“แหมงั้นปัญหาคืออะไรงั้นหรือจ๊ะ?”

“ร้านที่ท่านจิโน่ไปทำงานเป็นคนเฝ้าหน้าร้านนั้นเป็นร้านโฮสต์ไนท์คลับที่ผู้หญิงจะไปกับผู้ชาย มีพนักงานหญิงหลายคนที่ตกหลุมรักท่านจิโน่เพราะรูปโฉมที่งดงาม ความหนุ่มแน่น ทักษะที่มากมายและอีกทั้งความเป็นสุภาพบุรุษที่เขามีด้วย ผู้หญิงพวกนั้นเป็นพวกโฮสต์ จึงเชี่ยวชาญในการล่อลวงผู้ชายด้วยเสน่ห์มารยาหญิง ท่านจิโน่เองก็ยังหนุ่มและไร้ประสบการณ์กับผู้หญิง เพราะงั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะทนอารมณ์ชั่ววูบที่มีต่อคนพวกนั้นเอาไว้ไม่ไหว”

“วะ-วะ-วะ-ว่าไงนะ!?”

“โฮสต์ผู้หญิงในไนท์คลับนั้นอันตรายค่ะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่สายลับที่ซ่อนตัวอยู่เริ่มเฝ้าจับตามองท่านจิโน่ หนึ่งในพนักงานหญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในที่ที่ท่านจิโน่ทำงานให้ได้วางแผนชั่วร้ายไว้ เธอฉีกเสื้อผ้าตัวเอง ณ หน้าบ้านของท่านจิโน่ และหลังจากที่เธอมีสภาพกึ่งเปลื้องผ้านั้น เธอก็ได้ล้มลงเข้าไปในบ้านท่านจิโน่ในขณะที่ร้องห่มร้องไห้โดยอ้างว่าเธอถูกพวกอันธพาลจู่โจม เธอแกล้งทำเป็นหวาดกลัวพวกอันธพาลพวกนั้น ทำให้ท่านจิโน่ปิดประตูลงโดยกรานว่าพวกนั้นตามไล่เธออยู่ค่ะ”

“ตายแล้ว! กะ-กะ-กะ-เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นต่อล่ะ!? มะ-มะ-มะ-ไม่มีทางน่า ทะ-ท่านจิโน่ นี่เขา นะ-นี่เขา-ชะ-ชะ-ใช้ค่ำคืนนั้น ใช้ค่ำคืนนั้นไปกับผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ!?”

“ไม่ค่ะ หนึ่งในสายลับได้มุ่งหน้าไปแจ้งหน่วยรักษาความปลอดภัยทันทีว่ามีผู้หญิง ‘ถูกอันธพาลทำร้าย’ ในบ้านของท่านจิโน่ ผู้หญิงคนนั้นเลยถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยพากลับไปยังสถานีเพื่อสอบปากคำ พวกเขาจึงไม่ได้ใช้เวลาในค่ำคืนนั้นด้วยกัน แต่ผู้หญิงคนนั้นจำเป็นที่จะต้องถูกเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ หลังจากเหตุการณ์นั้น เธอยังได้ชวนท่านจิโน่ทานมื้อเย็น จากนั้นก็บีบน้ำตาระหว่างที่แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นหวาดกลัวแค่ไหนเพื่อเรียกร้องความเห็นอกเห็นใจของเขา ท่านจิโน่ ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษที่เขามี ดูจะไม่ได้รู้ตัวเลยว่านั่นเป็ฯเพียงแค่การแสดงเพื่อล่อลวงเขา ท่านจิโน่นั้นใจดี แต่ลักษณะนั้นของเขาที่ได้กลายเป็นจุดอ่อนก็ได้ถูกเปิดโปงแล้ว เป็นไปตามที่ผู้หญิงคนนั้นได้วางแผนเอาไว้ ท่านจิโน่สงสารเธอและได้ตัดสินใจที่จะอยู่ข้างๆ เธอเมื่อเวลาเอื้ออำนวยเพราะว่า ‘ความกลัว’ ที่จะต้องอยู่คนเดียวของเธอค่ะ”

บริดจ์เจ็ตค่อยๆ อธิบายถึงความใจอ่อนของบุตรชายขุนนางตกอับที่ได้ไปอยู่ข้างถนนต่อมารยาหญิงของเหล่าสตรีพวกนั้น

มันเป็นธรรมดาสำหรับบุตรชายของขุนนางที่จะแต่งงานด้วยเหตุผลทางการเมือง

แต่ขุนนางที่ซื่อสัตย์จะไม่มีวันนอกใจภรรยาของเขา หรือว่าจะไปหมั้นหมายกับหญิงอื่นนอกเหนือจากหญิงที่ตนถูกหมั้นหมายไว้ตั้งแต่ยังเด็กแล้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและคู่หมั้นนั้นก็จำกัดแค่เพียงการพบปะดื่มชาด้วยกันไม่กี่ครั้งต่อเดือน และพาเธอไปยังงานเลี้ยงเต้นรำเท่านั้น การแตะเนื้อต้องตัวที่พวกเขาจะทำได้มากที่สุดก็มีเพียงแค่การจับมือถือแขนระหว่างงานพวกนั้น

เขาไม่เคยปล่อยให้อยู่กับเธอไม่ห้องปิดเพียงลำพัง พวกเขาได้รับอนุญาติให้เพียงจับมือของกันและกัน ส่วนอื่นนั้นไม่ได้รับการอนุญาติ

ในทางตรงกันข้าม ผู้หญิงสามัญชนนั้นดูเหมือนจะเดินคล้องแขนไปกับคู่ของตนได้ในขณะที่ก็ดันหน้าตกของตนใส่แขนของผู้ชาย แล้วยังมีกรณีที่พวกเธอกอดกันอีก

ยิ่งไปกว่านั้น ขุนนางสามัญชนน่ะไม่สวมถุงมือเหมือนกับเหล่าขุนนาง

ดังนนั้นพวกเขาจึงแตะเนื้อต้องตัวกันโดยตรง

สำหรับบุตรชายขุนนางที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องการแตะเนื้อต้องตัวมาก่อน มันคงจะไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะติดกับการล่อลวงนั้นเลย

“ทะ-ทะ-ทะ-ทำยังไงกันดีล่ะ ทำยังไงกันดีทีนี้? โอ๊ย ตายแล้วฉัน ยะ-แย่แล้วสิแบบนี้!”

“ตามการเฝ้าจับตามองของเหล่าสายลับ โชคดีที่เขาไม่ได้ดูชื่นชอบผู้หญิงคนไหนค่ะ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่คนเดียวที่เข้าหาท่านจิโน่เรียสด้วยความเร่าร้อนหรอกค่ะ ยังมีโฮสต์หญิงอีกนับไม่ถ้วนที่ทำเช่นกัน ท่านจิโนเรียสมีพวกผู้หญิงที่พยายามที่จะหาข้ออ้างเพื่อเข้าไปในห้องไม่เว้นคืนเลยค่ะ แต่โชคดีที่ท่านจิโนเรียสได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบขุนนาง เขาจึงหลีกเลี่ยงการอยู่ตัวคนเดียวกับผู้หญิงในห้องปิดมาได้หลายครั้ง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าเขาจะเจอคนโปรดเมื่อไหร่แล้วล่ะค่ะ และหนึ่งในนั้นก็เข้าไปอยู่ในห้องเขาสองต่อสองได้สำเร็จแล้วด้วย”

“เออออ๋!!! ผะ-ผะ-ผะ-ผู้หญิงแบบนะ-นั้น มีกะ-กันมะ-มากขนาดนั้นชะ-เชียว!?”

“รีบหน่อยเถอะค่ะ คุณหนู ท่านจิโนเรียสนั้นเป็นคนจริงใจและตั้งมั่น หากเขาไปมีความสัมพันธ์เป็นคนรักแล้ว มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะยอมทิ้งเธอ ถ้าหากเขาไปตกหลุมรักสาวสามัญชนล่ะก็ ฉันเชื่อจริงๆ ค่ะว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาจะยอมละทิ้งศักดิ์ขุนนางไปโดยสมบูรณ์ เลือกที่จะไม่กลับมาเป็นขุนนางเพื่อที่จะอยู่กับผู้หญิงคนนั้นไปตลอดชีวิต ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องรีบไปตามท่านจิโนเรียสกลับก่อนที่เขาจะไปหลงใครเข้านะคะ”

ความคิดที่ว่าท่านจิโนเรียสเลือกที่จะไม่กลับมาเป็นขุนนางนั้นแล่นเข้ามาในหัว

ไม่ได้การแล้ว

ฉันต้องรีบไปหาท่านจิโน่ในทันที!

นี่ก็มืดค่ำแล้ว แต่ฉันก็ได้ร้องขอพวกท่านให้ช่วยเตรียมรถม้าที่รวดเร็วที่สุดที่มีไว้ให้

ท่านพ่อยืนกรานปฏิเสธที่จะปล่อยให้ฉันออกไปด้วยความเร่งรีบ แต่ท่านแม่ก็ได้แสยะยิ้มเสียดสีไปให้เขาและให้อนุญาติฉัน

เพื่อทำให้แน่ใจว่าจะไปถึงอย่างเร็วที่สุด พวกเราได้ทำการนัดแนะที่จะใช้ม้าที่เร็วที่สุดที่พวกเรามี และเปลี่ยนม้าตามเมืองต่างๆ

มันคงจะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวถ้าหากเรื่องหลุดไปว่าบุตรชายตระกูลแวร์แวรี่และผู้สืบทอดตระกูลเซเว่นสเวิร์ธในอนาคตทำงานอยู่ในร้านอาหารและสถานกลางคืน พวกเราจึงต้องปกปิดเรื่องนั้น บุคลากรที่จะรับหน้าที่ดูแลเรื่องที่จะตามมานั้น จะขี่ม้าที่นอกเหนือจากม้าลากรถ พวกเขาจึงจะไปถึงจุดหมายปลายทางก่อนฉัน

◆◆◆◆◆

ใบหน้าของฉันยังคงซีดเผือดในตอนที่วิ่งออกมาจากคฤหาสน์ แต่ก็คงช่วยไม่ได้ หัวใจฉันดังตึงตังด้วยความวิตกกังวลในขณะที่คิดถึงการได้ไปพบกับท่านจิโน่

ครึ่งปีได้ผันผ่านตั้งแต่ที่ท่านจิโน่ได้ถอนการหมั้นระหว่างพวกเรา

หกเดือนไม่ใช่ระยะเวลาที่สั้น

มันเหลือเฟือพอที่จะทำให้ตัวเอกที่อกหักในนิยายรักโรแมนติคพบกับรักใหม่

ถ้าหากมีผู้หญิงหลายคนที่รุกเข้าหาท่านจิโน่ มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่เขาจะเปลี่ยนใจ

มันคงจะมีความเป็นไปได้พอตัวที่ท่านจิโน่จะหันหลังให้กับยศขุนนางเพื่อผู้หญิงสามัญชนคนนั้นที่เขาตกหลุมรัก

ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะต้องเอาชนะใจเขาและได้รับชัยชนะในศึกรักนี้

แต่ฉันไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะเอาชนะผู้หญิงพวกนั้นได้ เริ่มตั้งแต่พวกโฮสต์หญิงในศึกแย่งชิงหัวใจท่านจิโน่

“บริดจฺเจ็ต ฉัน…ฉันไม่มั่นใจเลยว่าฉันจะเอาชนะพวกผู้หญิงที่ไล่ตามท่านจิโน่อยู่ได้ เริ่มตั้งแต่พวกโฮสต์ผู้หญิงพวกนั้น…”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณหนู ท่านจิโนเรียสยังไม่ได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนค่ะ”

“แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะมีสาวที่เขาชื่นชอบ ถึงพวกเขาจะยังไม่ได้คบกันอยู่นี่นา? ถ้าหากว่าเขามีคนแบบนั้นอยู่ล่ะก็ งั้นฉันจะทำยังไงดี…”

“ที่พูดแบบนั้นก็เหตุผลค่ะ คุณหนูนั้นยังมีประสบการณ์ด้านความรักน้อยนิด เพราะงั้นในเชิงกลยุทธ์แล้วเอาชนะไม่ได้หรอกค่ะ ดังนั้นแล้ว ดิฉันเชื่อว่าการที่คุณหนูตรงไปตรงมาดีที่สุดแล้วค่ะ มีความกล้าและบอกเขาถึงความรู้สึกของคุณหนูที่มีต่อเขาออกไปอย่างซื่อตรง เมื่อมีคนที่เป็นเพศตรงข้ามมาสารภาพความรู้สึกต่ออีกฝ่าย มันจะทำให้อกีคนหนึ่งสนใจแน่นอนค่ะ

ความรักนั้นมักจะเบ่งบานออกมาจากความสนใจเสมอ และยังมีอีกหลายกรณีที่เมื่อคนๆ นั้นได้ตกหลุมรักกับคนที่มาสารภาพโดยไม่รู้ตัวด้วย

ฉันเชื่อว่านั่นจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดถ้าหากคุณหนูจะเผยความรู้สึกที่แท้จริงอย่างจริงใจและซื่อตรงที่สุดค่ะ”

งั้นฉันต้องบอกเขาถึงความรู้สึกที่แท้จริงของฉันสินะ?

ถ้าหากพวกเราพูดถึงเรื่องความตรงไปตรงมา งั้นความคิดฉันก็จะสามารถสรุปรวมมาได้เป็นคำประโยคเดียวว่า “แต่งงานกับฉันเถอะค่ะ” แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีฝ่ายหญิงที่ขอแต่งงานกับฝ่ายชายมาก่อน

“เขาจะไม่คิดว่าฉันหน้าไม่อายถ้าหากทำอย่างนั้นลงไปเหรอ?”

“คุณหนูคะ เขามีคำกล่าวกันค่ะว่า ทุกสิ่งอย่างล้วนยุติธรรมในความรักและสงคราม คนที่พูดคำว่ารักนั้นจะชนะ แต่คนที่คว้าโอกาสแรกที่จะพูดความคิดจริงๆ ของเธอออกไปนั้นเป็นผู้ชนะขาดค่ะ”

“แต่ว่า…”

นั่นเป็นสิ่งที่บริดจ์เจ็ตบอก แต่เราไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้น

“คุณหนูคะ ลองจินตนาการว่าท่านจิโน่ไปมีความสัมพันธ์รักใคร่กับผู้หญิงคนอื่นสิคะ คุณหนูยอมได้หรือคะ?”

เมื่อบริดจ์เจ็ตพูดกับฉันอย่างนั้น ฉากในความทรงจำเมื่อตอนงานเลี้ยงเต้นรำสำเร็จการศึกษาก็ได้ฉายแวบเข้ามาในหัว

คุณเคตยืนอยู่ข้างๆ ท่านจิโน่ ในขณะที่สวมชุดสีม่วงซึ่งเป็นสีดวงตาของเขา — ท่านจิโน่ดึงเธอเข้าไปหาด้วยมือของเขาที่กุมอยู่ตรงเอวของเธอในขณะที่กล่าวออกมาว่าเธอเป็นคู่หมั้นคนใหม่ — ทั้งสองคนเดินจากไปและทิ้งฉันไว้ข้างหลัง…

มันรู้สึกราวกับถูกสูบเลือดออกไปจากฉัน และสั่นเทิ้มไปทั้งตัว

นั่นคงจะเป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่าสิ้นหวัง

…ใช่ จริงด้วย

ศัตรูของเราคือผู้หญิงมากมายที่เชี่ยวชาญในเรื่องความรัก นับตั้งแต่พวกไนท์โฮสต์พวกนั้น

ผู้หญิงอย่างเราคงจะไม่สามารถเทียบชั้นกับคนจำนวนขนาดนั้นได้สักนิด เว้นเสียแต่ว่าเราจะผลักดันตัวเอง

เราจะยอมทำทุกอย่าง จะอะไรก็ได้ ถ้าหากจะทำให้ท่านจิโน่กลับมาหาเรา

และในตอนนี้ก็ได้เวลาทดสอบความมุ่งมั่นนั่นแล้ว ในตอนนี้ เราจะต้องทำได้ทุกอย่าง

ถ้าหากเราสามารถนำหัวใจของท่านจิโน่กลับคืนมาได้ จะอับอาย ศักดิ์ศรี ข่าวลือ เรื่องพวกนั้นล้วนไร้ซึ่งความหมายทั้งสิ้น

การเตรียมใจของฉันที่จะสารภาพออกไปนั้นได้ก่อตัวแล้ว

“อีกอย่างค่ะ คุณหนู การสกินชิพเองก็เป็นสิ่งสำคัญ การแตะเนื้อต้องตัวนั้นเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่จะช่วยให้คุณหนูมัดใจผู้ชายได้อยู่หมัดค่ะ”

“สกินชิพหรือ? แล้วฉันต้องทำยังไงล่ะ?”

“แหม สำหรับมือใหม่ล่ะก็ ลองจับมือท่านจิโน่ดูไหมคะ?”

ฉันไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย

พอมาลองคิดแล้ว เรามักจะเป็นฝ่ายได้รับความรักของท่านจิโน่อยู่ฝ่ายเดียว เราเลยไม่เคยต้องทำอะไรเพื่อกุมหัวใจของเขาเลย

ฉันต้องเปลี่ยนแปลงสินะ

“ขอบคุณนะ บริดจ์เจ็ต ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”

“อย่างสุดท้ายค่ะ คุณหนูจะต้องให้กระตุ้นให้ท่านจิโน่ย้ายออกจากที่อยู่ปัจจุบันทันทีค่ะ เหตุการณ์ที่โฮสต์หญิงคนนั้นหลุดรอดเข้าไปให้บ้านท่านจิโน่ในสภาพกึ่งเปลือยได้ ได้กลายเป็นสิ่งกระตุ้นต่อนิสัยแข่งขันในหมู่พวกโฮสต์หญิงแล้วค่ะ และพวกเธอคงจะต้องกำลังวางแผนเพื่อหาทางเข้าห้องของเขาแม้แต่ในตอนที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่นี้เป็นแน่ ท่านจิโน่เองก็กันผู้หญิงพวกนั้นไม่ให้เข้าไปในห้องได้อยู่ แต่พวกเรากำลังพูดถึงคนที่ไม่มีประสบการณ์กับผู้หญิงเลยสักนิดค่ะ

มันคงจะไม่แปลกถ้าหากพวกเธอจะบังคับเขาให้ปล่อยเข้าไปในห้องโดยขัดขืนไม่ได้สำเร็จ ถึงอย่างนั้นมันก็อันตรายสำหรับเขา ถึงขนาดที่สายลับเองยังหนักใจเลยค่ะ”

“นะ-นะ-นั่น นั่นยะ-แย่แล้ว”

ตายแล้ว

ความบริสุทธิ์ของท่านจิโน่กำลังตกอยู่ในอันตราย

ไม่มีเวลาให้มาหยุดพักผ่อนหรือหยุดพักในโรงแรมแล้ว

เราควรที่จะทำเพียงนอนบนรถม้าเพื่อที่พวกเราจะได้เดินทางต่อไปได้ทั้งวันทั้งคืน

==================

*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้

*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง

แปลไทยโดย: MountainIbex

พิสูจน์อักษรโดย: Rain K.