ตอนที่ 21 แสงยามค่ำคืนและเงื่อนงำในความทรงจำ
บทที่ 21: แสงยามค่ำคืนและเงื่อนงำในความทรงจำ
กลุ่มของเอซเดินออกจากโซนอาร์ตแกลเลอรี่ลอยฟ้า แสงสุดท้ายของวันกำลังจะลับขอบฟ้า ท้องฟ้าของนีโอ-อาร์คาเดียเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มประดับด้วยแสงไฟจากตึกระฟ้าที่สูงเสียดฟ้าหลายแห่งสร้างจากวัสดุโลหะผสมที่ไม่รู้จักและแก้วอัจฉริยะที่ปรับความโปร่งแสงได้เอง ยานพาหนะส่วนบุคคลหลากหลายรูปแบบ รวมถึงยานลอยฟ้าหรูหราและโดรนขนส่งอัตโนมัติ สัญจรไปมาบนเส้นทางพลังงานที่มองไม่เห็นอย่างเป็นระเบียบ ราวกับดวงดาวจำลองบนผืนผ้าใบแห่งรัตติกาล อากาศยามเย็นเริ่มพัดโชยมาเบาๆ พาเอากลิ่นอายของเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเทคโนโลยีอันน่าทึ่งเข้ามา
“หิวจนตาลายแล้วโว้ย!” เคนจิบ่นเป็นคนแรกพลางกุมท้อง “มัวแต่เสพงานศิลป์จนลืมเวลาไปเลย วันนี้ฉันขอจัดหนัก! บุฟเฟต์ปิ้งย่างจักรวาลดีไหมเพื่อนๆ! ร้านนั้นไง ที่มีเนื้อจากดาวทอรัส VII น่ะ!”
ลิลลี่ตาโต “น่าสนใจมากเลยค่ะ! ฉันเคยได้ยินว่าเนื้อจากดาวนั้นนุ่มละลายในปากเลย!”
อลิซหัวเราะเบาๆ “นายก็พูดเกินไปเคนจิ แต่ร้านนั้นก็อร่อยจริงๆ นั่นแหละ” เธอหันมามองเอซ “นายล่ะเอซ อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?”
เอซที่เดินเงียบๆ อยู่ข้างหลัง สลัดความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวออกไปชั่วขณะ “อะไรก็ได้ที่พวกนายอยากกินนั่นแหละ ฉันไม่มีปัญหา” เขายิ้มบางๆ แม้ว่าโปสเตอร์เกมนั้นจะยังคงติดอยู่ในห้วงคำนึง แต่การได้อยู่กับเพื่อนๆ ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ
“งั้นก็ตกลงตามนั้น!” เคนจิสรุปอย่างรวดเร็ว “บุฟเฟต์ปิ้งย่างจักรวาล ณ ‘Grilltopia’ จงเจริญ! ไปเลยพวกเรา!” เขาทำท่าจะวิ่งนำหน้าไป แต่ก็ชะงักเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “อ้อ! แต่ก่อนอื่น… แวะไปส่งลิลลี่ที่สถานี Sky-Transit สายหลักก่อนดีไหม? บ้านเธออยู่คนละทางกับพวกเรานี่นา”
ลิลลี่ยิ้มอย่างเกรงใจ “ขอบคุณมากนะคะเคนจิ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันไปเองได้ ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่”
“ไม่ได้ๆ” เคนจิโบกมือ “มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิ ถึงจะคนละสายก็เถอะ ไปส่งแป๊บเดียวเองน่า” เขายืนกราน
อลิซพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่จ้ะลิลลี่ ให้พวกเราไปส่งเถอะนะ จะได้สบายใจ”
ลิลลี่มองเพื่อนๆ ด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ งั้น… รบกวนด้วยนะคะ”
พวกเขาทั้งสี่คนจึงเปลี่ยนเส้นทาง มุ่งหน้าไปยังสถานี Sky-Transit Pod สายหลักที่อยู่ไม่ไกล ระหว่างทาง เคนจิก็ยังคงชวนคุยเรื่องสัพเพเหระอย่างไม่หยุดหย่อน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องตลกในมหาวิทยาลัยและแผนการสุดเพี้ยนต่างๆ ที่เขาคิดจะทำหลังจากเรียนจบ มีบ้างที่เขาพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เห็นใน “กาแล็กติก-เทค เอ็กซ์โป” หรือความฝันที่จะสร้าง “หุ่นยนต์ผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้ใจยิ่งกว่าแฟน” ซึ่งทำให้ทุกคนหัวเราะ
“นี่พวกนายเชื่อไหม! ฉันกำลังคิดจะประดิษฐ์ ‘หมอนปลุกอัจฉริยะ’ ที่มันจะนวดหัวเราเบาๆ ด้วยคลื่นโซนิคความถี่ต่ำ พร้อมกับปล่อยสารสังเคราะห์ที่ให้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นจากเมล็ดพันธุ์ดาวซีตัสออกมาตอนเช้าด้วยนะ! มันต้องใช้ชิปประมวลผลควอนตัมขนาดจิ๋วเลยล่ะ แต่ถ้าทำได้นะ… รับรองว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ๆ! ใครๆ ก็อยากตื่นมาแบบฟินๆ ทั้งนั้นแหละ!” เคนจิเล่าด้วยความภาคภูมิใจ
ลิลลี่หัวเราะคิกคัก “เป็นไอเดียที่บรรเจิดมากเลยค่ะเคนจิ! ถ้าทำสำเร็จอย่าลืมส่งมาให้ฉันทดลองใช้เป็นคนแรกนะคะ!”
“อ้อ! พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ” ลิลลี่พูดต่อ ดวงตาเป็นประกาย “เมื่อวานฉันเพิ่งดู ‘โฮโล-ดราม่า’ ซีรีส์ใหม่แกะกล่องทาง ‘สตาร์สตรีม’ น่ะค่ะ เรื่อง ‘รักข้ามดวงดาวของแอนดรอยด์หนุ่มกับเจ้าหญิงแห่งเนบิวลา’ สนุกมากๆ เลยนะคะ! เอฟเฟกต์ตระการตาสุดๆ เห็นว่าใช้ ‘ควอนตัมเรนเดอร์ริ่ง’ รุ่นล่าสุดเลย! แอนดรอยด์พระเอกก็หล่อมาก ดีไซน์ออกมาได้เหมือนมนุษย์จริงๆ เลยค่ะ”
เคนจิพยักหน้าหงึกหงัก “อ๋อ! เรื่องนั้นฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน! เพื่อนที่คณะวิศวะฯ หุ่นยนต์มันคลั่งไคล้ดีไซน์ของแอนดรอยด์พระเอกมาก บอกว่าข้อต่อกับระบบปัญญาประดิษฐ์ของมันล้ำยุคสุดๆ! แต่ฉันว่าเนื้อเรื่องมันน้ำเน่าไปหน่อยว่ะ ชอบแนวแอ็คชั่นไซไฟมากกว่า อย่าง ‘ผู้พิทักษ์แกนกาแล็กซี’ ภาคใหม่นี่มันส์หยด! ยานรบอวกาศดีไซน์ใหม่เท่ระเบิด!”
อลิซยิ้ม “นายก็ดูแต่แนวบู๊ล้างผลาญตลอดเลยนะเคนจิ แต่ซีรีส์ที่ลิลลี่ว่าก็น่าสนใจนะ ฉันชอบดูงานภาพสวยๆ เหมือนกัน บางทีอาจจะหาเวลาดูบ้างหลังโปรเจกต์เสร็จ”
เอซฟังเพื่อนๆ คุยกันไปเงียบๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของโลกปกติอีกครั้ง โลกที่ไม่มีการต่อสู้เอาชีวิตรอด ไม่มีปีศาจร้าย และไม่มีความสิ้นหวังที่กัดกินจิตใจ แต่ถึงกระนั้น… เศษเสี้ยวของความทรงจำจาก “โลกนั้น” ก็ยังคงผุดขึ้นมาเป็นระยะ ราวกับเสียงกระซิบจากอดีตที่ไม่อาจลบเลือน
เขานึกถึงใบหน้าของ ‘ซอร์ดมาสเตอร์เร็กซ์’ ผู้ทรยศ… นึกถึงความเจ็บปวดเมื่อถูกแทงทะลุอก… และนึกถึงความมืดมิดอันหนาวเหน็บในถ้ำนั้น… ความรู้สึกเหล่านั้นยังคงสดใหม่ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เขาได้ “ออกมา” จากที่นั่นแล้ว
“เอซ… นายดูเงียบๆ ไปนะ” อลิซที่เดินอยู่ข้างๆ สังเกตเห็นสีหน้าของเขาอีกครั้ง “ยังคิดมากเรื่องเมื่อตอนบ่ายอยู่รึเปล่า?”
เอซส่ายหน้าเบาๆ “เปล่าหรอก… แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ” เขาพยายามปั้นยิ้ม “ว่าแต่… โปรเจกต์จบของพวกเธอไปถึงไหนกันแล้วล่ะ? ของฉันยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่เลย” เขาพยายามเปลี่ยนเรื่อง
อลิซถอนหายใจเบาๆ “ของฉันก็… เรื่อยๆ น่ะจ้ะ เรื่อง ‘การพัฒนาระบบ AI ช่วยเหลือผู้สูงอายุในเขตเมืองอัจฉริยะ’ มันมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมากเลย ต้องคอยปรับแก้ตลอดเวลา”
“ฟังดูน่าสนใจมากเลยนะคะอลิซ!” ลิลลี่พูดขึ้น “ถ้าสำเร็จคงจะช่วยเหลือผู้คนได้เยอะเลยนะคะ โดยเฉพาะพวกแอนดรอยด์ดูแลผู้สูงอายุรุ่นเก่าๆ ที่ยังต้องการการอัปเกรดซอฟต์แวร์อยู่เยอะเลย”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันจ้ะ” อลิซยิ้มบางๆ “แล้วของลิลลี่ล่ะ? เรื่อง ‘การออกแบบแฟชั่นดิจิทัลที่ตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้สวมใส่’ น่ะ เป็นยังไงบ้าง?”
ลิลลี่ทำตาเป็นประกาย “กำลังสนุกเลยค่ะ! ตอนนี้กำลังทดลองกับเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นสมองแบบใหม่ล่าสุดอยู่ค่ะ! ถ้ามันเวิร์คนะคะ เสื้อผ้าของเราจะเปลี่ยนสีหรือลวดลายไปตามความรู้สึกของเราได้เลย! เจ๋งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ! ลองนึกภาพชุดราตรีที่เปลี่ยนสีตามจังหวะการเต้นของหัวใจสิคะ!”
เคนจิผิวปาก “โห! ฟังดูไฮเทคสุดๆ ไปเลยนี่นา! ถ้าทำออกมาขายเมื่อไหร่ ฉันจะซื้อให้ครบทุกสีเลย! จะได้รู้ว่าวันไหนอารมณ์ดี วันไหนอารมณ์บูด! หรือไม่ก็ซื้อให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยที่บ้านใส่ จะได้รู้ว่ามันแอบอู้งานรึเปล่า ฮ่าๆๆ!”
เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง บรรยากาศดูผ่อนคลายและเป็นกันเอง เอซมองเพื่อนๆ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เขารู้สึกขอบคุณที่มีพวกเขาอยู่เคียงข้างในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงสถานี Sky-Transit Pod สายหลัก ซึ่งเป็นสถานีขนาดใหญ่และพลุกพล่านกว่าสถานีที่พวกเขาใช้เดินทางมายังอาร์ตแกลเลอรี่ ภายในสถานีมีแสงสว่างนวลตาจากแหล่งกำเนิดพลังงานที่ไม่ปรากฏ หุ่นยนต์บริการรูปร่างเพรียวบางหลายตัวเคลื่อนที่ไปมาอย่างเงียบเชียบ คอยทำความสะอาดและให้ข้อมูลแก่ผู้โดยสาร ผู้คนมากมาย ทั้งมนุษย์และแอนดรอยด์ผู้ช่วยส่วนตัวในชุดเครื่องแบบหลากหลาย กำลังรอขึ้นยานพาหนะเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วทั้งนครหลวง เสียงประกาศจากระบบ AI ของสถานีดังขึ้นเป็นระยะ แจ้งข้อมูลการเดินทางด้วยสำเนียงที่หลากหลายตามภาษาหลักของแต่ละกาแล็กซี บนจอโฮโลแกรมขนาดมหึมาเหนือศีรษะ แสดงตารางการเดินทางไปยังดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยะใกล้เคียง รวมถึงเที่ยวบินพิเศษสู่สถานีอวกาศ “โอลิมปัส-ริง” ที่โคจรอยู่รอบดาวซีริน่า-ไพรม์ และมีโฆษณาทัวร์ท่องอวกาศไปยัง “วงแหวนเนบิวลานางแอ่น” ที่กำลังเป็นที่นิยม
“ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่มาส่ง” ลิลลี่โค้งตัวเล็กน้อยอย่างสุภาพ “ไว้เจอกันใหม่นะคะ!”
“ไว้เจอกันลิลลี่! อย่าลืมเรื่องหมอนปลุกอัจฉริยะของฉันล่ะ!” เคนจิโบกมือ
“แน่นอนค่ะ!” ลิลลี่หัวเราะ ก่อนจะหันมายิ้มให้เอซกับอลิซ “แล้วก็… คุณเอซคะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ หรืออยากจะระบายอะไร ก็บอกพวกเราได้เสมอนะคะ พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” แววตาของเธอดูจริงใจและห่วงใย
เอซรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพูดของลิลลี่ เขาไม่คิดว่าเธอจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาได้ชัดเจนขนาดนี้ “ขอบคุณมากครับลิลลี่” เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจ “ผมจะจำไว้ครับ”
หลังจากร่ำลาลิลลี่เสร็จ เอซ อลิซ และเคนจิ ก็เดินไปยังชานชาลาอีกฝั่งหนึ่งเพื่อรอ Sky-Transit Pod ที่จะพาพวกเขาไปยังย่านร้านอาหาร “กาแล็กติก กูร์เมต์ ดิสทริค”
ขณะที่กำลังยืนรออยู่เงียบๆ เอซก็เหลือบไปเห็นจอโฆษณาขนาดใหญ่อีกจอหนึ่งที่ติดตั้งอยู่บนผนังสถานี มันกำลังฉายภาพโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกาแล็กซี มีทั้งภาพชายหาดทรายสีม่วงของดาวไซเรน IV และหุบเขาคริสตัลเรืองแสงแห่งดาวซานาดู แต่แล้วภาพก็ตัดเปลี่ยนไป…
เป็นภาพของตัวละครจากเกม “COSMIC FRONTIERS: GALACTIC ODYSSEY” อีกครั้ง! คราวนี้เป็นภาพกลุ่มนักรบหลากหลายเผ่าพันธุ์กำลังยืนอยู่บนยานอวกาศขนาดยักษ์ มองออกไปยังเนบิวลาสีม่วงครามที่สวยงามตระการตา เบื้องหลังมีเสียงดนตรีประกอบที่ยิ่งใหญ่และปลุกเร้าอารมณ์
เอซรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ภาพนั้น… มันเหมือนกับภาพที่เขาเคยเห็นใน “โลกนั้น” ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลง… ความรู้สึกเย็นเยียบแล่นผ่านสันหลังของเขาอีกครั้ง
“โอ้โห! Cosmic Frontiers อีกแล้ว!” เคนจิร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ดวงตาของเขาเป็นประกาย “โปรโมทหนักจริงๆ นะช่วงนี้! แต่ก็สมแล้วล่ะ เกมมันสุดยอดขนาดนั้น! ฉันเพิ่งจะอัปเกรด Scan Gear รุ่นล่าสุดมาเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะเลยนะ! ภาพมันสมจริงจนแทบจะแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนโลกจริงอันไหนโลกเกม!”
อลิซพยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาของเธอก็จ้องมองไปยังจอโฆษณาด้วยความสนใจ “ใช่เลยเคนจิ ฉันเห็นเพื่อนๆ ในคณะหลายคนก็ติดกันงอมแงมเลยนะ เห็นว่ามีอีเวนต์ใหญ่ระดับกาแล็กซีด้วยนี่นา ที่ให้ผู้เล่นจากทุกเซิร์ฟเวอร์มารวมพลังกันต่อสู้กับ ‘จักรพรรดิมิติอสูร’ อะไรสักอย่าง ฟังดูยิ่งใหญ่มากเลย”
“ถูกต้องเลยอลิซ!” เคนจิเสริม “มันคือ ‘สงครามแห่งดวงดาวผู้พิทักษ์ (Guardian Stars War)’! ฉันกับกิลด์ก็กำลังเตรียมตัวกันอย่างหนักเลย! ถ้าชนะอีเวนต์นี้นะ ได้รับไอเทมระดับตำนานแถมยังได้สิทธิ์เข้าถึง ‘เขตแดนดวงดาวโบราณ (Ancient Star Sector)’ ที่ยังไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อนด้วยนะ! มันต้องเป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกมแน่ๆ!” เคนจิพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น กำปั้นของเขากำแน่นราวกับพร้อมจะกระโจนเข้าไปในสมรภูมิได้ทุกเมื่อ
“ฟังดูน่าสนุกจังเลยนะ” อลิซยิ้ม “ถ้าฉันมีเวลาว่างมากกว่านี้ก็อยากจะลองเข้าไปเล่นดูบ้างเหมือนกัน เห็นว่าระบบสร้างตัวละครมันละเอียดมากเลยใช่ไหม สามารถปรับแต่งได้จนแทบจะเป็นคนละคนได้เลย”
“แน่นอน! แกสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่อยากจะเป็น! นักรบอวกาศสุดเท่, นักเวทย์ดวงดาวผู้ทรงพลัง, หรือแม้กระทั่งพ่อค้าอวกาศจอมเจ้าเล่ห์! โลกในเกมมันกว้างใหญ่กว่าที่แกคิดเยอะเลยนะอลิซ มีดาวเคราะห์ให้สำรวจเป็นล้านๆ ดวง! แต่ละดวงก็มีสภาพแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง! ไม่แปลกใจเลยที่มันถึงเป็นเกมอันดับหนึ่งของจักรวาลมาหลายปีซ้อน!” เคนจิยังคงสาธยายความสุดยอดของเกมไม่หยุด
เอซยืนฟังเพื่อนทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างออกรสเกี่ยวกับเกมที่เคยเป็นทั้งชีวิตและฝันร้ายของเขา คำพูดแต่ละคำของเคนจิและอลิซเหมือนเข็มเล่มเล็กๆ ที่ทิ่มแทงเข้ามาในใจของเขาอย่างช้าๆ พวกเขาพูดถึงความสนุกสนาน การผจญภัย และความยิ่งใหญ่ของเกมนั้น… โดยที่ไม่รู้เลยว่าสำหรับเอซแล้ว มันคือขุมนรกที่เขาเพิ่งจะหนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด
เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ยืนนิ่งๆ มองไปยังจอโฆษณาด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ในขณะที่เคนจิยังคงเล่าถึงแผนการของเขาที่จะพิชิตบอสในตำนานและค้นพบดินแดนใหม่ๆ ในเกมอย่างสนุกสนาน อลิซเหลือบมองเอซเป็นระยะ สังเกตเห็นสีหน้าของเขาที่ดูซีดเซียวและแววตาที่ดูเหม่อลอยกว่าปกติ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ขยับเข้ามาใกล้ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับต้องการจะมอบความอบอุ่นและความมั่นคงให้แก่เขาโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ
เอซพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเอง เขาหลับตาลงครู่หนึ่ง พยายามขับไล่ภาพหลอนและความทรงจำอันเลวร้ายออกไป “มันเป็นแค่เกม… มันเป็นแค่อดีต…” เขาพึมพำกับตัวเองในใจ
เมื่อ Sky-Transit Pod เดินทางมาถึง พวกเขาก็ก้าวเข้าไปข้างใน ยานพาหนะลอยฟ้าเคลื่อนตัวออกจากสถานีอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าสู่ย่านร้านอาหารที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟนีออนและโฮโลแกรมโฆษณาสินค้าจากทั่วทุกมุมจักรวาล
ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงร้าน “Grilltopia” ซึ่งเป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างชื่อดังที่เคนจิแนะนำ ภายในร้านตกแต่งด้วยธีมอวกาศผสมผสานกับความหรูหรา มีหุ่นยนต์แอนดรอยด์บริกรในชุดยูนิฟอร์มสีเงินแวววาวคอยต้อนรับและนำทางไปยังโต๊ะที่สั่งจองไว้ โต๊ะแต่ละตัวมีเตาปิ้งย่างพลังงานพลาสม่าติดตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับจอโฮโลแกรมขนาดเล็กที่แสดงเมนูอาหารและเครื่องดื่มจากดาวเคราะห์ต่างๆ นับร้อยดวง
“สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ!” เคนจิพูดอย่างกระตือรือร้นพลางกวาดตามองไปรอบๆ “ที่นี่มีเนื้อจากดาวเคราะห์หายากเพียบเลยนะ! ทั้งเนื้อกริฟฟอนย่างจากดาวโอไรออน VI หรือจะเป็นสเต็กไครโอ-ดราก้อนจากธารน้ำแข็งแห่งยูโรปา!”
อลิซยิ้มขำ “นายก็เลือกแต่ของแปลกๆ ตลอดเลยนะเคนจิ”
ระหว่างที่กำลังรออาหาร เคนจิก็ยังคงพูดถึงเรื่องต่างๆ ไม่หยุด “นี่พวกเธอรู้ไหมว่าร้านนี้เขาใช้ ‘เชฟ-บอท’ ระดับมาสเตอร์เชฟในการเตรียมวัตถุดิบบางอย่างด้วยนะ! รับรองว่ารสชาติได้มาตรฐานจักรวาลแน่นอน!”
อลิซเสริม “ฉันเคยอ่านรีวิวมาเหมือนกัน เห็นว่าระบบจัดการคิวของร้านนี้ก็ใช้ AI ควบคุมด้วย ทำให้ไม่ต้องรอนานเหมือนร้านอื่นๆ”
“ใช่เลย! เทคโนโลยีมันทำให้ชีวิตเราสบายขึ้นเยอะจริงๆ นะ!” เคนจิว่า “อย่างเมื่อวันก่อน หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติที่บ้านฉันมันดันส่งพัสดุสลับกับห้องข้างๆ น่ะสิ! แต่พอแจ้งไปที่ศูนย์บริการลูกค้า AI มันก็จัดการแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยภายในห้านาทีเลยนะ! โคตรเจ๋ง!”
“แต่บางทีเทคโนโลยีมันก็สร้างปัญหาเหมือนกันนะ” อลิซแย้งเบาๆ “อย่างโปรเจกต์ของฉันเนี่ย การจะทำให้ AI เข้าใจความต้องการที่ซับซ้อนของผู้สูงอายุจริงๆ มันท้าทายมากเลยนะ บางทีมันก็ตีความผิดพลาดจนน่าปวดหัวเหมือนกัน”
เคนจิพยักหน้า “เออจริง… แต่โดยรวมแล้วฉันว่ามันก็ดีกว่าไม่มีนะ อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องมานั่งปิ้งเนื้อเองให้เมื่อยมือ มีหุ่นยนต์คอยบริการตลอด ฮ่าๆๆ”
พวกเขาใช้เวลาเพลิดเพลินกับอาหารมื้อค่ำกันอย่างเต็มที่ เคนจิกับอลิซพูดคุยกันอย่างสนุกสนานสลับกับเรื่องเทคโนโลยีและเรื่องไร้สาระ ส่วนเอซก็พยายามมีส่วนร่วมในบทสนทนาบ้างเป็นครั้งคราว แม้ว่าในใจลึกๆ จะยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องที่ค้างคาอยู่ก็ตาม ภาพโฆษณาเกมนั้นยังคงตามหลอกหลอนเขา และความสงสัยเกี่ยวกับ “โลกนั้น” ก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว พวกเขาก็เดินออกมาจากร้านอาหาร บรรยากาศยามค่ำคืนของกาแล็กติก กูร์เมต์ ดิสทริคยังคงคึกคัก ผู้คนมากมาย ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิตต่างดาวหลากหลายเผ่าพันธุ์ เดินขวักไขว่ไปมา บ้างก็มากับครอบครัว บ้างก็มากับเพื่อนฝูง เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังเคล้าไปกับเสียงดนตรีจากร้านค้าต่างๆ
“อิ่มจนพุงแตกเลยโว้ย!” เคนจิพูดพลางลูบท้อง “วันนี้สุดยอดจริงๆ ขอบใจมากนะเพื่อนที่มาด้วยกัน”
“ฉันก็สนุกมากเลยจ้ะ” อลิซยิ้ม “นานๆ ทีจะได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ” เธอหันมามองเอซ “นายล่ะเอซ วันนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เอซพยักหน้า “ก็… ดีขึ้นเยอะเลย ขอบใจพวกนายมากนะที่ชวนฉันออกมา” เขารู้สึกขอบคุณเพื่อนทั้งสองคนจากใจจริง แม้ว่าความสับสนจะยังไม่จางหายไป แต่การได้ใช้เวลาร่วมกับพวกเขาก็ช่วยบรรเทาความรู้สึกโดดเดี่ยวในใจของเขาได้มาก
พวกเขาเดินไปยังสถานี Sky-Transit Pod อีกครั้งเพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน เคนจิอาสาไปส่งอลิซก่อน เพราะบ้านของเธออยู่ทางเดียวกับเขา
“งั้น… ไว้เจอกันนะเอซ” อลิซโบกมือให้เขา “ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยล่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาพวกเราได้เสมอนะ” แววตาของเธอยังคงฉายแววห่วงใย
“อืม ไว้เจอกัน” เอซตอบรับ
“แล้วเจอกันเพื่อน! อย่าลืมทำโปรเจกต์จบให้เสร็จล่ะโว้ย! เดี๋ยวไม่ทันจบพร้อมกันนะ!” เคนจิตะโกนทิ้งท้ายก่อนจะก้าวขึ้น Sky-Transit Pod ไปพร้อมกับอลิซ
เอซยืนมองยานพาหนะลอยฟ้าเคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตา เขายืนอยู่คนเดียวท่ามกลางแสงสียามค่ำคืนของนีโอ-อาร์คาเดียอีกครั้ง ความรู้สึกอ้างว้างเล็กๆ เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ แต่เขาก็พยายามสลัดมันออกไป
เขาเดินไปยังชานชาลาสำหรับสายที่มุ่งหน้าไปยังย่านที่พักอาศัยของตนเอง Sky-Transit Pod ส่วนตัวของเขา (ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานสำหรับนักศึกษาทุนของมหานคร) ลอยเข้ามาจอดเทียบท่าอย่างเงียบเชียบ ประตูเปิดออกอัตโนมัติ เอซก้าวเข้าไปข้างใน ระบบ AI ประจำยานทักทายเขาด้วยเสียงที่คุ้นเคย
“ยินดีต้อนรับกลับครับ คุณเอซ ต้องการให้เปิดเพลงโปรดของคุณ หรือต้องการให้ปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารหรือไม่ครับ?”
“ไม่ต้องหรอก ขอบใจ” เอซตอบเสียงเรียบ เขาทรุดตัวลงนั่งบนเบาะนุ่ม มองออกไปยังทิวทัศน์ของเมืองที่เคลื่อนผ่านไปเบื้องล่าง แสงไฟจากตึกระฟ้าส่องสว่างราวกับอัญมณีที่โปรยปรายอยู่บนผืนผ้ากำมะหยี่สีดำ ยานอวกาศขนส่งสินค้าระหว่างดวงดาวขนาดมหึมาหลายลำกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เข้าสู่ท่าจอดยานอวกาศของเมือง ส่งเสียงฮัมต่ำๆ ที่ได้ยินแว่วมาแต่ไกล
ความคิดของเขากลับไปวนเวียนอยู่ที่เรื่องของ “โลกนั้น” อีกครั้ง มันคืออะไรกันแน่? ทำไมเขาถึงหาข้อมูลเกี่ยวกับมันไม่เจอเลย? ความรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องคอยรบกวนจิตใจของเขาอยู่ตลอดเวลา
Sky-Transit Pod เคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตที่พักอาศัยของเขามากขึ้นเรื่อยๆ อาคารที่พักอาศัยของเขาเป็นอาคารสูงที่ออกแบบอย่างทันสมัย มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เมื่อถึงที่หมาย เอซก้าวออกจากยานพาหนะ เดินผ่านโถงทางเดินที่เงียบสงบ มุ่งหน้าไปยังห้องพักของตนเอง เขาสแกนม่านตาเพื่อปลดล็อกประตูห้อง ก่อนจะก้าวเข้าไปข้างใน
แสงไฟในห้องสว่างขึ้นอัตโนมัติ เผยให้เห็นห้องพักที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ก็ดูสะดวกสบาย มีหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน
ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวันเริ่มถาโถมเข้ามา แต่ความสงสัยในใจของเขากลับมีมากกว่านั้น เอซวางกระเป๋าสะพายลงบนโซฟา ก่อนจะเดินตรงไปยัง “เทอร์มินัลข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Terminal)” ที่ตั้งอยู่มุมห้อง… คืนนี้ เขามีเรื่องที่ต้องค้นหา…
“โลกนั้น” กับ “โลกนี้”… มันดูเหมือนจะเชื่อมโยงกันอย่างประหลาด…
เขานึกถึงคำพูดของอลิซที่อาร์ตแกลเลอรี่… “…การที่เขายังยืนอยู่ได้… มันก็แปลว่าเขายังมีความหวังอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
บางที… เธออาจจะพูดถูกก็ได้…
แม้ว่ารอยแผลในความทรงจำจะยังคงอยู่… แต่เขาก็ยังมีเพื่อน… และบางที… นั่นอาจจะเป็นความหวังเล็กๆ ที่จะช่วยให้เขาก้าวต่อไปได้… ในโลกแห่งความเป็นจริงนี้…
Chapters
Comments
- ตอนที่ 21 แสงยามค่ำคืนและเงื่อนงำในความทรงจำ 2 วัน ago
- ตอนที่ 20 เสียงสะท้อนในหอศิลป์ลอยฟ้า 2 วัน ago
- ตอนที่ 19 รอยแผลในความทรงจำ 2 วัน ago
- ตอนที่ 18 ราชโองการ เปลวสงคราม และพันธมิตรใหม่ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 17 ตัวตนของเรเวน พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 16 สังเวยเลือดอัญเชิญอสูร พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 15 สามก๊กสังหาร ณ สุสานเรือ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 14 ร่องรอยเลือด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 13 เทียบท่า...สุสานเรือ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 12 การเดินทางอันตรายสู่เกาะมรณะ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 11 คำเตือนจากเงามืด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 10 ฝ่าคมเขี้ยวอสูรแมงมุม พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 9 เสียงเพรียกจากเกาะมรณะ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 8 เสียงกระซิบจากซากเรือรบ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 7 เงื่อนงำในม่านหมอก พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 6 พันธสัญญาแห่งการเริ่มต้น พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 5 เมื่อความตายไม่ใช่จุดจบ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 4 อเวจีในเศษซากวิญญาณ พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 3 ก้นบึ้งแห่งความมืดมิด พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 2 การทรยศกลางเปลวเพลิง พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 1 เงาในหมู่ผู้เล่น พฤษภาคม 30, 2025
- ตอนที่ 0 บทนำการแตกสลาย (Rewrite) พฤษภาคม 30, 2025
MANGA DISCUSSION