“แหม่~ โชคดีจังเลยนะคะเนี่ยที่มันมีแค่แรงระเบิดโดยไม่มีสะเก็ดไฟด้วยน่ะ แฮะๆ ~”
“โชคดีอะไรของเธอกันหะ!? ถ้าเกิดว่ามีคนได้รับบาดเจ็บขึ้นมาเธอจะทำยังไงกัน!?”
“ขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้วค่ะ…”
หลังจากที่เอริกะและเพื่อนนายแพทย์ของเธอได้เข้าไปตรวจดูอาการของเด็กสาวหูจิ้งจอกผมสีแดงที่พุ่งตัวหนีแรงระเบิดออกมาจากห้องนอนของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวหูจิ้งจอกผมสีแดงก็ได้ถูกหญิงสาวผมสีน้ำตาลที่เป็นผู้ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพาตัวไปสั่งสอนอยู่ที่มุมห้องรับรองโดยมีเอริกะมองสำรวจดูอยู่ด้วยความสนอกสนใจ
“ฮะฮะ ดูๆ ไปก็เป็นเด็กที่น่าสนใจดีนะเนี่ย ฉันเพิ่งจะเคยเห็นเด็กตัวแค่นี้ที่ทำห้องนอนของตัวเองระเบิดได้เลยนะเนี่ย~”
“ถ้าน่าสนใจขนาดนั้นก็ช่วยทำอะไรสักอย่างทีเถอะค่ะท่านเอริกะ! ถ้าแค่เล่นซนจนมีกลิ่นเหม็นหรือว่าทำคนแสบตาเหมือนกับทุกทีมันก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ถึงขั้นทำห้องระเบิดแบบนี้ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไงเหมือนกันนะคะ!”
“ไม่ใช่เล่นซนสักหน่อย มันคือการทดลองต่างหากอ่ะ!!”
“มันก็เหมือนๆ กันนั่นแหล่ะ!!”
ในทันทีที่เด็กสาวผมสีแดงได้ยินผู้ดูแลสาวบอกว่าการทดลองของเธอเป็นเพียงแค่การเล่นซนนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดเถียงขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะต้องกลับไปทำหน้าจ๋อยอีกครั้งหนึ่งเมื่อถูกผู้ดูแลพูดต่อว่าขึ้นมาอีกครั้ง
ซึ่งคำพูดของเด็กสาวผมสีแดงนั้นก็ได้ทำให้เอริกะเลิกคิ้วด้วยความสนใจก่อนที่เธอจะหันไปสะกิดเพื่อนนายแพทย์ของเธอเพื่อให้เขาลองไปตรวจดู ‘การทดลอง’ ของเด็กสาวที่น่าจะยังคงเหลือร่องรอยอยู่ด้านในจุดเกิดเหตุว่ามันเป็นการเล่นซนประเภทไหนกันแน่
“นี่ๆ นายลองไปตรวจดูที่ห้องของเด็กคนนี้ให้ทีสิ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็ฝากจัดการตรวจสอบเรื่องสารเคมีตกค้างหรืออะไรพวกนั้นให้ด้วยล่ะ”
“เฮ้อ… ก็ได้ๆ … เพราะยังไงถ้าเกิดว่ามันมีสารอะไรตกค้างอยู่ฉันก็น่าจะเป็นคนเดียวที่สามารถจัดการได้อย่างปลอดภัยที่สุดแล้วล่ะนะ…”
“อ่ะ—เดี๋ยวสิ! นั่นพี่ชายจะไปที่ห้องของหนูหรอ!?”
แต่แล้วในขณะที่นายแพทย์หนุ่มกำลังจะเดินออกไปจากห้องรับรองนั้นเอง เด็กสาวหูจิ้งจอกผมสีแดงที่ดูเหมือนว่าจะแอบฟังผู้มาเยือนทั้งสองคนคุยกันอยู่โดยไม่ได้สนใจฟังคำเทศนาของผู้ดูแลสาวเลยแม้แต่น้อยก็ได้แสดงท่าทีตื่นตระหนกออกมาและทำท่าเหมือนกับว่าพุ่งเข้าไปขวางเอาไว้ก่อนที่เธอจะโดนผู้ดูแลคว้าหางจิ้งจอกฟูๆ ของเธอเอาไว้พร้อมกับพูดต่อว่าออกมา
“จะไปไหน!!”
“โอ๊ยๆๆๆ ขอโทษค่ะๆ!!”
“หืมมม~~ พี่ชายสุดเท่ตรงนั้นเขาก็กำลังจะเข้าไปจัดการทำความสะอาดห้องให้เธอยังไงล่ะ ทำไมหรอจ๊ะ หรือว่าที่จริงแล้วมันมีอะไรที่พวกฉันไม่ควรจะได้เห็นอยู่ข้างในนั้นหรือเปล่าเอ่ย~?”
ในขณะที่เด็กสาวหูจิ้งจอกกำลังถูกดึงหางอยู่นั้นเอง ทางด้านเอริกะที่สังเกตเห็นท่าทีร้อนรนของเด็กสาวก็ได้ทำตาแพรวพราวออกมาพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปพูดสอบถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกวนๆ จนทำให้เด็กสาวต้องรีบกลอกตาไปมาและพูดบ่ายเบี่ยงขึ้นมาในทันที
“อ่า… เอ่อ… อ่ะ—! ก็แบบว่าพอดีหนูเพิ่งจะรื้อตู้เสื้อผ้าออกมาจนเสื้อผ้ากระจายอยู่เต็มห้องเลยน่ะค่ะ เพราะงั้นคงจะให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เข้าไปเห็นไม่ได้หรอกนะคะ!!”
“อื้ม~ เป็นข้ออ้างที่เกือบจะฟังขึ้นแล้วล่ะจ้ะ~ แต่เจ้าคำว่า ‘อ่ะ—’ ตอนแรกนั่นมันทำให้คนอื่นเขารู้นะจ๊ะว่าเธอเพิ่งจะด้นมันสดๆ เมื่อกี้เลยน่ะ~”
“ถึงจะเพิ่งคิดออกก็เถอะแต่ยังไงก็ต้องลองดูก่อนเผื่อว่ามันจะได้ผลจริงมั้ยล่ะคะ!”
ถึงแม้ว่าเอริกะจะสังเกตเห็นตั้งแต่แรกก็ตามว่าเด็กสาวหูจิ้งจอกเพียงแค่หาข้ออ้างขึ้นมามั่วๆ ไปเท่านั้น แต่ว่าเธอก็ไม่มีท่าทีว่าจะต่อว่าเด็กสาวออกมาเลยแม้แต่น้อย และนั่นก็ทำให้เด็กสาวหูจิ้งจอกผมสีแดงกล้าที่จะพูดตอบกลับไปด้วยความสนใจในตัวผู้ใหญ่คนนี้ที่มีท่าทีไม่เหมือนกับผู้ใหญ่คนอื่นที่เธอเคยพบมาก่อนเลยไม่ใช่น้อย จนทำให้เอริกะที่เห็นความกล้าของเด็กสาวอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางผู้ดูแลและหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“คิกคิก ก็นับว่าเป็นเด็กที่ฉันน่าจะสนใจตามที่เธอบอกจริงๆ นั่นแหล่ะ~ เอาล่ะเด็กน้อย เธอพอจะบอกฉันได้หรือเปล่าว่าเธอกำลังแอบทำการ ‘ทดลอง’ อะไรอยู่ข้างในห้องนอนกันแน่น่ะ~”
“ห–หนูก็แค่ทดลองไอ้นู่นไอ้นี่ไปเรื่อยแค่นั้นแหล่ะ…”
“จุ๊ๆ ขึ้นชื่อว่าการทดลองแล้วมันก็หมายความว่ามันจะต้องมีเป้าหมายที่คาดหวังผลเอาด้วยไว้ใช่มั้ยล่ะ~ แล้วถ้าถึงขั้นที่ทำให้ห้องนอนทั้งห้องระเบิดออกมาได้แบบนั้นมันคงจะไม่ใช่การทดลองเด็กๆ อย่างการเอาแว่นขยายมารวมแสงเพื่อจุดไฟเล่นแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะจ๊ะ~”
“ม…มันก็…”
“เฮ้… เอริกะ… ฉันว่าเธอลองมาดูอะไรตรงนี้สักหน่อยดีกว่านะ…”
แต่แล้วในขณะที่เอริกะกำลังใช้คำพูดไล่ต้อนเด็กสาวหูจิ้งจอกอยู่นั้นเอง เพื่อนนายแพทย์ของเธอที่แอบหลบไปตรวจสอบห้องนอนของเด็กสาวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบก็ได้โผล่กลับเข้ามาในห้องโดยสวมหน้ากากกันฝุ่นคาดปิดปากและปิดจมูกเอาไว้เพื่อความปลอดภัย
ซึ่งคำพูดของนายแพทย์หนุ่มนั้นก็ทำให้เอริกะรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของเธอคงจะพบเจออะไรที่เด็กสาวพยายามจะซ่อนเอาไว้เข้าให้แล้วเธอจึงได้หันไปพยักหน้าให้กับผู้ดูแลสาวและลุกยืนขึ้นในทันที
“ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นอะไรนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปดูเองเลยก็แล้วกัน~ เอาล่ะ ฝากเธอจับตัวเจ้าหนูนี่ไว้ตรงนี้ก่อนสักแป๊บนึงนะ~”
“ด—เดี๋ยว—”
“ต่อให้ท่านเอริกะไม่บอกดิฉันก็ไม่คิดจะปล่อยยัยตัวแสบนี่ไปไหนอยู่แล้วล่ะค่ะ อย่างน้อยก็จนกว่าจะได้รู้ว่ายัยตัวแสบนี่กำลังแอบทำอะไรอยู่กันแน่น่ะ!”
“โอ๊ย จะโกรธทำไมอ่ะ หนูไม่ได้แอบทำอะไรอันตรายอยู่สักหน่อยนึงนะ!!”
“เธอเพิ่งจะทำห้องระเบิดไปไม่ใช่หรือไงยัยตัวแสบเอ๊ย!!”
คำพูดของเด็กสาวที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่เธอเพิ่งจะทำลงไปเลยแม้แต่น้อยนั้นทำให้ผู้ดูแลสาวอดไม่ได้ที่จะขยี้หัวของเธอด้วยความหมั่นไส้โดยไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองที่เด็กสาวทำให้ทรัพย์สินเสียหายเลยแม้แต่น้อย และนั่นก็ทำให้ทางด้านเอริกะที่เห็นท่าทีสนิทสนมของทั้งสองคนถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมา
“คิกคิก เรื่องที่ว่ามันปลอดภัยหรือว่าไม่ปลอยภัยเดี๋ยวฉันกับคุณหมอจะเป็นคนประเมินให้เองก็แล้วกัน อย่าเพิ่งรีบหนีไปไหนซะก่อนล่ะแม่หนูน้อย~”
หลังจากที่เอริกะพูดทิ้งท้ายเอาไว้แล้วเธอก็ได้รีบเดินออกมาจากห้องรับรองอย่างรวดเร็วและได้พบเข้ากับเพื่อนนายแพทย์ของเธอที่กำลังยืนรออยู่ที่เบื้องนอก ซึ่งถึงแม้ว่าท่าทางของเขาจะดูสงบนิ่งมากก็ตามที แต่ว่าเอริกะที่รู้จักเขาดีก็กลับต้องขมวดคิ้วและพูดถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังมากกว่าปกติเล็กน้อย
“นี่เรื่องมันน่าเป็นห่วงถึงขนาดที่ฉันต้องเป็นคนไปดูเองเลยหรอน่ะ?”
“จะว่าแบบนั้นมันก็ไม่ผิดหรอก… ถึงฉันจะจัดการซากกับสารอันตรายที่เกิดจากการระเบิดนั่นไปเรียบร้อยแล้วก็เถอะ… แต่ถ้าดูจากส่วนประกอบต่างๆ กับซากที่เหลืออยู่แล้วก็ของที่เด็กคนนั้นพยายามซ่อนเอาไว้แล้วฉันว่าเรื่องนี้ฉันไม่ขอยุ่งด้วยดีกว่า…”
“เห… ถ้านายพูดอย่างงี้งั้นก็ดูท่าว่าสิ่งที่เด็กคนนั้นกำลังพยายามทำอยู่มันไม่ใช่อะไรที่เกี่ยวกับการแพทย์งั้นสินะ”
“ก็ไม่เชิง… ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้วฉันว่าคนที่เหมาะจะรับมือกับเด็กคนนั้นที่สุดคงจะเป็นยัยนัวร์ไม่ก็เธอซะมากกว่าก็แค่นั้นล่ะ…”
“ชื่อของยัยนัวร์ขึ้นก่อนหน้าชื่อของฉันด้วยงั้นหรอ… ถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะ…”
เอริกะขมวดคิ้วพูดตอบเพื่อนของเธอกลับไปและเปิดประตูห้องของเด็กสาวผู้ก่อเหตุระเบิดออก และนั่นก็ทำให้เธอได้พบเข้ากับโต๊ะเขียนหนังสือที่ถูกแรงระเบิดกระแทกจนปริหักและขวดโหลบรรจุน้ำสีต่างๆ จำนวนมากที่ด้านในมีก้อนอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายกับชิ้นส่วนของเนื้อมนุษย์ลอยอยู่ภายใน
“เอ่อ… ฉันก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมชื่อของยัยนั่นถึงนำขึ้นมาก่อนหน้าฉันที่เป็นนักประดิษฐ์หรือว่าคุณหมออย่างนายน่ะ…”
“เอาจริงๆ แล้วขวดโหลที่มีชิ้นเนื้อพวกนั้นมันถูกซ่อนเอาไว้ด้านในช่องลับในตู้เสื้อผ้าด้วยนะ… ที่วางเอาไว้ให้เห็นจะจะมีแค่ขวดเปล่าน้ำยาเปล่าๆ พวกนั้น… ดูแล้วก็น่าจะวางเอาไว้เพื่อตบตาคุณผู้ดูแลล่ะมั้ง…”
“พยายามซ่อนจากคนอื่นด้วยงั้นหรอ… นี่ยัยจิ้งจอกจิ๋วนั่นพยายามจะทำอะไรกันแน่เนี่ย”
MANGA DISCUSSION