อยากรู้ว่าชีวิตต่อจากนี้ของผมมันจะไปในทิศทางไหน
ผมค่อนข้างสนใจตัวผมในอนาคตเลยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างต่อจากนี้ เพราะอย่างนั้น
เรื่องในตอนนี้หรือเรื่องที่จะห้องตัวเองจะมีการลบคะแนน
…ผมไม่สนใจ
แต่ถึงอย่างนั้น “คือว่าผมมีเรื่องอยากจะขออย่างหนึ่งนะครับ”
“อะไรงั้นหรอ..ถ้าเป็นเรื่องที่ฉันสามารถทำได้ฉันก็จะช่วยนะ”
“คือว่าผม อยากเรียนม. ปลายปี 1 ใหม่อีกครั้งน่ะเออ….ช่วยทำการย้ายโรงเรียนที่ผมสามารถเรียนม.ปลายปี 1 ได้อีกครั้งจะได้หรือเปล่าครับ”
“แน่นอนว่าฉันสามารถทำได้..แล้วก็ฉันเองก็มีโรงเรียนที่ฉันคิดเอาไว้แล้วเหมือนกัน ว่าจะให้เธอไป เป็นโรงเรียนของคนรู้จักของฉันเองเพราะงั้นการที่เธอขอแบบนั้น..ฉันสามารถทำได้เพราะแบบนั้น ไม่ต้องห่วงเลย”
“งั้นหรอครับถ้าเป็นแบบนั้นจะขอบคุณมากจริงๆ”
“งั้นหรอ งั้นฉันจะทำเรื่องออกจากโรงเรียนให้เธอก็แล้วกันนะ จะออกจากตอนไหนก็สามารถบอกฉันได้เลย”
ขณะที่พูดเขาได้เปิดลิ้นชักตรงโต๊ะของตัวเองพร้อมยกบางสิ่งบางอย่างมาให้กับผม
“แล้วก็นี่ เป็นโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ฉันซื้อมาให้ มันเป็นรุ่นที่น่าจะดีที่สุดที่ฉันสามารถหาให้เธอได้แล้วแหละ แล้วก็ที่อยู่ของเธอ ฉันเองก็เตรียมไว้ให้แล้วเหมือนกัน มันเป็นอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งไม่ได้อยู่ไกลจากโรงเรียนมากขนาดนั้นเพราะงั้น สบายแน่นอน”เขาเว้นช่วงในการพูด
“ส่วนเรื่องเงินเธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะเป็นคนออกเงินให้กับเธอเอง ทั้งโรงเรียน ที่อยู่หรือแม้กระทั่งค่าขนมต่อเดือน งั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยใช้ชีวิตอิสระให้เต็มที่สะละ”
“ขอบคุณมากจริงๆครับ”
สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้มีแค่ขอบคุณเขาที่ดูแลผมมาจนถึงตอนนี้
ตอนนี้ผมได้คิดแล้วว่าผมช่างโชคดีเสียจริงๆ ที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้เขาเป็นคนที่ช่วยเหลือผมมาตลอดตั้งแต่การเข้าเรียน จนกระทั่งแม้ผมออกจากโรงเรียนก็ตาม ขนาดค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์เขายังเช่าให้ผมเลยแถมซื้อโทรศัพท์ให้ผมอีกต้องขอขอบคุณเขาจริงๆนั่นแหละ..
..ให้ตายเถอะ..ทำตัวเหมือนพ่อยิ่งกว่าพ่อแท้ๆของผมเสียอีก
“ประธานซาคายานางิ ผมต้องขอขอบคุณคุณจริงๆนะครับที่ช่วยผมมาโดยตลอด ขอบคุณมากจริงๆ” ผมกล่าวขอบคุณพร้อมก้มหัวขอบคุณเขาจากใจจริง
“เอาน่า…เอาน่า…ไม่เป็นไร ฉันทำไปเพราะฉันอยากทำ …จริงๆฉันก็สงสารเธอด้วยนั่นแหละ …เอาเถอะ ต่อจากนี้อิสระที่เธอต้องการมันอยู่ข้างหน้าเธอแล้ว ใช้ชีวิตให้เต็มที่ซะล่ะ คิโยทากะคุง”
“ครับ”
หลังจากที่ผมขอบคุณเสร็จผมก็ตัดสินใจออกจากห้องผู้อำนวยการ—
.
.
.
“นี่!!!” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นจนทำให้ผมนั้นหลุดออกมาจากความคิดของตัวเองพร้อมกับหันไปมอง
เด็กสาวค่อยๆเดิน สายลมที่พัดผ่านไปจนทำให้ผมสีเงินพริ้วไสวไปมาอย่างสวยงามบรรยากาศที่ชวนน่าหลงใหลจนไม่สามารถละสายตาได้
ทุกคนต่างมองกันอย่างชื่นชมว่าเด็กคนนั้นสวยจังเลยนะ เธอเป็นใครกันแน่หรือบางคนก็อยากเข้าไปทัก
ผู้ชายบางคนที่คุยกับเพื่อนและกำลังเดินเข้ามาใกล้และจะทักกับเธอ..แต่ก็ได้หยุดชะงักเพราะว่า..
เธอเรียกผม จนทำให้คนที่หันมามองนั้นต้องถอยกันระนาว
หลังจากที่เดินเข้ามาแล้วนั่งลงตรงมานั่งข้างๆกับผม แน่นอนว่าเธอเว้นระยะห่าง แต่ก็ไม่ได้มากนะ ถ้ามองจากคนภายนอกก็รู้ว่าเรานั้นมาด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
“อ่า–นี่ค่ะ” หลังจากที่นั่งลงเสร็จก็ได้หันมามองผมพร้อมกับยื่นถ้วยไอศครีมมาให้
“ขอบคุณมากนะ”ผมตอบสั้นๆพร้อมกับรับถ้วยไอศครีมมา และหันไปมอง ในถ้วยมีอยู่ 3 รส ช็อคโกแลต ช็อกโกแลตชิพแล้วก็วานิลลา …
ซึ่งมันเป็นรสโปรดของผมก็ว่าได้
ผมได้มองสักพัก ก็ได้ตัดสินใจหันไปหาเด็กสาวที่นั่งข้างๆ แล้วจ้องมองไอศกรีมที่ตัวเองซื้อมาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
..ดูเหมือนว่าจะชอบไอศครีมมากเลยสินะ
หลังจากที่รู้ว่าผมกำลังมองอยู่เธอได้หันมามองผมพร้อมกับเอียงหัวอย่างสงสัย “มี…อะไรหรือเปล่าคะ?”
“เออ เปล่าหรอก ฉันแค่สงสัยน่ะว่าเธอชื่ออะไร”
“อะ! จริงด้วย ที่ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะ ฉัน [อาริสะ มิฮาอิลลอฟนา คุโจ] ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“…มิฮาอิลลอฟนา..งั้นหรอ..เป็นชาวต่างชาติหรือเปล่า?…แต่ว่าก็พูดญี่ปุ่นได้คล่องจังนะ”
“ก็ไม่เชิงค่ะ…ฉันเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นรัสเซีย คุณแม่เป็นคนญี่ปุ่น ส่วนคุณพ่อก็เป็นคนรัสเซียนะคะ”
“งั้นหรอ งี้นี่เอง”
งั้นก็คงไม่แปลกทั้งรูปลักษณะและส่วนสูงที่ต่างจากผู้หญิงญี่ปุ่นทั่วไป ดูคร่าวๆเธอสูงราวๆ 170 เซนติเมตร ซึ่งถ้าโดยทั่วไปส่วนสูงของผู้หญิงญี่ปุ่นจะอยู่ราวๆแค่ 160 เซนติเมตรเท่านั้น
คงจะได้มาจากคุณพ่อที่เป็นคนรัสเซียสินะ
“เออ แล้วคุณชื่ออะไรงั้นหรอคะ?”
“ฉัน อายาโนะโคจิ คิโยทากะ ยินดีที่รู้จักนะ”
“เช่นเดียวกันค่ะ ยินดีที่รู้จักนะ คุณอายาโนะโคจิ”
“ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกัน เหมือนกันนะ คุโจ”
หลังจากที่เราแนะนำตัวกันเสร็จก็..ไม่มีเรื่องจะคุยจนผมเองก็ตัดสินใจหันไปหาไอศครีมที่อยู่ตรงหน้า
จากนั้นก็ค่อยๆจับช้อนพลาสติกขึ้นมาแล้วตัก…รสแรกที่ต้องกินยังไงก็ต้องเป็นช็อกโกแลตชิปละนะ
ผมค่อยๆตักรสช็อกโกแลตชิปเข้าปาก อย่างช้าๆ ตอนที่ค่อยๆเข้าปากมา สัมผัสแรกที่เข้ามาคือความเย็นที่พุ่งเข้ามาตรงลิ้นและความหวานของวานิลาที่กระจายไปทั่วปาก
ขณะที่กำลังลิ้มรสชาติ จู่ๆก็ได้มีสัมผัสที่แตดต่างออกไป ความแข็งเล็กน้อยของช็อกโกแลตชิปที่ผสมอยู่ในนั้น ซึ่งทำให้มีสัมผัสที่ต่างออกไป จนทำให้หน้ารสชาติมันน่าค้นหามากขึ้น
ความหวานนี่มันลงตัวอร่อยจริงๆ
อืม…แล้วทำไม ผมถึงถูกสายตาหนึ่งจ้องมองตั้งแต่ผมเริ่มกินไอศครีม.. ผมหันไปมองพบกับคุโจ ที่มองมาทางผม
“เออ…คือว่ามีอะไรติดหน้าฉันงั้นหรอ?”
ผมหันไปมองแล้วเอียงหัวอย่างสงสัย
คุโจที่พึ่งรู้ว่ากำลังมองหน้าผม ก็ได้ที่หันหน้าไปทางอื่นทันที “เอ๊!!…เออ..เปล่าก็แค่…เออคือจะพูดยังไงดีล่ะ” พราวพึมพำเบาๆกับตัวเอง
ผมกระพริบตาปิบๆพรางมองเธออยู่อย่างนั้น เพิ่งเห็นแก้มของเธอมีรอยแดงจางๆ
เธอเป็นหวัดหรือเปล่านะ?
[นายนี่มันน่ารักตอนเวลากินไอศครีมจริงๆเลย~] เสียงกระซิบเบาๆที่ดังออกมาเป็นภาษารัสเซียมีเพียงแค่ผมที่ได้ยิน..
เดี๋ยวนะ..เมื่อกี้อะไรนะ…เอะ?…หรือว่าผมหูฝาดงั้นหรอ
ไอ้ผมก็เข้าใจภาษารัสเซียอยู่ด้วยสิ…อาจจะหูฝาดไปเองก็ได้มั้ง เธออาจไม่ได้พูดแบบนั้นหรอกมั้ง..
“คือว่า คุโจ เมื่อกี้เธอได้พูดอะไรกับฉันหรือเปล่า?”
จู่ๆคุโจได้หันหน้าอย่างไว อย่างตกใจพร้อมกับเบิกตากว้าง “เอะ! ปะ..เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้พูดอะไรนะคะ!!” เธอตอบอย่างลนลานพรางหันไปจับช้อนพร้อมกับตักไอศครีมเข้าปากอย่างร้อนรน
“…งั้นฉันก็คงหูฝากสินะ”
ผมหันไปหาไอศครีมพร้อมกับตัดเข้าปากต่อ ยังจะมีเรื่องสงสัยอยู่ก็เถอะ แต่ว่าช่างมันแล้วกันเนาะ
หลังจากผ่านไปสักพักจนในที่สุดของผมก็กินไอศครีมกันจนหมด
เอาล่ะถึงเวลาต้องจากลา
ผมตัดสินใจลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วเดินไปตรงถังขยะพร้อมกับทิ้งถ้วย หลังจากนั้นก็หันไปหาคุโจ “ขอบคุณเรื่องไอศครีมมากนะ แต่ว่าฉันต้องไปแล้วล่ะ”
คุโจที่เห็นผมก็ได้ลุกขึ้นตาม
“นั่นสินะคะต้องขอบคุณจริงๆที่ช่วยฉันในวันนี้ถ้าคุณไม่เข้ามาช่วยเอาไว้ละก็…ฉันคงแย่แน่ๆ”
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไรแต่ก็ขอบคุณเรื่องไอศครีมจริงๆนะอร่อยมากเลยล่ะ”
“ถ้าถูกใจก็ดีแล้วค่ะ หวังว่าครั้งหน้าเราจะได้พบกันอีกนะคะ” ขณะพูดเธอได้เผยรอยยิ้มออกมา
ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ แต่ว่าคุโจเนี่ย..เป็นคนที่สวยจริงๆนะ ผมเคยเจอผู้หญิงที่สวยมาแล้วหลายคน ถึงอย่างนั้น ..พูดยังไงดีล่ะ ลักษณะภายนอกบรรยากาศ มันชวนน่าหลงไหลจนผมเองก็ยังคงแปลกใจ…
“คุณอายาโนะโคจิ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เอะ! เปล่าหรอกฉันก็แค่จะพูดยังไงดีล่ะ…เธอเนี่ยเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลยล่ะ”
ผมพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่นา
แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับ “เอะ! เออ…ขอบคุณที่ชม กันนะคะ” ตอบอย่างเขินอายพรางหน้าแดงออกมา
เออทั้งที่เธอก็น่าจะถูกชมมาเยอะแล้วแท้ๆนะ หรือว่าเธอเป็นหวัดกันแน่นะหน้าแดงแบบนั้น
ผมได้ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากของคุโจ แต่ว่า..
“36 องศา ก็ไม่มีหวัดนี่นา..แปลกจัง?” ผมค่อยๆปล่อยมือจากหน้าผากของเธอ พร้อมกับถอยหลังออกมาเล็กน้อยและหันไปมอง “นี้ คุโจเธอแพ้อะไรหรือเปล่า?”
“~~~”
ผมถามไปอย่างสงสัยพร้อม สังเกตตัวของคุโจ เธอกับหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง
“นี้…คุโจ..เธอเป็นอะไ–”
[ฉะ..ฉะ..ฉัน..คือ..เอ๋!!!…มันจะใกล้ไปไหม!!]
“เออ…เดียว!? เธอพูดอะไรหรือเปล่า?”
ผมถามกลับไปอย่างสงสัยพร้อมกับแตะไหลเบาๆ จนทำให้เธอได้สติและมองมาที่ผม
“เปล่านะ!?…ฉันไม่ได้พูดอะไรแต่…เออ..วะ..ไว้เจอกันไหมคราวหน้านะคะ!!~~”
หลังจากที่พูดเสร็จเธอได้รีบวิ่งออกไปจากสวนสาธารณะทันทีโดยไม่หันมามองผม …ผมไม่ได้พูดอะไรแล้วมองดูเธอจากไป
“ผู้หญิงเนี่ยเข้าใจยากดีแฮะ?”ผมพุ่มพำแล้วมองเธอหายไปจากสายตา
…
..
.
(ยังไม่ได้ตรวจคำผิด)
(ตอนต่อไปจะยังไม่มาตอนนี้ น่าจะปล่อยไว้ยาวๆเพราะผมกะจะเขียนให้หมดก่อน เพราะงั้นขออภัยด้วยครับ..เอาเป็นว่าทำเหมือนกับเป็นการแนะนำก็แล้วกันเนาะ)
Chapters
Comments
- ตอนที่ 6 2.1 1 วัน ago
- ตอนที่ 5 เด็กหนุ่มที่คิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว 1 วัน ago
- ตอนที่ 4 1.2 2 วัน ago
- ตอนที่ 3 1.1 2 วัน ago
- ตอนที่ 1 ฤดูใบไม้ผลิ แห่งการเปิดเรียน กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำจุดเริ่มต้น กรกฎาคม 1, 2025
MANGA DISCUSSION