ตอนที่ 12 การเดินทางอันตรายสู่เกาะมรณะ
ท่าเรือหลักของไซฟาร์ยังคงคึกคักแม้ตะวันจะลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงสีส้มสุดท้ายของวันอาบไล้บนเสากระโดงเรือ “วายุคำรณ” ที่จอดเทียบท่าอย่างสง่างาม เรือลำนี้เป็นสมบัติของกิลด์ “ปีกอัคคี” กิลด์อิสระที่ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้เล่นมากประสบการณ์ ลีอาน่า, วัลคัส, และเอลาร่า ยืนประจันหน้ากับชายผู้ดูมีอายุแต่แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์ และหญิงสาวผมแดงเพลิงผู้เป็นกัปตันเรือ ดวงตาสีเขียวมรกตคมกริบของนางมองสำรวจพวกเขาราวกับกำลังประเมินผู้เล่นหน้าใหม่
“สุสานเรืออับปาง?” กัปตันเฟียร์ทวนคำ น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความสนใจ “พวกคุณดูไม่เหมือนพวก ‘มือใหม่’ ที่คลั่งไคล้ภารกิจในตำนาน หรือพวกอยากลองของที่พร้อมจะเอาค่าประสบการณ์ไปโยนทิ้งทะเลแถวนั้นสักเท่าไหร่ บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงมาดีกว่า หรือว่า… พวกคุณเองก็เป็น ‘ผู้เล่น’ เหมือนกัน?” แววตาของเธอมีประกายบางอย่างที่บ่งบอกว่าเธอมองออก
ลีอาน่ามองเพื่อนๆ แวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ใช่ค่ะ พวกเรา… มาจากที่ไกลมาก และมีภารกิจด่วนที่ต้องไปที่นั่น กัปตันเฟียร์ เพื่อนของเรา… พวกเขาอาจจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย และต้องการกำลังเสริม”
“สถานการณ์อันตรายที่สุสานเรืออับปางน่ะมันเป็นเรื่องปกติของแถบนั้นอยู่แล้ว คุณหนู” บาร์นาบี้ ต้นหนผู้ดูมีอายุพูดแทรกขึ้น พลางอมยิ้มเจ้าเล่ห์ เคาะไปป์เบาๆ “ไม่ว่าจะเป็นพวกอสูรระดับหัวหน้าที่ทิ้งของหายาก สภาพอากาศที่สุ่มผลกระทบแปลกๆ ยังกับระบบมันรวน หรือพวกนักล่าผู้เล่นกลุ่ม ‘อสรพิษทะเลคลั่ง’ ที่ชอบใช้แถวนั้นเป็นเขตหากินของพวกมัน”
วัลคัสขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเราประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นจากฐานข้อมูลที่เรามีแล้วครับท่านต้นหน แต่ภารกิจนี้มันสำคัญยิ่งกว่าการเสียไอเทมหรือค่าประสบการณ์ของพวกเรา”
เฟียร์หรี่ตามองพวกเขา “ความกล้าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าปราศจากข่าวกรองและการวางแผนที่รัดกุม มันก็ไม่ต่างจากการบุกเดี่ยวเข้าไปในเขตอันตรายอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่” เธอกล่าวเสียงเย็น “สุสานเรืออับปางไม่ใช่พื้นที่สำหรับผู้เล่นเริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา… มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับสัญญาณพลังงานผิดปกติที่ปะทุขึ้นจากใจกลางหมู่เกาะนั้น ทำให้ทะเลแถบนั้นปั่นป่วนเหมือนระบบกำลังจะล่ม หรือมีเหตุการณ์ใหญ่ของโลกกำลังจะเกิด”
เอลาร่าที่เงียบฟังอยู่นานเบิกตากว้าง “ข่าวลือเรื่องสัญญาณพลังงาน… ท่านก็ได้รับข่าวนี้หรือคะ? มันตรงกับข้อมูลที่เราเพิ่งได้มาจากผู้ติดต่อของเรา!”
เฟียร์เลิกคิ้วเล็กน้อย แววตาคมกริบมองไปยังเอลาร่า “ไซฟาร์เป็นศูนย์กลางของข้อมูล ข่าวไหนจริง ข่าวไหนลวง ก็ต้องรู้จักกลั่นกรองเอาเอง แต่เรื่องพลังงานนั่น… ข้าว่ามันไม่ใช่แค่ข่าวลือ” เธอมองกลับมาที่ลีอาน่า “พวกคุณไม่ได้แค่จะไปช่วยเพื่อนใช่ไหม? มันมีภารกิจหลักอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้น บอกมาตามตรง”
ลีอาน่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ใช่ค่ะ… เรื่องนี้มันเกี่ยวพันกับกลุ่ม ‘เงาพิฆาต’ และชายที่ชื่อ ‘เร็กซ์’ พวกมัน… พวกมันก็กำลังมุ่งหน้าไปที่นั่นเช่นกัน และเราต้องหยุดพวกมันให้ได้”
ชื่อ ‘เงาพิฆาต’ และ ‘เร็กซ์’ ทำให้บรรยากาศรอบตัวพลันหนักอึ้งขึ้นทันที บาร์นาบี้หยุดเคาะไปป์ ส่วนเฟียร์ ดวงตาของเธอทอประกายแข็งกร้าวขึ้น
“เงาพิฆาต…” เฟียร์พึมพำชื่อนั้นออกมา ดวงตาหรี่ลง “กิลด์นักฆ่าที่ทำงานในเงามืด ว่ากันว่าฝีมือระดับแนวหน้า และไม่เคยทิ้งร่องรอย ส่วน ‘เร็กซ์’… ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนจริงๆ ของมันยังคงเป็นแค่เรื่องเล่าลือเสียส่วนใหญ่ แม้แต่ในเครือข่ายข่าวของข้าก็ตาม รู้แต่เพียงว่ามันเป็นผู้นำที่อันตรายและโหดเหี้ยม และมีทักษะ [จิตสูบวิญญาณ (Soul Siphon)] ที่ร้ายกาจมากนั่น”
“ดูเหมือนว่าพวกคุณจะไปจุดชนวนเหตุการณ์ใหญ่เข้าให้แล้วนะ” บาร์นาบี้พูดพลางส่ายหน้า “การงัดข้อกับเงาพิฆาต… ไม่ต่างอะไรกับการเดินเข้าลานประลองบอสโดยไม่มีตัวช่วย”
“พวกเราทราบดีค่ะ” ลีอาน่ายืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น พวกมันทำเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้กับพวกเรา”
เฟียร์มองพวกเขาอีกครั้ง คราวนี้แววตาของเธอมีความเข้าใจมากขึ้นเล็กน้อย “ข้าเข้าใจเรื่องราววุ่นวายของพวกคุณดี” เธอกล่าว “กิลด์ ‘ปีกอัคคี’ ของข้าก็มีบัญชีแค้นที่ต้องชำระกับคนบางกลุ่มเช่นกัน และภารกิจของพวกเราในครั้งนี้ ก็มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สุสานเรืออับปาง… และดูเหมือนว่าไอเทมภารกิจของเรากับพวกเงาพิฆาต อาจจะชิ้นเดียวกัน”
“ไอเทมภารกิจชิ้นเดียวกัน?” เอลาร่าทวนคำอย่างสนใจ
เฟียร์พยักหน้า “มี ‘วัตถุโบราณ’ ชิ้นหนึ่งที่เราต้องไปเอามาจากที่นั่น และมีข่าวกรองที่น่าเชื่อถือว่ากลุ่มเงาพิฆาตก็กำลังตามหามันอยู่เช่นกัน ถ้ามันตกไปอยู่ในมือพวกนั้น… โลกนี้อาจจะถึงคราวเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก่อนเวลาก็เป็นได้”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น…” วัลคัสกล่าวอย่างมีเหตุผล “บางทีการร่วมกลุ่มกันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย?”
เฟียร์ยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่อ่านไม่ออก “ข้อเสนอที่น่าสนใจ… แต่พวกคุณมีอะไรมาแสดงให้ข้าเห็นว่าพวกคุณไม่ใช่ตัวถ่วง? เรือของข้ามีคนของกิลด์ที่เป็นชาวโลกนี้ร่วมเดินทางด้วยก็จริง แต่ทุกคนก็ฝีมือระดับพระกาฬ และการบุกครั้งนี้มันอันตรายเกินกว่าจะแบกภาระที่ไม่จำเป็นไปด้วย”
“พวกเราอาจจะระดับพลังไม่สูงเท่าเมื่อก่อน” ลีอาน่าตอบอย่างไม่ย่อท้อ “แต่พวกเรายังมีฝีมือในการต่อสู้ ความมุ่งมั่นที่จะเอาคืน และ… ข้อมูลบางอย่างที่อาจจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเส้นทางการเดินทางของท่าน” เธอเหลือบมองเอลาร่า
เอลาร่าก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย “เรามีข้อมูลเกี่ยวกับ ‘อสูรระดับโลก’ ที่เพิ่งตื่นขึ้น และความไม่เสถียรของเขตพื้นที่นั้น ซึ่งอาจจะช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงกับดักที่ไม่จำเป็นได้ค่ะ” เธอกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “และพวกเราทุกคนก็พร้อมจะทำหน้าที่ป้องกัน โจมตี หรือสนับสนุน เคียงข้างท่านและพรรคพวกของท่านอย่างสุดกำลัง”
การเจรจาดำเนินไปอย่างเข้มข้นและตรงไปตรงมา เฟียร์ซักถามถึงประเภทความสามารถ ทักษะ และคุณสมบัติของแต่ละคนอย่างละเอียด ขณะที่บาร์นาบี้คอยสังเกตและกระซิบกระซาบกับกัปตันของเขาเป็นระยะ ในที่สุด หลังจากเห็นความมุ่งมั่นที่แท้จริงในแววตาของลีอาน่า และพิจารณาถึงผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว เฟียร์ก็ตัดสินใจ
“ตกลง” เฟียร์กล่าวเสียงเฉียบขาด “ข้าจะให้พวกคุณเดินทางไปกับ ‘วายุคำรณ’ แต่มีเงื่อนไข… พวกคุณต้องปฏิบัติตามคำสั่งของข้าอย่างเคร่งครัดเมื่ออยู่บนเรือ และหากมีการปะทะเกิดขึ้น พวกคุณต้องช่วยป้องกันเรือและสมาชิกปีกอัคคีของข้าอย่างเต็มกำลังความสามารถ ส่วนเรื่อง ‘วัตถุโบราณ’ ที่พวกเราตามหา… หากพวกคุณมีส่วนช่วยให้ภารกิจของข้าสำเร็จลุล่วง ข้าอาจจะมีรางวัลตอบแทนให้พวกคุณมากกว่าแค่การเดินทางฟรีก็เป็นได้”
ข้อตกลงถูกทำขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการจับมือกันอย่างหนักแน่น
“เตรียมตัวให้พร้อม” เฟียร์สั่งการคนของเธอด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน “เราจะออกเรือทันทีที่ถึงเวลาที่เหมาะสม! สุสานเรืออับปางรอเราอยู่!”
กลุ่มของลีอาน่ามองหน้ากัน ในที่สุดพวกเขาก็มีหนทางแล้ว…
เรือ “วายุคำรณ” ถอนสมอออกจากท่าเรือไซฟาร์ในคืนที่เมฆทะมึนบดบังแสงจันทร์ คลื่นลมเริ่มแรงขึ้น ลีอาน่า, วัลคัส, และเอลาร่า ได้รับการจัดสรรพื้นที่เล็กๆ ใต้ดาดฟ้า สมาชิกของ ‘ปีกอัคคี’ ที่พวกเขาได้ทำความรู้จักคร่าวๆ มีทั้งนักดาบกล้ามโตที่ชื่อ ‘กริซซ์’, มือธนูเอลฟ์สาวผู้เงียบขรึมชื่อ ‘ซิลวี่’, และนักเวทมนตร์ท่าทางเจ้าเล่ห์ที่ชื่อ ‘ฟินเนียส’ ทุกคนล้วนเป็นชาวโลกนี้ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและภักดีต่อกิลด์ปีกอัคคี
เอลาร่าใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับบาร์นาบี้ “ท่านต้นหนคะ” เธอเริ่มบทสนทนาด้วยความนอบน้อม “สุสานเรืออับปางที่ว่านั่น… มันอันตรายระดับสูงมากเลยรึเปล่าคะ? นอกจากพวกอสูรทั่วไปกับพวกนักล่าผู้เล่นแล้ว ยังมีอะไรที่พวกเราควรจะระวังเป็นพิเศษอีกไหมคะ?”
บาร์นาบี้พ่นควันไปป์ออกมาเป็นวง ก่อนจะหัวเราะหึๆ “คุณหนูเอ๊ย… ที่นั่นมันยิ่งกว่าดันเจี้ยนสุดโหดเสียอีก กลไกของกระแสน้ำมันซับซ้อนจนเหมือนปริศนาชั้นยอด คนที่ไม่ชำนาญทางจริงๆ ไม่มีวันหาเขตปลอดภัยหรือทางออกได้ถูกหรอก แถมยังมีหมอกหนาที่ทำให้การมองเห็นลดลงได้ง่ายๆ ขนาดเรือที่เสริมความแข็งแกร่งมาเต็มที่กว่า ‘วายุคำรณ’ ของพวกข้าหลายเท่า เข้าไปแล้วก็ยังหาทางออกมาไม่ได้เลยก็มี” เขาหยุดเล็กน้อย มองออกไปยังทะเลมืดมิด “ส่วนเรื่องอสูรผู้พิทักษ์ที่พวกคุณว่า… ถ้ามันปรากฏตัวขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็… ข้าว่าพวกเราทุกคนคงต้องเริ่มนับถอยหลังชีวิตกันใหม่หมดแหงๆ”
ขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่นั้นเอง เสียงตะโกนจากกะลาสีคนหนึ่งบนเสากระโดงก็ดังลั่น!
“กัปตัน! มีสัญญาณบางอย่างในน้ำ! ทางกราบขวา! ขนาดมหึมา!”
เฟียร์ที่กำลังยืนคุมหางเสืออยู่หันขวับไปมองทันที “ลักษณะเป็นยังไง! รายงานสถานการณ์มา!”
“มองไม่ชัดครับกัปตัน! มันอยู่ใต้ผิวน้ำ แต่… แต่เงาร่างของมัน… ใหญ่พอๆ กับเรือของเราเลยครับ! กำลังเคลื่อนที่เร็วมาก!”
ยังไม่ทันขาดคำ! น้ำทะเลบริเวณกราบขวาของเรือก็ปั่นป่วนอย่างรุนแรง! ก่อนที่หนวดสีดำทะมึนขนาดมหึมาหลายเส้นจะพุ่งทะยานขึ้นมาจากผิวน้ำ! ปลายหนวดของมันมีปุ่มดูดที่ส่องแสงสีฟ้าเรืองรองในความมืด มันตวัดเข้าใส่ดาดฟ้าเรืออย่างรุนแรง!
“เคร้ง! โครม!” หนวดเส้นหนึ่งฟาดเข้ากับเสากระโดงเรือจนไม้แตกกระจาย! อีกเส้นหนึ่งกวาดเอาถังไม้และเชือกบนดาดฟ้าปลิวว่อน!
“อสูรทะเล!” วัลคัสตะโกนลั่น เขารีบยกโล่ไม้เสริมเหล็กขึ้นป้องกันทันที “ทุกคนระวังตัว!”
ลีอาน่าพยายามเปิด “บัญชีข้อมูลอสูร” (Monster Data Ledger) ส่วนตัวของเธอทันที หน้าต่างข้อมูล ปรากฏขึ้นในการรับรู้ของเธอ แต่ภายในกลับว่างเปล่า มีเพียงข้อความแจ้งว่า [ไม่พบข้อมูลมอนสเตอร์ชนิดนี้ในบัญชีข้อมูลส่วนตัว]
“ไม่เคยเจอมาก่อนเลย!” ลีอาน่าตะโกนบอกเพื่อนๆ ขณะคว้าคันธนูขึ้นประทับสาย ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังหนวดอสูรที่กำลังอาละวาด “เอลาร่า! คัมภีร์ของเจ้าล่ะ! ลองตรวจสอบมันดูซิ!”
เอลาร่าพยักหน้ารับ พยายามเปิดคัมภีร์นักสำรวจที่เปียกชื้นของเธออย่างร้อนรน หน้าต่างข้อมูลมอนสเตอร์เบื้องต้น ปรากฏขึ้นในการรับรู้ของเธอ สั่นไหวและไม่ชัดเจน:
[ข้อมูลมอนสเตอร์เบื้องต้น – คัมภีร์นักสำรวจ (ชำรุด)]
ชื่อ: เลเวียธานแห่งห้วงลึก (Deep Sea Leviathan) (คาดการณ์ – ไม่ยืนยัน)
ประเภท: อสูรทะเลขนาดมหึมา (คาดการณ์)
ระดับ: ??? (คาดการณ์: สูงมาก – อันตรายร้ายแรง!)
HP: ??? (ระบบไม่สามารถประเมินได้)
จุดเด่น: หนวดทรงพลังจำนวนมาก, ขนาดมหึมา, อาจมีพลังโจมตีธาตุน้ำ
จุดอ่อนที่สังเกตได้: (ข้อมูลเสียหาย/ไม่ชัดเจน – อาจจะเป็นดวงตาหรือแกนกลางลำตัว หากปรากฏ)
ความสามารถที่รับรู้ได้: [หนวดรัดมรณะ (Constricting Tentacles)], [คลื่นยักษ์ (Tidal Wave) – คาดการณ์จากแรงปะทะ]
คำเตือน: ข้อมูลไม่สมบูรณ์อย่างยิ่ง! การปะทะโดยตรงมีความเสี่ยงสูงมาก!
“ข้อมูลพื้นฐานมากค่ะ!” เอลาร่าตะโกนแข่งกับเสียงคลื่นลม “แต่ดูเหมือนมันจะแพ้การโจมตีที่รุนแรงเป็นจุดๆ หรือไม่ก็…ไฟ! ระดับพลังของมัน… สูงกว่าที่เราเคยเจอมามาก!”
เฟียร์ที่ได้ยินข้อมูลจากเอลาร่า และกำลังเรียกดูข้อมูลจากคลังข้อมูลของกิลด์ปีกอัคคีผ่านหน้าต่างแสดงข้อมูลของตนเอง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ “บ้าน่า! ‘เลเวียธานแห่งห้วงลึก’ งั้นรึ!? เหตุการณ์บ้าอะไรกันเนี่ย! สัตว์อสูรระดับนี้มันไม่ควรจะมาปรากฏตัวในเขตน่านน้ำนี้! นี่มันใกล้กับเส้นทางการค้ามากเกินไป! หรือว่า… สัญญาณพลังงานที่สุสานเรือมันมีปัญหาจนส่งผลกระทบกว้างกว่าที่เราคิด!” ความกังวลฉายชัดในแววตาของเธอเป็นครั้งแรก
“เหล่าปีกอัคคี! เตรียมฉมวกอาบน้ำมันดิน! ปืนใหญ่หน้าเรือเตรียมยิงกระสุนเพลิง!” เฟียร์ตะโกนสั่งอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ดาบโค้งในมือของเธอเปล่งประกายแสงสีแดงจางๆ “แสดงให้มันเห็นว่าทะเลนี้ใครคุม! กลุ่มของพวกคุณด้วย! ช่วยกันป้องกันเรือ! ถ้าเรือพัง… พวกเราทั้งหมดได้จบเกมกันหมดแน่!”
“ฟังนะทุกคน!” เฟียร์ตะโกนเสียงดัง “จากข้อมูลที่กิลด์ปีกอัคคีเคยรวบรวมมา ระบุว่า ‘เลเวียธาน’ พันธุ์นี้มีจุดอ่อนสำคัญอยู่ที่ ‘ดวงตาหลัก’ ซึ่งมักจะซ่อนอยู่ใต้ลำตัวส่วนหน้า และจะเผยออกมาเมื่อมันเตรียมจะใช้ทักษะโจมตีแบบ ‘คลื่นเสียงสะท้าน’! นอกจากนั้น ปุ่มดูดเรืองแสงบนหนวดของมันก็เป็นจุดที่เปราะบางเช่นกัน แต่ต้องโจมตีให้แม่นยำและรุนแรงพอที่จะทำลายมันได้! มันต้านทานการโจมตีธาตุน้ำแข็งสูง แต่ค่อนข้างแพ้ไฟและสายฟ้า!”** หน้าต่างข้อมูลสรุปจากคลังข้อมูลของกิลด์ปรากฏขึ้นในการรับรู้ของสมาชิกปีกอัคคี และกลุ่มของลีอาน่าที่อยู่ในระยะการแชร์ข้อมูลของกัปตัน
กัปตันเฟียร์ชี้ดาบไปยังหนวดเส้นมหึมา “บาร์นาบี้! คุมหางเสือให้ดี! พยายามหลบการโจมตีตรงๆ ของมัน! ลีอาน่า! ถ้ามีลูกศรธาตุไฟหรืออะไรที่สร้างความร้อนได้ เตรียมยิงไปที่หนวดมัน! วัลคัส! เอลาร่า! คอยสนับสนุน และระวังหนวดที่อาจจะตวัดมาจากใต้น้ำ! ส่วนที่เหลือ! โจมตีไปที่ปุ่มเรืองแสงบนหนวด! อย่าให้มันจับเรือเราได้! ถ้ามันเริ่มรวบรวมพลังงานที่ปาก หรือมีเสียงหวีดแหลมดังขึ้น นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของ ‘คลื่นเสียงสะท้าน’ ให้ทุกคนหาที่กำบังหรืออุดหูทันที!”
การต่อสู้กลางทะเลลึกที่เดิมพันด้วยชีวิตได้เริ่มต้นขึ้น! หนวดของเลเวียธานฟาดลงมาบนดาดฟ้าเรืออย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายอย่างหนัก นักสู้ของปีกอัคคีพยายามยิงฉมวกและปืนใหญ่เข้าใส่ แต่ผิวหนังที่หนาของมันก็ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน ลีอาน่าพยายามยิงลูกศรไปยังปุ่มดูดเรืองแสงตามที่เฟียร์บอก แต่ด้วยการโคลงเคลงของเรือและความเร็วของหนวด ทำให้การเล็งเป็นไปได้ยาก
“วัลคัส! ช่วยป้องกันหนวดเส้นนั้นไว้ที!” ลีอาน่าตะโกน ขณะที่หนวดเส้นหนึ่งกำลังจะกวาดเอลาร่าที่กำลังร่ายเวทสนับสนุนตกทะเล
วัลคัสคำรามลั่น พุ่งเข้าไปใช้โล่กระแทกหนวดเส้นนั้นอย่างเต็มแรง แม้จะทำให้มันชะงักไปได้บ้าง แต่แรงมหาศาลของมันก็ซัดเขากระเด็นไปชนกับกราบเรือ [วัลคัส HP: ลดลง 30%]
“บ้าเอ๊ย! ค่าพลังมันสูงเกินไป!” วัลคัสกัดฟันพูด
เฟียร์ตวัดดาบโค้งของเธอเข้าใส่หนวดอีกเส้นที่พยายามจะรัดเสากระโดงหลัก ดาบของเธออาบไปด้วยเปลวไฟสีแดงจางๆ สร้างรอยไหม้เป็นทางยาวบนผิวหนังของมัน [DMG: สูงพอสมควร] แต่มันก็ยังไม่ยอมปล่อย!
“ปืนใหญ่! ยิงไปที่ฐานของหนวดเส้นนั้น!” เฟียร์ตะโกนสั่ง
ตูม! เสียงปืนใหญ่ดังสนั่น กระสุนเพลิงพุ่งเข้าปะทะโคนหนวดเส้นหนึ่งอย่างจัง! หนวดเส้นนั้นกระตุกอย่างรุนแรงก่อนจะอ่อนแรงลงและจมหายไปใต้ผิวน้ำ!
[เลเวียธานแห่งห้วงลึก: หนวดเสียหาย 1 เส้น! ข้อมูลใหม่ถูกเพิ่มในบัญชีข้อมูลอสูรของผู้ที่เกี่ยวข้อง!]
หน้าต่าง “บัญชีข้อมูลอสูร” ของลีอาน่า, วัลคัส, เอลาร่า รวมถึงเฟียร์และบาร์นาบี้ ปรากฏข้อมูลเพิ่มเติม:
[อัปเดตข้อมูลมอนสเตอร์ – จากการปะทะ]
ชื่อ: เลเวียธานแห่งห้วงลึก (Deep Sea Leviathan)
…
จุดอ่อนที่สังเกตได้: ดวงตาหลัก (ยังไม่ปรากฏ), ปุ่มดูดเรืองแสงบนหนวด (ต้องใช้การโจมตีธาตุไฟหรือสายฟ้าจึงจะได้ผลดี), **โคนหนวด (หากถูกทำลายอย่างรุนแรง หนวดจะใช้งานไม่ได้ชั่วคราวหรือถาวร)**
ความสามารถที่รับรู้ได้: [หนวดรัดมรณะ (Constricting Tentacles)], [คลื่นยักษ์ (Tidal Wave)], **[ฟื้นฟูหนวด (Tentacle Regeneration) – คาดการณ์: อาจสามารถงอกหนวดใหม่ได้หากมีเวลา]**
…
“มันฟื้นฟูหนวดใหม่ได้!?” เอลาร่าอุทานเมื่อเห็นข้อมูลใหม่ “เราต้องรีบโจมตีมันหนักๆ!”
แต่ดูเหมือนเลเวียธานจะโกรธจัดยิ่งกว่าเดิม หนวดที่เหลืออยู่ของมันตวัดรุนแรงขึ้น คลื่นน้ำขนาดใหญ่ถูกซัดเข้าใส่เรือ “วายุคำรณ” จนเอียงกระเท่เร่!
“ทุกคนจับให้มั่น!” บาร์นาบี้ตะโกน พยายามคุมหางเสือสุดชีวิต
“มันกำลังจะใช้ท่าไม้ตาย!” เฟียร์สังเกตเห็นส่วนหัวของเลเวียธานที่เริ่มจะโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาเล็กน้อย ปากของมันอ้ากว้าง เผยให้เห็นดวงตาหลักสีแดงก่ำที่ลุกโชนอยู่ภายใน พร้อมกับเสียงหวีดแหลมที่เริ่มดังขึ้น! “คลื่นเสียงสะท้าน! อุดหู! หาที่กำบัง!”
เสียงหวีดแหลมนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทุกคนรู้สึกปวดแก้วหูอย่างรุนแรง! คลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นแผ่กระจายออกมาจากปากของเลเวียธาน!
“ไม่ไหวแล้ว! พลังทำลายมันแรงเกินไป!” สมาชิกคนหนึ่งของปีกอัคคีร้องลั่น ก่อนจะถูกพลังงานนั้นซัดจนกระเด็นตกทะเลไป! (การตายของคนในโลกนี้ถือเป็นการสูญเสียถาวร)
“ถอย! บาร์นาบี้! พาเรือหนีจากมัน! เราสู้มันตรงๆ ไม่ไหวแน่!” เฟียร์ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว การสูญเสียคนของกิลด์ แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยง แต่ก็ส่งผลต่อกำลังรบ “ใช้ความเร็วของเรือให้เป็นประโยชน์! ล่อมันไปยังแนวหินโสโครกทางนั้น! บางทีเราอาจจะใช้สภาพแวดล้อมช่วยได้!”
เรือ “วายุคำรณ” เริ่มเปลี่ยนทิศทางอย่างทุลักทุเล หนวดของเลเวียธานยังคงไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ การหลบหนีจากอสูรทะเลในตำนานครั้งนี้… เดิมพันด้วยชีวิตของทุกคนบนเรือ! คลื่นยักษ์ที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของมันซัดกระหน่ำราวกับต้องการจะกลืนกินทุกสิ่ง ใบเรือเริ่มฉีกขาดจากแรงลมและเศษซากที่ปลิวว่อน
“กัปตัน! หางเสือเริ่มควบคุมยากแล้วครับ!” บาร์นาบี้ตะโกนแข่งกับเสียงพายุฝนที่เริ่มเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
“บ้าที่สุด!” เฟียร์สบถ เธอมองไปยังแนวหินโสโครกที่ยังอยู่ไกลออกไป “ต้องไปให้ถึง! ลีอาน่า! วัลคัส! เอลาร่า! พวกคุณพอจะมีทักษะอะไรที่ช่วยชะลอความเร็วของมันได้อีกไหม!?”
ลีอาน่ากัดฟันแน่น ลูกศรธรรมดาแทบจะทำอะไรมันไม่ได้เลย “ข้าจะลองยิงไปที่ตาของมันอีกครั้ง! ถึงแม้จะมองแทบไม่เห็นก็ตาม!” เธอง้างคันธนูสุดแรง ท่ามกลางสายฝนและคลื่นลมที่บ้าคลั่ง
วัลคัสพยายามใช้โล่ปัดป้องเศษซากที่ปลิวมากับคลื่น “ข้าจะพยายามดึงดูดความสนใจของหนวดมันไว้ให้มากที่สุด! แต่คงได้ไม่นาน!”
เอลาร่ามองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว “ถ้าเราทำให้เกิดการระเบิดใต้น้ำใกล้ๆ ตัวมัน อาจจะทำให้มันชะงักหรือมึนงงได้! แต่เราไม่มีวัตถุระเบิดขนาดนั้น!”
ทันใดนั้น ฟินเนียส นักเวทสังกัดปีกอัคคีก็ตะโกนขึ้น “ข้าพอจะมีม้วนคาถาไฟขั้นสูงอยู่! แต่ต้องใช้เวลาร่ายนานพอสมควร และต้องมีคนคุ้มกัน!”
“ทำเลยฟินเนียส!” เฟียร์สั่ง “กริซซ์! ซิลวี่! คุ้มกันฟินเนียส! ที่เหลือคอยยิงสกัดหนวดมันไว้! เราต้องซื้อเวลา!”
การหลบหนีอันแสนทุลักทุเลดำเนินต่อไป ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันอย่างสุดกำลังเพื่อเอาชีวิตรอดจากอสูรร้ายแห่งท้องทะเลลึก คลื่นลมเริ่มปั่นป่วนหนักขึ้นเมื่อเรือเข้าใกล้แนวหินโสโครกอันตราย เสียงฟ้าร้องคำรามก้องอยู่เหนือหัวราวกับเป็นลางร้าย
“อีกนิดเดียว! บาร์นาบี้! พาเรือเข้าช่องแคบตรงนั้น!” เฟียร์ตะโกนสั่ง ชี้ไปยังช่องทางเล็กๆ ระหว่างโขดหินแหลมคมสองก้อนที่ดูเหมือนจะพอให้เรือ ‘วายุคำรณ’ ลอดผ่านไปได้ แต่สำหรับเลเวียธานที่มีขนาดมหึมา มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตามเข้ามา
บาร์นาบี้กัดฟันแน่น มือที่จับพังงาเรือสั่นเทาแต่ก็ยังคงความมั่นคง เขาหักเลี้ยวเรืออย่างชำนาญ หลบหลีกโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาอย่างหวุดหวิด เสียงครืดคราดดังขึ้นเมื่อท้องเรือเสียดสีกับหินใต้น้ำเบาๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเสียหายหนัก
หนวดของเลเวียธานยังคงไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ มันพยายามจะแทรกตัวเข้ามาในช่องแคบ แต่ขนาดที่ใหญ่โตของมันก็เป็นอุปสรรค หนวดหลายเส้นกระแทกเข้ากับโขดหินอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เศษหินแตกกระจาย!
“ฟินเนียส! ตอนนี้แหละ!” เฟียร์ตะโกน เมื่อเห็นว่าเลเวียธานกำลังติดขัดอยู่กับแนวหิน
นักเวทฟินเนียสที่กำลังร่ายคาถาอย่างตั้งอกตั้งใจ บัดนี้ม้วนคาถาในมือของเขากำลังส่องแสงสีแดงเจิดจ้า “สำเร็จแล้ว! [เพลิงโลกันตร์ผลาญสมุทร (Inferno Geyser)]!”
สิ้นเสียงของฟินเนียส ลำแสงเพลิงขนาดมหึมาก็พุ่งออกจากปลายไม้เท้าของเขา แหวกม่านฝนเข้าปะทะกับร่างส่วนหัวของเลเวียธานที่กำลังพยายามจะมุดตามเข้ามาในช่องแคบอย่างจัง!
ตูมมมมมมมม!
เสียงระเบิดดังสนั่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ! เปลวเพลิงสีแดงฉานลุกท่วมร่างของอสูรทะเล! เสียงกรีดร้องโหยหวนของมันดังเสียจนกลบเสียงพายุฝน! คลื่นความร้อนแผ่กระจายออกมาจนทุกคนบนเรือรู้สึกได้!
[เลเวียธานแห่งห้วงลึก ได้รับความเสียหายรุนแรง!]
[สถานะ: บาดเจ็บสาหัส! เคลื่อนไหวช้าลง!]
“มันชะงักแล้ว! รีบไป!” เฟียร์ตะโกนสั่ง บาร์นาบี้ไม่รอช้า เร่งความเร็วเรือสุดกำลัง พา “วายุคำรณ” ที่บอบช้ำฝ่าช่องแคบนั้นออกไปได้สำเร็จ!
เมื่อมองย้อนกลับไป พวกเขาเห็นร่างของเลเวียธานที่กำลังทุรนทุรายอยู่ในเปลวเพลิงและแนวหินโสโครก มันพยายามจะตามมา แต่ก็ดูเหมือนจะบาดเจ็บหนักเกินไปแล้ว ในที่สุด ร่างมหึมาของมันก็ค่อยๆ จมหายไปใต้เกลียวคลื่นที่บ้าคลั่ง ทิ้งไว้เพียงเสียงคำรามสุดท้ายที่แผ่วเบาและกลุ่มควันสีดำที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือผิวน้ำ
ทุกคนบนเรือ “วายุคำรณ” ทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง ความโล่งใจแผ่ซ่านไปทั่ว แต่ก็ยังคงมีความตื่นตระหนกและความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้และการหลบหนีที่เสี่ยงตายครั้งนี้
“รอด… พวกเรารอดแล้ว…” ลีอาน่าพึมพำออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเธอซีดเผือดแต่ดวงตาก็ยังคงทอประกายแห่งความมุ่งมั่น
วัลคัสพยุงเอลาร่าที่หน้าซีดจากการใช้พลังเวทมากเกินไปขึ้นมานั่ง “เกือบไปแล้วจริงๆ”
เฟียร์ยืนพิงเสากระโดงเรือที่หัก มองออกไปยังทะเลที่เริ่มจะสงบลงเล็กน้อย “อย่าเพิ่งดีใจไป” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเคร่งเครียด “เราเสียคนของกิลด์ไปคนหนึ่ง และเรือก็เสียหายหนัก กว่าจะไปถึงสุสานเรืออับปาง… หนทางยังอีกยาวไกล และอันตรายก็ยังไม่หมดสิ้น”
คำพูดของกัปตันเฟียร์ทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่า การผจญภัยที่แท้จริง… เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
Chapters
Comments
- ตอนที่ 21 แสงยามค่ำคืนและเงื่อนงำในความทรงจำ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 20 เสียงสะท้อนในหอศิลป์ลอยฟ้า มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 19 รอยแผลในความทรงจำ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 18 ราชโองการ เปลวสงคราม และพันธมิตรใหม่ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 17 ตัวตนของเรเวน พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 16 สังเวยเลือดอัญเชิญอสูร พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 15 สามก๊กสังหาร ณ สุสานเรือ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 14 ร่องรอยเลือด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 13 เทียบท่า...สุสานเรือ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 12 การเดินทางอันตรายสู่เกาะมรณะ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 11 คำเตือนจากเงามืด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 10 ฝ่าคมเขี้ยวอสูรแมงมุม พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 9 เสียงเพรียกจากเกาะมรณะ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 8 เสียงกระซิบจากซากเรือรบ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 7 เงื่อนงำในม่านหมอก พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 6 พันธสัญญาแห่งการเริ่มต้น พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 5 เมื่อความตายไม่ใช่จุดจบ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 4 อเวจีในเศษซากวิญญาณ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 3 ก้นบึ้งแห่งความมืดมิด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 2 การทรยศกลางเปลวเพลิง พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 1 เงาในหมู่ผู้เล่น พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำการแตกสลาย (Rewrite) พฤษภาคม 30, 2025
MANGA DISCUSSION