ตอนที่ 14 · คัมมิ่งเอ้าท์ 2
ภาพที่ว่านั้นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
สตรีมเมอร์สาวมัธยมปลายชื่อดัง คาดว่าไปเดตกับแฟนหนุ่มมัธยมปลาย แม้ไม่อาจทราบความจริงว่าเป็นอย่างไร หากแต่กลายเป็นประเด็นร้อนไปแล้ว
เคราะห์ดีที่ภาพนั้นฮิโรกิกำลังหันหลังอยู่ จึงทำให้ใน SNS ไม่สามารถระบุตัวได้ แต่ถึงอย่างนั้นในโรงเรียนข้อมูลที่ว่าอีกฝ่ายอาจเป็นฮิโรกิก็แพร่กระจายไปทั่ว
และแน่นอนว่ามีการคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า 「แฟนเก่า」 ของมิยุ คานอนรวมถึงจินัตสึคือฮิโรกิ
[นี่ จริงหรือเปล่า!? ที่ว่าคุณมิซึซาวะกับฮาชิมะคุงคบกัน!?]
[สงสัยมาตลอดเลยละ~]
[ตกใจเลยเนอะ~…]
คนจากห้องอื่นมารวมกันที่ห้องเรียนและพูดอะไรตามใจนึก ทางด้านมิยุไม่กล่าวอะไรให้ชัดเจนนัก
[คือ ถ้ายอมปล่อยไปจะช่วยได้มากเลยน้า~ ไม่ดีกับฮิโรกิด้วยสิ]
อาจเป็นเพราะว่ามิยุปัดออกไปด้วยอารมณ์เช่นนั้น ทำให้ทั้งห้องเรียนของฮิโรกิไม่ส่งเสียงวุ่นวายดังที่คิดไว้
ทางด้านของฮิโรกินั้น การตอบสนองจะเป็นว่า [ฮาชิมะเจ๋งวะ! ดังใหญ่แล้วนะ] กันเป็นส่วนใหญ่ ต้องขอบคุณมิยุที่ทำให้ไม่กระทบอะไรร้ายแรง แต่การเดินอยู่บริเวณโถงทางเดินก็จะได้ยินเสียงซุบซิบนินทาไปทั่ว แม้แต่เสียงจากคนชั้นปีอื่นที่ไม่รู้จักก็ด้วย เป็นเรื่องที่ชวนรำคาญใจเป็นอย่างมาก
สถานการณ์ดำเนินมาอย่างนั้นจนถึงพักกลางวัน
ก่อนที่ญี่ปุ่นมุงทั้งหลายจะมารวมตัวกัน ตามคำเชิญของมิยุแล้ว พวกฮิโรกิจึงมารวมตัวกันที่ดาดฟ้าด้วเหตุผลบางอย่าง
ดาดฟ้าโรงเรียนนั้น ปกติแล้วไม่อนุญาตให้นักเรียนทั่วไปขึ้นมาได้ แต่เหมือนว่ามิยุจะทราบอยู่แล้วว่าช่องระบายอากาศด้านข้างประตูนั้นเปิดอยู่ จึงใช้เส้นทางนั้นในการออกมา
มิยุกับฮิโรกิมาที่ดาดฟ้าคนละช่วงเวลากัน และคานอนตามมาทีหลัง
เมื่อทั้งสามคนผ่านช่องระบายอากาศได้ ก็พบกับภาพดาดฟ้ากว้างขวางแผ่ขยายออกมา
พื้นที่รอบ ๆ ถูกล้อมด้วยรั้ว ส่วนท้องฟ้าเหนือหัวนั้นกว้างจนสัมผัสได้
[ว้าว ขึ้นมาบนดาดฟ้าได้จริงด้วยค่ะ]
ผิดกับคานอนที่กำลังประทับใจ มิยุมีท่าทางคุ้นชินนั่งอยู่บริเวณรั้ว พร้อมกับเริ่มเคี้ยวซาลาเป้าตุ้ย ๆ คานอนกับฮิโรกิจึงนั่งลงข้าง ๆ และเปิดข้าวกล่อง
[คิดอยู่ว่าตอนกลางวันไม่ค่อยเห็น มาอยู่ที่นี่หรอกเหรอ]
[ก็นะ มากับพวกซัจจังน่ะ]
[คนพวกนั้นก็รู้เรื่องด้วยนี่นะ…จะเป็นอะไรไหม?]
[วันนี้จะไปบอกเรื่องพวกฮิโรกิทีหลังน่ะ ถ้าเป็นพวกเขาละก็ไม่เป็นไร]
ท่าทางมิยุจะเชื่อใจเพื่อนของพวกเธอมาก ทางด้านฮิโรกิจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไร
[จะว่าไปแล้ว รุ่นพี่ฮิโรเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?]
คานอนที่กำลังเคี้ยวแซนวิชเต็มแก้มถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ทั้งที่ตัวเองก็กำลังลำบากอยู่เช่นนั้น แต่ท่าทางจะเอาแต่ห่วงฮิโรกิมาโดยตลอด อย่างช่วงพักระหว่างคาบเรียนก็มีส่งข้อความให้กำลังใจมาอยู่ตลอด
เพราะรู้สึกขอบคุณเรื่องนั้น ฮิโรกิจึงยิ้มออกมา
[อา สบายมาก ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อย่างที่คิดไว้ด้วย ต้องขอบคุณที่มิยุพูดถึงเรื่องของฉันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เป็นมิตรกันมากขึ้นน่ะ แถมยังสาวไปไม่ถึงว่าเป็นแฟนเก่าโดยสมบูรณ์เลยน่ะ]
[งั้นเหรอคะ ถ้างั้นก็สบายใจแล้วค่ะ]
[เหมือนทางจินัตเตะก็โอเคนะ ว่าไป เหมือนจะไม่ได้เป็นหัวข้อคุยอะไรขนาดนั้นน่ะ]
เมื่อตรวจสอบสมาร์ทโฟนแล้ว มิยุก็ทำท่าโล่งใจไปหนึ่งเปลาะ คงเพราะได้อ่านข้อความของจินัตสึ
ต่อมา สิ่งที่ควรคิดคือจะแก้ปัญหาอย่างไร
[ว่าแล้ว คงไม่มีวิธีที่ดีไปกว่าการประกาศตูมไปเลยละมั้ง…]
ฮิโรกิกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาด ๆ มิยุส่ายหัว
[คิดว่าเร็วไปที่จะทำแบบนั้นนะ? ภาพนั้นไม่เห็นหน้าฮิโรกิเลยด้วยนี่ คิดว่าจะอ้างอะไรก็ได้ตามใจชอบเลยด้วย]
[ใช่แล้วค่ะ แบบนี้ดีไหมคะ ให้อ้างว่าภาพตอนนั้นคือรุ่นพี่มิวกำลังโดนจีบอยู่น่ะค่ะ?]
[ก็จริงแฮะ ดูยังไงก็เหมือนโดนจีบอยู่]
[ไม่มั้ง ไม่ไหวหรอก เห็นชุดชัดขนาดนั้น พวกคนดูคงจะอยากจะได้รับความจริงใจมามากกว่า]
[เห…? นี่ไม่นับเรื่องที่ทำตัวโกหกซึนเดเระเลยเหรอคะ——อ๊ะ เจ็บ]
มิยุเอามือสับหัวอย่างเงียบ ๆ คานอนหันกลับมามองอย่างไม่พอใจ
[งั้นตั้งใจจะทำยังไงกันคะ ถ้าจะไม่โกหกก็ไม่มีอย่างอื่นนอกจากอธิบายแล้วนะคะ?]
[ก็แบบนั้นมันรู้สึกไม่ดีนี่ ยังไงก็อยากจะให้เห็นผลได้น่ะ]
[ว่าแล้ว ประกาศออกไปเลยคงจะดี———โอ๊ย!?]
มิยุหยิกแก้มฮิโรกิที่ทำเสียงหวาด ๆ อีกครั้งและพูดต่อ
[ทำไมพอพูดเรื่องตัวเองแล้วกลายเป็นพวกเหยาะแหยะเนี่ย? ตั้งใจหน่อยสิ]
[ขะ เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วน่า ช่วยปล่อยที…]
ในที่สุดก็ถูกปล่อย ฮิโรกิพูดพลางถูแก้มอย่างเจ็บปวด
[แล้วสรุปจริง ๆ แล้วตั้งใจจะทำอะไรละ? ถ้าแค่ในโรงเรียนยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่กระจายไปยัน SNS เลยนะ]
[ก็ต้องขอบคุณภาพหลุดนี่ทำให้ยอดผู้ชมสูงลิ่วเลย ไลฟ์ครั้งต่อไปคงจะคาดหวังได้เลยละนะ]
[พูดจาสบาย ๆ เชียวนะเธอ]
และไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ คานอนลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง
[ถ้าแบบนี้คงต้องคุยเรื่องความรักที่มีต่อรุ่นพี่สินะคะ ต้องดึงความสนใจได้เต็มที่แน่ค่ะ!]
[[…]]
เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่รู้ว่าเล่นหรือจริงของคานอนที่ถูกความเครียดครอบงำหรือไม่นั้น ทั้งฮิโรกิและมิยุจึงไม่รู้ว่าควรตบมุกดีไหม อีกทั้งลมแถวนี้ยังแรงมากจนกระโปรงของคานอนพริ้วไปพริ้วมา ส่งให้ฮิโรกิไม่มีสมาธิโดยใช่เหตุ
สิ่งที่ไม่คาดฝันอาจเกิดได้อีก เหมือนกับตอนท่าโพสต์ตัวไอ จากมุมมองของฮิโรกิแล้วรู้สึกว่าอยากให้ระมัดระวังตัวกว่านี้
แต่ว่าจุดนั้น อยู่ ๆ มิยุก็ลุกขึ้นมาแล้ว———
[——นั่นแหละ!]
ทำท่าชูกำปั้นขึ้นฟ้าราวกับกำลังภูมิใจกับความคิดของตัวเอง
แม้แต่เจ้าของความคิดอย่างคานอนยังพูดว่า [เอาจริงเหรอคะ…?] ออกมาพร้อมกับเอียงคอสงสัย มิยุกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ฮิโรกิไม่อาจคาดเดาได้เลย
ขณะที่มองไปหาทั้งสองที่กำลังตกใจ มิยุพูดต่ออย่างมั่นใจ
[ตาต่อตา ฟันต่อฟัน พวกหัวข่าวแบบนี้น่ะ แค่หาข่าวใหม่มาทำก็จบแล้วนี่!]
[นะ นี่ มิยุ คงไม่ได้คิดจะก่อปัญหาเพิ่มใช่ไหมนะ…]
[ไม่เป็นไรน่า แค่พูดอุปมาเท่านั้นเอง เราไม่ได้ต้องการจะสร้างปัญหา แต่ที่ต้องทำคือการเป็นตัวเองอย่างที่เคยต่างหาก]
แม้จะพูดดูดี แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ถ้ามองอีกมุมแล้วก็มีแต่เรื่องน่ากังวล
แต่ว่า โดยที่ไม่สนใจพวกฮิโรกิ มิยุยังคงพูดอย่างภาคภูมิใจ
[ถ้าตัดสินใจได้แล้ว วันนี้ต้องเริ่มประชุมให้ได้เลย! เหลืออีกสามวันก่อนจะสุดสัปดาห์และวันไลฟ์แล้วด้วย!]
[ประชุมที่ว่านี่ จะมานั่งหาความเห็นอีกแล้วเหรอคะ?]
[ใช่! อีกอย่างเรื่องไลฟ์น่ะนะคาโนนน ได้เวลาแสดงความรักของเธอแล้ว]
[ความรักของฉันเหรอคะ!? …ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็มีไฟแล้วค่ะ!]
คิดตื้น ๆ คิดตื้น ๆ มากไปแล้ว
จังหวะที่กำลังหยุมหัวรุ่นน้องที่คิดอะไรตื้น ๆ นั้น ลมก็พัดแรงขึ้น
ฟู่ว ลมพัดผ่านพวกเขาทั้งสาม——
[[ว้าย!?]]
วินาทีนั้น มิยุกับคานอนก็จับกระโปรงของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้ให้พัดไปมากกว่านี้
[เฮ้อ เกือบไปแล้วค่ะ เรื่องตอนทำท่าโพสต์ตัวไอนั่นเป็นบทเรียนที่ดีเลยนะคะ]
[เนอะ~ ฉันเองก็ระวังตัวแจเลยละ ยิ่งต่อหน้าฮิโรกิยิ่งพลาดไม่ได้เลย]
ขณะที่หญิงสาวสองคนกำลังโล่งใจ มีเพียงฮิโรกิคนเดียวที่หลบตาไปด้วยความกระอักกระอ่วน
[เอ๋ รุ่นพี่ฮิโระ มีอะไรเหรอคะ?]
[หรือว่า เห็นเหรอ?]
[ปะ เปล่า ไม่ได้เห็นหรอก…ก็แค่ คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ]
คำพูดนั้นไม่ได้โกหก ตอนนี้ เขาไม่เห็นใต้กระโปรงจริง ๆ
แต่ว่า ท่าทางเขินอายเวลาจับกระโปรงของสองสาว แอบชวนให้ตื่นเต้นขึ้นมานิดหน่อย
กล่าวตามตรงคือ ฮิโรกิกำลังใจเต้นตึกตักอยู่
แต่มิยุกับคานอนที่ดูจะไม่เข้าใจนั้นร้อง [หา?] อย่างประหลาดใจพร้อมเอียงคอเล็กน้อย
[…เอาเป็นว่า ทั้งสองคนระวังตัวอีกหน่อยเถอะ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปแล้ว]
[เอ๊ะ? หมายความว่ายังไงเหรอคะ?]
[ว่าแล้วว่าเห็นใช่ไหม?]
[ไม่น่า คือถึงจะไม่เห็นก็เถอะ…เอาเป็นว่าช่างเถอะ ระวังตัวหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเรื่องที่ให้มารวมตัวกันวันนี้ฉันจะไปบอกคุณจินัตสึเอง เป็นความรับผิดชอบของผู้จัดการละนะ]
เหมือนตอนนี้ความตั้งใจของฮิโรกิจะส่งไปไม่ถึงทั้งสองคนที่กำลังมองมาด้วยสายตาคลางแคลงใจ แต่หากให้บอกความจริงไปคงน่าอายแย่ ที่ทำได้จึงมีเพียงการค่อย ๆ ดึงความสนใจไปตรงอื่นเท่านั้น
***
หลังเลิกเรียน มีการรวมตัวที่ห้องของมิยุอีกครั้ง
[งั้นมาเริ่มเลือกชุดกันเลยนะคะ!]
อยู่ ๆ มิยุก็พูดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน
เมื่อได้ฟังราวแล้ว จินัตสึจึงเกิดอาการสงสัย
[เอ๋ หมายความว่าไงเหรอ?]
[อย่างแรกเลยเราจะตัดสินใจกันเรื่องชุดในไลฟ์ครั้งต่อไปน่ะ พวกเรา (MICHIKA) จะแต่งคอสเพลย์กันน่ะ]
[คือ ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว?]
จินัตสึพูดพลางหันไปทางฮิโรกิและมิยุ ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง ฮิโรกิกับคานอนได้ฟังเรื่องราวมาล่วงหน้า และได้ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไลฟ์สตรีมในชุดคอสเพลย์ —— คนต้นความคิดคือมิยุ และไม่ว่าอย่างไรก็จะทำให้ได้ แต่จากมุมมองของฮิโรกิแล้ว คิดว่าแค่ตัวเองอยากใส่เองกระมัง
[เอาจริงอะ—…ที่ค่ายจะโอเคไหมเนี่ย]
[ถ้าไม่โอเค เดี๋ยวฉันจะไปขอร้องกับค่ายโดยตรงเอง]
[หยุดเลยนะหยุด ! เข้าใจแล้ว! รู้เลยว่ามิวจังจะเอาจริงน่ะ!]
ด้วยวิธีการกึ่งบังคับนั้น ทั้งสามคนจึงตัดสินใจจะคอสเพลย์
[ปัญหาอยู่ที่ว่าจะคอสกันแบบไหนดี จะแต่งเป็นตัวละคร หรือเป็นพวกอาชีพดี หรือจะแต่งเป็นธีมเดียวกันดี หรือจะแยกกันดี——ฮิโรกิว่าไง?]
[ส่งมาทางฉันเหรอ… เอาจริง ๆ แค่มันโดดเด่นแล้วก็ถูกพูดถึงเยอะ ๆ ก็พอแล้วนี่?]
[ที่พูดนั่นคือให้เปิดเนื้อหนังเยอะ ๆ เหรอ?]
[ไม่มีใครพูดงั้นเลยนะ แต่ก็นะ อาจจะเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีก็ได้]
ความเห็นลอย ๆ นี้หากถูกตีความหมายให้กว้างขึ้นคงจะลำบาก หากแต่เกิดได้แต่งชุดที่มีความเห็นเนื้อหนังเยอะขึ้นมา โอกาสที่จะกลายเป็นข่าวเด่นประเด็นร้อนคงสูงอย่างแน่นอน
[เอาเป็นว่า มาลองใส่กันก่อนไหม]
หลังพูดจบ มิยุจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตน
ตรงนั้นมีชุดสำหรับคอสเพลย์มากมายเรียงรายอยู่
[ว้าว ยอดเลย จำนวนก็เยอะ แถมยังหลากหลายด้วยค่ะ…จะใส่แบบนี้กันงั้นเหรอคะ? ดูแล้วก็ไม่ค่อยจะเผยเนื้อหนังมากด้วยค่ะ]
[แต่ค่อนข้างน่ารักเลยนะเนี่ย— แบบนี้ค่อยน่าใส่หน่อย—]
เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายที่จินัตสึมีท่าทางชอบใจด้วย บางทีอาจเป็นเพราะได้แรงส่งจากจุดนั้น คานอนจึงหยิบชุดเมดออกมา
[ถ้าประมาณนี้ละก็ หนูเองก็อยากลองใส่ดูค่ะ]
[อ๊ะ สมแล้วที่เป็นคาโนนน ตาถึงจริงเชียว ชุดนั้นฉันทำเองด้วยค่า]
[เอ๊ะ ตัดชุดเองด้วยเหรอคะ!?]
[แหม ไม่หรอก ไม่ได้ทำตั้งแต่แรกหรอก แค่เอาชุดที่มีอยู่แล้วมาทำใหม่ ปรับใหม่ให้ตรงตามที่ชอบเท่านั้นเอง]
[ถึงอย่างนั้นก็สุดยอดเลยค่ะ รุ่นพี่มิวเนี่ยเก่งแบบคาดไม่ถึงเลยนะคะ!]
[ปากยั่วหมัดดีตลอดเลยจริง ๆ นะเนี่ย เด็กคนนี้…]
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเปรี๊ยะ ๆ ใส่กัน จินัตสึก็คว้าชุดกี่เพ้าไปดู
[ให้เปลี่ยนชุดที่ไหนดีหรอ? ถ้าฮีคุงไม่อยู่ตรงนี้ จะเปลี่ยนตรงไหนก็ได้นะ]
[เอาเลย เดี๋ยวตัวเกะกะจะหลบให้เอง]
[อะฮะฮะ ขอโทษนะ—]
ฮิโรกิที่กำลังอยู่นอกวงพูดออกมา จินัตสึจึงทำท่ารู้สึกผิดเล็กน้อย
จังหวะที่ฮิโรกิกำลังจะออกจากห้อง คานอนส่งเสียงรั้งไว้
[รุ่นพี่ รอเดี๋ยวค่ะ คือรุ่นพี่ว่าชุดไหนดีคะ ระหว่างชุดบันนี่ ชุดพยาบาลแล้วก็ชุดเมด? ]
[บันนี่ตัดทิ้งไปเลย แล้วก็ชุดพยาบาลด้วย คิดว่าน่าจะอยากเห็นชุดเมดมากกว่าน่ะ]
[เข้าใจแล้วค่ะ! ขอบคุณมากนะคะ]
คานอนส่งด้วยรอยยิ้ม ฮิโรกิออกจากห้องไป
วันนี้แม่ของมิยุออกไปข้างนอก จึงตัดสินใจใช้ห้องนั่งเล่นเป็นที่นั่งรอ
(จริง ๆ บันนี่อย่างแจ่มเลยนะนั่น แต่พูดไปไม่ได้หรอก…เผยเนื้อหนังเยอะด้วยสิ)
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของชุดบันนี่ที่เปิดเนื้อหนังมากไปนั้น มิยุได้อธิบายไว้ว่าจะมีการใส่ชุดข้างในเพื่อปิดร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่า แม้ว่าหากใส่แล้วจะไม่มีปัญหาก็ตาม แต่ถึงกระนั้นการตัดตัวเลือกทิ้งไปเลยคงจะดีกว่า
ระหว่างที่นึกเสียใจ ฮิโรกิก็อยู่บนฟ้าได้ประมาณสิบห้านาที
[เชิญจ้า—]
เมื่อได้ยินเสียงให้ขึ้นไปข้างบนจากมิยุแล้ว ฮิโรกิถึงกับตกใจเมื่อเข้าไปในห้อง
เพราะว่า ทั้งสามคนกำลังสวมอยู่ในชุดเมด
[[[ยินดีต้อนรับกลับนะคะ นายท่าน]]]
แถมยังได้ฟังประโยคอย่างนั้นด้วย ทำให้ฮิโรกิอึ้งเข้าไปใหญ่
แม้จะบอกว่าเป็นชุดเมดก็ตาม หากแต่คานอนใส่ชุดเมดสไตล์ปราสาทที่มิยุเคยใส่ ส่วนของมิยุเป็นชุดเมดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนสไตล์อลิซ ตามด้วยจินัตสึที่สวมเดรสสีดำยาวพร้อมที่คาดหัวสไตล์แม่บ้านอยู่
รวมถึงในส่วนของที่คาดผม ทั้งสามคนดูเข้ากับที่คาดผมหูแมวด้วยเหตุผลบางอย่าง และสไตล์ทั้งสามที่แตกต่างกันประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างงดงาม อีกทั้งชุดของมิยุยังมีสีที่แหวกมากออกมา ฮิโรกิพูดได้เต็มปากเลยว่าสมบูรณ์แบบ
เมื่อได้เห็นฮิโรกิกำลังคิดอะไรหลายอย่างเงียบลงไปเป็นเวลานาน มิยุจึงหมดความอดทนแล้วเข้ามาหา
[เดี๋ยวสิ จะเงียบไปถึงไหนกัน ตอบอะไรมาบ้างสิ]
[อ๊ะ อ๋อ ทั้งสามคนเหมาะมากสุด ๆ เลยละ …แอบรู้สึกเลยว่าอยู่ในร้านน่าสงสัยน่ะ]
หลังจบการกล่าวความรู้สึกตามตรง มิยุทำหน้าเหมือนกินของขม ๆ แล้วถอนหายใจออกมา
[ถึงจะมีคำแปลก ๆ เพิ่มมาด้วยแต่ก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าทุกคนเหมาะเนอะ]
[ดีจังเลยค่ะ ที่รุ่นพี่บอกว่าน่ารัก]
[เดี๋ยว— ไม่ได้พูดคำว่าน่ารักเลยไม่ใช่เหรอ— แต่ก็แหม ทางฉันเองก็รู้สึกดีใจเหมือนกันนะ …ถึงจะ คับตรงข้างบนไปหน่อยก็เถอะ]
ระหว่างที่พูด จินัตสึจับหน้าอกของตัวเองอย่างอาย ๆ …ฮิโรกิถูกดึงสายตาไว้โดยไม่รู้ตัว
[ก็เพราะจินัตเตะใหญ่เกินไปนี่นา~ ———เดี๋ยว มองมากไปแล้วมั้งฮิโรกิ]
[อ๊ะ โทษที]
[…ทางหนูยังเหลือเวลาให้โตอยู่อีกนะคะ]
คานอนจ้องมองหน้าอกของตัวเองพลางถอนหายใจ มิยุจึงพยายามจะช่วยให้กำลังใจ
[อะ เอาน่า เป็นชุดที่ไซซ์พอดีฉันนี่นา ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวตอนใช้จริงจะทำให้พอดีตัวทั้งสองคนเลย]
จุดนั้นฮิโรกิที่ออกมาได้แล้วจึงพูดเพื่อทำการสรุป
[คือ งั้นถือว่าตัดสินใจกันแล้วใช่ไหม?]
ทันใดนั้น ทั้งสามคนหันไปจ้องหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้นมิยุจึงเริ่มพูด
[เอาเป็นว่า มาลองชุดที่มีกันก่อนเถอะ! ฮิโรกิ ครั้งต่อไปจะทำให้ประทับใจกว่านี้ให้ได้เลย!]
[ครับ ๆ]
การทดลองชุดที่ว่ากินเวลาไปหลายชั่วโมง
สุดท้ายแล้ว จึงตัดสินใจกันว่าจะเป็นชุดสไตล์นโปเลียน———หรือคือชุดคอสเพลย์สไตล์ทหารนั่นเอง ดูเหมือนว่าจะต้องไปซื้อของที่จำเป็นเพิ่มด้วย ท่าทางตื้นเต้นกับไลฟ์ที่กำลังจะมาถึงมากพอสมควร
และเพราะว่าถูกให้เข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์แบบสุดขั้ว จึงมีแค่ฮิโรกิที่กำลังหมดแรงอยู่
[ถ้าแบบนี้แล้ว สรุปแล้วเราไม่ได้จะลองทำอะไรใหม่ ๆ ในไลฟ์สตรีมเหรอ?]
ระหว่างกำลังเปลี่ยนชุดจินัตสึถามขึ้นมา
ทันใดนั้นมิยุจึงร้อง อื—ม และคิดสักครู่หนึ่งแล้วพูด
[ถ้าให้พูดละก็ ครั้งนี้อยากจะลองสละเวลาในการมานั่งตอบคอมเมนต์ของผู้ชมน่ะนะ ที่ผ่านมาจะเน้นหยิบขึ้นมาตามใจตลอด อยากจะทำเป็นพวกมุมตอบคำถามอะไรแบบนี้น่ะ]
[เอ๊ะ แบบนั้นจะไม่เป็นไรเหรอ? ยังไงก็ต้องมีคนที่อยากแตะเรื่องของฮีคุงอยู่ด้วยนี่นา]
[ถ้าทางนี้เป็นคนเลือกคอมเมนต์เองก็ไม่มีปัญหานี่ ช่วงนี้พยายามอย่าตอบคำถามในทางนั้นก็พอ เพราะตั้งใจจะอธิบายให้ดีตั้งแต่แรกแล้วน่ะ]
[อย่างนี้นี่เอง~ ถ้าแบบนั้นคงจะไม่เป็นจริง ๆ ]
เพื่อให้ผู้ชมมีส่วนร่วม การหยิบยกคอมเมนต์ขึ้นมาตอบนั้นเป็นเรื่องทั่วไปแม้ในการไลฟ์สตรีม ยิ่งช่วงนี้ไม่ค่อยได้จัดไลฟ์สตรีมแล้ว จึงคาดเดาได้ว่าคงมีผู้ชมที่ชอบใจเป็นแน่
[แต่ว่า เรื่องวุ่นวายจะเอายังไงดีละคะ? อย่างว่าถ้าไม่อธิบายอะไรต่อไปทำแบบนี้คงเป็นการยั่วยุเสียมากกว่า]
[เรื่องนั้นจะอธิบายแน่อยู่แล้วนะ แต่คงจะไม่ลงลึกไปถึงเรื่องแฟนเก่า แล้วก็จะไม่บอกด้วยว่าในรูปนั่นคือใครด้วย]
[ถ้าแบบนั้นก็รู้สึกว่าจะปลอดภัยขึ้นนะคะ]
[ใช่มะ— ไม่มีทางจะปล่อยชื่อเจ้าตัวหลุดออกไปได้หรอก]
อย่างที่คิดกันว่าเกือบจะผ่านเรื่องนี้ได้แล้ว ความคิดนี้จึงไม่ได้แย่
เพียงแต่หากเป็นแบบนี้ต่อไปจะเป็นเหมือนกับที่คานอนกล่าว มีโอกาสที่จะได้รับภาพลักษณ์ในเชิงลบติดตัว และอย่างที่ได้กล่าวกันไว้เมื่อตอนกลางวัน เหมือนว่ามิยุจะมีความคิดอะไรอยู่แล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้น มิยุจึงทำสีหน้าอย่างมีชัยแล้วพูด
[แค่ให้เนื้อหาในไลฟ์ไม่ย่ำอยู่กับที่ก็พอ! ถ้าทำแบบนั้นแล้วความวุ่นวายคงไม่น่าเกิดขึ้นได้หรอก!]
ดูท่าทางความคิดของมิยุนั้น จะไม่น่าเชื่อถืออย่างที่คาดเอาไว้
[[[…]]]
ทั้งสามคนเงียบอย่างกระทันหัน มิยุจึงพูดต่ออย่างภูมิใจ
[เดิมทีไลฟ์ครั้งนี้จะพูดถึงฮิโรกิ—แฟนเก่ากันไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นก็ต้องทำให้เนื้อหาตราตรึงในความทรงจำของผู้ชม ต้องประทับใจแล้วก็สนุกด้วยนี่ แล้วก็นั่นไง เป้าหมายเดิมก็ยังอยู่นี่นา]
[ของแบบนี้มันพูดง่ายแต่ทำยากไม่ใช่หรือไง?]
[หนูก็คิดเหมือนกันค่ะ เนื้อหาอะไรที่จะมากลบประเด็นร้อนนี่ได้ คิดว่าไม่น่ามีนะคะ]
เมื่อเห็นฮิโรกิกับคานอนลังเลใจ มิยุจึงยักไหล่
[ถ้าเอาแต่คิดลบก็ทำอะไรไม่ได้กันพอดี ครั้งนี้ถ้าเราเตรียมตัวกันมาดีพอละก็ จะต้องกลายเป็นรายการน้ำดีได้แน่นอนเลย]
[พวกเราจะทำสคริปต์ให้สนุกกันได้หรือเปล่านะ~?]
แม้แต่จินัตสึก็ยังมีความกังวล หากแต่เริ่มส่งเสียงออกมาราวกับปลงแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น มิยุก็ไม่ยอมถอย
[ยังไงก็ต้องลองกันก่อนนี่ ถ้าไม่ได้ค่อยทำอะไรสักอย่างอีกครั้งก็ได้]
[ครั้งนี้รุ่นพี่มิว ไฟแรงเกินมาเลยนะคะเนี่ย]
[คงไม่พ้นว่าทั้งหมดนี่ทำเพื่อฮีคุงหรอกเนอะ~]
[ไม่ใช่! ฉันก็แค่ อยากจะก้าวไปข้างหน้าเท่านั้นแหละ!]
ไม่ใช่การเสแสร้งแต่อย่างใด ตั้งแต่เดตจำลองครั้งนั้น ฮิโรกิสัมผัสได้ว่ามิยุมีไฟจะทำมากขึ้น
สำหรับฮิโรกิแล้วส่วนหนึ่งก็รู้สึกดีใจ และในเวลาเดียวกันก็ถือว่าน่าอายเล็กน้อยด้วย
เพื่อแทนที่ความเขินอายที่มี ฮิโรกิจึงพูดว่า [เอาละ] ด้วยใจเต็มเปี่ยม
[ครั้งนี้ตอนไลฟ์ฉันจะอยู่ที่ห้องนั่งเล่นนะ ถ้าระหว่างไลฟ์จะมีคำที่ไม่ควรพูดหลุดออกมา หรือรู้สึกว่ามีโอกาสหลุดจะส่งข้อความไปนะ ถ้าไม่มีใครตอบจะไปเคาะประตู ให้คิดไว้เลยว่าถ้าถึงขั้นนั้นคือเข้าโซนอันตรายแล้ว]
[เข้าใจแล้วค่ะ]
[รับทราบจ้า~]
[อื้ม รบกวนหน่อยนะ]
ทั้งสามคนตอบรับข้อเสนอของฮิโรกิทันที
ความจริงแล้วอยากจะให้ฮิโรกิอยู่ในห้องเลยจะได้เตรียมการได้ทันท่วงทีระหว่างไลฟ์ แต่เมื่อนึกถึงความกว้างของห้องแล้วความเสี่ยงมีมากเกินไป ดังนั้นครั้งนี้จึงตัดสินใจการให้รอเตรียมพร้อมในห้องนั่งเล่นแทน
ส่วนเนื้อหาการไลฟ์ในวันจริงจะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
แน่นอนว่า เป้าหมายที่มุ่งหน้าไปจะยังคงอยู่ในแผนเดิม
Chapters
Comments
- ตอนที่ 16 บทส่งท้าย (จบเล่ม 1) มิถุนายน 29, 2023
- ตอนที่ 15 คัมมิ่งเอ้าท์ 3 มิถุนายน 28, 2023
- ตอนที่ 14 · คัมมิ่งเอ้าท์ 2 มิถุนายน 26, 2023
- ตอนที่ 13 คัมมิ่งเอ้าท์ 1 มิถุนายน 26, 2023
- ตอนที่ 12 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 5 มิถุนายน 24, 2023
- ตอนที่ 11 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 4 มิถุนายน 22, 2023
- ตอนที่ 10 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 3 มิถุนายน 20, 2023
- ตอนที่ 9 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 2 มิถุนายน 18, 2023
- ตอนที่ 8 หากได้ไปเดตกับคนรักเก่าขึ้นมา 1 มิถุนายน 17, 2023
- ตอนที่ 7 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 3 มิถุนายน 16, 2023
- ตอนที่ 6 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 2 มิถุนายน 15, 2023
- ตอนที่ 5 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 1 มิถุนายน 14, 2023
- ตอนที่ 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4 มิถุนายน 13, 2023
- ตอนที่ 3 แฟนผมเป็นคนดัง 3 มิถุนายน 12, 2023
- ตอนที่ 2 แฟนเก่าเป็นคนดัง 2 มิถุนายน 11, 2023
- ตอนที่ 1 แฟนเก่าเป็นคนดัง มิถุนายน 11, 2023
MANGA DISCUSSION