รอยเท้าขนาดมหึมาของกริฟฟินทมิฬ นำพากลุ่มสำรวจของเฟียร์ลึกเข้าไปในใจกลางเกาะ บรรยากาศรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไป พืชพรรณดูบิดเบี้ยวและมีสีคล้ำขึ้น ซากเรือที่เคยเห็นประปราย บัดนี้กลับกองทับถมกันสูงราวกับภูเขาขนาดย่อม ส่งกลิ่นอับชื้นและผุพังรุนแรงขึ้น หมอกหนาทึบขึ้น บดบังทัศนวิสัยจนเหลือเพียงไม่กี่เมตร เสียงลมหวีดหวิวาดังราวกับเสียงกรีดร้องของผู้ทรมาน

ทุกคนในทีมก้าวเดินอย่างระมัดระวัง อาวุธในมือเตรียมพร้อมตลอดเวลา เฟียร์เดินนำหน้า ดวงตาสีมรกตสอดส่ายไปมารอบตัวอย่างตื่นตัว ไทร่าและวัลคัสคอยระวังด้านข้างและด้านหลัง ลีอาน่าเตรียมพร้อมธนู ส่วนเอลาร่าและลูคัสอยู่ในตำแหน่งกลาง คอยสนับสนุนและวิเคราะห์สถานการณ์

“รอยเท้านี่มันชัดเจนเกินไป… เหมือนมันไม่ได้พยายามจะซ่อนตัวเลย” ไทร่า นักรบหญิงจากปีกอัคคีเอ่ยขึ้นเบาๆ ดาบใหญ่ในมือของเธอสะท้อนแสงสลัวๆ

“มันอาจจะไม่ได้สนใจเรา” ลูคัส นักเวทหนุ่มเสริม “หรือมันอาจจะมั่นใจในพลังของตัวเอง จนไม่คิดว่าจะมีใครกล้าตามรอยมันมา”

“ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร เราก็ประมาทไม่ได้” เฟียร์กล่าว “มันอาจจะเป็นกับดัก หรือมันอาจจะกำลังล่าเหยื่ออย่างอื่นอยู่ แล้วเราแค่บังเอิญเดินเข้ามาในอาณาเขตของมัน”

พวกเขาเดินมาถึงลานกว้างที่รายล้อมด้วยซากเรือรบโบราณขนาดใหญ่สามสี่ลำที่พังทลายลงมากองรวมกันราวกับสุสานยักษ์ กลางลานนั้น พวกเขาเห็นมัน!

กริฟฟินทมิฬ (Shadow Griffin) ร่างของมันใหญ่โตกว่ากริฟฟินทั่วไปเกือบเท่าตัว ขนสีดำสนิทราวกับรัตติกาลกลืนไปกับเงามืดรอบกาย ดวงตาสีแดงเพลิงลุกโชนอย่างดุร้าย ปีกขนาดใหญ่กางออกอย่างสง่างามแต่แฝงไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว กรงเล็บและจะงอยปากแหลมคมราวกับเหล็กกล้า มันกำลังก้มฉีกทึ้งซากของอสูรบางอย่างที่ดูคล้ายหมูป่ายักษ์กลายพันธุ์ เลือดสีคล้ำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ กลิ่นคาวเลือดและเครื่องในคละคลุ้งไปทั่ว

ทันทีที่มันรู้สึกถึงการมาเยือนของผู้บุกรุก กริฟฟินทมิฬก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำของมันจ้องเขม็งมายังกลุ่มผู้มาใหม่ ก่อนจะแผดเสียงคำรามก้องที่สั่นสะเทือนไปทั้งลาน! มันสลัดซากเหยื่อที่ยังฉีกคาปากทิ้งอย่างไม่ไยดี แล้วหันมาเผชิญหน้ากับพวกเขาเต็มตัว กรงเล็บของมันจิกลึกลงไปในพื้นดินที่เต็มไปด้วยเศษกระดูก!

“แย่แล้ว! มันเห็นเราแล้ว!” เอลาร่าร้องเตือน พลางเปิดหน้าต่าง “บัญชีข้อมูลอสูร” ของเธออย่างรวดเร็ว ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกริฟฟินทมิฬปรากฏขึ้น แต่ยังไม่สมบูรณ์นัก “ข้อมูลจากคลังของกิลด์ปีกอัคคีและที่คอร์วัสให้มา ระบุว่ามันน่าจะอยู่ราวๆ ระดับ 160-180! พลังโจมตีกายภาพสูงมาก และน่าจะมีความสามารถเกี่ยวกับธาตุมืดหรือการพรางตัวในเงา!”

“เตรียมตัวสู้! วัลคัส! ไทร่า! ตั้งแนวหน้า! อย่าให้มันเข้าใกล้พวกสายเวทได้!” เฟียร์ตะโกนสั่งการ ดาบโค้งของเธอเริ่มมีไอพลังงานสีแดงเพลิงล้อมรอบอย่างรวดเร็ว เปลวไฟลุกโชนราวกับมีชีวิต [เฟียร์ HP: 17000/17000 (100%) MP: 11000/11000 (100%)]

วัลคัสคำรามรับ พุ่งไปข้างหน้า ยกโล่ขึ้นตั้งรับทันที ผิวโลหะสะท้อนแสงจันทร์สลัวๆ “มาเลยเจ้าสัตว์ร้าย! ข้าจะหยุดแกเอง!” [วัลคัส HP: 2500/2500 (100%) MP: 750/750 (100%)]

กริฟฟินทมิฬไม่รอช้า มันสยายปีกอันทรงพลัง ส่งเสียงกรีดร้องบาดแก้วหู ก่อนจะถีบตัวทะยานเข้าใส่วัลคัสด้วยความเร็วสูง! กรงเล็บสีดำทมิฬของมันตะปบเข้ากับโล่ของวัลคัสอย่างเต็มแรง!

“เคร้งงงงง!”

เสียงโลหะบิดเบี้ยวดังสนั่น วัลคัสรู้สึกถึงแรงปะทะมหาศาลที่ส่งผ่านโล่มายังแขนและลำตัวของเขาจนชาหนึบ!

[วัลคัส HP: 2250/2500 (90%)] [วัลคัส MP: 740/750 (98%)]

เขาเซถอยหลังไปหลายก้าว สูดหายใจอย่างหนัก “อึ้ก! แรงมันมหาศาลจริงๆ! เกราะแทบแตก!”

“อย่าให้มันได้ตั้งตัว! โจมตีสวนกลับ!” เฟียร์ตะโกน พุ่งเข้าโจมตีจากด้านข้าง ดาบโค้งในมือของเธอวาดเป็นวงเปลวไฟสีแดงฉาน “[เพลงดาบสุริยัน: อัคคีผ่าปฐพี (Solar Blade: Earth Scorcher)]!” คมดาบอาบเปลวไฟฟาดเข้าที่สีข้างของกริฟฟินทมิฬอย่างรุนแรง เกิดเสียงเนื้อไหม้และเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด!

[DMG เฟียร์: 950 – ติดสถานะเผาไหม้เล็กน้อย!] [Shadow Griffin HP: ลดลง ~2%]

[เฟียร์ MP: 10945/11000 (99%)]

ไทร่า นักรบหญิงจากปีกอัคคี (Max HP: 14000, Max MP: 800) ก็ไม่น้อยหน้า เธอคำรามอย่างดุดัน เหวี่ยงดาบใหญ่คู่กายเข้าเสริม “[ดาบกระแทกปฐพี (Earthquake Slam)]!” ดาบของเธอกระแทกเข้าที่ขาหน้าของกริฟฟินอย่างจัง! พื้นดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย!

[DMG ไทร่า: 880 – ศัตรูเสียการทรงตัวเล็กน้อย!] [Shadow Griffin HP: ลดลงอีก ~2%]

[ไทร่า HP: 14000/14000 (100%)] [ไทร่า MP: 750/800 (93%)]

กริฟฟินทมิฬคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาแดงก่ำจ้องเขม็ง มันสะบัดปีกอย่างแรง สร้างคลื่นลมสีดำทมิฬที่หมุนวนราวกับพายุขนาดเล็กพัดกระหน่ำใส่เฟียร์และไทร่า! “[พายุเงา (Shadow Gale)]!”

เศษซากเรือและก้อนหินเล็กๆ ปลิวว่อน!

[เฟียร์ HP: 16820/17000 (99%)]

[ไทร่า HP: 13800/14000 (98%)]

ทั้งสองคนต้องรีบถอยออกมาตั้งหลัก ไอพลังสีดำยังคงกัดกินเกราะของพวกเธอ

“มันต้านทานธาตุแสง!” เอลาร่าตะโกนเตือนเมื่อเห็นลีอาน่ากำลังจะยิงลูกศรที่เริ่มมีประกายแสง “จากข้อมูลที่ได้มา มันน่าจะแพ้ธาตุลมและอาจจะแพ้การโจมตีที่เน้นความเร็วสูงเพื่อหาช่องโหว่!”

[ลีอาน่า HP: 1950/1950 (100%) MP: 950/950 (100%)]

ลีอาน่าเปลี่ยนเป้าหมายทันที “เข้าใจแล้ว! ขอลองดู! [ศรวายุสังหาร (Gale Piercer Arrow)]!” ลูกศรที่อาบไปด้วยพลังงานลมหมุนวนพุ่งแหวกอากาศเข้าใส่ช่องว่างระหว่างเกราะขนหนาๆ ของกริฟฟิน!

[DMG ลีอาน่า: 650 – ทะลุเกราะขนบางส่วน!] [Shadow Griffin HP: ลดลงอีก ~1.5%]

[ลีอาน่า MP: 915/950 (96%)]

“ดีมาก! ลูคัส! เสริมด้วยเวทลม! เน้นที่ปีกมัน!” เฟียร์สั่ง

[ลูคัส HP: 10000/10000 (100%) MP: 9000/9000 (100%)] (Max HP/MP ของลูคัส)

“รับทราบ! [พายุหมุนใบมีด (Cyclone Slash)]!” ลูคัสร่ายเวทอย่างรวดเร็ว วงเวทสีฟ้าสว่างวาบที่ปลายไม้เท้าของเขา ก่อนจะปลดปล่อยพายุหมุนที่เต็มไปด้วยใบมีดลมคมกริบเข้าโจมตีกริฟฟินทมิฬจากระยะไกล เน้นไปที่ปีกขนาดใหญ่ของมัน!

[DMG ลูคัส: 1100 – SUPER EFFECTIVE! – ปีกซ้ายของศัตรูบาดเจ็บหนัก!] [Shadow Griffin HP: ลดลงอีก ~2.5%]

[ลูคัส MP: 8930/9000 (99%)]

กริฟฟินทมิฬร้องเสียงแหลมสูงด้วยความเจ็บปวดและพิโรธ มันสะบัดปีกอย่างรุนแรง ขนนกสีดำทมิฬที่แข็งราวกับเหล็กกล้าจำนวนมากพุ่งออกมาจากปีกของมันราวกับห่ากระสุน! “[ห่าขนนกเงา (Shadow Feather Barrage)]!”

“[ม่านพลังจิต (Psionic Barrier)]!” เอลาร่าร่ายเวทป้องกันขึ้นมาทันท่วงที โล่พลังงานสีม่วงอ่อนโปร่งแสงปรากฏขึ้นโอบล้อมกลุ่มได้อย่างหวุดหวิด! เสียงขนนกเหล็กกระทบกับม่านพลังดัง “แคร๊ง! แคร๊ง! แคร๊ง!” ราวกับโลหะกระทบกัน!

[เอลาร่า HP: 1600/1600 (100%)] [เอลาร่า MP: 1750/1800 (97%)]

แต่ขนนกบางส่วนที่รุนแรงกว่าและอาบไปด้วยพลังงานความมืดก็ยังทะลุเข้ามาได้!

[วัลคัส HP: 2130/2500 (85%) – ขนนกปักเข้าที่เกราะแขน!]

[ลีอาน่า HP: 1860/1950 (95%) – เฉี่ยวแก้มไปนิดเดียว!]

[ไทร่า HP: 13700/14000 (97%) – ถูกโจมตีที่ขา!]

“มันยังมีทักษะโจมตีระยะไกลอีก! แถมยังแรงมาก!” วัลคัสตะโกน “ทุกคนระวังตัวด้วย! อย่าให้โดนจังๆ!”

กริฟฟินทมิฬคำรามลั่น “[เสียงคำรามทมิฬ (Dark Roar)]!” คลื่นเสียงความถี่ต่ำแผ่กระจายออกไป ทุกคนรู้สึกถึงพลังป้องกันที่ลดลงเล็กน้อยและอาการมึนงงชั่วขณะ!

[All Targets: DEF/RES -10% for 15 seconds]

มันไม่รอช้า พุ่งเข้าใส่วัลคัสอีกครั้งด้วยกรงเล็บอาบพลังงานความมืด “[กรงเล็บรัตติกาล (Nightfall Claw)]!”

วัลคัสยกโล่ป้องกันสุดชีวิต! “อ๊ากกก!”

[วัลคัส HP: 1630/2500 (65%)] [วัลคัส MP: 725/750 (96%)] – โล่แทบแตก! ได้รับความเสียหายธาตุมืดทะลุเข้ามา!

“วัลคัส!” ลีอาน่าตะโกน ก่อนจะยิง “[ศรตรึงเงา (Shadowbind Arrow)]!” (ทักษะเก่าที่ลองใช้) เข้าที่ขาของกริฟฟิน!

[DMG ลีอาน่า: 450] [Shadow Griffin HP: ลดลงอีก ~1%]

[ลีอาน่า MP: 880/950 (92%)]

กริฟฟินชะงักเล็กน้อย เงามืดพันธนาการขาของมันไว้ชั่วครู่!

เฟียร์และไทร่าอาศัยจังหวะนั้นเข้าโจมตีซ้ำ!

“[ดาบเพลิงผสาน (Twin Flame Strike)]!” เฟียร์ประสานดาบกับไทร่า สร้างคลื่นดาบเพลิงขนาดใหญ่!

[DMG เฟียร์+ไทร่า: 2200 – SUPER EFFECTIVE!] [Shadow Griffin HP: ลดลงอีก ~5%]

[เฟียร์ MP: 10870/11000 (98%)] [ไทร่า MP: 680/800 (85%)]

กริฟฟินทมิฬดิ้นรนหลุดจากพันธนาการ มันโกรธจัดจนขนสีดำตั้งชัน มันบินขึ้นสูง ก่อนจะโฉบลงมาอย่างรวดเร็ว “[โฉบเงา (Shadow Dive)]!” เป้าหมายคือลูคัสที่กำลังร่ายเวท!

“ลูคัสหลบ!” เอลาร่าผลักลูคัสออกไป แล้วยกคทาขึ้นร่ายเวทป้องกัน “[กำแพงแสงมายา (Illusory Light Wall)]!”

กำแพงแสงบางๆ ปรากฏขึ้น แต่กริฟฟินทมิฬก็ทะลวงผ่านเข้ามาได้แม้จะช้าลงเล็กน้อย! กรงเล็บของมันเฉี่ยวแขนเอลาร่า!

[เอลาร่า HP: 1250/1600 (78%)] [เอลาร่า MP: 1690/1800 (93%)]

[ลูคัส HP: 10000/10000 (100%)] (เอลาร่าช่วยไว้ทัน)

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ทุกคนเริ่มอ่อนล้า HP และ MP ลดลงอย่างต่อเนื่อง เฟียร์เห็นลูกธนูสีดำของเงาพิฆาตปักอยู่ที่ซากเหยื่อของกริฟฟิน “ทุกคน! เร่งมือหน่อย! ดูเหมือนว่าพวกเงาพิฆาตจะเคยปะทะกับมันมาก่อนแล้ว! พวกมันอาจจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้!”

ในที่สุด หลังจากการประสานงานโจมตีจุดอ่อนที่ปีกและท้องอย่างต่อเนื่อง กริฟฟินทมิฬก็ส่งเสียงร้องโหยหวนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างมหึมาของมันจะร่วงหล่นลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น

[กริฟฟินทมิฬ ถูกกำจัด!]

[ได้รับค่าประสบการณ์: 35000 EXP (แบ่งตามสัดส่วนความเสียหายและการสนับสนุน)]

[ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับ ‘กริฟฟินทมิฬ’ ถูกเพิ่มในบัญชีข้อมูลอสูรของผู้ที่เกี่ยวข้อง!]

หน้าต่าง “บัญชีข้อมูลอสูร” ของทุกคนในทีมสำรวจปรากฏข้อมูลใหม่ที่ละเอียดขึ้น:

[อัปเดตข้อมูลมอนสเตอร์ – จากการปะทะและการสังหาร]

ชื่อ: กริฟฟินทมิฬแห่งสุสาน (Shadow Griffin of the Sepulchre)

ประเภท: อสูรบินได้/สัตว์อสูร (กลายพันธุ์ธาตุมืด)

ระดับ: 175 (ยืนยันแล้ว)

HP: ประมาณ 45,000 (โดยประมาณ)

จุดเด่น: พลังโจมตีกายภาพสูงมาก, ความเร็วในการเคลื่อนที่และการบินสูง, สามารถใช้พลังธาตุมืดเสริมการโจมตี, กรงเล็บและจะงอยปากคมกริบ, ปีกทรงพลังสร้างพายุเงา, ยิงขนนกอาบพลังมืด

จุดอ่อน: แพ้ธาตุลมรุนแรง, แพ้ธาตุแสงปานกลาง (แต่ต้านทานการโจมตีแสงโดยตรงได้ดี), บริเวณข้อต่อปีกและส่วนท้องค่อนข้างเปราะบางกว่าส่วนอื่น

ความสามารถที่รับรู้ได้: [โฉบเงา (Shadow Dive)], [กรงเล็บรัตติกาล (Nightfall Claw)], [พายุเงา (Shadow Gale)], [ห่าขนนกเงา (Shadow Feather Barrage)], [เสียงคำรามทมิฬ (Dark Roar) – ลดพลังโจมตีและพลังป้องกันของศัตรูในระยะ]

ความต้านทาน: ต้านทานธาตุมืดสูง, ต้านทานธาตุดินสูง, ต้านทานสถานะมึนงงและหวาดกลัวปานกลาง

ไอเทมดรอปที่เป็นไปได้: กรงเล็บเงา, ขนปีกรัตติกาล, แก่นกริฟฟินทมิฬ, ดวงตาสีเพลิง, หินวิญญาณธาตุมืด

“แฮ่ก… แฮ่ก… ในที่สุดก็จัดการได้” วัลคัสทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง

[วัลคัส HP: 625/2500 (25%)] [วัลคัส MP: 600/750 (80%)]

ทุกคนต่างเหนื่อยหอบ แต่ก็รู้สึกโล่งใจ

[ลีอาน่า HP: 1170/1950 (60%)] [ลีอาน่า MP: 380/950 (40%)]

[เอลาร่า HP: 960/1600 (60%)] [เอลาร่า MP: 720/1800 (40%)]

[เฟียร์ HP: 12750/17000 (75%)] [เฟียร์ MP: 6600/11000 (60%)]

[ไทร่า HP: 10500/14000 (75%)] [ไทร่า MP: 440/800 (55%)]

[ลูคัส HP: 8500/10000 (85%)] [ลูคัส MP: 2700/9000 (30%)]

เฟียร์รีบเดินไปตรวจดูซากกริฟฟินและลูกธนูสีดำนั่น “นี่เป็นของพวกเงาพิฆาตแน่ๆ” เธอยืนยัน “พวกมันคงปะทะกับกริฟฟินตัวนี้ แต่ดูเหมือนจะถอยหนีไป หรืออาจจะแค่หยั่งเชิง… ไม่ว่ายังไง พวกมันก็อยู่ข้างหน้าเรานี่เอง!”

หลังจากเก็บ ‘กรงเล็บเงา’, ‘ขนปีกรัตติกาล’, และ ‘แก่นกริฟฟินทมิฬ’ จากซากศัตรูแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจรีบเดินทางต่อ แต่เนื่องจากเส้นทางตรงถูกทำลายไปบางส่วนจากการต่อสู้ พวกเขาจึงต้องอ้อมเข้าไปในซากเรือรบโบราณลำหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้น ซึ่งภายในมืดสนิทและเต็มไปด้วยเงามืดน่าขนลุก

พวกเขาเคลื่อนตัวเข้าไปอย่างระมัดระวัง แสงสว่างมีเพียงน้อยนิดจากคบเพลิงเวทมนตร์ของลูคัส ทันใดนั้น! เงาร่างหลายสายก็พุ่งออกมาจากเงามืด!

“พวกมันอยู่นี่แล้ว! เงาพิฆาต!” ไทร่าตะโกน พร้อมกับเหวี่ยงดาบใหญ่เข้าใส่เงาร่างหนึ่งทันที!

“โจมตี!” เฟียร์สั่งการ ดาบของเธอและธนูของลีอาน่าพุ่งเข้าใส่เงาอื่นๆ! การปะทะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วซากเรือ! วัลคัสแม้จะบาดเจ็บแต่ก็ยังฝืนยกโล่ขึ้นป้องกันการโจมตีที่พุ่งเข้ามาหาเอลาร่า ลูคัสเริ่มร่ายเวทโจมตีหมู่ทันที! ประกายแสงจากสกิลต่างๆ สว่างวาบขึ้นในความมืด เผยให้เห็นการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของศัตรูที่สวมชุดคลุมสีดำสนิท

“เคร้ง! ฉัวะ! ตูม!”

เสียงการต่อสู้ดังระงม! ดาบโค้งของเฟียร์ปะทะกับกริชคู่ของเงาร่างหนึ่งอย่างรุนแรงจนเกิดประกายไฟ

[เฟียร์ HP: 12720/17000 (75%)] (หากโดนโจมตีเล็กน้อย)

ลีอาน่ายิงศรต่อเนื่องสกัดการเคลื่อนไหวของอีกร่างที่พยายามจะลอบโจมตีลูคัสจากด้านหลัง “[ศรรัว (Rapid Fire)]!” ลูกศรสามดอกพุ่งเข้าใส่เป้าหมายอย่างรวดเร็ว!

[ลีอาน่า MP: 360/950 (38%)]

ศัตรูคนนั้นต้องเบี่ยงตัวหลบอย่างหวุดหวิด!

ไทร่าคำรามลั่นขณะที่ดาบใหญ่ของเธอฟาดเข้าใส่โล่ของศัตรูอีกคนจนอีกฝ่ายเซถอยหลัง “[พลังคลื่นกระแทก (Impact Wave)]!” พลังงานกระแทกแผ่ออกมาจากดาบของเธอ!

[ไทร่า MP: 415/800 (52%)]

“พวกมันเคลื่อนไหวได้เร็วมาก! แถมยังประสานงานกันได้ดี!” เอลาร่าตะโกนเตือนขณะที่เธอพยายามร่ายเวทสนับสนุนและวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของศัตรู “ระวังการโจมตีจากมุมอับด้วย! ลูคัส! ใช้เวทแสงส่องสว่างที!”

“รับทราบ! [แสงสว่างส่องวิถี (Guiding Light)]!” ลูคัสร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ลูกบอลแสงสว่างจ้าลอยขึ้นเหนือกลุ่ม ทำให้มองเห็นสภาพแวดล้อมและศัตรูได้ชัดเจนขึ้น!

[ลูคัส MP: 2685/9000 (30%)]

เงาร่างที่พวกเขาคิดว่าเป็นพวกเงาพิฆาตนั้น มีประมาณห้าถึงหกคน แต่ละคนสวมชุดเกราะและใช้อาวุธที่ดูมีระดับ พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและมีแบบแผน แสดงให้เห็นถึงการฝึกฝนมาอย่างดี หนึ่งในนั้นที่ปะทะกับเฟียร์ ใช้กริชคู่โจมตีอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว อีกคนใช้โล่และดาบสั้นคอยป้องกันและสวนกลับการโจมตีของไทร่า ที่เหลือพยายามจะเข้าประชิดกลุ่มนักเวทและนักธนู

วัลคัสที่ HP เหลือน้อย พยายามอย่างสุดกำลังที่จะใช้โล่ป้องกันเอลาร่าและลีอาน่า “อึดอัดชะมัด! พวกแกเป็นใครกันแน่วะ!”

แต่แล้ว…

“เดี๋ยวก่อน! หยุด!” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นเป็นภาษาที่พวกเขาคุ้นเคย แต่ไม่ใช่เสียงของเร็กซ์หรือพวกเงาพิฆาต

เฟียร์ที่กำลังปะดาบกับร่างหนึ่งอยู่ ชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นสัญลักษณ์บางอย่างบนเกราะไหล่ของอีกฝ่าย มันเป็นรูป ‘หมาป่าจันทราคำราม (Howling Moon Wolf)’ สัญลักษณ์ของกิลด์ “รัตติกาลสีเงิน (Silver Nocturne)” หนึ่งในกิลด์ระดับ Top 10 ของเซิร์ฟเวอร์!

“พวกเจ้า… ไม่ใช่เงาพิฆาต!” เฟียร์ตะโกนกลับไปพลางถอยห่างออกมา

การต่อสู้หยุดชะงักลงทันที ทั้งสองฝ่ายต่างจ้องมองกันอย่างระแวดระวัง ท่ามกลางความมืดสลัว พวกเขาเห็นกลุ่มผู้เล่นอีกราว 5-6 คน สวมชุดเกราะชั้นดีและมีอาวุธระดับสูง ทุกคนมีสีหน้าประหลาดใจและงุนงงไม่แพ้กัน

“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่? แล้วมาทำอะไรที่นี่?” ชายร่างสูงใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของกิลด์รัตติกาลสีเงิน ก้าวออกมาข้างหน้าถามด้วยน้ำเสียงกดต่ำ แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความระแวดระวัง แต่ก็มีความประหลาดใจฉายชัดเมื่อเห็นสัญลักษณ์ ‘ปีกอัคคี’ บนชุดของเฟียร์และไทร่า

“ข้าคือเฟียร์ กัปตันแห่งกิลด์ปีกอัคคี” เฟียร์ตอบกลับอย่างสุขุม “เรากำลังตามหาคน และดูเหมือนว่าจะมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น… เรานึกว่าพวกท่านคือกลุ่มเงาพิฆาต”

ชายคนนั้นขมวดคิ้ว “เงาพิฆาตงั้นรึ… พวกมันก็อยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นรึ?” เขาหันไปมองสมาชิกในทีมของตน แววตาของทุกคนดูจริงจังขึ้นทันที “ข้าคือ ‘คาเอเลน (Kaelen)’ หัวหน้าทีม ‘วูล์ฟแพ็ค (Wolf Pack)’ ซึ่งเป็นทีมหลักของกิลด์รัตติกาลสีเงิน เรามาที่นี่เพื่อปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดตามคำสั่งของหัวหน้ากิลด์เรา”

คาเอเลนจ้องมองเฟียร์อย่างประเมิน “ไม่คิดว่าจะได้เจอกิลด์ปีกอัคคีที่นี่… แล้วพวกท่านมาทำอะไรในสถานที่อันตรายแบบนี้? หรือว่าภารกิจของพวกเราจะเกี่ยวข้องกัน?”

ยังไม่ทันที่เฟียร์จะได้ตอบ หรือคาเอเลนจะได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม ทันใดนั้น! เสียงการต่อสู้อันดุเดือดก็ดังกระหึ่มขึ้นมาจากส่วนลึกของซากเรือรบโบราณที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่! เสียงโลหะปะทะกัน เสียงคำรามของอสูร และเสียงระเบิดของพลังเวทมนตร์ดังสะท้อนก้องกังวาน จนพื้นใต้เท้าของพวกเขาสั่นสะเทือนเล็กน้อย!

ทุกคนหันขวับไปยังทิศทางของเสียงนั้นโดยอัตโนมัติ! ความตึงเครียดระลอกใหม่ก่อตัวขึ้นทันที!

“เสียงนั่นมัน…” ลีอาน่าอุทานออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกังวล “หรือว่าจะเป็น… ทีมของเรเวน!?”

“เป็นไปได้สูง!” เฟียร์ขมวดคิ้ว “และถ้าเสียงการต่อสู้ดังขนาดนี้… แสดงว่าพวกเขากำลังเจองานหนัก!”

คาเอเลนมองไปยังทิศทางนั้นด้วยแววตาครุ่นคิด “หรืออาจจะเป็นพวกเงาพิฆาต… กำลังปะทะกับอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้” เขากล่าว “ไม่ว่าจะเป็นใคร… ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ได้มีแค่พวกเราสองกลุ่มเสียแล้ว”

“เราต้องรีบไปดู!” ลีอาน่ากล่าวอย่างร้อนรน “ถ้าเป็นเพื่อนของเราจริงๆ พวกเขาอาจจะกำลังต้องการความช่วยเหลือ!”

เฟียร์พยักหน้าเห็นด้วยกับลีอาน่า “คาเอเลน… ดูเหมือนว่าเราอาจจะมีศัตรูร่วมกัน หรืออย่างน้อยก็มีเป้าหมายที่อาจจะเกี่ยวข้องกันในสถานที่แห่งนี้” เธอมองไปยังทิศทางของเสียงการต่อสู้ “พวกเรากำลังจะไปตรวจสอบสถานการณ์ตรงนั้น พวกท่านจะร่วมไปด้วยหรือไม่?”

คาเอเลนมองลูกทีมของตนครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองเฟียร์ “ภารกิจของเราอาจจะเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก็ได้… เอาล่ะ พวกเราจะไปกับพวกท่าน แต่ขอให้ระวังตัวกันด้วย สถานที่นี้มันไม่น่าไว้วางใจ”

ทั้งสองกลุ่มตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดเสียงการต่อสู้ทันที แม้จะยังคงมีความหวาดระแวงต่อกันอยู่บ้าง แต่สถานการณ์ที่อาจจะมีภัยคุกคามที่ใหญ่กว่ารออยู่ ทำให้พวกเขาต้องพักเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวไว้ก่อน ทางเดินภายในซากเรือนั้นคับแคบและมืดมิดยิ่งกว่าเดิม กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นไหม้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผสมกับกลิ่นอับชื้นของไม้ผุพังและสนิมเหล็ก

ระหว่างทางที่พวกเขาเร่งฝีเท้าไปตามทางเดินที่คดเคี้ยวและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง ภาพที่ปรากฏแก่สายตานั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าที่เคยพบเจอมา ซากของอสูรกลายพันธุ์หลากหลายชนิดนอนตายเกลื่อนกลาด สภาพของมันบ่งบอกถึงการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมและรุนแรงอย่างที่สุด

บางร่างถูกฉีกกระชากจนชิ้นส่วนกระจายเกลื่อนพื้น เลือดสีเขียวคล้ำและสีดำสนิทไหลนองเป็นแอ่ง ส่งกลิ่นคาวคลุ้งจนแสบจมูก อวัยวะภายในที่ยังคงเต้นตุบๆ อย่างแผ่วเบาถูกลากไส้ออกมาพันเกี่ยวกับเศษไม้และเสากระโดงเรือที่หักโค่น กองกระดูกที่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดกองรวมกันอยู่เป็นหย่อมๆ ราวกับถูกพลังทำลายล้างมหาศาลกระแทกเข้าใส่

ผนังทางเดินเต็มไปด้วยรอยกรงเล็บขนาดใหญ่ที่ขูดลึกเข้าไปในเนื้อไม้ราวกับถูกคมมีดกรีด บางจุดมีรอยไหม้เกรียมเป็นวงกว้าง ควันสีดำยังคงลอยอ้อยอิ่งอยู่จางๆ ส่งกลิ่นกำมะถันและเนื้อไหม้ที่ชวนให้คลื่นเหียน เศษเกล็ดแข็งสีดำทมิฬและขนปีกที่ถูกฉีกกระชากตกอยู่เกลื่อนกลาด บ่งบอกถึงการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของเหล่าอสูรที่พยายามจะเอาชีวิตรอด

“นี่มัน… การต่อสู้แบบไหนกันแน่…” ลูคัสพึมพำออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือด แม้จะเป็นผู้เล่นที่เคยผ่านการต่อสู้มาบ้าง แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ามันก็เกินกว่าจะจินตนาการ ความโหดเหี้ยมของการสังหารหมู่นี้มันชัดเจนเกินไป ราวกับว่าผู้ที่ก่อเหตุไม่ได้แค่ต้องการจะฆ่า แต่ต้องการจะ ‘ทำลาย’ ทุกสิ่งทุกอย่างให้สิ้นซาก

“ดูจากร่องรอยแล้ว… ไม่ใช่ฝีมือของคนกลุ่มเดียวแน่ๆ” คาเอเลนวิเคราะห์ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “มีทั้งร่องรอยการใช้เวทมนตร์ธาตุที่หลากหลายและรุนแรง ทั้งไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า และ… พลังงานความมืดที่เข้มข้นผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีการโจมตีทางกายภาพที่หนักหน่วงและแม่นยำ ราวกับเป็นฝีมือของนักสู้ระดับสูงหลายคนร่วมมือกัน”

เฟียร์พยักหน้าเห็นด้วย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “และดูเหมือนว่า… พวกมันจะสู้กับอะไรบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่าพวกมันมาก หรือไม่ก็… มีใครบางคนกำลัง ‘กวาดล้าง’ ทุกสิ่งที่ขวางทาง” เธอมองไปยังปลายทางเดินที่เริ่มมีแสงสว่างรำไรลอดเข้ามา พร้อมกับเสียงการต่อสู้ที่ดังชัดเจนขึ้นทุกขณะ “เราใกล้จะถึงแล้ว… เตรียมตัวให้พร้อม! ไม่ว่าอะไรจะรออยู่ข้างหน้า… มันต้องไม่ธรรมดาแน่!”

ความมืดและซากปรักหักพังของเรือรบโบราณกลืนกินร่างของพวกเขาทั้งสองกลุ่มเข้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาใกล้ถึงจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นโถงกว้างภายในซากเรือที่ใหญ่ที่สุด เสียงการต่อสู้ก็ยิ่งดังชัดเจนขึ้นจนน่าใจหาย แสงสว่างจากทักษะและเวทมนตร์สาดส่องออกมาเป็นระยะ เผยให้เห็นเงาร่างที่กำลังเคลื่อนไหวต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงจากภายในโถงนั้น ตามมาด้วยเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและเสียงของหนักๆ ตกกระแทกพื้น! ก่อนที่ทุกคนจะได้ทันตั้งตัว ร่างของผู้เล่นคนหนึ่งในชุดเกราะสีเงินแวววาวก็ลอยละลิ่วออกมาจากปากทางเข้าโถงนั้นราวกับถูกซัดด้วยพลังมหาศาล! ร่างนั้นกระแทกเข้ากับผนังซากเรือที่อยู่ไม่ไกลจากกลุ่มของเฟียร์และคาเอเลนมากนัก ก่อนจะร่วงลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น!

“นั่นมัน…!” คาเอเลนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขารีบวิ่งเข้าไปดูร่างนั้นทันที “ไม่ผิดแน่! สัญลักษณ์นั่นมัน… ‘อัศวินมังกรคราม (Azure Dragon Knights)’! หนึ่งในกิลด์ Top 5 ของเซิร์ฟเวอร์!” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก “แล้วคนที่นอนอยู่นั่น… ถ้าข้าจำไม่ผิด เขาคือ ‘ลีโอ (Leo)’ รองหัวหน้ากิลด์อัศวินมังกรคราม!”

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?