ตอนที่ 15: โลลิ กับ นินจา และสาวน้อย TS 2
ตอนที่ 15: โลลิ กับ นินจา และสาวน้อย TS 2
หลังจากอาบน้ำและรับประทานอาหารง่าย ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มรวบรวมข้าวของที่จำเป็นสำหรับการหลบหนีที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ จากนั้นจึงพาเด็กหญิงผมขาวลงไปซ่อนตัวในชั้นใต้ดินก่อนเป็นลำดับแรก
เนื่องจากมีคู่มือที่เจอในลิ้นชักโต๊ะ ผมจึงสามารถล่วงรู้เส้นทางที่จะใช้หลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ล่วงหน้าได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ต่อให้รู้เส้นทางแล้ว ก็ใช่ว่าจะสามารถพาเธอที่เปียกฝนจนหมดแรงเดินไปไหนต่อไหนในสภาพตอนนี้ก็คงไม่ไหว ด้วยเหตุนี้ผมจึงตัดสินใจให้พักค้างคืนในชั้นใต้ดินไปก่อนสำหรับวันนี้
แม้ผมจะปิดผนึกเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างชั้นบนลงมายังชั้นใต้ดินแล้วก็ตาม แต่อย่างไรก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพวกตามล่าจะบุกมาถึงบ้านเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น อย่างช้าก็เร็วที่สุดก็ต้องออกจากที่นี่ให้ได้ภายในพรุ่งนี้ตอนเที่ยง
ด้วยเหตุนี้เอง ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ผมจำเป็นต้องใช้ร่างเด็กผู้หญิงในการเดินทางออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน เนื่องจากนั่นมันเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถพรางตัวจากสายตาพวกมันได้แนบเนียนที่สุด
“เฮ้อ……จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงเริ่มลงมือปรับปรุงจี้ที่ใช้ในการแปลงร่าง เพื่อยืดระยะเวลาที่สามารถคงสภาพร่างเด็กผู้หญิงได้นานขึ้น อย่างน้อยก็ให้มันมากเพียงพอต่อการเดินทางในแต่ละช่วง โดยไม่ต้องเสี่ยงเปลี่ยนกลับร่างกลางทาง
แต่แน่นอนว่าสิ่งแบบนี้มันไม่ใช่ของที่จะทำเสร็จได้ในชั่วข้ามคืน
หากสถานการณ์บีบบังคับถึงที่สุด ผมอาจต้องหาทางพลิกแพลงให้สามารถใช้เวลาสามชั่วโมงของการแปลงร่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด……แต่แบบนั้นมันก็โหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“คีย์ ที่วงจรตรงนั้นน่ะ วางไว้ตรงนี้ดีกว่า”
“หืม?”
ในระหว่างที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับการปรับแต่งจี้แปลงร่างอยู่ตรงโต๊ะ โดยมีอะไหล่และเครื่องมือวางกระจายเกลื่อนเต็มไปหมด ก็มีมือเล็ก ๆ ของสาวน้อยโลลิยื่นเข้ามาทางด้านข้างโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง
“ตรงนี้ต้องทำแบบนี้ แล้วก็แบบนี้”
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวนะ อย่าทำเลยน่า เดี๋ยวได้บาดมือกันพอดี”
“เสร็จแล้ว”
“ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย……”
เธอจัดการปรับแต่งจี้แปลงร่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาแค่ไม่กี่นาที ก่อนจะส่งมันคืนให้ผมอย่างหน้าตาเฉย
ผมรับมันมาด้วยความรู้สึกครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย ก่อนจะเสียบสายเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วลองรันโปรแกรมจำลองระยะเวลาที่สามารถคงสภาพแปลงร่างได้ โดยไม่ได้คาดหวังอะไรเป็นพิเศษ
……ไม่หรอกน่า ไม่น่าจะเป็นไปได้หรอก
【ระยะเวลาคงสภาพร่างผู้หญิง: 32 ชั่วโมง】
เอ๊ะ อะไรกันนี่
【ช่วงพักระหว่างการแปลงร่าง: 5 นาที】
แล้วที่ผมหรือโอโต้ซังอุตส่าห์วิจัยกันมาตั้งนานมันคืออะไรกันแน่วะเนี่ย
“แม่งเว่อร์เกินไปแล้ว……ปัญหาแม่งแก้ได้เฉยเลย……”
“มีประโยชน์, บ้างไหม?”
เด็กหญิงผมขาวเอียงคอเล็กน้อย พลางจ้องดูปฏิกิริยาของผมอย่างเงียบ ๆ
แม้สีหน้าจะยังเรียบเฉยไม่ต่างจากทุกครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้สัมผัสได้ถึงความกังวลบางอย่างที่แฝงอยู่ในแววตาคู่นั้น
อืม――อย่างนี้นี่เอง
ในตอนนั้นเอง ผมก็พอจะจับต้นชนปลายได้ว่า เหตุใดเด็กหญิงคนนี้ถึงถูกองค์กรชั่วร้ายจับตัวไปใช้เป็นเครื่องมือ
และในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าเธอที่อยู่ตรงหน้าในเวลานี้ ก็เริ่มกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักขึ้นมาในสายตาอย่างรวดเร็ว จนอดไม่ได้ที่จะดึงเธอมากอด
กอดแน่น ๆ แบบเต็มแรงเลยด้วย
“เธอเนี่ย~!! อัจฉริยะชัด ๆ เลยเธอน่ะ~!!! เด็กดีมาก!! ช่วยได้แบบโคตรจะเป็นประโยชน์เลย! ขอบใจมาก!! จากนี้ไปฉันจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิตเลย!!”
“อุหวา”
“เอ้า~ ดีมากดีมากดีมาก เธอนี่เด็กดีจริง ๆ เลย น่ารักด้วย เป็นอัจฉริยะ แถมแก้มยังนุ่มนิ่มอีก ไม่มีอะไรให้ติติงเลยซักอย่าง ทั้งชื่อเสียงทั้งความสามารถ เธอนี่แหละที่สุดของที่สุด ดีมากดีมาก แก้มนุ่มนิ่มจริง ๆ~”
“มะ มุ่ว……”
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเธอไม่ชินกับการถูกชม หรือเพราะผมเองไม่ชินกับการชมใครกันแน่ แต่ยังไงก็ตาม เด็กหญิงผมขาวก็หลับตาพริ้มปล่อยให้ผมลูบหัวอย่างว่าง่าย ซึ่งท่าทางของเธอในตอนนี้ ก็ทำให้ผมนึกถึงแมวที่ยอมให้อุ้งมือของมนุษย์ลูบขนอย่างเชื่อง ๆ เลยทีเดียว
“ดีใจที่ช่วยได้นะ”
“งั้นเด็กเก่งแบบนี้ต้องได้รางวัลหน่อยสิ ฉันขอมอบพุดดิ้งคัสตาร์ดในตู้เย็นให้เป็นรางวัล”
“ให้จริงเหรอ”
“จะกินเพิ่มอีกก็ได้ด้วยนะ!”
“……!”
“ไม่ต้องเกรงใจ……กินให้เต็มที่เลย……”
“อะแอะแอ่~”
เสียงฝีเท้ากระพือพั่บพั่บดังขึ้นขณะเด็กหญิงวิ่งจ้ำอ้าวเข้าไปยังห้องข้าง ๆ ที่มีตู้เย็นอยู่ หลังจากที่ผมผละตัวออกให้เธอไปได้โดยสะดวก
ต่อให้จะดูเป็นเด็กที่เห็นแก่ของกินก็เถอะ ผมเองก็ไม่สนใจหรอกว่าจะถูกมองว่าเป็นคนยังไงในสายตาคนอื่น
แต่ไหนแต่ไร ผมก็ตั้งใจจะปกป้องเธออยู่แล้ว ในฐานะเด็กที่โอโต้ซังกับโอก้าซังฝากไว้ให้ดูแล และจากเรื่องเมื่อครู่นี้ มันก็ทำให้ผมมีเหตุผลของตัวเองเพิ่มขึ้นอีกข้อ ที่อยากจะปกป้องเธอให้ถึงที่สุด
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ คนอย่างผมที่นิสัยก็ไม่ได้ดีเด่อะไร วัน ๆ เอาแต่หาเรื่องแกล้งเพื่อนเล่นไปเรื่อยเปื่อย ก็คงไม่มีสิทธิจะมาพูดจาให้ดูเท่แบบนี้หรอก
แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น อย่างน้อยเรื่องหนึ่งที่ผมไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นแน่ ๆ ก็คือการปล่อยให้เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยังไร้เดียงสาขนาดนั้น ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกโรคจิตโลลิคอนที่จับเธอไปขังในห้องทดลอง เพียงเพราะเธอเป็น『อัจฉริยะ』และยังไปไกลถึงขั้นจะจับยัดความสามารถเหนือมนุษย์เหมือนสัตว์ประหลาดอะไรนั่นเข้าไปในตัวเธออีกต่ากหาก ผมไม่มีทางยอมให้พวกมันแตะต้องเธออีกเด็ดขาด
“หงับ หงับ”
เด็กหญิงนั่งอยู่บนเตียง เคี้ยวพุดดิ้งในปากไปอย่างเอร็ดอร่อย พุดดิ้งถ้วยแรกนั้นถูกเธอกินไปจนหมดเรียบร้อยแล้วภายในเวลาไม่นาน ผมรู้สึกว่าความตะกละตะกลามที่เธอแสดงออกมากลับดูน่ารักตามประสาเด็กในวัยเดียวกัน เพราะมันคือการแสดงออกถึงความไร้เดียงสาอย่างตรงไปตรงมา และภาพนั้นเองก็คงสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เด็กในวัยเดียวกันควรจะเป็นจริง ๆ
“……ว่าแต่ มันจะช้าไปหน่อยก็เถอะ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการหน่อยละกัน”
“มงั่บ”
“ฉันชื่ออพอลโล・คีย์ เรียกฉันด้วยชื่อเหมือนที่โอก้าซังกับคนอื่น ๆ เรียกก็ได้นะ”
“กลืน……เข้าใจแล้ว, คีย์”
“เดี๋ยวสิ คือว่าฉันหมายถึงชื่อ……เอาเถอะ ช่างมันก็ได้ แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไรเหรอ?”
เมื่อผมรับถ้วยพุดดิ้งเปล่าที่เธอกินจนหมดมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเดินไปโยนลงถังขยะ พลางเอ่ยถามเธอไปด้วย ก็ได้ยินเสียงตอบกลับจากด้านหลังผมในทันที
“โค้ดเนม:『จุนปาคุ』จิเอะกับยูคิเรียกฉันแบบนั้น”
ก็เป็นไปตามคาด หรือจะเรียกว่าคิดไว้อยู่แล้วก็ได้ เธอถูกตั้งชื่อเรียบง่ายแบบนั้นจริง ๆ ด้วย
ว่าแต่ชื่อ『จุนปาคุ』(純白 = สีขาวบริสุทธิ์) นี่มันเป็นคู่ตรงข้ามกับ『ชิคโคคุ』(漆黒 = สีดำสนิท) ของผมอยู่พอดีเลยนี่หว่า แบบนี้มันก็แปลว่าเราไปขโมยคอนเซปต์ของเธอมาเต็ม ๆ เลยน่ะสิ
“……แล้ว ชื่อจริงของเธอล่ะ?”
“เอ๊ะ”
ไม่รู้ว่าเธอเกิดขึ้นมาในห้องทดลอง หรือว่าถูกลักพาตัวมาจากที่ไหนสักแห่งกันแน่?
ยังไงตรงจุดนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมอดสงสัยไม่ได้
“ขอโทษที จริง ๆ น่าจะถามเรื่องนี้ก่อนมากกว่าเนอะ เธออยู่ในห้องทดลองนั่นมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่เหรอ?”
“……เก้าขวบ”
ตอนนี้อายุสิบเอ็ดขวบ นั่นหมายความว่าเธออยู่ในห้องทดลองนั่นมาเป็นเวลาสองปีแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวมาแหง ๆ หน้าที่ของผมก็คงจะเปลี่ยนไปเป็น『ต้องพาเด็กคนนี้กลับไปหาโอโต้ซังกับโอก้าซังของเธอให้ได้』นั่นเอง
“โอโต้ซังกับโอก้าซังของเธออยู่ที่ไหนกันงั้นเหรอ?”
“ไม่มีปะป๊าหม่าม้า ไม่เคยเห็นหน้าด้วย อยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กมาตลอด”
“……ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร โดนถามแบบนี้จนชินแล้ว”
หน้าที่ของผมถูกทำลายลงในชั่วพริบตา แต่ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมยังไม่ได้ถาม
“ชื่อของเธอคืออะไรเหรอ?”
“……จุนปาคุ”
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึงไม่ใช่รหัสที่พวกงี่เง่าแบบนั้นตั้งให้น่ะ ฉันอยากรู้ชื่อจริง ๆ ของเธอ”
“…………”
เธอก้มหน้าเงียบไปโดยไม่พูดอะไรอีก
ถ้าคนธรรมดาได้เห็นภาพนี้ ก็คงพูดว่า「อย่าไปฝืนถามอะไรแบบนี้เลย」อย่างไม่ต้องสงสัยแน่ ๆ
แต่น่าเสียดาย ผมน่ะไม่ใช่คนแบบนั้น ผมเป็นมนุษย์ประเภทที่เรียกได้ว่า「ไม่ยึดติดกับสามัญสำนึกทั่วไป」
เพราะผมเชื่อว่าเด็กคนนี้ ซึ่งเคยพยายามจะถอดกางเกงของคนแปลกหน้าโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยได้อย่างหน้าตาเฉยมาก่อน เป็นคนที่มีความเข้มแข็งในแบบที่ประหลาดดี
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตหลบหนีต่อจากนี้ ก็คือ『ระยะห่างระหว่างเรา』
การเรียกชื่อกันและกัน จะเป็นก้าวแรกที่จะทำให้ช่องว่างระหว่างเรานั้นแคบลง ผมเองก็เคยเริ่มแบบนั้นกับเร็กกะมาแล้วเหมือนกัน
ผมนั่งลงข้าง ๆ เธอที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง เพื่อจะได้ยินเสียงแม้ว่าเธอจะพูดเบาแค่ไหนก็ตาม
“…………อิตสึกิ”
“อืม”
“อิตสึกิ……อิตสึกิ ฟูจิมิยะ”
“เป็นชื่อที่เพราะดีไม่ใช่เหรอ”
“…………ฉันชื่อ ฟูจิมิยะ อิทสึกิ……”
ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นเพราะนึกถึงอดีต หรือเพราะตลอดสองปีที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเรียกชื่อจริง ๆ ของเธอเลย ความรู้สึกของเธอในตอนนี้จึงยากจะคาดเดาได้ ทว่า『อิทสึกิ』――หรือ『ฟูจิมิยะ อิทสึกิ』ในตอนนี้ กลับปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มบนใบหน้าไร้อารมณ์
“เธอทำได้ดีมากแล้วล่ะ อิทสึกิ… ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
“……อืม”
ผมโอบไหล่ของเด็กหญิงที่กำลังตัวสั่นระริกในสภาพอ่อนแรงไว้อย่างแผ่วเบา
การปฏิบัติที่เธอต้องเผชิญมาตลอดสองปีที่ผ่าน คงเลวร้ายเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการถึงได้ แม้ผมจะไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่เพียงมองก็พอจะเข้าใจ ผมตระหนักดีว่าถ้อยคำปลอบใจเพียงผิวเผินคงไม่มีความหมาย และในเวลานี้ สิ่งที่เธอต้องการที่สุดก็คือการมีใครสักคนที่พร้อมจะยอมรับเธออย่างที่เธอเป็น
“คีย์……คิอิ……”
“โอ๊ะ……อืม, ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว”
ดูเหมือนว่าอิทสึกิจะไม่อาจเก็บความรู้สึกไว้ได้อีกต่อไป เธอเรียกชื่อผมพลางโผเข้ากอดจากด้านหน้า ผมรับร่างเล็กนั้นไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับความคิดบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในหัว
ในพื้นที่แถบนี้ โดยทั่วไปแล้วจะเรียงชื่อก่อนแล้วค่อยตามด้วยนามสกุล
ยกตัวอย่างเช่นกรณีของผม อพอลโล・คีย์――『อพอลโล』เป็นชื่อ ส่วน『คีย์』เป็นนามสกุล
ในพื้นที่ที่เวทมนตร์ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด――โดยเฉพาะในเขตมหานครแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเวทมนตร์ระดับแนวหน้าของโลก และที่นั่นก็คือโรงเรียนที่ผมกำลังศึกษาอยู่นั่นเอง การเรียงชื่อในลักษณะแบบนั้นจึงกลายเป็นเรื่องปกติ อันเป็นธรรมเนียมที่ได้รับอิทธิพลมาจากดินแดนต้นกำเนิดของเวทมนตร์
“ฟูจิมิยะ อิทสึกิ… งั้นเหรอ”
แต่ในพื้นที่อื่นที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น――โดยเฉพาะในพื้นที่แถบชนบทที่ห่างไกลหรือพื้นที่ยากจนที่เวทมนตร์ยังแทบไม่มีอิทธิพล การเรียงชื่อโดยขึ้นต้นด้วยนามสกุลก่อนจึงถือเป็นเรื่องปกติ อย่างชื่อ『ทาโร่・ยามาดะ』ก็จะกลายเป็น『ยามาดะ ทาโร่』
ที่จริงแล้ว ผมเองก็เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่แบบนั้นเหมือนกัน ก่อนจะย้ายมาอยู่ในเขตมหานครแห่งนี้เมื่อประมาณสองปีก่อน เพื่อเข้าศึกษาในโรงเรียนเวทมนตร์
โอก้าซังชื่อ『คิอิ จิเอะ』โอโต้ซังชื่อ『คิอิ ยูคิ』และผมมีชื่อว่า『คิอิ ไทโย อพอลโล』คำว่า「ไทโย」ที่เขียนด้วยตัวอักษรคันจิที่แปลว่า「ดวงอาทิตย์」(太陽 = taiyo) แต่ให้อ่านว่า「อพอลโล」แบบนี้ อาจจะเรียกว่าเป็นพวกชื่อ『คิระคิระเนม』 (※ชื่อแปลก ๆ ที่นิยมตั้งให้ลูกในช่วงยุคหนึ่งของญี่ปุ่น) ก็ได้เหมือนกัน โอโต้ซังกับโอก้าซังเคยบอกอะไรสักอย่างทำนองว่าอยากให้ผม「ส่องสว่างเจิดจ้าเหมือนเทพแห่งดวงอาทิตย์」อะไรประมาณนั้น แต่ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้สนใจที่มาของชื่อตัวเองขนาดนั้นหรอก
เรื่องมันออกนอกประเด็นไปหน่อยแล้ว
กล่าวโดยสรุปก็คือ อิทสึกิ เองก็เป็นคนจากพื้นที่แบบนั้นเหมือนกัน แม้จะไม่ได้ถึงขั้นเป็นเพื่อนบ้านหรือมาจากท้องถิ่นเดียวกันอะไรทำนองนั้นหรอกนะ แต่ผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของเธอได้อยู่
ถูกลักพาตัวมาจากที่ห่างไกลแบบนั้น แล้วถูกตั้งชื่อใหม่แบบไม่มีแม้แต่โอกาสจะเข้าใจอะไรสักอย่าง และเมื่อหลบหนีออกมาได้ กลับพบว่าข้างนอกนั้นคือโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ ซึ่งห่างไกลจากชีวิตเดิมของตัวเองโดยสิ้นเชิง เมื่อเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลกที่สภาพจิตใจจะตึงเครียดจนถึงขั้นร้องไห้ออกมาแบบนั้น
“เฮ้อ… เรื่องแบบนี้มันแย่จริง ๆ เลยนะ”
“……คิอิจะปกป้องฉันเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ หมายถึงไอ้พวกองค์กรชั่วเวรนั่น ที่เต็มไปด้วยโรคจิตโลลิคอนกับพวกบ้าบออะไรนั่นน่ะ เดี๋ยวฉันจะอัดพวกมันให้ยับเอง”
“……พอเข้าสู่บรรยากาศซีเรียสเมื่อไหร่ คิอิก็ชอบทำตัวเท่ขึ้นมา ฉันจำไว้แล้วล่ะ”
“เฮ้ย! ฉันพูดจริงจังอยู่นะเฟ้ย!”
คงต้องยอมรับว่ายัยนี่อาจจะจิตใจเข้มแข็งกว่าที่คิดไว้ก็ได้ ทั้งที่เมื่อครู่ยังร้องไห้อยู่แท้ ๆ แต่หยุดร้องได้เร็วขนาดนี้มันก็เร็วเกินไปหน่อยแล้วมั้ง
ว่าแต่ที่เธอเรียกผมว่า『คิอิ』แบบนี้ เป็นเพราะชื่อ『อพอลโล』มันฟังดูเหมือนชื่อจากภาษาต่างประเทศเกินไปหรือเปล่านะ? หรืออาจจะเป็นเพราะสำเนียงจากบ้านเกิดของเธอเองด้วย ที่ทำให้การเรียกชื่อ『คิอิ』มันออกเสียงง่ายกว่าประมาณนั้นล่ะมั้ง
“แต่ถ้าเรียกด้วยนามสกุล มันรู้สึกห่างเหินใช่มั้ยล่ะ? งั้นจะให้เป็นกรณีพิเศษ เรียกฉันว่า『พ็อกกี้』ก็ได้นะ”
“……ขนมเหรอ? แปลกจัง”
“อ๊ะ ก็ว่าแล้วเชียวว่าต้องคิดแบบนั้นแน่ ๆ พ็อกกี้มันเป็นชื่อเล่นที่แปลกจริง ๆ แหละ”
ทั้งที่ผมเรียกหมอนั่นว่า「เร็จจัง」ซึ่งก็เป็นชื่อเล่นธรรมดาทั่วไปแท้ ๆ แต่กลับไม่เข้าใจเลยว่าเขาไปนึกอะไรอยู่ถึงตั้งชื่อเล่นผมว่า「พ็อกกี้」ขึ้นมา สงสัยเซนส์ในการตั้งชื่อของเร็กกะคงจะแหวกแนวไม่เหมือนชาวบ้านจริง ๆ หรือบางทีเขาอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ผมยังไม่รู้ก็ได้
แต่ก็ช่างเถอะ เพราะตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ แถมออกจะชอบด้วยซ้ำ คงเพราะเป็นชื่อที่เขาเป็นคนตั้งให้ล่ะมั้ง
เอาเป็นว่าวันนี้ขอเข้านอนก่อนก็แล้วกัน
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะยุ่งยากยิ่งกว่านี้อีก ทั้งที่อยากจะหนีออกจากสถานการณ์บ้า ๆ แบบนี้แท้ ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากต้องใช้ชีวิตแบบหลบซ่อนหัวซุกหัวซุน เพื่อเอาตัวรอดจากพวกประหลาดที่เรียกตัวเองว่า「ฮันเตอร์」ซึ่งจะคอยตามล่าคนที่พวกเขาหมายหัว ชีวิตแบบนั้นมันจะต้องเหนื่อยแน่ ๆ เลยให้ตายสิ
◇◆◇◆◇
To Be Continued…
≪โดเนทสนับสนุน≫
「ทรูมันนี่วอลเล็ท : 087-411-5198 (ชื่อ: นาย ธนัตถ์ ศรีเทียมทอง)」
Chapters
Comments
- ตอนที่ 15: โลลิ กับ นินจา และสาวน้อย TS 2 พฤษภาคม 27, 2025
- ตอนที่ 14: โลลิ กับ นินจา และสาวน้อย TS 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 13: อยากเล่นเป็นสาวน้อยลึกลับให้มากกว่านี้อีก!! 3 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 12: อยากเล่นเป็นสาวน้อยลึกลับให้มากกว่านี้อีก!! 2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 11: อยากเล่นเป็นสาวน้อยลึกลับให้มากกว่านี้อีก!! 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 10: เป็นเพื่อนคนหนึ่งเอง 2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 9: เป็นเพื่อนคนหนึ่งเอง 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 8: ผลกรรมของคนขี้แกล้ง พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 7: ทำตัวเป็นนางเอกหลัก2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 6: ทำตัวเป็นนางเอกหลัก1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 5: มาเริ่มต้นคุยกันใหม่เถอะ พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 4: ลองทำตัวลึกลับดูสักหน่อย 2 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 3: ลองทำตัวลึกลับดูสักหน่อย 1 พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 2: ความรู้สึกที่โคตรใหญ่เกินจะรับไหว พฤษภาคม 17, 2025
- ตอนที่ 1: ก่อนอื่นต้องแปลงร่างเป็นสาวน้อยก่อน! พฤษภาคม 17, 2025
MANGA DISCUSSION