มหาสีดำตัวหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากความมืดพร้อมกับมีดหลายเล่มที่อยู่บนหลัง
แจ็คกี้ด็อก–มอนสเตอร์ที่อยู่โลกอื่น ซึ่งปกติแล้วมันจะเป็นแค่มอนสเตอร์อ่อนแอที่พบได้แถวดันเจี้ยนชั้นต่ำๆ
เฮ้ยๆ เอาจริงดิ!? ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นมอนสเตอร์เลยเรอะ!?
แถมยังไม่ได้มาแค่ตัวเดียวอีก
หนึ่ง สอง สาม สี่…ห้าตัว!? ขนาดในดันเจี้ยนก็ยังไม่เจอเยอะขนาดนี้เลยนะเฮ้ย!?
เป็นการเผชิญหน้าที่ผิดคาดจริงๆ
พอผมหันกลับไป ก็มีใบมีดพุ่งออกมาจากด้านหลังหมาสีดำตัวหนึ่ง
“โอ๊ะ”
ทริกเกอร์–[สรรค์สร้าง : เกราะพลังเวทย์] [ปรับเปลี่ยน : ประสาทตา] [ปรับเปลี่ยน : กล้ามเนื้อและกระดูก]
–เปิดใช้งาน เสริมพลัง
“ว้าย!!”
ผมคว้าพี่สาวบาเทนเดอร์ไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง
จากนั้นก็กระโดดเตะกำแพงสามครั้งเป็นรูปสามเหลี่ยมและปัดมีดออกไปโดยใช้เวทย์เสริมพลังแขนข้างที่ใส่เฝือกอยู่
พอผมพาพี่สาวคนนั้นไปหลบไว้ที่หลังเคาน์เตอร์ ผมก็รีบตามหาที่มาของเสียงเพื่อจะหาตำแหน่งของแจ็คกี้ด็อก
“อย่าโผล่ออกมาเด็ดขาดเลยนะครับ หลบอยู่หลังเคาน์เตอร์ไว้ อ๊ะ แล้วก็”
ผมยิ้มให้กับเธอ
“ฝากสวัสดีคนรักที่แสนน่ารักของคุณด้วยนะครับ(อีกรอบ) ฮิซึมิ!!”
ผมตะโกนเรียกฮิซึมิที่กำลังเดินไปมาด้วยความตื่นตระหนกจนเธอสะดุ้ง
“โทษทีนะ แต่ช่วยฉันหน่อยสิ! มือขวาฉันมันใช้ไม่ได้ ก็เลยเปลี่ยนคอลโซลไม่ได้น่ะ! ช่วยมาข้างหลังฉันทีสิ!”
“พะ…พูดอะไรน่ะ นายนั่นแหละรีบหนีไปซะ! เป้าหมายน่ะคือฉันนะ! ละ…แล้วฉันก็เป็นศัตรูของนายด้วยนะ!?”
“ใครสนเล่า ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ปล่อยให้ใครตายทั้งนั้นน่ะ แล้วก็นะ ฉันน่ะสัมผัสได้ถึงศักยภาพในตัวเธอ…หมายถึงศักยภาพในการเป็นยูริอันแสนงดงงามน่ะนะ…เพราะงั้น เธอเลยเป็นคนที่ฉันจะต้องปกป้องเหมือนกันไง เพราะงั้นก็รีบมาเถอะ มาจัดการไอ้พวกนี้ด้วยกันสิ”
“นะ…นี่มันอะไรเนี่ย…นี่นายใช่ซันโจ ฮิอิโระจริง ๆ น่ะเหรอ…?”
ผมเตะแจ็คกี้ด็อกที่กระโจนใส่จนกระเด็นออกไป จากนั้นผมก็คว้าเอวฮิซึมิแล้วดึงเข้ามาหา
“ดะ…ดะดะดะดะเดี๋ยวสิ!? จะ…จะจะจะจะจับตรงไหนอยู่กันน่ะ!?”
“เอวบางจังเลยนะ กินข้าวให้มันเยอะๆหน่อยสิ”
“ยะ…อย่ามาตลกนะ…ปะ…ไปตายเลยไป…!!”
เธอที่กำลังหน้าแดง ได้ใช้มือทั้งสองข้างผลักหน้าผม
“โอ๊ยๆๆๆๆ…ถ้าไม่ทำแบบนี้ ฉันก็ปกป้องเธอไม่ได้น่ะสิ…เอาล่ะ ฟังให้ดีนะ…เธอรู้ใช่มั้ยว่ามันจะมีกระเป๋าคอนโซลอยู่ตรงกระเป๋าในเสื้อแถวหน้าอกอยู่น่ะ…ช่วยดึงคอนโซลออกมาจากตรงนั้นตามที่ฉันบอกที…!”
“ข้างในชุดเลยเหรอ!? จะ…จะบอกให้จับหน้าอกนายรึไง!?”
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ยังไงฉันก็เป็นผู้ชายอยู่แล้วนี่?”
ฮิซึมิผลักผมพร้อมกับหูที่แดงก่ำ
“กะ…ก็เพราะเป็นผู้ชายนี่แหละมันถึงเป็นไม่ใช่รึไง!? บ้าไปแล้วเหรอ!? ฉะ…ฉันน่ะยังไม่เคยคบผู้หญิงเลยซักคนด้วยซ้ำ แล้วจะให้เอามือล้วงไปตรงหน้าอกผู้ชายเนี่ยนะ…จะ…จะให้ทำเรื่องแปลกๆแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ!!”
“เถอะน่า ทน ๆ ไปเถอะ–เอาล่ะนะ”
ในความมืดที่แสนเงียบงันนั้น พวกหมาสีดำก็ได้เริ่มเข้ามาใกล้และเข้าโจมตี
แจ็คกี้ด็อกเคลื่อนไหวกันเป็นฝูง แปลว่ามันสื่อสารกับตัวอื่นๆด้วย
เพราะพวกนั้นพูดไม่ได้เหมือนกับมนุษย์ พวกมันเลยสื่อสารกันด้วยการใช้เสียงใบมีดบนหลังของพวกมันแทน
หมาสีดำสามตัวกระโดดใส่ พร้อมส่งเสียงแปลกๆ
“ทางด้านหน้าเป็นแค่ตัวหลอก ส่วนมีดที่ลอยมาจากทางขวาคือของจริง ฮิซึมิเอา [ธาตุ : น้ำ] [สรรสร้าง : ลูกศร] [สรรสร้าง : ใบมีด] มา!!”
“อ๊าาา โธ่!!”
ฮิซึมิใช้พลังเวทย์ในการดึงคอนโซลออกจากคุกิ มาซามุเนะของผม จากนั้นเธอก็ค่อยๆใช้พลังเวทย์เพื่อเอาคอนโซลไปใส่ตามที่ผมบอกไว้
จากนั้นผมก็ปล่อยตัวฮิซึมิและกดหัวเธอลง
“อึก!”
มีมีดเล่มหนึ่งลอยผ่านหัวของผม จากนั้นผมจึงชักคุกิ มาซามุเนะออกมา
เชื่อมต่อคอนโซล– [ธาตุ : น้ำ] [สรรสร้าง : ลูกศร] [สรรสร้าง : ใบมีด]
ดับเบิ้ลคราฟต์ ดาบไร้ธาตุ , นีลแอร์โรว์
“…ชิ!”
ผมฟันแจ็คกี้ด็อกที่กำลังกระโจนเข้ามาออกเป็นสองซีก
ฮิซึมิที่อยู่ระหว่างทั้งสองซีกของแจ็คกี้ด็อกก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
จากนั้นผมก็ปัดมีดที่พุ่งออกมาจากความมืดกระเด็นขึ้นไปบนเพดาน โดยไม่สนการหลอกล่อของพวกแจ็คกี้ด็อกตรงหน้า
“จะโจมตีรอบทิศสินะ”
“ทะ…ทำไมล่ะ นี่นายน่ะ…ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว นายเข้าใจที่พวกมันพูดด้วยเหรอ!?”
ถึงจะถามแบบนั้น แต่มันก็ดันจำได้เองแล้วน่ะสิ…ก็เพราะว่าเคยได้ยินตอนเล่นเกมมาบ่อยแล้วนี่นะ…แถมพักนี้เสียงของยูริก็เริ่มมีเยอะขึ้นด้วย…ก็เลยต้องฝึกการฟังเอาไว้น่ะนะ(ยิ้ม)
จากนั้นผมก็กอดฮิซึมิเอาไว้แน่น
“ว้าย! บะ…เบาๆมือหน่อยสิ! แรงน่ะ! แรงของนายน่ะมันเยอะซะจนน่ากลัวเลยนะ!”
“อ๊ะ ขอโทษที ประมาณนี้พอมั้ย?”
พอผมผ่อนแรงลง ฮิซึมิก็หันหน้าหนีพร้อมเอามือปิดปาก
“…อื๊อ”
“เอ๊ะ…เมื่อกี้ทำเสียงลามกทำไมล่ะนั่น…?(ถามแบบจริงจัง)”
“กะ…ก็เพราะนายโอบเอวฉันแรงเกินไปนั่นแหละ!! เพราะแบบนั้นก็เลยต้องเกร็งท้องไว้!! แต่จู่ ๆ ก็ต้องผ่อนลงไง!! นี่นายไม่มีความละเอียดเลยรึไง!? พวกผู้ชายเนี่ยเป็นแบบนี้กันทุกคนเลยรึไง!? ถ้าตายขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ!?”
จู่ ๆ ก็มีแรงเฉยเลยนะเด็กคนนี้นี่…ถ้าเป็นในเกมล่ะก็ เธอแทบจะไม่ปรากฎตัวให้เห็นเลย ก็เลยไม่ค่อยจะรู้อะไรเกี่ยวกับเธอมากเท่าไหร่
ถ้าจำไม่ผิดทีมงานผู้พัฒนาเหมือนจะเคยพูดอะไรบนทวิตเตอร์ว่า “ที่จริงแล้ว มันเป็นเพราะเซ็ตติ้งตัวละคร” หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ…จำไม่ค่อยได้แล้วแฮะ…
“โอ๊ะ”
“อุ๊บ!”
ผมกดหัวฮิซึมิลงบนอกของผม และหลบมีดที่กำลังพุ่งเข้ามา
“ดะ…เดี๋ยวสิ!! อย่ามากดหัวคนอื่นลงบนหน้าอกแบบนี้นะ!! กะ…กลิ่นมัน!! กลิ่นของนายมันเข้าจมูกฉันเต็ม ๆ เลยนะ!?”
“โทษที ๆ เดี๋ยวต่อไปจะรีบจัดการให้จบก็แล้วกันนะ”
[ธาตุ : แสง] [สรรสร้าง : บอล] [การทำงาน : ยิง]
“ธะ…โธ่…!”
ฮิซึมิยื่นมือของเธอมาวางไว้บนอกของผม
แจ็คกี้ด็อกกระจายตัวกันออกไปทั้งซ้ายและขวาด้วยความเร็ว จากนั้นพวกมันก็พุ่งตรงเข้ามาหาผม
“นี่ ฮิซึมิ หยุดเอามือลูบหน้าอกคนอื่นแล้วเปลี่ยนคอนโซลได้แล้ว เจ้าพวกนั้นมันมากันแล้วนะ”
“มะ…ไม่ได้ลูบซักหน่อย! อย่าพูดให้เหมือนเป็นเรื่องไม่ดีนะ!!”
พวกแจ็คกี้ด็อกกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ผมปล่อยฮิซึมิที่กอดเอาไว้และหลบมีดที่พุ่งเข้ามาพร้อมฟันคุกิ มาซามุเนะเพื่อปัดมีดออกไป
“อือ…อื๊อ…อือ…อืม…”
“เดี๋ยวสิฮิซึมิ อย่าทำงั้นสิ(สะดุ้ง)”
“ก็เพราะนายเอาแต่–อืม–กอด ๆ ปล่อย ๆ ฉันนั่นแหละ!!–อือ–ช่วยคุมแรงไว้หน่อยเถอะ!!”
เซ็ตคอนโซลเรียบร้อยแล้ว
“ฮิซึมิ หมอบลง”
เธอคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมเอามือสองข้างกุมหัวเอาไว้ ในขณะนั้น แจ็คกี้ด็อก 4 ตัวก็กระโจนเข้าหาเธอจากทั้งสองข้าง
จากนั้นผมยื่นฝ่ามือไปที่ตรงกลางของพวกมัน
ผมเพ่งพลังเวทย์ไปที่ฝ่ามือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้–
“อยู่บนเรือก็ทำตัวให้มันดีๆ…เพราะงั้นก็นั่งลงไปซะ”
ผมยิ้มมุมปาก
“บอลแสง(ไลท์)”
บอลแสงระเบิดไปทุกทิศทางจากฝ่ามือของผม
แจ็คกี้ด็อกที่พุ่งเข้าก็กระเด็นไปในอากาศ จากนั้นผมก็เล็งพวกมันเรียงตัว
รูทออน
ผมสร้างเส้นทางยิงไปยังหมาสีดำที่กำลังดิ้นด้วยความเจ็บปวด
จากนั้นผมก็ยิงธนูตามเส้นทางไปสามดอกใส่พวกมันในรวดเดียว
และลูกดอกสามลูกนั้นก็พุ่งทะลุแจ็คกี้ด็อก
หมาดำที่ถูกยิงก็ได้ตายลงและร่วงลงไปกับพื้น จากนั้นผมก็ดึงศรน้ำออกมาจากศพพวกมัน
“ว้ายยยยยยยยยยย!!”
ในขณะนั้นเอง หมาตัวที่เหลือกระโจนเข้าหาฮิซึมิ
ผมจึงเขวี้ยงศรออกไปด้วยมือซ้ายสะท้อนกับเกราะพลังเวทย์ไปปักลงที่ระหว่างคิ้วของหมาตัวนั้น
จากนั้น แจ็คกี้ด็อกตัวนั้นก็ได้ตายลง
ผมมองผลงานของตัวเองด้วยความพอใจ
นั่นคือไอเดียที่ได้มาจากตอนที่เห็นลูกศรมันเด้งออกมาจากรั้ว…ไม่จำเป็นจำต้องสร้างเส้นทางให้่มันยุ่งยาก เพราะแค่ยิงสะท้อนไปใส่กำแพงเอาก็ได้ไงล่ะ ถึงมันจะไม่ได้คงที่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นในตอนคับขัน มันก็ถือว่าดีใช้ได้ แถมยังประหยัดพลังเวทย์ได้ด้วยล่ะนะ
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ฮิซึมิ”
ฮิซึมิที่ไขว้มือกันไว้เพื่อป้องกันหน้าเอาไว้ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
“อึ๋ย!”
พอเห็นหมาสีดำกลิ้งอยู่ตรงหน้า เธอก็ถอยหลังและกระโดดเข้ามากอดผม
“…ตะ…ตายแล้วเหรอ?”
“ใช่แล้ว ดูสิ พวกมันก็ลังหายไปแล้วนั่นไง”
มอนสเตอร์ที่สูญเสียพลังเวทย์ไปแล้ว ก็จะไม่สามารถคงสภาพเอาไว้ในโลกได้อีกต่อไป
ทำให้พวกแจ็คกี้ด็อกกลายเป็นอนุภาคสีฟ้าอ่อนและหายไปในอากาศ
“……”
แต่ว่ามันแปลก ๆ แฮะ
ปกติแล้วมอนสเตอร์มันควรจะปรากฏตัวแค่ในดันเจี้ยนเท่านั้นนี่นา
แถมท่าเรือที่สองก็ยังเป็นที่ท่องเที่ยวที่ถือว่ามีประวัติเรื่องความปลอดภัยจนเป็นที่ยอมรับเลยด้วย
มันไม่ควรจะมีมอนสเตอร์หลุดรอดเข้ามาได้ซักตัวเลยด้วยซ้ำ
ถึงจะบอกว่าเดินทางไปโลกอื่น แต่โอกาสที่จะมีมอนสเตอร์เกิดได้นั้นมันก็แทบจะเป็น 0 เลย
แถมมอนสเตอร์พวกนั้นมันยังมุ่งเป้าไปที่ฮิซึมิอีก ก็แปลว่ามอนสเตอร์พวกนั้นทำตามคำสั่งใครซักคนสินะ
ถ้าคิดตามหลักแล้ว พวกมอนสเตอร์จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์
ยกเว้นอยู่แค่กรณีเดียวคือกรณีที่มอนสเตอร์นั้นถูกเรียกออกมาโดยพวกสาวกปีศาจระดับสูง
เพราะมอนสเตอร์ที่ถูกสาวกระดับสูงเรียกออกมานั้น ก็เหมือนเป็นลูกน้องของปีศาจ และเพราะพวกมันภักดีต่อปีศาจ พวกมันเลยยอมรับคำสั่งของมนุษย์แต่โดยดี
แต่ว่ามันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่อีกทางหนึ่ง
แต่ว่าเรื่องนั้น…ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้หรอก…มันไม่มีทางเป็นไปได้…ถ้าถึงตอนนั้น…ผม…คงจะต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะ…
“นะ…นี่”
ผมได้สติเพราะเสียงเรียกของฮิซึมิ
“เอ่อ…ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้นะ…แข็งแกร่งจริง ๆ เลยนะนายเนี่ย…ถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำไมฉันที่เป็นสาวกผู้ซื่อสัตย์ของท่านอาร์สฮาเรียถึงตกเป็นเป้าหมายก็เถอะ…แต่บางทีอาจจะมีพวกสาวกที่อิจฉาฉันอยู่ก็ได้ละมั้งนะ…”
“…บนเรือนี้ยังมีพรรคพวกคนอื่นอยู่อีกรึเปล่า?”
“ไม่มี…ไม่น่ามีหรอก…”
ไม่น่ามี สินะ
ตอนนี้คงต้องรอไปอีกซัก 3 วันก่อนล่ะสินะ
“โทษทีนะ แต่ว่าตอนนี้ฉันจะทิ้งเธอไว้แบบนี้ไม่ได้หรอก ก็เธอตกเป็นเป้าแล้วนี่นะ ถึงจะไม่ค่อยสะดวกในหลาย ๆ เรื่อง แต่คงต้องให้เธอมาอยู่ในความดูแลของฉันแล้วล่ะ”
“ขะ…เข้าใจแล้วล่ะ…ฉันเองก็ทำพลาดไปแล้วด้วย…แค่ยังไม่ถูกฆ่านี่ก็ถือว่าโชคดีแล้วล่ะ…”
“เยี่ยม ถ้างั้นก็ไปกันเลยเถอะ ว่าแต่นี่เธอคิดจะเกาะฉันไปอีกนานแค่ไหนล่ะเนี่ย?”
ฮิซึมิยิ้มให้ผมทั้งน่ำตา
“ขะ…ขอโทษนะ…พะ…เพราะเมื่อกี้…ขาฉันมันก็เลย…ไม่มีแรงเลยน่ะ…คะ…คงจะเดินไม่ไหวแล้วล่ะ…”
ฮิซึมิพยายามยืนขึ้น แต่เพราะเธอไม่มีแรงจึงยืนไม่ไหว
พอเห็นแบบนั้น ผมก็ถอนหายใจและอุ้มตัวเธอขึ้น
“ว้าย!”
“อดทนเอาไว้ละกันนะ เราทั้งคู่เลย”
พอเข้าค่ายนี้ผมก็ได้อุ้มท่าเจ้าหญิงบ่อยครั้งเลย แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาอุ้มทั้งที่แขนยังใส่เฝือกอยู่แบบนี้
ในตอนที่ผมกำลังจะพาเธอไปห้องพยาบาลพร้อมกับกำลังคิดแบบนั้น ผมก็ไปเจอกับสึกิโอริและคนอื่นๆในทันที
“……”
“””……”””
“……”
“””……”””
ผมพยายามที่จะเดินหนีพวกเธอ แต่ทันใดนั้น-
“ฮิอิโระคุงกำลังพาผู้หญิงที่กำลังเมากลับไปด้วยอยู่เหรอ…”
“ใช่แล้วครับ(พูดใส่เพื่อลดค่าความชอบ)”
“มะ…ไม่ใช่นะ! ซันโจ ฮิอิโระเข้าช่วยฉันเอาไว้–อุ๊บ!”
ผมยิ้มพร้อมเอามือปิดปากฮิซึมิ
“ชู่ว…เงียบเอาไว้…ตอนนี้ฉันกำลังรดน้ำดอกลิลลี่อยู่นะ…ห้ามใครมาขวางทั้งนั้น…ใช่แล้วห้ามใครแม้แต่คนเดียว…นะ…?”
“อุ๊บ!! อุ๊บ อุ๊บ อุ๊บ!!”
ผมมองไปที่ทั้งสามคนด้วยรอยยิ้ม
เทพแห่งยูริเอ๋ย โปรดลดค่าความชอบต่อกระผมลงด้วยเถิด…ลดลง…ลดลง…ลดลงซะ…ไม่งั้นฉันจะเจื๋อนแกซะเลย…(ภาวนา)
“ฮิ…ฮิอิโระ…”
“ท่านพี่…”
เยี่ยมเลย!! นี่แหละๆๆๆ มันต้องแบบเน้!! เอาอีกๆๆๆ!!
“คงไปทำอะไรเสี่ยงๆเพื่อช่วยชีวิตเด็กคนนั้นอีกแล้วใช่มั้ย…เจ้าบ้า…เฝือกมันเยินไปหมดแล้วนะ…ตอนที่เข้ามาที่เรือก็เหมือนจะได้ยินเสียงมอนสเตอร์ด้วย…”
“ท่านพี่มักจะชอบต่อสู้เพื่อปกป้องใครซักคนอยู่เสมอเลยนี่นะคะ(ตาเป็นประกาย)”
คร้าบๆ! คร้าบๆ! เข้าใจแล้วคร้าบ เข้าใจแล้ว! คร้าบๆๆ! เข้าใจแล้วคร้าบ เข้าใจแล้ว!
“คุณฮิซึมิดูเหมือนจะยืนไม่ไหวเลยด้วย โดนมอนสเตอร์เข้าจู่โจมเข้าสินะ?”
“แล้วทีนี้ พอไปเจอกันเข้า ฮิอิโระคุงก็เลยเอาตัวเข้าไปปกป้องสินะ อุตส่าห์จะแกล้งฮิอิโระคุงต่อซักหน่อยแท้ๆ…ดันเผลอสปอยล์เร็วเกินไปซะได้”
“ท่านพี่น่ะไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอกค่ะ”
“ฮิซึมิ มันไม่ใช่อย่างงั้นหรอกใช่มั้ย!? หลังจากนี้ฉันกับเธอกำลังจะไปมีค่ำคืนอันแสนเร่าร้อนกันใช่ม้า!? เธอดื่มจนเมาก็เพราะฉันบังคับให้เธอดื่มใช่มั้ยล่ะ!?(ตาแดง)”
“ไม่ใช่(ยืนยัน)”
ผมเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปในอากาศด้วยแววตาที่ว่างเปล่า
มันจบแล้ว(พื้นหลังสีดำ)
ผมคุกเข่าลงต่อหน้าทั้งสามคนที่ใส่ชุดว่ายน้ำ
“ถ้างั้น ฮิอิโระคุง”
สึกิโอริยิ้มให้ผม
“พอพาเธอไปห้องพยาบาลแล้ว…ก็ไปสระว่ายน้ำกัน เนอะ?”
พอผมได้ยินเสียงกระซิบเบาๆที่เหมือนการโจมตีครั้งสุดท้ายนั้น ผมก็ปิดหน้าตัวเองอย่างเงียบๆ
[ติดตามการเคลื่อนไหวได้ที่เพจ Okuse-Translator]
MANGA DISCUSSION