ตอนที่ 1 เงาในหมู่ผู้เล่น
[สามปีก่อนหน้าเหตุการณ์ในบทที่ 0]
โถงดันเจี้ยนโบราณอันกว้างใหญ่มืดมิดสั่นสะเทือนด้วยเสียงการต่อสู้สนั่นหวั่นไหวราวกับโลกจะถล่มทลาย ผู้เล่นกว่าสามสิบชีวิตกำลังตะลุมบอนกับเหล่าอสูรกายอย่างบ้าคลั่ง แสงสกิลสาดส่องวูบวาบราวกับสายฟ้าฟาดท่ามกลางความโกลาหล นี่คือ “Raid ระดับตำนานสีทอง” ความท้าทายสูงสุดของเกมที่น้อยคนนักจะกล้าเผชิญหน้า ซึ่งจำกัดเลเวลผู้เข้าร่วมไว้ที่ 250 ขึ้นไป เดิมพันด้วยชื่อเสียงและไอเทมสุดหายากที่อาจพลิกชีวิตของผู้เล่นได้
ท่ามกลางความอลหม่าน เอซ ในวัย 20 ปี เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังและเยือกเย็น เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่เข้าร่วมทีม Raid เฉพาะกิจครั้งนี้ เอซสวมชุดเกราะธรรมดาที่ถูกเลือกสรรมาอย่างดีเพื่อความคล่องตัวและไม่เป็นที่สังเกต เขาใช้ Scan Gear ซึ่งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับเชื่อมต่อสู่โลกเสมือนจริง มันเป็นเพียงอุปกรณ์ที่พาผู้เล่นเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่สมจริงอย่างยิ่ง ข้อมูลต่างๆ ไม่ได้ปรากฏเป็นหน้าต่างหรือตัวเลขลอยเด่น แต่แฝงอยู่ในการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เสียง และพฤติกรรมของสิ่งมีชีวิตในเกม เอซพยายามตั้งใจสังเกตสิ่งรอบตัวเท่าที่จะทำได้ แต่ในความโกลาหลของการต่อสู้ที่เสียงตะโกน เสียงคำรามของอสูร และเสียงระเบิดดังไม่ขาดสาย ก็เป็นเรื่องยากที่จะจับรายละเอียดได้ทั้งหมด สายตาของเขาสอดส่ายไปมาระหว่างการต่อสู้เบื้องหน้า พยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ที่วุ่นวายและอันตรายรอบตัว ในฐานะนักสู้ระยะประชิดถึงกลาง เขาต้องคอยหาตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อเข้าโจมตีและหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความตึงเครียด
เป้าหมายของพวกเขาคือ มังกรกระดูกทมิฬ (Dreadbone Dragon) บอสใหญ่ประจำ Raid อสูรร้ายบรรพกาลที่เพียงแค่เสียงคำรามก็สามารถทำให้ผู้เล่นธรรมดาสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ เล่าลือกันว่ามีเพียงผู้เล่นที่แข็งแกร่งและประสานงานกันได้อย่างไร้ที่ติเท่านั้นจึงจะมีโอกาสเอาชนะ
“แนวหน้าซ้ายกำลังจะแตก! หน่วยสนับสนุนส่งคนไปช่วยด่วน!” ‘ซอร์ดมาสเตอร์เร็กซ์’ ผู้นำ Raid ตะโกนสั่งการเสียงดังลั่นผ่านระบบสื่อสารรวม เสียงของเขาแหบพร่าแต่ยังคงความเด็ดขาด
เอซซึ่งอยู่ในกลุ่มแนวปะทะกลาง ขมวดคิ้ว “ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ค่อยดีเลย” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พลางใช้ดาบสั้นคู่ใจฟันสกัดการโจมตีของอสูรกายที่หลุดเข้ามาอย่างรวดเร็ว และหาจังหวะโจมตีเสริมไปยังจุดที่เขาสังเกตเห็นจากการเคลื่อนไหวของมังกรว่าเป็นจุดอ่อน การโจมตีของเขาไม่ได้หวือหวา แต่ก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดท่ามกลางความสับสน เขามองเห็นภาพรวมของการต่อสู้ที่ดูไร้ระเบียบมากขึ้นเรื่อยๆ และพลังอันน่าสะพรึงกลัวของมังกรที่ยังคงถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อนราวกับคลื่นยักษ์
“มันกำลังจะใช้ ‘ลมหายใจแห่งความสิ้นหวัง’! ทุกหน่วยเตรียมรับแรงปะทะ!” เร็กซ์ตะโกนเตือน มังกรกระดูกเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ปากของมันอ้ากว้าง รวบรวมพลังงานสีดำอมม่วงอันมหาศาลจนเห็นเป็นประกายเข้มข้นที่ปากของมัน บรรยากาศรอบข้างพลันหนักอึ้งลงราวกับมีภูเขาทั้งลูกกดทับ
“หน่วยป้องกันทั้งหมด! สกิลป้องกันขั้นสูงสุด! นักบวชเตรียมฮีลหมู่ต่อเนื่อง!” เสียงรองหัวหน้าหน่วยต่างๆ ดังขึ้นอย่างร้อนรน ผู้เล่นสายป้องกันหลายสิบคนก้าวออกมาตั้งแนวโล่ แสงจากสกิลป้องกันสว่างวาบ เกิดเป็นกำแพงพลังงานหลายชั้นที่ดูแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะต้านทานพลังทำลายล้างนั้นได้
“พลังทำลายมันสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก!” นักเวทคนหนึ่งร้องเสียงหลง ใบหน้าซีดเผือด
“อย่าให้มันทะลวงเข้ามาได้! สละชีพป้องกันแนวหลัง!” เสียงแทงค์คนหนึ่งดังขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว แต่ก็แฝงความกังวลและหวาดหวั่น
ฟูมมมมมมมม!
ลำแสงสีดำอมม่วงขนาดมหึมาพุ่งเข้าปะทะกำแพงพลังงานราวกับอุกกาบาตตกจากฟ้า! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจนพื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กำแพงพลังงานแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตา! แรงระเบิดที่เหลือทะลวงเข้ามาสร้างความเสียหายอย่างหนัก ผู้เล่นหลายคนถูกซัดกระเด็นไปคนละทิศละทางราวกับใบไม้ที่ถูกพายุพัด
“อ๊าาาากกก!” “แนวหน้าล้มไปเยอะแล้ว!” “นักบวช! ฮีล! ใครก็ได้ช่วยฮีลที!” “โพชั่น! ใครมีโพชั่นเหลือบ้าง! ข้าจะตายแล้ว!”
เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและเสียงตะโกนที่สิ้นหวังดังระงมไปทั่ว ผู้เล่นหลายคนล้มลงกลายเป็นแสงสลายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมทีม สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต ผู้เล่นส่วนใหญ่เริ่มเสียขวัญและตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เอซกัดฟันแน่น “แย่แล้ว… ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังล้มทั้ง Raid แน่” เขาคิด แววตาของเขามองเห็นความสับสนอลหม่านรอบตัว ผู้เล่นบางกลุ่มเริ่มเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นระเบียบ บ้างก็พยายามสู้ต่ออย่างสิ้นหวังราวกับคนบ้า บ้างก็เริ่มมองหาทางหนีเอาชีวิตรอดอย่างเห็นแก่ตัว
แต่แล้ว ขณะที่ผู้เล่นส่วนใหญ่กำลังสิ้นหวัง แม้จะไม่มีแถบ HP หรือตัวเลขสถานะใดๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดเหมือนเกมทั่วไป แต่จากสภาพบาดแผลที่สาหัส เสียงคำรามที่อ่อนแรงลง และการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัดของมังกร ผู้เล่นหลายคนรวมถึงเอซเริ่มมีความหวังริบหรี่ว่ามันน่าจะใกล้ตายเต็มที ทว่าทันใดนั้น เขากลับสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ รูปแบบพลังงานที่แผ่ออกมาจากตัวมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป สัญลักษณ์เล็กๆ ที่ไม่เคยมีใครสังเกตเห็นมาก่อนบนหน้าผากมังกรเริ่มส่องแสงจางๆ
“”เมื่อกี้มัน…มีอะไรแปลกๆ ที่หน้าผากมันหรือเปล่า?” เอซพึมพำกับตัวเองอย่างไม่แน่ใจ สัญลักษณ์เล็กๆ บนหน้าผากมังกรที่ส่องแสงจางๆ นั้นทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ “หรือว่ามันยังไม่จบแค่นี้?” ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเขา แต่มันก็เป็นเพียงลางสังหรณ์ที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน และดูเหมือนจะยังไม่มีใครใน Raid สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนนี้”
ทันใดนั้น ร่างมังกรกระดูกทมิฬที่ดูอ่อนแรงกลับลุกยืนขึ้นอีกครั้ง! ดวงตาโพรงโบ๋พลันส่องประกายสีแดงก่ำน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม! เกล็ดกระดูกทั่วร่างเริ่มมีรอยแตกสีแดงปรากฏ พร้อมเสียงคำรามที่ทรงพลังกว่าเดิม แผ่กระจายแรงกดดันมหาศาลจนผู้เล่นที่เหลืออยู่รู้สึกหายใจติดขัดราวกับถูกบีบคอ!
“บ้าน่า! นี่มันอะไรกัน!?” “มันยังไม่ตายอีกเหรอ!?” “มันเปลี่ยนร่าง!?” “ไม่เคยมีใครบอกว่ามันทำแบบนี้ได้! ไอ้พวกข้อมูลกากเอ๊ย!”
เสียงอุทานด้วยความตกตะลึงและสิ้นหวังดังขึ้นจากเหล่าผู้เล่นที่รอดชีวิต ความหวังที่เพิ่งก่อตัวพลันมลายสิ้น หลายคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่รู้จะสู้ต่อหรือหาทางหนีดี ขณะที่กลุ่มผู้นำออกคำสั่งบางคนกลับมีแววตาที่เปลี่ยนไป… แววตาที่ยากจะอ่านออก แต่เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าหวาดระแวง
เฟสที่สองของมังกรกระดูกทมิฬเริ่มขึ้น! ร่างของมันแข็งแกร่งขึ้น เคลื่อนไหวเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจจนแทบมองตามไม่ทัน! รูปแบบการโจมตีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันใช้กรงเล็บและหางที่ทรงพลังฟาดฟันอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุคลั่ง พร้อมปล่อยคลื่นพลังงานสีดำออกมาเป็นระยะ ทำให้แนวการยืนของผู้เล่นยิ่งปั่นป่วนและล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!
“ตั้งสติไว้! มันแค่เปลี่ยนรูปแบบ! แทงค์ดึงความสนใจมันไว้! หน่วยโจมตีระยะไกลหาจังหวะโจมตีรอยแตกสีแดงนั่น!” เร็กซ์พยายามตะโกนสั่งการ แม้เสียงจะสั่นเครือและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ผู้เล่นล้มตายมากขึ้น โพชั่นเริ่มหมด นักบวชแทบจะร่ายเวทฟื้นฟูไม่ทัน เอซยังคงพยายามทำหน้าที่สนับสนุนอย่างสุดกำลัง ในฐานะนักสู้ระยะประชิดถึงกลาง เขาต้องคอยหาช่องว่างเข้าโจมตีและหลบหลีกการโจมตีที่รุนแรงของบอสอย่างคล่องแคล่วราวกับนักกายกรรม พยายามทำความเข้าใจรูปแบบการโจมตีใหม่ของบอสที่ดูดุดันและคาดเดาได้ยากยิ่งขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องยากท่ามกลางความโกลาหลและแรงกดดันที่แผ่ซ่านไปทั่วราวกับมัจจุราชที่กำลังจะมาเยือน
“มันจะใช้ท่าใหญ่อีกแล้ว! แต่คราวนี้ต่างออกไป!” เอซพึมพำเมื่อเห็นมังกรเริ่มรวบรวมพลังงานอีกครั้ง คราวนี้มีประกายสีแดงเลือดผสมอยู่ด้วย สัญชาตญาณของเขาตะโกนเตือนถึงอันตรายร้ายแรงที่กำลังจะมาถึง!
“”ทุกคนระวัง! การโจมตีนี้มันดูอันตรายมาก!” เอซตะโกนออกไปสุดเสียง แต่ในความโกลาหลนั้น เสียงของเขาอาจจะถูกกลืนหายไป หรือผู้เล่นคนอื่นอาจจะยังไม่ทันได้ใส่ใจ เพราะทุกคนต่างก็กำลังพยายามเอาชีวิตรอดอย่างสุดกำลังจากนรกเบื้องหน้า”
แต่ก็สายไปเสียแล้ว! ลูกบอลพลังงานสีดำแดงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นแต่ละคนอย่างแม่นยำราวกับห่าฝนแห่งความตาย! เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมร่างผู้เล่นที่กระเด็นไปคนละทิศละทาง จำนวนผู้เล่นที่รอดชีวิตลดลงฮวบฮาบจนน่าใจหาย!
“บ้าเอ๊ย! เหลือกันไม่กี่คนแล้ว!” เร็กซ์สบถออกมาอย่างหัวเสีย เขามองไปรอบตัวเห็นผู้เล่นที่รอดชีวิตเหลือไม่ถึงสิบคน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและแววตาที่แข็งกร้าวขึ้นอย่างประหลาด
ขณะที่ความสิ้นหวังเข้าครอบงำทุกคน ร่างมังกรกระดูกทมิฬก็สั่นไหวรุนแรง เกล็ดกระดูกสีดำหลุดร่อน เผยโครงกระดูกสีขาวโพลนที่เริ่มลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าอมม่วงอันน่าขนลุก!
“ม-ไม่จริงน่า…นี่ยังมีอีกเฟส!?” หนึ่งในผู้เล่นที่เหลือรอดอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อและสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
เฟสที่สาม…และอาจจะเป็นเฟสสุดท้ายของมังกรกระดูกทมิฬได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! เปลวเพลิงสีฟ้าอมม่วงที่ลุกท่วมร่างแผ่ความร้อนรุนแรงจนอากาศรอบข้างบิดเบี้ยว รูปแบบการโจมตีของมันเปลี่ยนไปอีกครั้ง มันไม่ได้ใช้การโจมตีทางกายภาพที่หนักหน่วงอีกต่อไป แต่กลับใช้เวทมนตร์เพลิงอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัว เผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า! เพียงไม่กี่อึดใจ เปลวเพลิงสีฟ้าอมม่วงก็กวาดล้างผู้เล่นที่เหลือรอดไปอีกจำนวนมาก เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานดังขึ้นก่อนจะเงียบหายไปพร้อมกับแสงสลายร่าง จากผู้เล่นกว่าสามสิบชีวิต บัดนี้เหลือรอดอยู่ไม่ถึงครึ่ง ทุกคนต่างอ่อนล้าและสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดราวกับตกอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้น
ผู้เล่นที่เหลือรอดไม่ถึงสิบคน ต่างพยายามอย่างสุดชีวิตในการต่อกรกับมังกรเพลิงโครงกระดูกที่ดูเหมือนจะไม่มีวันตาย เร็กซ์และเหล่าแทงค์ที่เหลือพยายามดึงความสนใจของมันอย่างสุดกำลัง แต่มันก็ยากเต็มทนเมื่อต้องรับมือกับเปลวเพลิงที่แผดเผาไม่หยุดหย่อนราวกับไฟนรก นักบวชที่เหลือเพียงน้อยนิดพยายามร่ายเวทฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง แต่ก็แทบจะไม่ทันกับความเสียหายที่ได้รับ เอซและนักสู้ระยะประชิดถึงกลางที่เหลือพยายามหาจังหวะเข้าโจมตีจุดที่คาดว่าจะเป็นจุดอ่อนของมัน แต่ก็ต้องคอยหลบหลีกเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาเป็นระยะอย่างคล่องแคล่วราวกับเต้นรำอยู่บนเส้นด้ายแห่งความตาย
“อีกนิดเดียว! พลังชีวิตมันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว! ทุกคนทุ่มสุดตัว! ลุยมันให้ตายไปเลย!” เร็กซ์ตะโกนให้กำลังใจ แม้ว่าตัวเขาเองก็แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว ร่างของมังกรเพลิงเริ่มมีรอยร้าวปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปลวเพลิงที่ลุกท่วมตัวเริ่มอ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัด มันคำรามออกมาอย่างอ่อนแรง ร่างกายเริ่มโซซัดโซเซราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
“มันจะล้มแล้ว! โจมตีเข้าไปเลย! ฆ่ามัน!” ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนขึ้นด้วยความดีใจระคนตื่นเต้น ทุกคนต่างระดมโจมตีครั้งสุดท้ายใส่บอสที่ใกล้จะตายเต็มที เอซเองก็กำลังจดจ่อกับการใช้สกิลโจมตีที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขามี พุ่งเข้าประชิดตัวมังกรเพื่อหวังจะปิดฉากการต่อสู้อันยาวนานและแสนทรมานนี้ สมาธิทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของบอสและจังหวะการโจมตี จนไม่ทันได้สังเกตความผิดปกติใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นรอบตัว
แต่แล้ว ในจังหวะที่ทุกคนกำลังมุ่งความสนใจไปที่มังกรเพลิงที่กำลังจะสิ้นลม ทันใดนั้นเอง! ‘ซอร์ดมาสเตอร์เร็กซ์’ ผู้นำ Raid ที่ยืนอยู่ใกล้กับนักบวชคนหนึ่งที่กำลังอ่อนแรงจากการใช้มานาจนหมดสิ้น ก็หันขวับ! รอยยิ้มอันเย็นเยียบปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ดาบใหญ่ในมือของเขาที่เคยใช้ฟาดฟันมังกร บัดนี้กลับตวัดเข้าใส่นักบวชผู้เป็นเพื่อนร่วมทีมอย่างไม่ทันตั้งตัว!
ฉัวะ!
คมดาบทะลวงผ่านชุดเกราะบางๆ ของนักบวชอย่างง่ายดาย เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น นักบวชคนนั้นเบิกตากว้างด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อ “ร…เร็กซ์!? ท-ทำไม…อ๊อก!” เสียงของเขาขาดห้วงไปพร้อมกับร่างที่เริ่มกลายเป็นแสงสลายไป
ความโกลาหลระลอกใหม่ปะทุขึ้นทันที! ผู้เล่นที่เหลือรอดต่างหยุดชะงักด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า เอซที่เพิ่งจะปล่อยสกิลโจมตีใส่บอสไป ก็หันมาตามเสียงร้องด้วยความตกใจ แต่เขาก็ไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจนนัก เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เขารู้เพียงว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นภายในกลุ่มผู้เล่นที่เหลือรอด!
ยังไม่ทันที่ความสับสนจะจางหาย ผู้เล่นอีกสองสามคนที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะพยายามสู้กับบอสอย่างเต็มที่ แต่กลับมีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาหันอาวุธเข้าใส่ผู้เล่นที่กำลังอ่อนแอและบาดเจ็บคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างเลือดเย็น! เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจดังขึ้นอีกระลอก ผู้เล่นที่รอดชีวิตจากการต่อสู้กับบอสสุดโหด บัดนี้กลับต้องมาเผชิญหน้ากับการทรยศหักหลังอันแสนโหดร้ายจากเพื่อนร่วมทีม! นรกที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!
Chapters
Comments
- ตอนที่ 21 แสงยามค่ำคืนและเงื่อนงำในความทรงจำ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 20 เสียงสะท้อนในหอศิลป์ลอยฟ้า มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 19 รอยแผลในความทรงจำ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 18 ราชโองการ เปลวสงคราม และพันธมิตรใหม่ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 17 ตัวตนของเรเวน พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 16 สังเวยเลือดอัญเชิญอสูร พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 15 สามก๊กสังหาร ณ สุสานเรือ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 14 ร่องรอยเลือด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 13 เทียบท่า...สุสานเรือ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 12 การเดินทางอันตรายสู่เกาะมรณะ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 11 คำเตือนจากเงามืด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 10 ฝ่าคมเขี้ยวอสูรแมงมุม พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 9 เสียงเพรียกจากเกาะมรณะ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 8 เสียงกระซิบจากซากเรือรบ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 7 เงื่อนงำในม่านหมอก พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 6 พันธสัญญาแห่งการเริ่มต้น พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 5 เมื่อความตายไม่ใช่จุดจบ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 4 อเวจีในเศษซากวิญญาณ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 3 ก้นบึ้งแห่งความมืดมิด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 2 การทรยศกลางเปลวเพลิง พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 1 เงาในหมู่ผู้เล่น พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำการแตกสลาย (Rewrite) พฤษภาคม 30, 2025
MANGA DISCUSSION