ตอนที่ 6: ทำตัวเป็นนางเอกหลัก1
ตอนที่ 6: ทำตัวเป็นนางเอกหลัก1
“โอโต้ซัง ช่วยปรับปรุงจี้ให้หน่อยครับ”
เช้าตรู่วันหนึ่ง
ผมเอ่ยคำขอที่ค่อนข้างประหลาดทันทีในตอนเช้า กับโอโต้ซังที่กำลังใส่ผ้ากันเปื้อนลายแมวทำข้าวกล่องให้โอก้าซังอยู่
โอโต้ซังของผมเป็นพ่อบ้านเต็มตัว และทุกเช้าเขาก็จะทำข้าวกล่องให้โอก้าซังแบบนี้เป็นกิจวัตร จากนั้นพวกเราทั้งสามคน โอโต้ซัง โอก้าซัง และผม ก็จะนั่งล้อมวงกินอาหารเช้าร่วมกัน ส่วนตอนนี้เป็นช่วงเวลารอข้าวกล่องเสร็จ
เนื่องจากโอก้าซังเป็นคนที่ไม่ถนัดเรื่องตื่นเช้าแบบสุด ๆ กว่าจะตื่นได้ก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นช่วงเวลาที่มีแค่ผมกับโอโต้ซังแบบนี้เท่านั้น ที่ผมจะสามารถขออะไรแบบนี้ได้
โอโต้ซังเงยหน้าขึ้นมาขณะกำลังทอดไส้กรอกในกระทะ ยกแว่นขึ้นด้วยนิ้วมืออย่างรวดเร็ว แล้วส่งสายตาคมกริบจ้องมาทางผม
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ อพอลโล ลองเล่ามาให้หมด”
“อืม… ความจริงก็คือ──”
เข้าสู่ช่วงย้อนความหลัง!
ความจริงแล้ว ตั้งแต่วันที่ต้องไปทำอาหารกลางวันที่บ้านของเร็กกะ วันหนึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว
เมื่อวานนี้ ผมเดินทางไปบ้านของเขาด้วยสีหน้าเบิกบานเต็มที่ เพราะมั่นใจว่าได้โชว์『ท่าทางลึกลับในฐานะนางเอก』อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยทำมา แต่สุดท้ายก็เผลอทำพลาดขึ้นอีกจนได้
『……ทำอะไรอยู่เหรอ?』
『ทำอาหารอยู่น่ะ』
โคโอริจังดันบุกมากินข้าวกลางวันแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยสิจ๊ะ ถึงจะยังคงรักษาสีหน้าไม่ให้หลุดได้อยู่ แต่ในใจก็เหงื่อแตกพลั่กกันเลยทีเดียว
กลายเป็นว่าเร็กกะไม่ได้บอกเรื่องที่เจอกับผมให้ใครฟังเลยสักคน เพราะเขาตื่นเต้นมากจนลืมสนิท
นั่นทำให้โคโอริ ที่ปกติก็เข้าออกบ้านเร็กกะได้ตามสบาย บุกเข้ามาตามนิสัยของเธอ แล้วบังเอิญมาเจอผมที่กำลังทำอาหารอยู่พอดี
แต่จุดที่เป็นปัญหานั้น ไม่ใช่เรื่องโคโอริบุกเข้ามาหรอก ถ้าแค่นั้นก็แค่เพิ่มปริมาณอาหารที่ทำก็พอแล้ว
ความผิดพลาดที่ผมก่อขึ้น── ก็คือ『การบริหารเวลา』นั่นเอง
พอมาคิดดูอีกที เวลาที่สามารถแปลงร่างเป็นสาวน้อยได้แค่หนึ่งชั่วโมงเนี่ย มันสั้นเกินไปจริง ๆ
ก่อนจะเริ่มเล่นบทนางเอกแบบจริงจัง ผมเคยคิดประมาณว่า「แค่ชั่วโมงเดียวก็พอแล้วมั้ง (ฮ่า ๆ)」อยากจะย้อนเวลากลับไปต่อยหน้าตัวเองในตอนนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
ยิ่งพอคิดรวมถึงช่วงพักฟื้นระหว่างการแปลงร่าง ที่ต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเหมือนกันถึงจะกลับมาแปลงร่างใหม่ได้อีก ก็ยิ่งรู้เลยว่าไทม์ลิมิตนี้ก็ยิ่งกลายเป็นอะไรที่โหดหินสุด ๆ
ต้องรับมือกับทั้งเร็กกะและโคโอริไปพร้อม ๆ กับทำอาหาร กินข้าว แล้วยังต้องคุยเรื่องสำคัญอีก── พูดตามตรงเลยนะ นี่มัน『มิชชั่นอิมพอสซิเบิล』อย่างไม่ต้องสงสัย
โชคยังดีที่ระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์มีสัตว์ประหลาดตัวใหม่ปรากฏใกล้ ๆ บริเวณนั้นพอดี ทำให้ผมสามารถอาศัยจังหวะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นข้ออ้างเลี่ยงบทสนทนา แล้วรีบหายตัวไปได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ผมในชุดนักเรียนหญิงคงได้ยืนตะลึงอยู่ต่อหน้าพวกเขาสองคนแน่นอน แค่คิดก็รู้สึกเสียวสันหลังแล้ว
เสริมให้นิดว่า ความสามารถของสัตว์ประหลาดตัวนั้นสามารถทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหวได้ในรัศมีใกล้เคียง จนกับข้าวที่ผมอุตส่าห์ตั้งใจทำเกือบทั้งหมดก็เลยร่วงลงพื้น พังพินาศไปตามระเบียบ
แต่เรื่องหนึ่งที่ได้รู้เพิ่มคือ โคโอริกลับเป็นคนที่เสียใจยิ่งกว่าคนทำอย่างผมซะอีก แถมยังถึงขั้นของขึ้นใส่สัตว์ประหลาดแบบจัดหนักจัดเต็มโดยไม่ลังเลเลยทีเดียว จากตรงนั้นก็ทำให้ผมได้รู้ว่า เด็กคนนั้นจริง ๆ แล้วก็เป็นคนจิตใจดีมากเหมือนกัน ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเลยล่ะ
และแล้วเวลาปัจจุบันก็ดำเนินกลับมาสู่ตอนนี้อีกครั้ง
“พูดอีกอย่างก็คือ แกอยากจะเพิ่มระยะเวลาที่อยู่ในร่างเด็กผู้หญิงให้ได้นานขึ้น… งั้นสินะ?”
“จะทำได้ไหมครับ โอโต้ซัง?”
“อืมม……”
โอโต้ซังครุ่นคิดไปพลางจัดอาหารลงกล่องข้าวอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับยกอาหารเช้าขึ้นวางบนโต๊ะ
“……อพอลโล”
“อะไรเหรอครับ?”
“แกแปลงเป็นเด็กผู้หญิงไปเพื่ออะไรกันล่ะ แค่เล่นสนุกหรือไง”
แม้จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ก็ไม่ใช่บรรยากาศที่จะเบี่ยงเบนคำตอบได้ นั่นคือคำถามที่มุ่งตรงมายังจุดมุ่งหมายแท้จริงของผม
สิ่งที่ผมทำอยู่ ผมได้เล่าให้โอโต้ซังฟังทั้งหมดแล้ว
แน่นอนอยู่แล้ว ก็ในเมื่อผมกำลังใช้หนึ่งในสุดยอดผลงานของโอโต้ซังในยุคที่ยังเป็นนักวิจัย จะให้ปิดบังอะไรได้ยังไงกันล่ะ
── สิ่งที่ผมทำอยู่ มันเป็นแค่เรื่องเล่นสนุกงั้นเหรอ
คำตอบนั้น ผมได้ตัดสินใจไปตั้งนานแล้ว
“ไม่ใช่หรอกครับ นี่คือการวิจัยกับการทดลองต่างหาก”
“……หน่านิ๊!”
ดวงตาของโอโต้ซังเบิกกว้าง
ผมเองก็เช่นกัน จ้องกลับไปโดยไม่หลบสายตา แล้วเอ่ยคำพูดออกไปอย่างหนักแน่น
“โอโต้ซังเคยพูดไว้ตอนยังเป็นนักวิจัยใช่ไหม ว่าการเป็นนักวิจัยไม่ใช่เรื่องของว่าผลลัพธ์จะเป็นประโยชน์ต่อโลกหรือเปล่า แต่การวิจัยให้ถึงที่สุดในสิ่งที่ตนตัดสินใจจะไขว่คว้าจริง ๆ ต่างหากล่ะ… นั่นแหละที่เรียกว่านักวิจัย”
“อา ใช่แล้ว จุดหมายปลายทางของการวิจัยนั่นแหละ ก็คือจี้ห้อยคอที่อพอลโลถืออยู่นั่น ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้กระทั่งรูปลักษณ์ภายนอก… ไม่สิ แม้แต่เพศยังเปลี่ยนแปลงได้โดยสมบูรณ์”
โอโต้ซังได้ไล่ตามจุดสูงสุดของเวทมนตร์ที่เรียกว่า『การแปลงร่าง』
เมตามอร์โฟซิสให้แปรเปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ของเด็กผู้หญิง ซึ่งในสายตาทั่วไปอาจดูเหมือนไม่ได้มีประโยชน์ต่อโลก หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นเพียงแค่รสนิยมส่วนตัว แต่เขากลับทุ่มเททั้งชีวิตลงไปกับมันอย่างหมดหัวใจ จนกระทั่งสามารถสกัดกลั่นสิ่งนั้นออกมาเป็น『เวทมนตร์』ได้สำเร็จ เป็นผลึกแห่งเส้นทางที่เขาเลือกเดินในฐานะนักวิจัย
และนั่นก็คือ── จี้เส้นนี้เอง
“หัวข้อวิจัยของผมคือ ‘การเปลี่ยนแปลงของโลก’ ครับ ด้วยการใช้สิ่งนี้ที่โอโต้ซังเป็นคนสร้างขึ้น── ไม่สิ”
ไม่มีความจำเป็นต้องเสแสร้งอะไร พวกเราเป็นพ่อลูกกันอยู่แล้ว
“เรื่องราวแนวฮาเร็มแนวต่อสู้ เมื่อมีผมในฐานะตัวแปรผิดปกติเข้าไปปะปน จะเกิดปฏิกิริยาเคมีอะไรขึ้นบ้าง…… และที่ปลายทางนั้นจะมีอะไรอยู่── ผมอยากรู้ให้ได้ครับ”
ผมกล่าวอย่างชัดเจนและหนักแน่น
เพื่อถ่ายทอดความตั้งใจจริงที่อยู่ในตัวผม ด้วยความบริสุทธิ์ไม่ผิดเพี้ยนแม้สักนิด ผมจึงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของโอโต้ซังและกล่าวออกไปตรง ๆ
“……ฟึ่”
โอโต้ซังหัวเราะเบา ๆ
“……สมกับเป็นลูกชายของฉันจริง ๆ”
“โอโต้ซัง……”
นักวิจัยในตำนานซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ เตรียมน้ำชาข้าวสาลีและแก้วเอาไว้ แล้วรินมันลงแก้วก่อนจะส่งมาให้ผม
เป็นการชนแก้วทักทายในแบบของนักวิจัยล่ะมั้ง
“นักวิจัยน่ะ มันก็พวกบ้าบอทั้งนั้นล่ะ ทุ่มเททุกอย่างเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง…… แต่ในขณะเดียวกัน ก็หมายความว่าพวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระยิ่งกว่าผู้ใด”
ผู้มีประสบการณ์กล่าวอย่างหนักแน่น
ที่ปลายทางของเส้นทางนั้น เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ถ่ายทอดชีวิตไปยังรุ่นต่อไป และทุ่มเทจนหมดสิ้นทั้งชีวิตและจิตวิญญาณ
……หากไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองมอดดับไปก่อน ป่านนี้เขาคงไปอยู่ในหลุมฝังศพไปนานแล้ว
“ออกไปโลดแล่นทั่วโลกอย่างอิสระเถอะ อพอลโล จนกว่าจะได้พบกับใครสักคนที่จะหยุดลูกไว้ได้ แม้จะรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็ตาม”
“โอ… โอโต้ซัง……!”
“เฮ้ ไอ้สามีหน้าโง่ อย่ามาพูดอะไรแปลก ๆ ให้ลูกฉันฟังนักสิยะ”
“ว้าก!”
โอก้าซังตื่นขึ้นมาแล้ว ดูเหมือนว่าเมื่อครู่นี้จะตื่นนอน ล้างหน้าเรียบร้อย และกลับมาสดชื่นอีกครั้ง เธอจ้องโอโต้ซังด้วยสายตาคมกริบตามแบบฉบับของเธอ
โอก้าซังที่นั่งลงข้างโอโต้ซัง หยิบแก้วน้ำชาข้าวสาลีขึ้นดื่ม แล้วถอนหายใจเบา ๆ
“อพอลโล… ลูกแม่เอาจริงเหรอ?”
“หน่านิ๊!”
สมกับเป็นสามีภรรยาคู่กันจริง ๆ
พูดแบบนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไร แต่สองคนนี้… พูดตรง ๆ ก็เป็นพวกที่ค่อนข้างเชื่อง่ายอยู่เหมือนกัน
“แน่นอนครับ นี่ไม่ใช่สิ่งที่มีใครบอกให้ผมทำ แต่มันเป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง หากปล่อยไว้อย่างนี้ เรื่องราวการต่อสู้ของเพื่อนสนิทผมมันคงจะยืดยาวไปตลอดกาล ผมจะรับผิดชอบในการพามันเข้าสู่บทสุดท้ายด้วยตัวเอง… เพื่อจะได้ไม่ต้องให้หมอนั่นสู้ไปมากกว่านี้อีก”
พอผมพูดด้วยท่าทีจริงจังสุด ๆ โอโต้ซังกับโอก้าซังก็หันไปสบตากัน ก่อนจะลังเลเล็กน้อย แล้วพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
“……สมกับเป็นลูกชายของแม่จริง ๆ”
“ใช่แล้วล่ะ สักวันหนึ่งเขาจะต้องกลายเป็นผู้แบกรับชะตาของโลกแน่นอน”
คนพวกนี้ อาจจะเป็นพวกคิดอะไรเรียบง่ายกว่าที่คิดก็ได้นะ
ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมโกหกอะไรหรอก
ก็แค่ไม่ได้พูดถึง「เพราะมันสนุกจนเลิกไม่ได้」แค่นั้นเอง
“เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็จะยกห้องวิจัยใต้ดินของบ้านนี้ให้ ใช้ตามสบายเลยนะ”
“จากพ่อขอมอบเอกสารสมัยเป็นนักวิจัยให้เป็นของขวัญ การปรับปรุงจี้นั้นก็ลองอ้างอิงจากข้อมูลดูแล้วทำเองก็แล้วกัน การวิจัยน่ะ ต้องเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ เสมอ”
“ขอบคุณครับ ทั้งสองคน…!”
และด้วยเหตุนี้ ผมก็ได้ครอบครองทั้งไอเทมล้ำค่า & สิ่งอำนวยความสะดวกสุดแสนจะสะดวกสบายมาเรียบร้อยแล้ว
ฟุ่ฟุ่ฟุ่… เอ่อ ไม่ใช่ว่าผมหลอกโอโต้ซังโอก้าซังหรอกนะ
สิ่งที่ผมพูดไปทั้งหมดน่ะ ไม่มีแม้แต่คำเดียวที่โกหก ความตั้งใจที่จะทำให้เร็กกะหลุดพ้นจากชีวิตที่มีแต่การต่อสู้ ด้วยการขยับเรื่องราวที่หยุดนิ่งให้เดินหน้าต่อไป── มันเป็นความรู้สึกจริงใจล้วน ๆ
ก็แค่ ไม่ได้พูดเรื่องที่สำคัญที่สุดอย่าง『เพราะมันสนุก』ออกไปเท่านั้นเอง แค่ปล่อยข้อมูลทีละนิดเท่านั้นแหละ
── อึก เจ็บหน้าอก เป็นไปได้เหรอว่าผมกำลังทรมานจากความรู้สึกผิดอยู่? ทำไมกัน…… หรือว่านี่คือโชคชะตาของผู้ที่เป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง……。
ขณะที่ผมกำลังยกมือกุมหน้าอกด้วยความทรมานอยู่นั้น โอโต้ซังก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“อ้อ จริงสิ อพอลโล พูดไว้ก่อนนะว่าโอก้าซังของลูกจะต้องไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่วันมะรืนแล้วนะ แล้วโอโต้ซังก็จะตามไปด้วย เพราะงั้นอีกหลายปีต่อจากนี้ก็ขอให้ตั้งใจอยู่คนเดียวล่ะ”
คนนี้พูดอะไรอันตรายออกมาแบบหน้าตาเฉย… สมองไปกระแทกอะไรเข้าหรือเปล่าเนี่ย
“ไม่ต้องห่วง โอโต้ซังกับโอก้าซังจะกลับมาร่วมงานจบการศึกษาด้วยแน่นอน ใช่ไหมจ๊ะ?”
“แน่นอนจ้ะ ที่รัก”
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วมั้ง!?”
และแล้วด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ โอโต้ซังโอก้าซังที่เป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน บ้านหลังนี้จึงกลายเป็นฐานลับของผมเพียงคนเดียวไปชั่วระยะเวลาหนึ่งเป็นที่เรียบร้อย ราวกับเป็นพระเอกในเลิฟคอเมดี้เลยแฮะ?
……แต่แบบนี้ก็หมายความว่า จากนี้ไปผมสามารถฝึกเป็นสาวน้อยโลลิได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจใครแล้วด้วยนี่นะ เยี่ยมไปเลย! สุดยอดไปเลย!
ระหว่างคิดเล่น ๆ ว่าจะชวนเร็จจังมาเล่นเกมด้วยกันทั้งคืนดีไหมน้า ผมก็กินมื้อเช้าให้เรียบร้อย แล้วออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน
◇◆◇◆◇
To Be Continued…
≪โดเนทสนับสนุน≫
「ทรูมันนี่วอลเล็ท : 087-411-5198 (ชื่อ: นาย ธนัตถ์ ศรีเทียมทอง)」
Chapters
Comments
- ตอนที่ 14: โลลิ กับ นินจา และสาวน้อย TS 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 13: อยากเล่นเป็นสาวน้อยลึกลับให้มากกว่านี้อีก!! 3 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 12: อยากเล่นเป็นสาวน้อยลึกลับให้มากกว่านี้อีก!! 2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 11: อยากเล่นเป็นสาวน้อยลึกลับให้มากกว่านี้อีก!! 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 10: เป็นเพื่อนคนหนึ่งเอง 2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 9: เป็นเพื่อนคนหนึ่งเอง 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 8: ผลกรรมของคนขี้แกล้ง พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 7: ทำตัวเป็นนางเอกหลัก2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 6: ทำตัวเป็นนางเอกหลัก1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 5: มาเริ่มต้นคุยกันใหม่เถอะ พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 4: ลองทำตัวลึกลับดูสักหน่อย 2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 3: ลองทำตัวลึกลับดูสักหน่อย 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 2: ความรู้สึกที่โคตรใหญ่เกินจะรับไหว พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 1: ก่อนอื่นต้องแปลงร่างเป็นสาวน้อยก่อน! พฤษภาคม 17, 2025
MANGA DISCUSSION