หมายเหตุ: ทางเพจลงตอนไว้ล่วงหน้าครับตามไปอ่านกันได้ที่ลิงค์ด้านล่างเครดิต ในแมวดุ้นจะลงทีละพาร์ทตามปกติ
==========================
“ท่านจิโน่ พักจิบชาหน่อยเถอะค่ะ ถ้าหากว่าคุณ—”
“ขอโทษทีนะ ผมจำเป็นต้องไปแล้วเพราะมีงานที่บริษัทน่ะ”
แอนนาชวนผมอยู่ดื่มชาด้วยสีหน้าเป็นห่วง แต่ผมพูดตัดบททันทีและปฏิเสธคำเชิญชวนของเธอ
“…งั้นหรือคะ…”
รู้สึกได้เลยว่าแอนนารู้สึกเสียใจ
หัวใจของผมถูกบีบรัดอย่างเจ็บปวดในยามที่เห็นเธอเศร้าสร้อย
ผมอยากจะดึงเธอเข้ามาสู่อ้อมแขนนี้และปลอบประโลมเธอ
อย่างไรก็ตาม ผมต้องอดกลั้นเอาไว้
ผมมุ่งหน้าไปยังห้องปฏิบัติการในทันทีที่ผมเสร็จงานที่คฤหาสน์ของตระกูลเซเว่นสเวิร์ธ จากนั้นผมก็เทเลพอร์ตไปยังคฤหาสน์โกเลมในทันที
◆◆◆◆◆
ผมนั่งแช่ตัวเองอยู่กับการพัฒนายารักษา
ในงานที่วุ่นอยู่กับอะไรบางอย่างในยามที่เจ็บปวดนั้นสะดวกกับผม
เหลือแค่นำเวทมนตร์กักเก็บมานามาปรับใช้เท่านั้น และตัวยาก็จะเสร็จสมบูรณ์ แต่ว่าผมเองก็ยังมีปัญหากับขั้นตอนสุดท้ายนี้
ผมจำเป็นต้องผสมรวมเวทมอบมานาไปกับทุกอณูของตัวยา คนปรุงยาที่ชำนาญนั้นคงจะทำเรื่องนั้นได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับอดีตวิศวกรอย่างผม
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ได้ลองฝึกฝนดู ผมก็ทำมันออกมาไม่ได้
แหม ผมคิดว่ามันก็คงจะเป็นไปไม่ได้นั่นแหละถ้าให้มือสมัครเล่นกลายเป็นยอดนักปรุงยาภายในไม่กี่เดือนที่ฝึกฝนล่ะนะ
สิ่งที่ผมชำนาญก็คือโกเลมนี่นะ
ในตอนนั้นเองที่ผมระลึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ถึงแม้จะจริงที่ผมจำเป็นต้องผสมรวมเวทมนตร์เข้าไปในทุกอณูของโพลิเมอร์ แต่ก็เพียงแค่เวทสามบทเท่านั้นที่จำเป็น
พวกโกเลมจะทำได้ไหมนะ?
โกเลมนั้นทำงานที่ต้องทำซ้ำได้อย่างยอดเยี่ยม
ผมพยายามที่จะสร้างวงเวทตรวจจับขึ้นมา แต่อันที่ผมทำขึ้นมาดันลงเอยที่แค่หน้าตาเหมือนแต่ตรวจจับอะไรไม่ได้เลย และบางอันก็ยังบิดเบี้ยวจนกลายเป็นว่าใช้การอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ตาม พวกโกเลมสามารถที่จะวาดวงเวทออกมาได้นับไม่ถ้วนที่มีหน้าตาเหมือนกัน
บางทีอาจจะมีประสิทธิภาพกว่าถ้าหากให้โกเลมวาดมันขึ้นมาไหมนะ?
โกเลมนั้นคือสิ่งที่ผมเชี่ยวชาญ
ในโลกใบก่อน งานมากมายได้ถูกโกเลมเข้ามาแทนที่ ส่งผลให้ผู้คนมากมายตกงาน
แต่ถึงอย่างนั้น ในสาขาของเวทมนตร์เภสัชศาสตร์และการเตรียมการทางการแพทย์นั้นเป็นสาขาหนึ่งที่ไม่อนุญาติให้โกเลมเข้ามาแทนที่แรงงานของคน
ไม่ใช่เพราะว่าโกเลมไม่สามารถทำงานเหล่านั้นได้
ในตอนนั้น สังคมของนักเวทการแพทย์เป็นส่วนสนับสนุนหลักของอำนาจทางการเมืองในตอนนั้น และทางรัฐบาลเองก็ได้ออกกฎข้อบังคับใช้กับการสร้างโกเลม
พอมาคิดแล้ว การสร้างโกเลมนี่ก็โดนกีดกันตั้งแต่ตอนนั้นเพราะเหตุผลที่ว่า “มนุษย์จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน” ด้วยนี่นะ
นักเวทการแพทย์ไม่แม้แต่จะออกงานสังคม หาได้ยากมากที่พวกนั้นจะปรากฎตัว
ใช่
ผมจำได้แล้วล่ะ
โรงพยาบาลบางแห่งในหลายๆประเทศได้ใช้โกเลมในกระบวนการรักษา ตั้งแต่การวินิจฉัยลงไปจนถึงการรักษา ถ้าหากว่าผมจำไม่ผิดล่ะก็นะ
บางทีมันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่คลับคล้ายกับการสร้างโพชั่นเวทมนตร์ในสมัยนั้นก็ได้
…เจอแล้ว
สมกับที่เป็นห้องสมุดของมหาวิทยาลัยที่มีสาขาเวทมนตร์เภสัชศาสตร์ — ที่นั่นนี่คนละระดับเลยแฮะ
มีตำรามากมายที่เกี่ยวข้องกับเภสัชศาสตร์ของต่างประเทศ
พวกโกเลมปกติแล้วจะสร้างตัวยาที่พบได้ในประเทศเหล่านั้น
ผมไม่รู้เลยว่ามันเป็นอย่างนั้น
หลักการนั้นคลับคล้ายกับการใช้สีเวทมนตร์
ผมเองก็ได้เคยมีประสบการณ์ในการจัดตั้งสายการผลิตสำหรับสีเวทมนตร์
เอาล่ะ ผมคงจะสามารถหาทางทำอะไรได้บ้างต้องขอบคุณข้อมูลที่ผมได้มานี้เลย
◆◆◆◆◆
ไม่ไหว
ผมไม่มีเวลาเหลือแล้ว
ผมได้นำเทคโนโลยีอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตสีเวทมนตร์มาปรับใช้กับโกเลมที่สามารถจะร่ายเวทได้ดูแล้ว แต่ผมก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ทันเวลาที่กำหนดไว้แน่
ผมร้องขอท่านดยุคให้อนุญาติให้ผมลา
“เจ้าอยากที่จะตั้งสมาธิอยู่กับงานที่บริษัทเป็นเวลาสองสัปดาห์จนกว่าจะสำเร็จการศึกษางั้นรึ?”
ท่านดยุคตอบกลับมา ดูไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนั้นเสียเท่าไหร่
“ครับ ถูกต้องแล้วครับ”
ดูไม่ค่อยดีเลย
ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะยอมให้อนุญาติหรือเปล่า
แผนของผมคงจะพังครืนตั้งแต่รากฐานหากว่าท่านไม่อนุญาติ
“เจ้าเองก็เป็นผู้สืบทอดตระกูลนี้แล้ว ไม่ใช่ว่ามันถึงเวลาที่เจ้าจะต้องปล่อยให้การบริหารจัดการบริษัทของเจ้าให้คนอื่น แล้วมารับช่วงต่อเซเว่นสเวิร์ธอย่างจริงจังรึ?”
ท่านดยุคกล่าว
“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงได้ขอลาครับ ท่านดยุก ที่จริงแล้วผมวางแผนไว้ว่าจะให้ใครสักคนมาดูแลบริษัทในตอนที่สำเร็จการศึกษาจากทางสถาบัน”
ผมจะทำอย่างนั้นจริงๆ
ไม่มีหนทางอื่นที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เหล่าลูกจ้างไปลงเอยอยู่ข้างถนนหรอก
“โฮ่ งั้นเรอะ งั้นข้าว่าก็คงไม่เป็นอะไร ไปทำธุระให้เสร็จซะแล้วค่อยกลับมาที่นี่ล่ะ”
อารมณ์บูดบึ้งของท่านดยุคกลับตาลปัตรหน้ามือเป็นหลังมือ และเขายังอนุญาติคำขอของผมอย่างมีความสุขด้วย
“ขอบคุณมากครับ”
เกือบไปแล้ว
จะยังไงผมก็ได้รับอนุญาติของท่านมาแล้ว
“ท่านจิโน่”
แอนนากำลังรอผมอยู่ที่โถงทางเดิน เธอเรียกผมทันทีที่เธอเห็นผม
“ฉันได้ยินมาว่าคุณจะยุ่งกับการบริหารจัดการบริษัท แล้วคุณก็จะขอลาตั้งแต่วันนี้ด้วย”
ผมปฏิบัติกับแอนนาอย่างเย็นชานับตั้งแต่วันนั้น
เธออาจจะกำลังรู้สึกหดหู่แม้แต่ในตอนที่เราคุยกันอยู่นี้ แต่แอนนาก็ยังคงพยายามที่จะพูดกับผมด้วยสีหน้าที่ร่าเริง
เธอคงจะต้องคิดว่าผมคงจะไม่ชอบเธอหนักเข้าไปอีกหากทำหน้าตาเศร้าหมองแน่
ผมรู้สึกเจ็บแสบในอกหายใจไม่ออก
มันเจ็บปวดที่ต้องเห็นเธอพยายามทำตัวกล้าหาญ
ผมหลบสายตาจากแอนนา เพราะกลัวว่าเธอจะเห็นว่าสีหน้าของผมนั้นบิดเบี้ยวจากหัวใจที่แตกสลาย
“อื้อ ขอโทษทีนะ ผมคงจะมาที่นี่ไม่ได้จนถึงวันงานเต้นรำสำเร็จการศึกษาน่ะ”
“เอ่อ เรื่องงานเต้นรำวันสำเร็จการศึกษา…”
“อ้อ จริงด้วย ผมขอโทษนะ แต่ผมคงจะไม่สามารถพาคุณไปที่งานเต้นรำได้ ผมจะเข้าร่วมแน่ เพราะงั้นไว้เจอกันในงานนะ”
แอนนาอาจจะต้องการที่จะพูดคุยเรื่องชุดเสื้อผ้าที่จะใส่เข้าคู่กันในงานเลี้ยง
ผมหลีกเลี่ยงหัวข้อนั้นโดยการบอกออกไปตามตรงว่าผมจะไม่สามารถไปกับเธอได้
ตาของเธอเบิกโพลงด้วยความเชื่อไม่ลง
“…งั้นหรือคะ ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ยังไงท่านจิโน่เองก็เป็นคนที่มีงานล้นมืออยู่ตลอดอยู่แล้วนี่นะคะ คงช่วยไม่ได้”
แอนนายิ้มให้ แต่เธอคงจะทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว น้ำตาไหลลงแก้มของเธอในขณะที่เธอพูดอยู่
ผมเองก็ด้วย น้ำตาพรั่งพรูลงมา
ด้วยที่ผมหันหลังให้แอนนาอยู่ ผมจึงรีบเข้าไปด้านในรถม้าโดยที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าของแอนนา
เมื่อรถม้าเริ่มวิ่งออกไป ผมแอบมองด้านหลังจากทางหน้าต่าง และเห็นแอนนากำลังสะอื้นในขณะที่ใบหน้าอยู่ในมือทั้งสองข้าง
เธอสวมชุดเดรสสีม่วงที่ผมมอบให้เธอ ของขวัญชิ้นแรกที่ผมเคยได้มอบให้
เธออาจจะเลือกชุดนี้ด้วยหวังว่ามันจะช่วยดึงความสนใจของผมได้
ทุกอย่างนั้นกลายเป็นภาพเบลอในขณะที่น้ำตาหลั่งรินจากสองตาของผม
บีบหัวใจชะมัด
มันรู้สึกราวกับอกของผมกำลังจะระเบิดออกมา
◆◆◆◆◆
ผมได้ใช้เวลาว่างที่ได้รับมาในการสร้างเหล่าโกเลม
การสร้างโกเลมที่สามารถจะผสมรวมเวทกักเก็บมานาในทุกอณูของโพลิเมอร์ได้นั้นต้องลงลึกงานละเอียดและเวลาไปกับมันมหาศาล หากทำด้วยมือก็จะกินมากขึ้นไปอีก
ถ้าหากมีเครื่องไม้เครื่องมือที่เฉพาะทางล่ะก็ ใช้เวลาไม่ถึงวันก็คงจะเสร็จแล้ว ยังไงก็ตาม ผมคงจะพลาดเดดไลน์ถ้าหากว่ามัวแต่ทำเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ตั้งแต่ต้นด้วยเหมือนกัน
และดังนั้น ผมจึงเก็บรายละเอียดและส่วนที่ต้องประณีตต่อไปด้วยตนเอง
ทำงานพวกนี้ในช่วงเวลาที่เจ็บปวดถือว่าเป็นผลดีกับผม
ด้วยการจดจ่ออยู่กับงานในมือนี้ ผมจึงไม่ได้อยู่กับความเป็นจริง และช่วยให้ผมผ่านพ้นไปได้
และในที่สุด ผมก็ได้สร้างโกเลมที่สามารถร่ายเวทกับตัวยารักษาได้สำเร็จ
ไม่ใช่ว่าผมจะผลิตยาตัวนี้เป็นจำนวนมาก มันจึงตัวเล็ก แค่ยาวประมาณห้าสิบเซอร์ซิ และมีความลึกประมาณเดียวกัน
ยารักษาถือได้ว่าเสร็จสิ้นหลังจากที่ได้รวมเวทมนตร์เข้าไปและตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุดท้าย
ผมพบเข้ากับวิธีการตรวจสอบตัวผลิตภัณฑ์สุดท้ายนี้อย่างง่ายดาย สมแล้วที่มาจากแหล่งข้อมูลอันกว้างขวางในห้องสมุดของสาขาโพชั่นเวทมนตร์และการแพทย์ และสามารถที่จะจัดเตรียมได้ทันที
ผมสร้างขึ้นมาได้ทันเวลา
หลังจากที่ยาโพชั่นเสร็จสมบูรณ์ ก็ไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้ว
แอนนาจะถูกรักษาโดยสมบูรณ์ และการหมั้นหมายของเธอจะกลับไปเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น
ถ้าหากผมหยุดสร้างยานี่ล่ะก็ ผมยังคงจะสามารถแต่งงานกับแอนนา และไม่มีใครที่จะพรากเธอไปจากผมได้
ความคิดเช่นนั้นผ่านเข้ามาในหัวผมนับครั้งไม่ถ้วนในขณะที่ทำงาน และยังคงแล่นเข้ามาในความคิดจวบจนถึงตอนนี้
แล้วผมเองก็ได้หยุดความคิดเช่นนั้นไปนับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน
มันเป็นไปไม่ได้
จำนวนมานาเฉลี่ยที่คนปกติครอบครองนั้นมีประมาณหนึ่งร้อยฟลาเมียร์
อย่างไรก็ตาม [ราชันย์จอมเวท] และลูกหลานของเขานั้นจำครอบครองมานาอย่างต่ำหนึ่งแสนฟลาเมียร์
มานาขั้นต่ำที่จะเปลี่ยนให้การทดสอบมานาลิตมาร์เป็นสีดำสนิทนั้นราวหนึ่งแสนฟลาเมียร์
ผลทดสอบของแอนนาเองก็ออกมาเป็นสีดำสนิท เพราะงั้นมันก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าเธอมีมานามากกว่าคนธรรมดาทั่วไปกว่าหนึ่งพันเท่าเป็นอย่างต่ำ
มันถูกบันทึกไว้ในตำราการแพทย์ว่ายิ่งคนเรามีมานามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่จะได้ที่จะมีโรค [ภาวะขัดข้องในระบบหมุนเวียนเวทมนตร์เรื้อรัง] ซึ่งจะทำให้พวกเขาอ่อนแอต่อโรคที่ส่งผลต่ออวัยวะภายใน ยิ่งไปกว่านั้น [ภาวะขัดข้องในระบบหมุนเวียนเวทมนตร์เรื้อรัง] จะยิ่งเร่งโรคต่างๆให้กำเริบไวยิ่งขึ้น
ด้วยความรู้พื้นฐานเช่นนั้น การที่มีมานาเทียบเท่าได้กับ [ราชันย์จอมเวท] จะหมายถึงการที่โรคร้ายต่างๆออกอาการด้วยความเร็วที่น่ากลัว
พูดสั้นๆ โรคจะอาการแย่ลงทันทีที่เริ่มมีอาการ และความเป็นไปได้ที่มันจะกลายเป็นขั้นสุดท้ายและอยู่เหนือการควบคุมภายในวันนั้นมีค่อนข้างสูง
การปรากฎตัวของอาการต่างๆเทียบได้กับการจบสิ้น เพราะงั้นจึงบอกไม่ได้เลยว่าแอนนาจะเสียชีวิตเมื่อไหร่
การแต่งงานระหว่างขุนนางชั้นสูงนั้นต้องใช้เวลา
แม้พวกเราจะเริ่มตระเตรียมงานแต่งในทันทีทันใดนี้ ด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่พวกเราจะสามารถจัดงานพิธีก็จะเป็นในปีหน้า
ไม่มีอะไรที่จะมารับประกันว่าแอนนาจะผ่านพ้นช่วงหนึ่งปีนี้ไปได้
แม้ว่ารางวัลของการ ‘การอยู่ร่วมกันกับแอนนาตลอดชีวิตที่เหลือของผมนี้’ จะเป็นอะไรที่เย้ายวน แต่ผมจะไม่มีวันจะเอาชีวิตของแอนนาไปลงเดิมพันเด็ดขาด
ผมเริ่มตั้งมั่นเตรียมใจแน่วแน่ ผมเริ่มเปิดการใช้งานของโกเลมร่ายเวทและผสมรวมยารักษากับเวทมนตร์หลายบท
ทั้งองค์มกุฎราชกุมารและองค์ชายลำดับที่หนึ่งต่างหมายปองแอนนา แต่ผมอยากที่จะให้เธออยู่คู่กับองค์ชายลำดับที่หนึ่งถ้าหากเป็นไปได้
ไม่ต้องการให้อยู่กับองค์มกุฎราชกุมาร
พระองค์ทรงมอบความรักให้กับผู้อื่นไปแล้ว แต่ก็ยังหมายตาแอนนาให้มาเป็นพระสนมเพื่อที่จะเสริมพลังอำนาจในมือตน เรื่องตลกอะไรกัน จะบ้าบอก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย
ด้วยความคิดเช่นนั้นในหัว และก่อนที่ผมจะรู้ตัว ยารักษาก็ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
มันคงจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในการร่ายเวทใส่โพชั่นในแทงค์ขนาดยักษ์ แต่ผมเพียงแค่ทดลองกับขวดขนาดเล็ก เพราะงั้นจึงใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที
ผมทดสอบตัวผลิตภัณฑ์ที่เสร็จสิ้นก่อน แต่ก็ไม่พบปัญหาอะไร
มันสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
มันควรที่จะเป็นความสำเร็จที่เหมาะแก่การกระโดดโลดโผนดีใจ
แต่ผมกลับไม่สามารถที่จะรู้สึกยินดีกับตัวเองได้เลย
เพราะนี่คือสัญญาณสุดท้ายว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแอนนาจะถึงคราวสิ้นสุด
นอกเหนือจากนั้น ความคิดที่ว่าเจ้านี่จะช่วยชีวิตของแอนนาเอาไว้ และยังเป็นสิ่งที่จะนำพามาซึ่งอนาคตอันสดใสของเธอกลับช่วยสงบจิตใจของผมลง และช่วยเติมเต็มด้วยความรัก
เอาล่ะ ยังพอมีเวลาเหลืออยู่
ผมจำเป็นต้องเตรียมการบางอย่างเพื่อจุดสิ้นสุดนี้
==================
*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง
แปลไทยโดย: MountainIbex
พิสูจน์อักษรโดย: Rain K.
MANGA DISCUSSION