ผมลืมตาขึ้น
พอผมตื่นผมก็มองไปทั่วห้องที่มีแสงสลัว
เมื่อวานนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้างกันนะ…อาการบาดเจ็บที่แขนขวามันเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ นับจากตอนนั้น สติก็ค่อนข้างจะเลือนราง…จะว่าไปแล้ว รู้สึกอบอุ่นจังแฮะ…จะว่าไปแล้ว นี่มันมืดไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย…จะบอกว่าตรงนี้เป็นเตียงมันก็นุ่มเกินไปแฮะ…
ไม่ดีเลย รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ
หลังจากที่เหงื่อเริ่มหยด ผมก็ค่อย ๆ ขยับมืออย่างช้า ๆ
“…อืม”
ผมได้ยินเสียงเหมือนใครบางคนกำลังพูดอู้อี้อะไรอยู่
ในขณะนั้นเอง ปลายนิ้วผมก็เหมือนจะไปโดนผ้าไหมคุณภาพดีเข้า
พอลูบไล้ไปมา ผ้าเนื้อนุ่มนั่น นิ้วมันก็ลงไปสัมผัสถึงร่างกายอันนุ่มนวล
พอผมเงยหน้าขึ้น ผมก็เห็นเรย์ที่กำลังนอนอยู่โดยที่กอดผมไว้แนบหน้าอก
และผมยิ้มกว้างออกมา
มันจบแล้ว…
ผมหันกลับลงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“อืม..”
ลาพิสที่อยู่ด้านหลังผมก็เปลี่ยนท่า
มันจบแล้ว…(รอบสอง)
ไม่อยากเห็นแล้ว ผมไม่อยากจะเห็นอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ผมยิ้มแล้วค่อย ๆ ดึงผ้าห่ม
“…อุ…อืม…”
สึกิโอริที่นอนเกาะอยู่ตรงหน้าท้องผมก็ได้เอาใบหน้าถูท้องผมไปมาอย่างสบายๆ
มันจบแล้ว…
ผมใช้แขนข้างที่ไม่หักปิดหน้าตัวเองเอาไว้
“โฮะๆ…โฮะๆๆ…โฮะๆๆ…โฮะโฮ่…!!”
ผมหลั่งน้ำตาออกมาเหมือนกับเด็กที่ได้ไปเห็นภาพการฆาตกรรมติดตายังไงยังงั้น
และแล้วหลังจากนั้นผมก็ได้ตระหนักได้
จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้…จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้…ต้องทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดอะไรขึ้น…ไม่งั้นก็….ต้องทำอะไรซักอย่างกับตรงหน้านี้ก่อน…!!
ผมดึงลาพิสกับสึกิโอริออกไปจากตัวเองและรีบหนีออกมาจากอกของเรย์
ผมดึงมือของสึกิโอริไป แล้วก็จัดตำแหน่งของลาพิสกับเรย์เพื่อให้ทั้งสามคนกอดกันเอง
แก้ยูริพัซเซิลเสร็จจนได้เฟ้ย!!
ผมยืนนิ่งพร้อมรอยยิ้มแล้วก็ทุบกำปั้นซ้ายไปที่ผนัง
ไอ้บ้าเอ๊ย…!! ของปลอมแบบนี้ มันจะเรียกว่ายูริได้ยังไงกัน…!! ทั้งความตั้งใจ…!! และจิตวิญญาณมันไม่มีเลยซักนิด…!!
ผมถ่ายรูปที่ทั้งสามคนนอนด้วยกันก่อนที่จะออกไปจากห้อง
ผมตั้งรูปนั้นเป็นภาพหน้าจอพร้อมยิ้มให้กับตัวเอง แต่ภาพที่ไม่มีจิตวิญญาณนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกว่างเปล่า
เจ็บจี๊ดจริงๆ (มีทั้งความสุขและเศร้า)
รุ่งเช้าเวลาตี 4.30 น.
แค่เพราะว่ามาอยู่บนเรือสำราญแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะอู้การฝึกประจำวันได้อยู่แล้ว
ถึงแม้จะมีเรื่องมากมาย แต่ผมก็อยากจะรักษาสความพร้อมในการต่อสู้ให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้
ผมขึ้นไปที่เด็คแทนซาไนต์ซึ่งอยู่ชั้นบนสุด จากนั้นก็เปิดบานมุ้งลวดพร้อมมองออกไปยังท้องทะเลที่ยังปกคลุมไปด้วยความมืดมิด
[ฉันกินกุ้งมาล่ะค่ะ]
ผมได้รับของความมากจากอาจารย์ของผม แอสเทมีร์
แต่ถาพถ่ายนั้นดูเบลอมาก ยังกับว่ากำลังถ่ายเส้นสีแดงอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่กุ้งเลย
[ส่งแชตเองได้แบบนี้นี่ เก่งจริง ๆ เลยนะคะ]
[(o^∇^o)]
ผู้หญิงวัย 420 ผู้โลว์เทคโนโลยีคนนี้นั้น แม้แต่จะเปิดหน้าจะก็ยังทำไม่เป็นเลย…แต่พักหลังมานี้ เธอชอบแชตมาหาผมอยู่หลายครั้งเลยทีเดียว
แต่ส่วนใหญ่ที่ส่งมาก็ยังกะภาพไดอารี่ที่เด็กประถมเป็นคนเขียน เพราะงั้นเวลาดูถึงรู้สึกอบอุ่นหัวใจอยู่เสมอเลยล่ะ
[อยากได้ของฝากจังเลย]
[ผมจะใช้เซนส์อันสุดยอดของผมตอบสนองความต้องการนั้นให้เอง เดี๋ยวให้ลาพิสจัดการให้ก็แล้วกัน]
[ฮิอิโระต้องเป็นคนเอามาให้สิ]
[ไม่ล่ะ ขอฝึกก่อนนะ บ๊ายบาย]
[โกรธ(o^∇^o)]
ทำไมโกรธแล้วถึงใช้อีโมจิอันนั้นล่ะเนี่ย…? นี่อย่าบอกนะว่าใช้อีโมจิเป็นแค่อันนี้อันเดียวน่ะ…?
ยังไงก็เถอะ แต่การพิมพ์ด้วยการใช้มือซ้ายเนี่ย ยากชะมัดเลย
ผมปล่อยแชตกับ 420 ปี ทิ้งไว้แบบนั้น แล้วจากนั้นผมก็กดทริกเกอร์ของคุกิมาซามุเนะ
ทันใดนั้นเอง ศรทั้งสามลูกในจินตนาการของผมก็ปรากฎขึ้นที่แขนซ้าย
อย่างที่คิดเลย ดูท่าว่าศร 3 ลูกนี้จะเป็นขีดจำกัดของผมแล้วในตอนนี้…
ด้วยการฝึกกับอาจารย์ มันก็เลยทำให้พลังเวทย์ของผมมันเพิ่มขึ้นมามากเลยทีเดียว…แต่เอาจริง ๆ แค่นี้น่าจะยังไม่พอหรอก
“……”
ผมลบกระสุนนั้นทิ้งไปแล้วสร้างลูกศรน้ำธรรมดาขึ้นมาแทน
ถ้ามองด้วยตาก็ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างกันเท่าไหร่
หลังจากอยู่ในระยะที่พอเหมาะแล้ว ผมก็เล็งไปที่ช่องระหว่างรั้ว
ฟิ้ว!!!
ลูกศรพุ่งผ่านช่องระหว่างรั้วอย่างงดงาม จากนั้นลูกศรนั้นก็ถูกดึงด้วยเวทย์ บรรจุเป็นกระสุนนัดต่อไปที่นิ้วของผม
ฟิ้ว ฟิ้ว!!
ลูกศรผ่านไประหว่างช่องรั้วทั้งซ้ายและขวาตามที่เล็งไว้ ลูกศรที่เฉียดรั้วเล็กน้อยก็ทำให้สีของรั้วลอกออก
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!!
ผมสร้างใหม่และยิงซ้ำ ๆ
คราวนี้ศรทั้ง 3 ลูก พุ่งผ่านช่องรั้วอย่างรวดเร็ว
“……”
ไม่ไหวแฮะ นี่มันยังไม่คงที่พอเท่าไหร่เลย อย่างต่ำก็ต้องยิงสองลูกถึงจะไหว
แต่ผมอยากจะยิงด้วยมือซ้ายให้ได้ ผมจึงใช้เวลาฝึกมากกว่าเดิม
ผมใช้เฝือกที่แขนขวาเป็นฐานแล้วใช้มือซ้ายยิงออกไปซ้ำ ๆ
แล้วครั้งนี้กระสุนมันยังไปโดนรั้วจนเปลี่ยนทิศด้วย
ใช้ไม่ได้แฮะ ลูกศรพวกนั้นพุ่งไปโดนรั้วเรื่อย ๆ แล้วทิศที่มันปลิวไปนั้น–แต่ผมก็ได้ฉุกคิด
เดี๋ยวสิ แบบนี้มันอาจจะขึ้นอยู่กับว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ยังไงรึเปล่านะ…ถ้าลองใช้หลักการเดียวกับนีลแอร์โรว์ดูล่ะก็…
แต่ถึงจะว่างั้น ตอนนี้ก็ทำไม่ได้หรอก ในกรณีที่แย่ที่สุดตอนนี้ก็คือการที่จะต้องไปต่อสู้จริงแหละนะ
ผมเริ่มฝึกซ้อมด้วยมือซ้ายอีกครั้ง แบบระมัดระวังไม่ให้เสียฟอร์ม
ผมยังคงทำเหมือนที่อาจารย์สอนแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นั่นคือการเหวี่ยงดาบตามจังหวะขณะที่ใส่เฝือกอยู่แบบนี้ จนพระอาทิตย์ค่อย ๆ ขึ้น
หลังจากที่เหวี่ยงครบตามเป้าที่กำหนดไว้จนเหงื่อท่วมแล้ว ผมก็นั่งสมาธิ
“……”
กระแสพลังเวทย์
ผมนำพลังเวทย์ที่ไหลเวียนจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย
รู้สึกอยากเต๊าะลิ้นเลยแฮะ พลังเวทย์ผมนี่มันน้อยเกินบรรยายเลย
ดูเหมือนว่าแค่นี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้ว แบบนี้ผมคงไม่มีทางตามสึกิโอริทันแน่
ตอนนี้ผมกำลังพยายามปรับเวทย์ของตัวเองด้วยการควบคุมพลังเวทย์อยู่
ถ้าผมต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งละก็ ผมก็ต้องมีพลังเวทย์ที่มากพอ
เพราะงั้นผมจึงจะต้องแก้ไขตรงนี้ให้ได้
แต่ก็นะ บางทีในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี่หรืออาจจะไม่จำเป็นจำต้องตามสึกิโอริให้ทันก็ได้
หลังจากฝึกพื้นฐานเสร็จแล้ว ผมก็ไม่สบายตัวนิดหน่อยเพราะเหงื่อที่เปียกชุ่ม
อ่างอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่…ไม่สิ อันนั้นน่าจะสำหรับผู้หญิง้เท่านั้นล่ะมั้ง…จากุซชี่เองก็น่าจะใช่่เหมือนกัน…แบบนี้คงต้องใช้ฝักบัวอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะนะ…แต่ก็ไม่อยากกลับไปที่นั่นเลยแฮะ…งั้นก็คงมีแต่ที่นั่นแล้วสินะ…!
ผมกลับมาข้างในเรือและเคาะประตูห้อง
“…มีอะไรเหรอ?”
เตียงในห้องรกมาก
คุณหนูออกมากับชุดนอนสุดหรู พร้อมหาวและขยี้ตา
“ขอโทษนะ ขอใช้ห้องน้ำหน่อยได้รึเปล่า?”
พอผมยิ้มออกไป คุณหนูก็ตัวแข็งทื่อ
“……”
“……”
พอเธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หน้าของเธอก็แดงก่ำ
“ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!”
ประตูถูกปิดอย่างดังต่อหน้าผม
ทันใดนั้นความโกลาหลก็บังเกิด มีเสียงของชนกันผ่านประตูออกมา…แล้วประตูก็เปิดออก
คุณหนูผมบลอนด์ม้วนสุดสวยปรากฎตัวอีกครั้งในชุดวันพีซที่ดูสง่างาม
“มีอะไรล่ะ มาวุ่นวายแต่เช้าเลย”
“ขอโทษที่มาวุ่นวายตั้งแต่เช้านะ…พอดีว่าอยากจะขอรบกวนใช้ห้องน้ำสักหน่อยน่ะ…ได้รึเปล่า?”
“ทั้งที่ทิ้งดิฉันไว้น่ะหรอคะ”
คุณหนูไม่ได้ตอบคำถามอะไร ได้แต่ไขว้แขนหันไปทางอื่น แล้วก็ส่งเสียง [เชอะ!] ออกมา
“คุณน่ะ เมื่อวานนี้มาคุกเข่าขอร้องดิฉันว่า [ขอค้างด้วยได้มั้ยครับ] ไม่ใช่รึไงคะ? ที่คลานบนพื้นแล้วยังเลียรองเท้าเหมือนคนชั้นต่ำ พร้อมอ้อนวอนว่า [ได้โปรดล่ะครับ ท่านโอฟิเลีย ได้โปรดให้อภัยผมด้วยใจที่กว้างใหญ่ดั่งท้องสมุทรนั้นด้วยเถอะ] แล้วดิฉันก็ตอบรับด้วยท่าทีที่แสดงให้รู้ถึงสถานะของตัวเองด้วยความกรุณาดั่งแสงแห่งฤดูใบไม้ผลิว่า [ได้สิคะ! โอ๊ะโฮะๆๆๆ!] น่ะ”
อืม กลิ่นความเป็นคุณหนูนี่หอมฟุ้งตั้งแต่เช้าเลยแฮะ! (พอใจสุดๆ)
“ทั้งอย่างงั้น เมื่อคืนคุณก็กลับหายตัวไปแล้วกลับมาใหม่ตอนเช้า แถมสึกิโอริก็ยังยิ้มเยาะให้ก่อนจากไปอีกนะคะ!? คุณรู้บ้างรึเปล่าคะว่าดิฉันรู้สึกยังไงที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังน่ะ!? มาทิ้งบุตรสาวตระกูลมาร์เจไลน์ไว้ในห้องมืด ๆ แบบนี้นี่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ค่ะ!! คุณเข้าใจความเหงาที่แผ่ไปทั่วทั้งหัวใจของฉันบ้างรึเปล่าล่ะคะ!?”
“ขอโทษนะ (มองอย่างอ่อนโยน)”
“แววตานั่นมันอะไรกันคะ! มองแบบนั้น!! มันอะไรกันค้า!!”
คุณหนูที่กระทืบเท้าที่พื้นนี่น่ารักจริง ๆ น้า ^ ^
ผมยิ้มออกมาและรอให้เธอสงบสติลง
“ต้องขอประทานอภัยด้วยจริง ๆ ครับ…งั้นคุณหนูครับ ขอผมยืมห้องอาบน้ำหน่อยได้มั้ยครับ? ตอนนี้ผมกำลังเหงื่อโชกเลยด้วย ผมไม่อยากให้บุตรสาวตระกูลมาร์เจไลน์รู้สึกไม่ดีน่ะครับ”
“มันก็ไม่ได้มีกลิ่นอะไรขนาดนั้นหรอกนะคะ…ไม่่ใช่สิ! ดะ..ดิฉันเองก็อยู่ในห้อง แล้วคุณที่เป็นผู้ชายจะมาอาบน้ำทั้งที่ดิฉันก็อยู่ในห้องเนี่ยนะคะ!?”
“งั้นคุณหนูแค่ออกไปข้างนอกแป๊บนึงก็พอแล้วนี่”
“ไม่-เอา-หรอก-ค่ะ!!”
คุณหนูพูดเสียงดังพร้อมกำมือแน่น
เธอจ้องมาทางผม แล้วก็ขยุกขยิกนิ้วเท้าไปมาพร้อมพึมพำเสียง [อือ] ออกมา
“ตะ…แต่ว่าการที่ทาสที่อยู่กลุ่มเดียวกันกับดิฉันมาเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วพร้อมกลิ่นเหงื่อ มันก็คงจะเสื่อมเสียเกียรติของตระกูลมาร์เจไลน์ล่ะนะ…ช่วยไม่ได้นะคะ งั้นก็ใช้เท่าที่อยากเลยค่ะ”
“ข่อมค้าบ!”
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน!!”
ผมเดินผ่านเธอเข้าไปในห้อง
อาจจะเป็นเพราะเธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อกี้ เสื้อผ้าในห้องเลยดูกระจัดกระจายไปหมด…แล้วพอผมมองเห็นผ้าสีชมพูชิ้นหนึ่ง ผมก็หันไปทางอื่นอย่างช้าๆ
“เดี๋ยวก่อน มะ…ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!”
คุณหนูกระโจนไปที่พื้นแล้วหยิบผ้านั้นขึ้นมา
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ ไม่มีอะไรทั้งน้าน!! ชั้นในของดิฉันอะไรนั่น ไม่มีทั้งนั้นค่ะ!! คุณไม่เห็นอะไรทั้งนั้นค่ะ!!”
“ชอบสีชมพูเหรอ? (ถามอย่างจริงใจ)”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!”
ผมวิ่งหนีคุณหนูที่กำลังหน้าแดงเข้าห้องน้ำ
แย่แล้วสิ…เผลอไปแกล้งคุณหนูเหมือนสมัยที่ยังเล่นเกมอยู่จนได้…พวกแฟนเอสโก้นั้นชอบทำให้คุณหนูอายซะด้วย…ดันเผลอทำเรื่องไม่ดีไปซะแล้วสิ…เดี๋ยวไว้ไปขอโทษทีหลังดีกว่า
ผมรีบอาบน้ำ วางผ้าเช็ดตัวไว้บนไหล่แล้วเดินออกไปข้างนอก
“ขอโทษเรื่องเมื่อกี้ด้วยนะครับ ตอนที่อาบน้ำก็ลองคิดดูหลายทีแล้ว แต่กางเกงในสีชมพูเนี่ย คงไม่มีทางมีอยู่บนโลกหรอกครับ อาจจะเป็นงูสีชมพูหรืออะไรประมาณนั้นมากกว่าล่ะมั้ง”
“ไปตายซะเถอะค่ะ!!”
ผมรับขาตั้งไฟที่เธอโยนใส่ด้วยมือข้างเดียว
คุณหนูจ้องมาทางผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด จากนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันกลับมามองที่ผม
“แต่จะว่าไปแล้วก็เร็วเหมือนกันนะคะ ดิฉันเคยอ่านเจอในหนังสือว่าผู้ชายจำอาบน้ำเหมือนอีกา–“
พอคุณหนูเห็นผม คุณหนูก็ตัวแข็งทื่อไปซะอย่างนั้น
“เป็นอะไรไปน่ะ? หรือว่าจะมีงูจริง ๆ งั้นเหรอ?”
เธอหน้าแดงแล้วก็เอามือปิดหน้าไว้แน่น
“ระ…ไร้ยางอายที่สุด!! ไร้ยางอายที่สุดเลยค่ะ!! ใส่เสื้อผ้าสิคะ!! รีบใส่เร็วเข้า!! ไม่นะ!!”
“อ๊ะ โทษที”
ผมเปลือยอยู่ครึ่งตัว ผมเลยรีบใส่เสื้อ
“สะ…เสร็จแล้วใช่มั้ย…?”
“อื้ม เสร็จแล้วล่ะ”
คุณหนูเงยหน้าขึ้นมองและถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
จากนั้นเธอก็โบกมือแล้วทำหน้ารังเกียจ
“ถ้าเสร็จธุระแล้วก็ออกไปเลยค่ะ มันเกะกะค่ะ ดิฉันเองก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกัน”
“คร้าบ ข่อมค้าบ”
ในขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้อง–
“จะว่าไปแล้ว มีแชตมาจากสึกิโอริ ซากุระในแชตกลุ่มด้วยนะ”
“เอ๊ะ อะไรน่ะ?”
“เห็นบอกว่า [หลังทานอาหารเช้าแล้ว มาที่สระว่ายน้ำนะ] น่ะ…เดี๋ยวสิ จะไปไหนน่ะคะ?”
ผมเปิดประตูและหันหลังกลับไปพร้อมยิ้มท่ามกลางแสงที่มาจากทางด้านหลัง
“ฉันจะบิดล่ะ!”
เพื่อที่จะหนีจากอีเวนต์ชุดว่ายน้ำแนวรอมคอม ผมจึงเลือกที่จะหนีเข้าไปในแสงไฟอันแสงอบอุ่น
ใช่แล้ว เข้าไปสู่แสงสว่างไงล่ะ รีบไปสู่สิ่งที่เรียกว่าความหวัง–
แต่ไม่กี่นาทีต่อมา–
“……”
หลังจากที่โดนจับได้ ผมก็ได้แต่กลอกตาไปมาอยู่ข้างสระซะงั้น
MANGA DISCUSSION