หลังจากที่นัวร์ได้รับอนุญาตให้พาตัวอลิซออกไปพูดคุยตามประสาเพื่อนเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กสาวผมสีดำก็ได้เดินนำอลิซขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตัวอาคารที่เป็นพื้นที่ราบเรียบสีดำที่มีตัวอักษรสีเหลืองขนาดใหญ่หนึ่งตัวถูกเขียนเอาไว้บนพื้น
ซึ่งนัวร์ก็ได้เดินฝ่าสายลมที่พัดผ่านอย่างรุนแรงไปที่ตรงกลางของตัวอักษรนั้นแล้วจึงหันกลับมายิ้มแป้นพูดบอกกับอลิซที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ด้วยความหงุดหงิดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ในเมื่อเธอยังอดใจเอาไว้ไม่ให้ตัวเองพุ่งเข้ามาเชือดคอฉันได้แบบนี้นี่งั้นพวกเราก็รีบมาเข้าเรื่องกันก่อนที่เธอจะหมดความอดทนเลยดีกว่าเนอะ~”
“……..”
“แหม่~ อย่าทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นสิอลิซจัง~ อ๊ะ— ฉันเรียกเธอลงท้ายว่าจังได้ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยน่ะ~ เพราะว่าถ้าดูจากที่เธอเข้าไปทำอะไรข้างในแคปซูลนั่นแล้วจะเรียกว่าเธอเพิ่งจะเกิดเป็นคนใหม่มันก็ไม่ผิดใช่ม๊า~~”
“จะเรียกอะไรก็เรียกไป… ถ้าเกิดว่าแกมีอะไรอยากจะพูดกับฉันจริงๆ ล่ะก็รีบๆ พูดมาได้แล้ว ถ้าเกิดว่าแกให้ความร่วมมือกับพวกฉันจริงๆ ล่ะก็ ก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือไงว่าพวกฉันไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นน่ะ”
“ก… ‘แก’ เลยงั้นหรอ… หว๊าย~ ทั้งๆ ที่พวกเราเคยสนิทกันตั้งขนาดนั้นแท้ๆ แต่ดูเหมือนฉันจะโดนเกลียดซะแล้วสิ~ แต่ว่ามันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ~ ถ้างั้นก็เอาเป็นว่าฉันจะเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน~”
คำพูดของอลิซที่ฟังดูเกรี้ยวกราดไม่ใช่น้อยนั้นได้ทำให้รอยยิ้มของนัวร์กระตุกไปเล็กน้อยก่อนที่เด็กสาวผมดำจะรีบเข้าเรื่องด้วยการหยิบห่อผ้าที่เธอสะพายเอาไว้ออกมาและคลี่มันให้เปิดออก เผยให้เห็นตัวดาบสีขาวสะอาดที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใน
“เจ้านั่นมัน…”
“อ่า… พอดีว่าในระหว่างที่เธอกำลังไปอ้อนให้สองคนนั้นเขาช่วยเตรียมพร้อมร่างกายให้นั่น มันดันบังเอิญมีผีเสื้อสีเทาตัวน้อยแอบบินเข้าไปขโมยดาบเจ้าปัญหานี่ออกมาจากด้านบนสรวงสวรรค์จนทำให้ใครบางคนโกรธจัดๆ เข้าน่ะสิ… แล้วทีนี้เจ้าผีเสื้อตัวน้อยนั่นก็ดันเอามันมาฝากไว้ที่ฉันก่อนจะมอดดับไปเพื่อให้ฉันเอามามอบให้เธอทีหลังอย่างที่เห็นนี่แหล่ะ”
“มอดดับ—? ตอนนี้เซโร่เป็นยังไงบ้าง!?”
“…….”
นัวร์ที่ได้ยินคำถามของอลิซได้เบี่ยงหน้าหันไปมองทางอื่นก่อนที่เธอจะหยิบเอาเศษริ้บบิ้นสีขาวคาดลายสีแดงออกมาให้เธอได้เห็น ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเหลืออยู่เพียงแค่เสี้ยวเดียว แต่ว่าเธอก็สามารถรู้ได้ในทันทีว่ามันคือริ้บบินประจำตัวของเซโร่ที่สาวใช้ผมสีเทาคนนั้นใช้มันผูกผมเอาไว้ตลอดเวลาอย่างแน่นอน
“…..!?”
“เธอเองก็รู้ว่าฉันบินไม่ได้เหมือนอย่างพวกเขาเพราะงั้นก็เลยขึ้นไปช่วยอะไรเซโร่ข้างบนนั้นไม่ได้… ที่ฉันพอจะทำได้ก็มีแค่การเฝ้าดาบเล่มนี้เอาไว้จนกว่าเธอจะออกมาจากแคปซูลนั่นอย่างเดียวนั่นล่ะ”
“ยัยบ้านั่น… ทั้งๆ ที่ถ้าอยู่เฉยๆ ต่อไปก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแล้วแท้ๆ …”
“ก็นะ… ฉันเองก็ไม่เคยเข้าใจความคิดของพวกแฟรี่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วเหมือนกัน… ทั้งๆ ที่ถ้าคิดตามปกติแล้วแฟรี่อย่างยัยนั่นไม่น่าจะขึ้นไปปะทะกับอะไรที่ไม่น่าจะมีโอกาสชนะแบบนั้นทั้งๆ ที่ไม่ได้มีคำสั่งลงมาเลยใช่มั้ยล่ะ…”
นัวร์ได้เผยรอยยิ้มเจือนๆ ออกมาก่อนที่เธอจะยื่นดาบสีขาวในห่อผ้ากับเศษเสี้ยวหนึ่งของโบว์สีขาวของเซโร่ที่หลงเหลืออยู่ไปให้อลิซพร้อมๆ กัน
“แต่ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจความคิดของยัยนั่นก็เถอะ แต่ที่ฉันมั่นใจแน่ๆ ก็คือว่าทั้งหมดที่ยัยนั่นทำลงไป มันก็เพื่อส่งมอบอาวุธของเขาคนนั้นให้กับคนที่ควรจะได้รับมันไปที่สุดอย่างเธอนั่นแหล่ะอลิซ… เพราะถ้าเกิดว่ามีจะใครที่น่าจะยังสามารถใช้มันได้และต้องการมันที่สุด คนคนนั้นก็คงจะมีแค่เธอคนเดียวนั่นล่ะ…”
“มีแค่ฉันคนเดียว… คำคำนี้อีกแล้วงั้นหรอ…”
“ก็นะ~ เพราะว่าคนเพียงคนเดียวในโลกใบนี้ที่ยังสามารถจดจำนรกที่แท้จริงได้มันก็เหลือแต่เธอแล้วจริงมั้ยล่ะ~”
คำตอบของนัวร์ได้ทำให้อลิซเผยรอยยิ้มเล็กๆ ออกมาก่อนที่เธอจะยื่นมือออกไปรับดาบสีขาวในห่อผ้าและเศษริบบิ้นสีขาวมาจากอีกฝ่าย
และเมื่อฝ่ามือของอลิซได้สัมผัสเข้ากับสิ่งของทั้งสองสิ่ง พวกมันทั้งสองก็ได้ส่องแสงสว่างจางๆ ออกมาก่อนจะแตกสลายกลายเป็นละอองแสงเล็กๆ ที่พุ่งหายเข้าไปในร่างกายของเธอจนทำให้นัวร์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ถ้าดูจากที่พวกมันถูกเก็บเข้าไปในอาร์ไคฟ์ได้แบบนี้ก็คงจะหมายความว่าเจ้าของของพวกมันทั้งคู่ก็คงจะต้องการมอบพวกมันให้กับเธอจริงๆ นั่นแหล่ะ… ไม่ว่าจะในฐานะอาวุธหรือว่าในฐานะของดูต่างหน้าก็เถอะนะ…”
“แล้วการที่เธอเอามาให้ฉันแบบนี้นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เถอะนัวร์? ไม่ใช่ว่าตัวเธอเองก็เป็นถึงมือขวาของเธอคนนั้นหรอกหรอ…?”
“แหม่~ ก็เพราะว่าฉันเป็นถึงมือขวาของเธอคนนั้นนั่นแหล่ะ ฉันถึงได้รู้ว่าเป้าหมายเพื่อโลกใบนี้อะไรนั่นมันไร้สาระทั้งเพน่ะ แล้วถ้าเกิดว่าเธอต้องการจะกลับไปที่นั่นเพื่อพบกับเขาอีกครั้งนึงจริงๆ ล่ะก็มันก็ไม่ถือว่าเป็นการผิดสัญญาที่ฉันมีกับเธอคนนั้นสักเท่าไหร่หรอก~”
“…เธอบอกว่าเธอไม่เข้าใจความคิดของเซโร่ แต่ฉันว่าคนที่ทำตัวให้คนอื่นเข้าใจได้ยากที่สุดมันน่าจะเป็นเธอมากกว่านะนัวร์…”
“คิกคิก~ มันก็ไม่ใช่เธอคนแรกหรอกนะที่พูดกับฉันแบบนี้น่ะ~”
คำพูดบ่นด้วยน้ำเสียงหน่ายใจของอลิซได้ทำให้นัวร์ยกฝ่ามือทั้งสองข้างที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้แขนเสื้อกาวน์ขึ้นมาป้องปากหัวเราะคิกคักออกมา
ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—ฟุ๊บ—
แต่แล้วในขณะที่นัวร์กำลังหัวเราะคิกคักออกมาอยู่นั้นเองก็ได้มีเสียงของมวลอากาศถูกเบียดแทรกดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เสียงหัวเราะของนัวร์และรอยยิ้มเล็กๆ ของอลิซจางหายไป
และเมื่อพวกเธอได้หันไปมองดูรอบๆ แล้วพวกเธอก็ได้พบเข้ากับร่างของสาวใช้ผมสีทองที่มีปีกแสงสีฟ้ารูปทรงเหมือนกับปีกผีเสื้อที่สวมใส่หน้ากากสีขาวไร้ลวดลายกำลังลอยตัวอยู่ที่บริเวณรอบๆ ดาดฟ้าถึงห้าคนด้วยกัน
ซึ่งสาวใช้ผมสีทองที่มีปีกแสงพวกนั้นก็ได้หันกล่องสีดำขนาดใหญ่ที่พวกเธอสวมใส่เอาไว้บนท่อนแขนตรงมายังทางด้านอลิซและนัวร์ก่อนที่กล่องสีดำบนท่อนแขนของพวกเธอจะถูกกางออกพร้อมๆ กัน เผยให้เห็นลำกล้องปืนขนาดใหญ่ที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายในพร้อมๆ กับที่มีเสียงเสียดแหลมดังออกมาจากภายใน
วี๊—
“โอ๊ะโอ๋~ แฟรี่รุ่นใหม่ตั้งห้าคนเลยงั้นหรอ… ท่าทางว่ายัยผีเสื้อน้อยนั่นคงจะไปทำให้เขาโกรธจริงๆ จังๆ เข้าซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย งานนี้สงสัยได้เละกระจุยกระจายกันแน่ๆ ล่ะ~”
“นั่นมัน… แฟรี่โมเดลเดียวกับยัยหมายเลขหนึ่งแต่ว่าติดอาวุธของหมายเลขศูนย์งั้นหรอ… นี่พวกเธอถึงขั้นที่สามารถเอาจุดเด่นของแต่ละคนมาผสมกันได้แล้วหรอเนี่ย?”
“มันก็ตามที่เธอเห็นนั่นแหล่ะอลิซจัง~ แล้วเธอก็น่าจะรู้ดีว่าอาวุธของยัยหมายเลขศูนย์นั่นมันไม่ใช่อะไรที่เธอจะรับมือได้ด้วยอุปกรณ์ที่มีในตอนนี้ด้วยใช่มั้ยล่ะ~ เอาเป็นว่าเดี๋ยวตรงนี้ฉันจะจัดการให้เอง ส่วนเธอน่ะรีบไปขึ้นราชรถที่พวกฉันเตรียมเอาไว้ให้ที่ฐานยิงใต้ดินก่อนเถอะ แล้วก็ขอให้โชคดีกับการเดินทางข้ามขีดจำกัดของมนุษยชาติด้วยนะจ๊ะ~”
“…….”
คำพูดของนัวร์ได้ทำให้อลิซหลุบตาลงต่ำด้วยสีหน้าเจ็บปวดเหมือนกับว่าเธอโดนอีกฝ่ายพูดสะกิดแผลเก่า แต่ว่าก่อนที่อลิซจะได้พูดอะไรออกมาตัวอาวุธที่เหล่าสาวใช้สวมหน้ากากพวกนั้นเล็งตรงมายังพวกเธอก็ได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาชิ่งไปตามปากกระบอกปืนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพวกมันใกล้จะพร้อมส่งลูกกระสุนออกมาเต็มทีแล้วจนทำให้อลิซต้องรีบตัดสินใจทำตามแผนการของนัวร์ไป
“เข้าใจแล้ว…! แต่ว่าเธอเองก็อย่าพยายามถ่วงเวลาให้กับพวกฉันจนต้องตายไปด้วยล่ะเข้าใจมั้ย!!”
“ว๊าย~ อลิซจังเป็นห่วงฉันด้วยล่ะ~ พอได้ยินแบบนี้แล้วก็นึกถึงวันเก่าๆ เลยเนอะว่ามั้ยๆ ~ อ่ะ—แต่ว่าต่อให้ฉันจะตายไปจริงๆ สักรอบสองรอบมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกเนอะ จริงมะๆ ~”
“พูดมากหน่ายัยตัวแสบ…!”
MANGA DISCUSSION