ผมจำเป็นต้องหาทุนเพื่อที่จะสร้างโกเลม
ดังนั้น ผมจึงสร้างโลชั่นทาหน้าแบบพื้นฐานออกมาเพื่อการนั้น
ในชาติก่อน ทุกๆอย่างล้วนใช้โกเลมทำทั้งสิ้น
มีโกเลมที่สามารถจะแต่งหน้าให้ระหว่างหลับได้หากตั้งเวลาเอาไว้ แล้วก็มีโกเลมที่สามารถลบเครื่องสำอางและใช้สกินแคร์ให้คุณหากคุณหลับไปที่โถงทางเข้าของบ้านหลังจากที่เมากลับบ้านมา — ในตอนนั้นโกเลมเหล่านั้นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
นั่นคือตอนที่ผมเรียนรู้เรื่องวัตถุดิบพื้นฐานของโลชั่นทาหน้าที่ใช้สำหรับโฆษณาที่โกเลมเหล่านั้นใช้
วิศกรโกเลมจำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องนี้ก็เพราะว่าพวกโกเลมนั้นจำเป็นต้องมีความสามารถที่จะรักษาคุณภาพของโลชั่นทาหน้าเหล่านั้นเป็นเวลานาน
◆◆◆◆◆
“โอ๊ะ แหม จะให้โลชั่นทาหน้านี้กับฉันเหรอจ๊ะ?”
“ครับ ผมหวังว่าจะมันจะมีประโยชน์กับท่านนะครับ”
แอนนา ท่านแม่ และผมกำลังดื่มชาอย่างสำราญด้วยกัน และผมก็ใช้โอกาสนั้นที่จะมอบโลชั่นทาหน้าให้กับท่านแม่เป็นของขวัญ
“ฉันยินดีมากจ้ะ แล้วของแอนนาล่ะ?”
ท่านแม่สับสนเพราะผมได้มอบของขวัญให้กับแม่ของว่าที่เจ้าสาว แต่ยังไม่ได้มอบอะไรให้กับว่าที่เจ้าสาวของผมเลย
แอนนาหันสายตามาทางผม สายตาเธอกำลังถามไถ่ว่าทำไมเธอจึงยังไม่ได้รับของขวัญในเมื่อแม่ของเธอได้รับมัน
“เป็นเพราะว่าคุณสมบัติของโลชั่นนี้ครับ”
จะต้องระมัดระวังเวลาพูดคุยเรื่องปัญหาความงามของผู้หญิงไว้ให้มาก
กระแสของบทสนทนาจะต้องเป็นธณรมชาติ ในขณะที่ก็ต้องมีชั้นเชิงและระมัดระวังในคำอธิบายเพื่อที่จะไม่ทำให้ศักดิ์ศรีของพวกเขาต้องด่างพร้อย
ถ้าหากว่าคุณโปรโมทระหว่างที่พูดออกไปว่า “ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ดีสำหรับลูกค้าอย่างท่านที่มีริ้วรอยมากมาย” ผมรับประกันได้เลยว่าคุณจะต้องถูกต่อว่าจากลูกค้าที่กำลังโมโห แม้การพูดไปตามตรงจะมีประสิทธิภาพมากกว่าก็ตาม
“โอ๊ะ ถ้าอย่างนั้น มันมีคุณสมบัติอะไรล่ะจ๊ะ?”
“ครับ โลชั่นทาหน้าตัวนี้มีผลชะลอวัย และหากใช้มันยังสามารถช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ทำให้ผู้ใช้ดูอ่อนเยาว์ไปอีกสิบปีครับ”
ปัง
ผมหยุดพูดเมื่อพวกเราได้ยินเสียงเก้าอี้ร่วงตกไปยังพื้น
ท่านแม่ได้ทำเก้าอี้พลิกคว่ำเมื่อจู่ๆเธอก็ยืนขึ้นมา
ท่านแม่ยายของผมเป็นถึงพระขนิษฐาที่ได้มาแต่งงานกับดยุคคนปัจจุบัน
กิริยามารยาทที่ไม่เรียบร้อยนี้นับว่าหาได้ยากยิ่งสำหรับคนอย่างเธอ
แม้แต่ดวงตาของแอนนาเองก็เบิกกว้างราวกับไข่ห่าน
ท่านแม่ได้นั่งอยู่ตรงข้ามกับผม แต่ท่านกลับรีบปรี่ก้าวมาข้างๆผมในขณะที่แอนนาและผมนั้นยังคงตัวแข็งด้วยอาการตื่นตกใจ และอาศัยจังหวะนั้นหยิบขวดที่อยู่ในมือของผมไป
“ฉันขอรับไว้นะจ๊ะ”
แอนนาและผมได้แต่นั่งตะลึงงันในตอนที่ท่านคว้าโลชั่นทาหน้าไป
ท่านแม่ไม่ได้วิ่งมาอย่างแน่นอน
เธอนั้นเป็นคนที่มีความมั่นใจ และทุกอิริยาบถก็ยังคงความมีสง่าเอาไว้ — สามารถที่จะเอาหนังสือไปวางไว้บนศรีษะเธอโดยที่หนังสือนั่นไม่มีทางที่จะตกลงมาได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ดูราวกับท่านกำลังเล่นสเก็ตน้ำแข็ง ร่อนมาด้วยรองเท้าของเธอที่ความเร็วผิดธรรมชาติ
“…และ ผมมีเรื่องที่อยากจะขอร้องครับ”
ท่านแม่กลับไปยังที่นั่งของท่าน และในที่สุดเราก็เริ่มที่จะสงบจิตสงบใจลงได้บ้างแล้วในขณะที่ยังดำเนินบทสนทนาต่อไป
“โอ๊ะ เรื่องอะไรหรือจ๊ะ?”
“อย่างแรก ผมมีเรื่องที่อยากจะขอร้องท่านแม่ให้กล่าวถึงโลชั่นตัวนี้ในวงสนทนาของเหล่าหญิงสาวขุนนางชั้นสูงที่รู้สึกถึงความงดงามที่อ่อนเยาว์ลงของท่านครับ แต่จะยังไง ด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีจำนวนจำกัด พวกเราจะไม่ขายมันทอดตลาด ผมเลยจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งหากท่านจะช่วยปิดเรื่องตัวตนของผู้ที่ทำการผลิตเอาไว้เป็นความลับครับ”
“โอ๊ะ ถ้าหากว่าเป็นเรื่องแค่นั้นก็เป็นสิ่งที่ยอมรับได้นะจ๊ะ”
ท่านแม่เห็นพ้องพร้อมกับรอยยิ้ม
“อีกคำขอหนึ่งของผมคือเรื่องสถานที่ที่จะจัดจำหน่ายครับ ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ถ้าหากว่าท่านไม่ว่าอะไร ผมอยากจะขอร้องท่านแม่ให้ช่วยตัดสินใจสถานที่ที่จะจัดจำหน่ายให้หน่อยครับ”
ที่จริงแล้ว จะทำให้เป็นสินค้าผลิตจำนวนมากก็ทำได้อยู่หรอก แต่เราจะไม่ทำอย่างนั้น
มันง่ายกว่าที่จะทำในจำนวนน้อยๆและขายมันในราคาที่สูงลิ่ว
ผมเป็นคนเดียวที่ผลิตเจ้านี่ได้ เพราะงั้นผมอยากจะทำอะไรให้มันยุ่งยากนัก
“โอ๊ะ แหม ฉันก็ดีใจนะจ๊ะ แต่ว่าเธอยังเป็นคนของตระกูลแวร์แวรี่อยู่นะ ฉันเชื่อว่ามันคงจะเหมาะสมกว่าหากจะไปขอร้องเรื่องนี้กับคุณนายแวร์แวรี่ก่อนน่ะจ้ะ”
ท่านแม่เป็นคนที่ไว้ใจได้เมื่อเป็นในเรื่องแบบนี้
ท่านจะให้ความสำคัญกับสถานการณ์ของทางเราเหนือผลประโยชน์ของท่าน
แน่ล่ะ ช่างวิเศษอะไรอย่างนี้ที่ได้มาเป็นลูกเขยของคนๆนี้เนี่ย
“ผมได้ปรึกษากับท่านแม่แวร์แวรี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้วครับ ท่านบอกว่าถ้าหากเป็นอย่างนี้ คงจะดีกว่าหากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตระกูลเซเว่นสเวิร์ธ ท่านแม่แวร์แวรี่ได้บอกกับผมว่าแค่มอบโลชั่นให้กับท่านก็คงเพียงพอที่จะรับประกันเรื่องนี้ได้แล้วน่ะครับ”
ผมได้อธิบายเรื่องนั้นกับคุณหญิงแวร์แวรี่ที่จะให้ดูแลไปเรียบร้อยก่อนแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ตกลงจ้ะ เธอไม่เป็นไรใช่ไหมหากฉันจะขายเจ้านี่ให้กับคนที่ให้ราคาสูงสุดน่ะ?”
“ไม่ครับ ช่วยขายมันยังไงก็ได้ที่จะเกิดประโยชน์กับตระกูลเซเว่นสเวิร์ธ ยิ่งไปกว่านั้น ผมต้องการที่จะปรึกษาท่านแม่เพื่อที่ผมจะได้สามารถคำนึงถึงจำนวนผู้คนในคณะของท่าน ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องปริมาณสินค้าที่จะจำหน่ายด้วยครับ”
“โอ้ แหม จะไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอจ๊ะ? พวกเรากำลังพูดถึงเรื่องของเธออยู่นะ เธอให้ของขวัญกับฉันโดยที่ไม่มีอะไรมามอบให้แอนนา งั้นเธออาจจะกำลังคิดเรื่องของขวัญชิ้นอื่นที่จะมอบให้อยู่สินะจ๊ะ?”
อึ่ก เธอฉลาดมาก
เธออ่านความคิดของเราได้หมดเปลือกเลย
ผมอยากจะเก็บมันไว้เป็นความลับจากแอนนาในเมื่อผมยังไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีหรือเปล่า
“ครับ ผมกำลังตั้งใจทำอย่างนั้น แต่สำหรับตอนนี้ ผมมองเห็นอนาคตได้ว่าถ้าเป็นแค่เรื่องเงินก็คงไม่วุ่นวายนัก แต่มันมีสิ่งที่ผมต้องการมากกว่าเงินสำหรับในการเป็นของขวัญให้แอนนาครับ”
ดวงตาของแอนนาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ และรอยยิ้มอย่างเขินอายก็ได้แย้มออกมาบนใบหน้าของเธอ
น่าร๊าก~
ท่านแม่ยิงฟันในขณะที่เหล่สายตามองไปยังแอนนา
“ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ฉันก็ยินดีจ้ะ แต่ว่า ฉันยังรู้สึกไม่สบายใจเลยที่พวกเราเป็นเพียงฝ่ายเดียวที่จะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้”
“อย่าได้กังวลไปเลยครับ ผมเองก็อยากที่จะช่วยเหลือตระกูลเซเว่นสเวิร์ธเหมือนกัน”
และดังนั้นแล้ว ผมจึงประสบความสำเร็จในการเกลี้ยกล่อมท่านแม่ยายให้มาเป็นป้ายโฆษณาและตัวแทนผู้จัดจำหน่ายโลชั่นนี้ได้
==================
*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง
แปลไทยโดย: MountainIbex
MANGA DISCUSSION