บทนำการแตกสลาย
ในป่าแห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากตัวเมือง ชายหนุ่มยืนอยู่ท่ามกลางเหล่ามอนสเตอร์นับร้อย พวกมันคืออสูรกายหลากหลายสายพันธุ์ ตั้งแต่หมาป่าโลกันตร์ขนดำทมิฬดวงตาแดงก่ำ, โกเลมศิลาที่เคลื่อนไหวเชื่องช้าแต่ทรงพลัง, ไปจนถึงอสรพิษยักษ์เกล็ดสีมรกตที่เลื้อยขวักไขว่อย่างรวดเร็ว เสียงคำรามและเสียงขู่ฟ่อดังก้องป่า แต่ชายหนุ่มยังคงสงบนิ่ง ร่างกายของเขาสะอาดสะอ้านไร้รอยขีดข่วน ชุดเกราะที่เขาสวมใส่นั้นคือผลงานชิ้นเอกอันเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสถานะผู้เล่นระดับสูงสุดของเขา มันถูกขนานนามว่า ‘เกราะเงาอสูรเขี้ยวรัตติกาล’ (Nightfang Demon Shadow Armor) ด้วยลักษณะสีดำทมิฬเป็นหลัก ตัดด้วยเส้นสายสีแดงเข้มที่เรืองรองจางๆ ตามรอยต่อและแผงอก ดีไซน์ของมันเต็มไปด้วยมุมแหลมและส่วนที่ยื่นออกมาคล้ายหนามหรือเขี้ยวอสูรอย่างดุดัน โดยเฉพาะเกราะไหล่ขนาดใหญ่ที่เสริมให้รูปร่างของเขาดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น โครงสร้างชุดเกราะดูเหมือนประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนหลายชิ้นที่ซ้อนทับกันอย่างประณีต ทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วแต่ยังคงความแข็งแกร่ง ส่วนหัวสวมหมวกเกราะที่ปกปิดใบหน้าเกือบทั้งหมด เหลือเพียงดวงตาที่ฉายแววเยือกเย็นและมุ่งมั่นออกมาจากภายใต้เงา ชุดเกราะนี้เป็นที่เลื่องลือในหมู่ผู้เล่นถึงความน่าสะพรึงกลัวและความทรงพลังของมัน
ดาบคู่สีดำขลับปรากฏในมือทั้งสองข้างของเขา ก่อนที่ร่างจะพุ่งทะยานเข้าใส่วงล้อมของอสูรร้ายราวกับเงาพายุ ความเร็วของเขานั้นเหนือมนุษย์ ดาบในมือวาดลวดลายสังหารอย่างแม่นยำและเฉียบขาด ทุกครั้งที่คมดาบตวัดผ่าน ร่างของมอนสเตอร์จะถูกผ่าแยกเป็นสองส่วนหรือเกิดบาดแผลฉกรรจ์จนล้มลงสิ้นใจในทันที เสียงโลหะกระทบเกล็ดแข็ง เสียงเนื้อฉีกขาด และเสียงร้องโหยหวนของเหล่าอสูรดังระงม แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของชายหนุ่ม เขารับมือกับการโจมตีจากทุกทิศทางได้อย่างไร้ที่ติ บางครั้งก็เบี่ยงตัวหลบกรงเล็บแหลมคมที่พุ่งเข้ามาอย่างเฉียดฉิว บางครั้งก็ใช้ดาบปัดป้องการโจมตีที่หนักหน่วงจนเกิดประกายไฟ เกราะเงาอสูรเขี้ยวรัตติกาลของเขาไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความสวยงาม มันยังช่วยเสริมพลังและความเร็วในการเคลื่อนไหว ทำให้เขาราวกับภูตพรายในสนามรบ สังหารศัตรูอย่างต่อเนื่องโดยไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าแม้แต่น้อย เลือดสีเขียวและดำของมอนสเตอร์สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ แต่ไม่มีหยดใดเปรอะเปื้อนชุดเกราะสีดำทมิฬของเขาได้เลย เขาราวกับนักร่ายรำแห่งความตายที่กำลังบรรเลงบทเพลงสังหารอันน่าสะพรึงกลัว
มันยิ่งขับเน้นให้เห็นถึงความเป็น Solo Player ระดับแนวหน้าของโลก ผู้ซึ่งฝ่าฟันอุปสรรคและสร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้ด้วยความสามารถของตนเองล้วนๆ ทว่า ในขณะที่คมดาบสีดำกำลังหั่นร่างอสูรตนสุดท้ายลงอย่างง่ายดาย ทันใดนั้นเอง สัมผัสของโลกรอบกายก็เริ่มบิดเบือน แสงสว่างที่เคยส่องลอดใบไม้กลับกลายเป็นสีขาวซีดไร้ชีวิตชีวา ราวกับภาพวาดที่ถูกลบสีออกไป หมอกสีเทาอมขาวเริ่มก่อตัวขึ้นจากทุกทิศทาง คล้ายกับม่านที่ค่อยๆ ปิดฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด เสียงคำรามของเหล่ามอนสเตอร์ที่เคยอยู่รายล้อมเริ่มแผ่วเบาลง ราวกับถูกกลืนหายเข้าไปในความเงียบที่น่าขนลุก จากที่เคยมองเห็นอาณาเขตการต่อสู้กว้างไกล บัดนี้ทัศนียภาพกลับหดแคบลงอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงรัศมีไม่ถึงเจ็ดเมตร
และแล้วก็มีเสียงแหลมสูงคล้ายแก้วแตกดังขึ้นพร้อมกันจากทุกทิศทาง แทรกซ้อนเข้ามาในความเงียบที่กดดัน สะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาท ราวกับเสียงสัญญาณเตือนถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมาเยือน มีเงาดำวูบไหวเคลื่อนผ่านไปมาในม่านหมอกหนาทึบ ชายหนุ่ม ที่เพิ่งจะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง พยายามเพ่งสมาธิ มองหาต้นตอของเสียงและเงาเหล่านั้น แต่ด้วยหมอกที่หนาจัดจนแทบไม่เห็นสิ่งใด ทำให้เขาสัมผัสได้เพียงความเคลื่อนไหวที่ไม่อาจระบุได้ ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นในจิตใจของนักสู้เดียวดายผู้นี้
“นี่มันอะไรกัน อ๊ากกก!!”
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว คลื่นพลังงานลึกลับที่มองไม่เห็นก็พุ่งเข้ามากระแทกร่างของเขาอย่างรุนแรง แม้จะพยายามต้านทานด้วยทักษะระดับสูงที่ฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญจากการต่อสู้เพียงลำพังมานับครั้งไม่ถ้วน แต่พลังนั้นก็รุนแรงเกินกว่าจะรับไหว ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย ร่างของเขากระเด็นลอยละลิ่วไปไกลหลายสิบเมตร ก่อนจะตกลงกระแทกพื้นอย่างแรงเบื้องหน้าซากปรักหักพังของโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในใจกลางป่า
“ที่นี่มันอะไรกัน… อึ่ก แค่กๆ…”
ชายหนุ่มไอออกมาเป็นเลือดสีคล้ำ ความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วทั้งร่าง เขามองไปยังมุมขวาบนของขอบเขตการมองเห็นตามสัญชาตญาณ แถบ HP สีเขียวที่เคยเต็มเปี่ยมและดูเหมือนจะไม่มีวันลดลงง่ายๆ ของเขา บัดนี้กลายเป็นสีแดงก่ำและกะพริบถี่ๆ เป็นสัญญาณเตือนว่าเขากำลังอยู่ในอาการสาหัส ใกล้จะหมดลมหายใจเต็มที ความตกใจและสิ้นหวังเริ่มกัดกินหัวใจของผู้เล่นที่เคยคิดว่าตนเองไร้เทียมทาน แม้จะต่อสู้เพียงคนเดียวมาตลอด เขาก็ไม่เคยพ่ายแพ้ย่อยยับเช่นนี้มาก่อน
“ฉีก!” เสียงแหวกอากาศอันคมกริบดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับความเจ็บปวดเฉียบพลันที่บริเวณหน้าท้อง
ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความตกใจและเจ็บปวด ก้มลงมองสิ่งที่เกิดขึ้น อาวุธสีดำสนิทเล่มหนึ่งปักคาอยู่ที่หน้าท้องของเขา ลักษณะของมันเป็นดาบยาวเรียว สีทับทิมเข้มจนเกือบดำ ย้อมไปด้วยคราบเลือดสดๆ ที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผลของเขา เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นร่างของคนๆ หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ร่างนั้นสูงโปร่ง สวมชุดคลุมสีดำสนิทที่กลืนไปกับความมืดรอบกาย ใบหน้าถูกบดบังด้วยเงาจากหมวกคลุม แต่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าคือสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหลังร่างนั้น มันคือรอยแยกของมิติที่ฉีกขาดออกเป็นรูปกากบาท (X) ขนาดมหึมา ส่องแสงสีแดงเรืองรอง ข้างในรอยแยกนั้นมีตัวเลขและสัญลักษณ์แปลกประหลาดคล้ายโค้ดเมทริกซ์วิ่งวนไปมาอย่างรวดเร็ว ส่งเสียงหึ่งๆ ที่น่าขนลุก
“หรือว่า…แกคือ…” ชายหนุ่มพยายามเค้นเสียงถาม ลมหายใจของเขาเริ่มขาดห้วง ดวงตาพร่ามัว
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค ร่างของเขาก็เริ่มโปร่งแสงขึ้นทีละน้อย จากปลายเท้าค่อยๆ สลายกลายเป็นละอองแสงสีทอง ก่อนจะลุกลามขึ้นมาทั่วทั้งร่าง ความรู้สึกตัวตนของเขากำลังเลือนหายไปพร้อมกับแสงสว่างนั้น ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและความมืดมิดในที่สุด
MANGA DISCUSSION