ตอนที่ 49 หากเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ก็จงเปลี่ยนโลกเสีย
————ก่อนหน้านี้เล็กน้อย
หลังจากปล่อยให้มาร์คเผชิญชะตากรรมที่เขาเลือกเพียงลำพัง ทัตก็จำยอมต้องออกมาจากจุดปะทะตามคำขอของพิมและฝ้าย
ตอนนี้เขากำลังถูกพิมหิ้วปีกประคองโดยมีฝ้ายคอยนำทาง เดินเลาะไปตามกำแพงโรงพยาบาล
ตึง!
แต่เสียงเหล็กกระทบพื้นยังดังไล่หลัง ทำเอาทัตขมวดคิ้วแน่นเสียทุกคราที่ได้ยิน ความเจ็บใจทำเขากัดฟันเสียงดัง
และคงมีแต่พิมที่รับรู้ความหงุดหงิดนี้ได้เพราะประคองเขาอยู่
ทัต…
พิมคิดแล้วอดเป็นห่วงหัวใจแฟนหนุ่มตัวเองไม่ได้ การให้คนอื่นมาตายแทนตัวเองมันขัดกับสามัญสำนึกของทัตอย่างแรง เรียกว่าฝืนธรรมชาติก็ไม่ผิด
แล้วเธอเองก็เป็นคนนึงที่ต้องทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอดจนกระทั่งได้เจอทัต หากจะมีใครเข้าใจความทรมานของการฝืนธรรมชาติตัวเอง ก็คงมีแต่แฟนสาวอย่างเธอเท่านั้น
แต่… ก็เพราะทัตเป็นคนทำลายการฝืนธรรมชาติของเธอเอง พิมถึงได้รู้สึกกังวลกับท่าทีหงุดหงิดของทัต
นั่นเพราะเธอถึงรู้อยู่เต็มอก ว่าผู้ชายที่เธอหลงรักไม่มีทางยอมกับอะไรแบบนี้
แล้วนั่นก็เป็นพริบตาเดียวกับที่แววตาทัตคมกริบขึ้น และแหงนขึ้นมองพิม
“ฉันคิดออกแล้วพิม”
รับแววตาทัตเข้ามา พิมไม่สามารถเปิดปากอะไรได้เลย
จะว่าเพราะเป็นไปตามคาดก็ใช่ แววตามุ่งมั่นของเขาช่างสะกดใจจนเธอไม่อาจคัดค้าน
…ถึงแบบนั้น ก็จะมีคนคัดค้านอยู่ดี
“ดื้อจังเลยนะคะ พี่ทัตเนี่ย”
ฝ้ายเดินกลับมาร่วมบทสนทนา ไม่สิ เรียกว่าพอได้ยินทัตพูดอย่างนั้นเธอก็จ้ำอ้าวกลับมาทันที
แววตาที่เธอมองทัตก็เริ่มจะไม่พอใจของจริง ความปลอดภัยของทัตเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับฝ้ายถึงขนาดนั้น
แต่… ความตายของทัตมันไม่ได้นิยามอย่างนั้น
เพราะงั้นทัตจึงต้องพูดออกมาให้ได้ ก่อนที่เขาจะเสียความเป็นตัวเองไปมากกว่านี้
“ทั้งสองคน… ฉันอยากให้ฟังฉันพูดก่อน แค่ฟังก็ได้” ทัตขอร้องอีกหน แต่ฝ้ายส่ายหน้ากลับมาทันที
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เพราะยังไงหนูก็ไม่ยอมอยู่”
ฝ้ายตอกสวนไม่ให้โอกาสทัตได้พูด แววตาของเธอดูเหมือนเต็มใจจะถูกทัตเกลียดด้วยซ้ำ
แต่… ทัตเองก็เริ่มสนิทกับน้องสาวคนนี้จนมองเธอออกแล้ว พอได้เห็นแววตาสั่นรัวภายใต้หน้านิ่งของฝ้าย จึงเห็นชัดว่าอย่างไรเสียเธอก็ไม่อยากถูกเกลียดโดยคนที่ตัวเองชอบ
ทางพิมที่ทำสีหน้าลำบากใจนั้นอ่านง่ายกว่ามาก เธอคิดเป็นห่วงทั้งกายทั้งใจของทัตถึงได้พูดอะไรไม่ออก แต่การที่ยังกอดประคองร่างเขาแน่นนี่แหละ คือสิ่งยืนยันว่าพิมจะไม่ไปจากจุดที่เคียงข้างเขาแม้จะต้องทรมาน
แล้วทัตที่แคร์ความรู้สึกของทั้งสองคน จะไปดื้อดึงขนาดนั้นได้อย่างไร
“ฉันรู้ว่าทั้งสองคนเป็นห่วงฉัน เรื่องนั้นขอบคุณมาก ๆ เลย”
ทัตกระชับแขนที่พิมประคอง ราวกับใช้ระยะห่างนี้บอกว่าเขาจะไม่ไปไหน นอกจากนี้ก็ยังเอื้อมมือไปจับมือฝ้ายที่อยู่ใกล้ ๆ
และส่งสายตาขอร้องหาพิมเป็นหนที่สอง
“เพราะงั้นขอแค่เล่าให้ฟังก็ได้ ถ้าได้ยินแผนแล้วรู้สึกว่าไม่เวิร์ค ฉันก็จะยอมถอยนะ”
“ทัต…” พิมรับสายตาเป็นห่วงมาจากทัต ราวกับเขากำลังบอกว่าไม่เคยลืมความเป็นห่วงที่เธอมีให้
เป็นขนาดนี้… หากแค่รับฟังยังทำไม่ได้ เธอคงไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นคนรักอีกแล้ว
“ฝ้ายก็ด้วย” ทัตหันไปมองทางน้องสาวบ้าง
“ถ้าได้ยินแผนพี่แล้วยังรู้สึกว่าอันตราย พี่ก็จะยอมแพ้เหมือนกัน เพราะงั้นพี่ไม่ดื้อหรอก ขอแค่ฟังพี่ก่อนก็พอ”
แววตาขอร้องของทัตเหมือนส่งแรงกระแทก ทำฝ้ายถึงกับไหล่กระตุก เธอเริ่มแสดงสีหน้าลำบากใจจนบิดเบี้ยว
นั่นเพราะฝ้ายรู้ตัวเองอยู่เต็มอก… ว่าหากแผนของทัตดูจะไปได้สวย ตัวเธอจะไม่อาจห้ามใจตัวเองให้สนับสนุนเขาได้
…ขี้โกงที่สุดเลยค่ะ
“ก็ได้ค่ะ…” ฝ้ายเลยได้แต่ทำใจจำยอม พิมเห็นแล้วก็พลอยเอ็นดู
แต่แน่นอนว่าไม่ได้กังวลขนาดนั้น เพราะเธอตัดสินใจได้แต่แรกแล้วว่าจะสนับสนุนทัตจนสุดทาง
“ฉันก็ขอฟังด้วยนะ”
“ขอบคุณมากนะพิม ฝ้าย”
ทัตกลับมามีกำลังใจ ได้แต่ยิ้มมองทั้งพิมและฝ้าย ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิดว่าจะต้องไปเจอกับอะไร
ให้ตายสิ ฉันนี่มัน… โชคดีจริง ๆ ที่มีแฟนกับน้องสาวใจดีแบบนี้
ทัตคิดกับตัวเอง ตั้งใจจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้สิ่งสำคัญหายไป
แม้ว่าตอนนี้จะต้องเสี่ยง แต่หากไม่เปลี่ยนอะไรกลับจะยิ่งเสี่ยงยิ่งกว่าในอนาคต
ถึงมันจะดูย้อนแย้งที่ต้องลากทั้งสองคนไปต่อสู้เพื่อให้พวกเธอปลอดภัย
แต่ว่าไอ้โลกเส็งเคร็งนี่… ไอ้เฟิร์สไนท์นี่ เราจะไม่ยอมให้มันได้อย่างใจหรอก
ขืนเอาแต่หนี และปล่อยให้โลกนี้มันกลืนกินเราจนเปลี่ยนไป
สุดท้าย… พวกเราก็จะตายกันหมดอยู่ดี
ทัตเตือนตัวเอง ย้ำเพื่อไม่ให้ลืมเป้าหมาย
…ก่อนจะเล่าแผนการให้กับทั้งสองคนฟัง
“———แล้วพอเป็นแบบนั้น ก็จะให้คนที่สามเป็นคนโจมตี …นั่นแหละคือแผน ทั้งสองคนคิดว่ายังไงบ้าง?”
ทัตผายมือหลังอธิบายจบ ตอนนี้เขาผละจากพิมออกมายืนด้วยตัวเองได้แล้ว
ส่วนพิมกับฝ้ายที่ถูกถามความเห็น พวกเธอกลับยืนนิ่งมาสักพักแล้ว ทำเอาทัตถึงกับเหงื่อตกเลยทีเดียว
และคนที่เปิดปากก่อนคือพิมที่เงยหน้าขึ้นมองทัต
“ถ้าดูจากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของมัน ฉันคิดว่าน่าจะได้ผลนะ”
“…ขอบคุณนะพิม”
ทัตโล่งใจไปเปราะจนเผลอยิ้ม พิมเองก็ยิ้มกลับมาให้ แววตาอ่อนโยนของเธอนั่นแสดงออกว่าถึงไหนถึงกันจริง ๆ
…แต่นั่นก็ยังเป็นการอนุมัติเพียงครึ่งเดียว ทัตเลยหันไปมองทางฝ้ายอย่างหวาด ๆ
แล้วอนิจจาฝ้ายก็เงยหน้ากลับมามองทัตพอดี แถมยังถอนหายใจออกมาอีกต่างหาก
ไม่ไหวเหรอเนี่ย———
“เข้าใจแล้วค่ะ หนูเห็นด้วยก็ได้”
เอ๊ะ?
ทัตแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขานึกว่าฝ้ายจะพูดค้านอะไรซะอีก
แววตาของทัตเลยเป็นประกายขึ้นมาอีกรอบ แถมยังยิ้มได้เต็มที่อีก
“ขอบคุณนะฝ้าย”
“…หนูก็แค่ยอมรับไปตามเหตุผลก็เท่านั้นเองค่ะ”
รอยยิ้มของเขาทำฝ้ายเริ่มหลบตาไปมองพื้น ดาเมจอันรุนแรงเกิดขึ้นกับสาวน้อยเพราะได้ทำให้คนที่ตัวเองชอบมีความสุข
..แต่ก็ทำเอาพิมจ้องเธอจี่เลยทีเดียว ฝ้ายเลยต้องรีบตั้งสติกระแอมกลับเข้าประเด็น
“แต่ว่านะคะ… หนูก็ไม่เข้าใจพี่ทัตอยู่ดี ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ด้วยเหรอคะ?”
พอหายประหม่าหลักตรรกะก็กลับมาสู่ฝ้าย เธอเริ่มสงสัยสาเหตุที่ทัตเลือกทางลำบาก และส่งแววตาไปทางเขาอีกครั้ง
ไม่ใช่เพื่อเค้นคำตอบ แต่เพื่อที่จะเข้าใจ
และสำหรับทัต มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะอธิบายเลยสักนิด
เพราะแค่นึกถึง… จุดเริ่มมันก็ผุดขึ้นมาพร้อมกันทันที
“ตอนที่สินตาย… หมอนั่นบอกพี่ว่าห้ามเปลี่ยนไปเด็ดขาด” พอทัตนึกคิด สีหน้าคับข้องของสินก็ยังติดตรึงอยู่ในหัว
“ถ้าต้องเปลี่ยนตัวเองไปเรื่อย ๆ เพื่อเอาชีวิตรอด พอถึงปลายทางแล้วจะยังพูดได้เหรอว่าเรายังเป็นตัวเองอยู่? พี่คิดว่ามันไม่ใช่! แบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากตายไปแล้วนั่นแหละ!”
ทัตเผลอเพิ่มระดับเสียง ราวกับความโกรธแค้นต่อโลกใบนี้ที่ถูกกดมาตลอดได้ปะทุออกมา
“ไอ้โลกเส็งเคร็งนี่… ไอ้เฟิร์สไนท์นี่น่ะ มันพยายามจะฆ่าเราทั้งร่างกายแล้วก็จิตใจ รู้แบบนั้นใครจะไปยอม! ฝ่ายที่ต้องถูกทำลายน่ะคือพวกมันต่างหาก!”
หมัดของทัตกำแน่น และอาจแน่นจนเผลอจิกเล็บใส่มือตัวเอง
ราวกับรับความโกรธแค้นของสินมา …ตัวทัตเองที่รู้สึกแบบนี้อยู่แล้วถึงได้รู้สึกเกลียดชังโลกใบนี้เป็นสองเท่า มากเสียจนเกือบจะสูญเสียความเยือกเย็นไป
“นายทำได้แน่ทัต”
มือของพิมเข้ามากุมมือเขาไว้ เหมือนป้องกันไม่ให้สติถูกกลืนไปกว่านี้
เธอเองก็รู้ว่าทัตคิดหรืออยากทำอะไร และเธอก็เห็นด้วยถึงได้อยู่เคียงข้าง
หากจะมีอะไรที่เธอทำได้ก็คงเป็นการทำให้มั่นใจ ว่าเขาจะไปถึงจุดหมายนั้นได้อย่างปลอดภัยเหมือนอย่างตอนนี้
ทัตรู้เรื่องนั้นแต่แรก เขาถึงไม่เคยสงสัยเลยว่าพิมจะยืนอยู่ที่อื่นนอกจากข้าง ๆ เขา
“ขอบคุณนะพิม”
“อื้ม!”
ทั้งสองยิ้มให้กัน มองไปยังจุดหมายเดียวกันแต่แรกแล้ว
…ต่างกับฝ้ายที่มองเพียงผลลัพธ์แค่ให้ทัตปลอดภัย ไม่ได้คิดเลยว่าในหัวของทัตกำลังสู้กับอะไรอยู่
พอมาคิดดู… อาจเพราะเธอไม่เข้าใจเขาขนาดนั้น คนที่อยู่ในจุดที่ใกล้ที่สุดเลยไม่ใช่เธอก็เป็นได้
ถึงจะน่าเจ็บใจ… แต่พี่เขาก็เหมาะกันแล้วล่ะ
ฝ้ายคิดอย่างขม ๆ
…แต่ฝ้ายก็ไม่ได้คิดจะพอใจแค่นี้ เธอไม่อยากเป็นคนเดียวที่สนับสนุนทัตไม่ได้
ต่อให้เป็นแค่น้องสาว หรือต่อให้เป็นแค่คนรักข้างเดียว… แต่หากพี่ชายที่เธอรักตั้งใจจะทำลายโลกใบนี้ หากไม่ตามไปช่วยแล้วหัวใจเธอจะอยู่ได้อย่างไร
แววตาเตรียมใจนั้นเลยส่งตรงถึงทัตด้วย ความตั้งใจของทั้งสามคนไปทางเดียวกันเป็นครั้งแรก
ช่างเหมาะเจาะกับแผนการที่ต้องใช้ความเข้ากันพอดี
“อ้ากกกกก!!!!”
“ “ “!!!?” ” ”
เสียงร้องลั่นดังขึ้นจากลานจอดรถ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีแต่เสียงเหล็กกระแทกพื้น พวกทัตรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ของมาร์คกำลังเข้าขั้นวิกฤต
และถ้าปล่อยให้เขาตาย… ทัตก็จะถูกโลกใบนี้กลืนกินอีกครั้ง ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมแน่
“พร้อมนะ พิม ฝ้าย”
“อื้ม!”
“ค่ะ!”
พิมกับฝ้ายตอบกลับขันแข็ง แววตาไม่มีหันเหหรือสั่นไหว
เห็นแบบนั้นความลังเลของทัตยิ่งหายไปสิ้น และถีบพื้นวิ่งเข้าไปหาต้นเสียงทันที
ตรงนั้น!
ทัตมองเห็นเจ้าอัศวินดำผู้ใช้หอกมาแต่ไกล ร่างสูง 4 เมตรของมันไม่ได้ยากแก่การตามหาอยู่แล้ว
เรื่องน่ากังวลคือมันกำลังเดินเข้าไปหามาร์คที่กำลังนอนหมดแรงอยู่บนกระโปรงรถ การเยื้องย่างของมันช้ากว่าปกติราวกับกำลังเล่นกับเหยื่อ
ไอ้เวรนี่ เห็นพวกเราเป็นของเล่นรึไง!
ทัตเห็นยิ่งโกรธกริ้ว แต่ก็คิดสมน้ำหน้ามันทีหลัง
เพราะมันเล่นแบบนั้น เขาเลยวิ่งเข้ามาขวางกลางไม่ให้มันไปถึงมาร์คได้ทันเวลา
“…จ่า?”
เสียงฝีเท้าของทัตทำให้สติเลือนรางของมาร์คตื่นเต็มที่อีกครั้ง และมันทำให้เขารู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่เขาคิดว่าเป็น
“ทัต?”
ทำไม… ทำไมนายถึงกลับมา!
นี่คิดจะให้ฉันตายเปล่ารึไง!
แค่จะเสียสละแบบจ่ายังไม่ได้… นี่นายจะทำให้ฉันสมเพชตัวเองไปถึงไหน!!!
ในอกมาร์คบีบรัดแน่นขึ้นฉับพลัน แรงพิโรธถึงกับปลุกแรงให้ชันตัวขึ้น เพราะถูกปฏิเสธการเตรียมใจ
หากไม่ใช่เพราะทัตกลับมา เขาคงจะได้ตายเพื่อชดใช้ความขี้ขลาดในอดีตแล้ว
หากไม่ใช่เพราะทัตเข้ามาขวาง เขาคงจะได้ทำลายความรู้สึกผิดที่เกิดจากการหนี ด้วยการสู้จนตายไปแล้วแท้ ๆ
อยู่เพื่อชดใช้ความผิดก็ไม่ช่วยแก้อะไร จะตายอย่างที่ต้องการก็ทำไม่ได้ โลกใบนี้มันโหดร้ายกับเขาเกินไปแล้ว
“ทำไมถึงกลับมาอีกวะทัต!!!!”
เสียงตะโกนมาร์คกระแทกเข้ามาใส่หลังทัต น้ำเสียงเคียดแค้นของเขาดูจะหนักอึ้งกว่าแรงกดดันจากเจ้าอัศวินดำตรงหน้าด้วยซ้ำไป
…ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงได้โกรธขนาดนั้น
แต่ว่า
“แล้วมันผิดด้วยรึไง” ทัตตอบมาร์คกลับไปอย่างใจเย็น
“ฉันแค่ไม่อยากจะเสียใจทีหลังก็เลยไม่หนี แบบนี้มันผิดด้วยรึไง”
“…นี่นาย”
คำพูดแน่วแน่ และแผ่นหลังอันมั่นคงไม่คิดถอยของทัตทำมาร์คเบิกตาโพลง
ตอนแรกภาพของทัตทับซ้อนกับจ่าที่เขาเคารพ ทำให้เขาคิดว่าทัตคือตัวแทนของจ่า นั่นถึงเป็นสาเหตุที่ทำมาร์คโกรธ เพราะรู้สึกเหมือนโดนตอกย้ำความผิดพลาดเดิม
แต่ว่ามันไม่ใช่… ตอนนี้ทัตกำลังยืนบนทางแยกเดียวกับที่เขาเคยอยู่เมื่อตอนที่จ่าเข้ามาช่วยไว้ แต่ทัตได้เลือกอีกเส้นทางนึงแทน
ไอ้เด็กนี่… คือฉันที่ไม่ได้เลือกจะหนี… คือฉันที่เลือกจะสู้งั้นสินะ ไอ้บ้าเอ้ย!
แล้วฉันล่ะ? ฉันจะทำอะไร?
ในสถานการณ์ที่พวกเด็กนี่กำลังสู้อยู่… ฉันจะต้องเป็นฝ่ายดูอยู่เฉย ๆ อีกแล้วเหรอวะ!
มาร์คกัดฟันแน่นเจ็บใจ หากจะมีโอกาสไหนที่จะได้เลือกอีกครั้งมันก็ควรเป็นตอนนี้แท้ ๆ
ทั้งอย่างนั้นร่างกายกลับไม่ยอมขยับตามสั่ง ราวกับโชคชะตากลั่นแกล้งทั้งที่โอกาสแก้ตัวของจริงกำลังอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ
ซึ่งทัตเองก็พอจะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอันฝืนทนของมาร์คอยู่ แต่เขาไม่อาจละสายตาไปจากเจ้าอัศวินดำตรงหน้าได้
“คนเจ็บน่ะอยู่เฉย ๆ เถอะ”
“…แม่งเอ้ย”
ทัตได้ยินแต่เสียงสบถอันแหบแห้งกลับมา แต่ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอีก แรงของมาร์คน่าจะหมดก๊อกไปแล้ว
ขอบคุณที่เสียสละ มาร์ค
ทีนี้… ก็เหลือแต่จัดการไอ้เวรนี่
ทัตพุ่งประสาทสัมผัสไปที่เจ้าอัศวินดำเต็มร้อย จนถึงตอนนี้มันก็ยังยืนอยู่เฉย ๆ
ประมาทไปเถอะ… เพราะหนนี้แหละจะเป็นทีของ ‘พวกเรา’ บ้าง!
ราวกับตอบสนองความตั้งใจของทัต สองเงาปรากฏขึ้นด้านหลังของเจ้าอัศวินดำในพริบตา
ตัวมันเองก็สัมผัสแรงอาฆาตได้จึงได้หันหลังกลับ เผชิญเข้ากับพิมและฝ้ายที่กระโดดขึ้นง้างอาวุธเข้าใส่ คาตานะและหอกทมิฬถูกฟาดเข้ามาจนเกือบจะถึงคอ
แต่ปฏิกิริยาของมันเร็วกว่า เจ้าอัศวินเอี้ยวหัวหลบได้ฉิวเฉียด
เท่านั้นไม่พอ มันยังฟาดหอกโต้กลับ หวังตัดทั้งฝ้ายและพิมให้ตัวขาดกลางอากาศ
“!!!?”
แต่หอกของมันไม่อาจตวัดเข้าใกล้พวกเธอได้มากกว่านี้ เพราะโซ่ของทัตพุ่งเข้ามาพันล็อคแขนขวามันไว้ก่อน มันถึงกับเหลียวหลังไปมองค้อนทัตอย่างเคียดแค้น
“มองไปตรงไหนยะ!”
“โฮรกกกกกก!!!!”
พิมฉวยโอกาสฟันเสยคางมันจนหน้าหงาย ความพิโรธของมันผันกลับไปที่พิมอีกครั้ง
ในจังหวะที่เธอลงพื้น มันยกหมัดซ้ายที่ว่างอยู่ขึ้นแล้วเหวี่ยงใส่ พิมที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นเฝ้าดูเห็นการโจมตีนั้นจึงถอยหลบออกได้ทัน
ทว่าการโจมตีนั้นไม่ได้เล็งพิม… แต่เป็นฝ้ายที่อยู่ถัดจากเธอและลงถึงพื้นพอดีต่างหาก
หลอกฉันไม่ได้ซ้ำสองหรอกค่ะ!
ฝ้ายเห็นเส้นทางที่หมัดจะวิ่งผ่านมาตั้งแต่ออกหมัด เธอเลยถอยหลบออกไปได้ก่อน หากไม่เตรียมหลบอยู่แล้ว จังหวะเมื่อกี้อาจทำเธอถูกซัดปลิวได้ง่าย ๆ เลย
เจ้าอัศวินดำเห็นทั้งสองคนหลบการโจมตียิ่งโมโห มันถึงหันกลับไปหาทัตที่ดึงโซ่รั้งแขนอีกข้างไว้
“เข้ามาสิวะ”
ทัตท้าทาย แถมยังดึงโซ่กลับไปพันแขนตัวเอง ปลดล็อคตรวนให้มันทำตามใจประหนึ่งดูแคลน
นั่นแหละยิ่งทำมันโกรธจัดจนคำรามลั่น
โฮรกกกกกกก!!!!
เจ้าอัศวินเงื้อหอกขึ้น หมายจะฟาดใส่ทัตคนเดียวเน้น ๆ ทำเอาทัตเหงื่อตก …แต่ไม่มากพอให้เขาเสียรอยยิ้มมั่นใจ
ตู้ม!!!
เวทไฟถูกยิงจากพิมใส่ด้านหลังอัศวินดำจนร่างมันกระตุก ความหงุดหงิดของมันยิ่งเพิ่มทวี แต่แววตามันกลับไม่ละไปจากทัต
เป็นพริบตาเดียวกับที่ฝ้ายวิ่งเข้ามาอยู่ข้าง ๆ ทัต และเบี่ยงคมหอกออกไปจนแทงพื้น ทัตฉวยโอกาสนั้นง้างหมัดจะอัดเข้าใส่หน้าแข้งมันหวังจะให้ล้มคะมำ
ทว่า มืออีกข้างของมันกลับตวัดเข้ามาทุบทัต มันรู้อยู่แล้วว่าทัตจะอาศัยจังหวะนี้โจมตีเข้ามา มันเลยวางแผนจะสวนเหมือนกัน
ซะเมื่อไหร่!
เว้นเสียแต่ทัตเองก็อ่านออกเหมือนกันเลยกระโดดถอยหลังหลบออกไปแทน หมัดของมันอัดลงตรงพื้นเปล่า ๆ ไม่เฉียดทัตอย่างที่เขาคาดการณ์
เป็นอย่างที่คิด! ไอ้อัศวินเวรนี่มันโจมตีดักทางได้เฉพาะกับคนที่มันกำลังมองอยู่เท่านั้น!
ทัตมองย้อนถึงการเสี่ยงตายในอดีต การสู้กับเจ้าอัศวินแบบหนึ่งต่อหนึ่งมันแทบจะเป็นการเล่นหมากรุกแห่งความตาย เพราะมันแทบจะดักทุกการโจมตีที่เข้ามา หรือไม่ก็หวังผลหลายอย่างในการโจมตีครั้งเดียว
แต่… ถ้ารู้อยู่แล้วว่ามันจะดัก หรือเล็งหลายเป้าในการโจมตีเดียว เรื่องมันก็ง่ายขึ้นเยอะ
ทัตถอยพื้นทิ้งระยะอีกครั้ง มันโกรธจัดจนง้างหอกฟาดใส่ทัตที่ทิ้งระยะหนีไป เขามองการเคลื่อนไหวมันตลอดและไม่ได้คิดสวน เขาจึงหลบได้ง่าย ๆ
แต่หอกนั้นยังคงไปต่ออีกครั้ง จนถึงฝ้ายที่กำลังวิ่งเข้ามา หอกนั่นพุ่งใส่จุดตัดที่เธอมาพอดีราวกับคำนวณไว้แล้ว
แต่ก่อนที่คมหอกจะไปถึง ฝ้ายก็ย่อตัวลงพุ่งตัวไปกับพื้นทำให้หอกหวดลมไปอีกครั้ง เธอไม่ได้ถีบพื้นเพื่อเข้ามาโจมตี แต่ทำเพื่อหลบแต่แรกแล้วจึงไม่โดนเล่นงานทีเผลอ
ใช่แล้วฝ้าย! ถ้าอยู่ในระยะการมองเห็นของมันก็แค่หลบ อย่าไปโจมตีให้เสี่ยง!
ทัตยิ้มร่าที่น้องสาวปลอดภัย เขาถีบพื้นร่นระยะไปพร้อมกับเธอ ไม่ได้เข้าโจมตีเพราะแววตาของมันจดจ้องทั้งทัตและฝ้ายอยู่
…หน้าที่นั้นเลยตกเป็นของพิม
เธอวิ่งใส่ด้านหลังของเจ้าอัศวิน ฟันคมดาบเข้าใส่หลังเข่าจนมันทรุดลงไปกับพื้น
เจ้าอัศวินโกรธเป็นสามเท่าจนหันขวับไปทางพิม นั่นเลยเป็นจังหวะที่ทัตเข้าไปอยู่ข้างเธอแทน
มันอาศัยแรงเหวี่ยงหันตัวแล้วฟาดหอกเข้ามาอีกครั้ง ทัตกับพิมรู้ว่ามันมองอยู่เลยไม่คิดโจมตีและเปลี่ยนเป็นฝ่ายหลบ ทั้งสองคนถีบพื้นถอยไปด้านหลังเพื่อหลบคมหอกที่มองเห็นแต่ไกล
ตู้ม!!!
แต่คมหอกของมันทิ่มพื้นและสร้างฝุ่นควันกระจายขึ้นมาแทน ทำเอาบดบังทัศวิสัยอย่างไม่คาดคิด
“เวรเอ้ย!”
มาไม้นี่อีกแล้วสินะ!
การโจมตีแบบไม่เล็งเป้าที่ตัวคน เปลี่ยนพวกทัตเป็นฝ่ายที่ถูกสร้างจุดบอดแทน
แม้นเพียงชั่วพริบตาเดียวนั่นก็อาจถึงชีวิตได้ เจ้าอัศวินถึงได้ง้างหอกไปด้านหลังเพื่อฉวยโอกาสอันโอชะนี้
แต่… คิดว่าเราไม่เรียนรู้อะไรเลยรึไง!
ฉึก!!!
“!!?”
แต่ก่อนที่มันจะได้ปาหอกของตัวเอง หอกของฝ้ายก็แทงเข้าข้างหลังมันจนทะลุเกราะ ทำเอาร่างของมันถึงกับชะงัก
ทัตวิ่งออกมาด้านข้างเพื่อหลบฝุ่นพร้อม ๆ กับพิม การโจมตีเหนือความคาดหมายของมันถูกทำลายโดยสิ้นเชิงจนทัตยิ้มสะใจ
ต้องแบบนี้สิ!
มีสองคนทำหน้าที่ดึงสายตา และมีอีกคนคอยยับยั้งการโจมตีที่คาดไม่ถึง แล้วเมื่อไหร่ที่มั่นใจว่าไม่ถูกจับตามองก็โจมตีจากจุดบอด
นี่แหละแผนการที่มีโอกาสรอด 99% ของฉัน!
พอเป็นแบบนี้ มันจะมาไม้ไหนพวกเราก็ป้องกันได้หมด!
แกไม่รอดแน่ไอ้อัศวินเวรตะไล!
ทัตชูมือขึ้นพร้อมกับพิมโดยไม่ต้องสื่อสาร เพราะเป็นจังหวะที่เจ้าอัศวินดำหันไปหาฝ้ายพอดี
ลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่พอจะกลืนมนุษย์ถูกสร้างขึ้นในพริบตา ทัตและพิมยิงบอลเพลิงนั้นของตัวเองใส่เจ้าอัศวินอย่างไม่รอรี บอลเพลิงทั้งสองเข้ากระแทกร่างมันจนระเบิดและเผาจนปวดแสบปวดร้อน
โฮรกกกกกก!!!!!
เสียงร้องคำรามดังขึ้นอย่างเจ็บปวด คงเป็นเพราะเกราะของมันถูกฝ้ายแทงเปิดด้วย ความเสียหายเลยเพิ่มมากขึ้นอีก
แต่ทัตยังไม่ประมาทและออกวิ่งต่อ เขาพยายามล้อมมันไว้ร่วมกับพิมและฝ้ายให้เป็นลักษณะสามเหลี่ยมตามแผน
เยี่ยม! พอรู้วิธีรับมือ การรับมือกับมันก็ง่ายขึ้นเยอะเลย!
เพราะงั้น เราก็แค่ใช้วิธีนี้โจมตีตอดมันไปเรื่อย ๆ
จะชนะตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว!
ทัตเห็นชัยชนะอยู่รำไรร่วมกับพิมและฝ้ายที่เริ่มยิ้มออก
ทั้งสามเริ่มโจมตีอีกครั้งเมื่อเพลิงมอด หนนี้สายตาของมันพยายามมองไปรอบ ๆ แต่เพราะทัตพยายามวิ่งอยู่ใกล้พิม สายตามันเลยถูกบังคับให้ดูแค่สองคน ไม่อาจมองไปหาฝ้ายที่อยู่ข้างหลังได้
มันเลยเลือกโจมตีใส่ทัตที่วิ่งเข้าหาและง้างหมัดเข้ามา
แต่ก็เหมือนเดิม นั่นเป็นแค่การหลอก ทัตไม่ได้โจมตีต่อหากแต่ถอยพื้นหลบไปเหมือนเดิม
“!!!?”
แต่หอกนั้นถูกฟาดลงมาเฉียดทัตมากกว่าที่คาด คมหอกเฉือนผมทัตไปแบบถาก ๆ ทำเอาเขาเสียวสันหลังวาบ
มันโจมตีเร็วขึ้นเหรอ?
ทัตขมวดคิ้วเมื่อบางอย่างเริ่มผิดปกติ แต่ก็ไม่ลืมที่จะวิ่งไปสนับสนุนพิมที่พยายามดึงความสนใจ
แล้วพอเห็นพิมที่กำลังเหงื่อตก ทัตก็รู้ตัวถึงความผิดแปลกนี้จนได้
ไม่สิ ไม่ใช่!
มันไม่ได้เร็วขึ้น เราต่างหากที่ช้าลง!!!
พวกเรายังไม่หายเหนื่อยจากบอสมังกรกันเลย แถมฉันก็มีอาการบาดเจ็บด้วย
แต่ไอ้เวรนี่มันเป็นมอนสเตอร์ ไม่ได้เหนื่อยเหมือนกับเรา!
แบบนี้พลังของพวกเราจะตกลงเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเหมือนกัน!
ทัตเริ่มเหงื่อตก เขาไม่คิดว่าพละกำลังของพวกตนจะถูกเผาผลาญเร็วขนาดนี้
อาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ใช้แผนรับมือแบบใหม่ด้วย ทั้งสามเลยมีการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นเยอะ นี่ยังไม่นับเรื่องที่ต้องสู้กับมอนสเตอร์ระดับบอสสองตัวติดกันอีก ถ้าไม่ได้เป็นผู้มีพลัง พวกทัตน่าจะหมดแรงไปแล้ว
กระนั้น หอกที่ฟาดใส่พิมและหวังให้ตัดถึงฝ้ายก็ยังถูกหลบได้สบาย ๆ อยู่ ทัตถือโอกาสยิงเวทเพลิงผสานสายฟ้าเข้าหลังของมันเต็ม ๆ จนมันร้องลั่นหันมาทางเขาอีกครั้ง
แววตาหงุดหงิดของมันเปลี่ยนมาเล็งที่ทัต แรงอาฆาตทำทัตขนหัวลุก
ไม่ใช่เพราะว่ามันน่ากลัว… แต่เป็นเพราะความปลอดภัยกำลังจะหายไป
แย่ล่ะสิ… ตอนแรกนึกว่าจะชนะได้แบบปลอดภัย แต่ถ้าศึกนี้ยืดเยื้อไปอีกสัก 5 นาที พวกเราอาจหมดแรงก่อนก็ได้
ทัตคิดไปก็ถีบพื้นรักษาระยะห่างดึงความสนใจมันไว้ ในใจก็คิดเป็นห่วงพิมที่วิ่งเข้ามาอยู่ข้าง ๆ รวมถึงฝ้ายที่อยู่ถัดหลังเจ้าอัศวินไป
ภาพในอนาคตที่ทั้งสองคนหมดแรงและเริ่มหลบการโจมตีไม่ทันเริ่มเข้ามาในหัว ทำทัตกังวลจนเหงื่อแตกพลั่ก
เวรเอ้ย! แล้วประเด็นคือไม่รู้ด้วยว่าต้องสู้อีกนานไหมกว่าจะชนะ
ถึงแผนนี้จะได้ผล แต่ถ้าเราหมดแรงก่อนมันก็จบอยู่ดี!
ทัตเริ่มเจ็บใจกับความเสี่ยงที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาที ไม่สิ มันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เลยต่างหาก
ครั้นจะเลือกทางหนี เจ้าอัศวินดำมันก็คงวิ่งไล่ตามมาไม่รู้จักจบสิ้น
ทางเดียวที่จะรอดไปจากสถานการณ์นี้ได้คือต้องสร้างความเสียหายให้มากขึ้น และต้องฆ่ามันก่อนที่ฝ่ายเราจะหมดแรง
แต่ถ้าเร่งจังหวะการโจมตีมันจะเป็นการทำลายสมดุลของแผนจนเพิ่มอันตรายเป็นสองเท่าแทน
บ้าเอ้ย! ไอ้เฟิร์สไนท์เฮงซวย!
นี่แกจะไม่ให้พวกเราได้ดั่งใจบ้างเลยรึไงวะ!
ความกังวลและเจ็บใจทำเอาหัวใจบีบรัด นี่เขาจะตายโดยที่ถูกโลกใบนี้กลืนกินเหมือนกับสินงั้นเหรอ? เขาจะไม่มีโอกาสได้ทำลายโลกนี้เหมือนกับที่มันเคยพรากพิมและฝ้ายไปจากเขาเลยรึไงกัน?
ทว่าทัตยอมแพ้เร็วเกินไป… นั่นเพราะเทพธิดาแห่งชัยชนะยังไม่สิ้นฤทธิ์
“ใช้ได้นี่หว่า!”
“!!!?”
เสียงตะโกนดังมาจากด้านหลังของทัตทำเขาตกใจไหล่สั่น
เขาไม่อาจหันไปมองได้เพราะต้องจ้องตาของเจ้าอัศวินตลอดเวลาตามแผน แต่ทัตจำเสียงนั้นได้แม้จะเพิ่งรู้จักกันคืนนี้ก็ตาม
“คนไม่พอใช่ไหมล่ะฮีโร่!”
ทอง!?
หัวหน้าหน่วยผู้ใช้ปืน… ทองวิ่งกลับมารวมกับทัตร่าเริงยังกับอะไรดี ทั้งที่คนที่ควรจะรู้สึกอย่างนั้นคือทัตแท้ ๆ
“ต๊ายตาย! แอบมาสนุกกันแล้วไม่ชวนเลย ใจร้ายจังอ่า!”
“เท่กันเหลือเกินนะ ขอร่วมวงด้วยคนสิ!”
เท่านั้นไม่พอ… ควินน์ก็ไปรวมกับฝ้าย แถมน้ำหวานก็ไปอยู่กับพิมอีกด้วย
“ขอโทษที่มาช้านะครับ เป็นแผนที่เยี่ยมไปเลย”
สุดท้ายคือเซนที่มารวมอยู่ใกล้ ๆ กับทัต กำลังเสริมที่หนีไปตามความต้องการของมาร์คล้วนกลับมารวมกันครบทุกคน
แต่พวกเขาไม่ได้มีใครหวาดกลัวเลยสักนิด รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเซนเหมือนโล่งอกด้วยซ้ำ ทองเองก็ยิ้มเหมือนเพิ่งเอาภูเขาออกจากอกเหมือนกัน
“เออ… นึกว่าจะต้องกลายเป็นคนน่าสมเพชไปทั้งชีวิตแล้วซะอีก ต้องขอบคุณนายเลยนะเนี่ย”
“พวกนาย…”
รอยยิ้มปลอดโปร่งของทั้งสองทำเอาทัตแปลกใจไม่น้อย
แม้แต่น้ำหวานเองก็ยังฉีกยิ้มกว้างอยู่ข้างพิม หรือกระทั่งควินน์ที่ปกติจะยิ้มเหมือนโรคจิต เธอยังยิ้มสดใสราวกับเพิ่งปลดแอกจากอะไรบางอย่าง
แต่พอมานึกดู… สาเหตุที่ทัตกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าอัศวิน ก็เพราะเขาทนไม่ได้ที่จะทิ้งใครไว้ข้างหลัง และกลายเป็นคนพรรค์นั้นเพื่อที่จะมีชีวิตรอด
เขายอมไม่ได้ที่จะถูกโลกใบนี้กลืนกินและเปลี่ยนไป คนพวกนี้เองก็คงยอมไม่ได้เหมือนกันถึงได้กลับมาที่นรกขุมนี้
เหล่ากลุ่มคนที่จะไม่ยอมถูกโลกใบนี้ทำลาย… เพราะมีความตั้งใจแบบนี้แหละจึงเกิดปาฏิหาริย์ขึ้น ชัยชนะรออยู่ที่เส้นชัยแล้วจริง ๆ
โฮรกกกกกกกก!!!!!!
เจ้าอัศวินดำสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป มันเริ่มคำรามลั่นอย่างกับพิโรธฟ้าดิน ทั้งที่ตัวมันถูกส่งมาโดยผืนพสุธาที่เหยียบย่ำพวกเราไป
เห็นมันร้อนรนแบบนั้น ทัตถึงยิ่งรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น
“ลุยกันเลย!”
“ “ “โอ้ว!!!” ” ”
ทัตตะโกนขึ้นจากความเร่าร้อน ลืมตัวตนที่มักปิดปากเมื่อเกินความจำเป็นไปเสียสนิท
แต่จะทำอย่างไรได้… ความกระหายชัยชนะอันเด็ดขาดนี้มันกำลังปะทุมาจากในอก กระทั่งพวกหัวหน้าหน่วยทุกคนยังต้องไล่ตามแผ่นหลังของเขา
กลุ่มของทัต เซนและทองถีบร่นระยะเข้าไปหาเจ้าอัศวินก่อนใคร สายตาของมันหันมาจดจ้องและง้างหอกเข้ามาฟัน
ทัตวิ่งเข้าใส่ตรง ๆ และง้างหมัด ก่อนจะหยุดและหลบไปด้านข้างแทน เซนฉวยโอกาสนั้นวิ่งออกทางขวาแล้วทำท่าจะอัดใส่มือที่ถือหอก
เจ้าอัศวินตอบโต้ด้วยการรีบปล่อยมือจากหอกแล้วหลังแหวนใส่เซน …แต่ที่ไหนได้ เซนถอยหลบออกไปก่อนที่หมัดเขาจะชก เขาตั้งใจออกหมัดหลอกแต่แรก
เป็นทีของทองที่ร่นระยะและชักปืนลูกซองขึ้นลำเล็งที่ขา แต่เจ้าอัศวินก็เห็นเหมือนกันและใช้ขานั้นเตะใส่
ทว่าทองก็ก้มตัวหลบในทันทีโดยไม่ได้ยิง พร้อมกับหมุนตัวหลบมาอยู่ข้าง ๆ ทัต
ทองและเซนต่างทำแบบเดียวกับทัต พวกเขาทำทีเป็นหลอกโจมตีเพราะรู้ว่าอยู่ในระยะการมองเห็นของเจ้าอัศวิน
รู้แผนของฉันจริง ๆ ด้วย
ปรับตัวเร็วสมเป็นหัวหน้าหน่วยกันจริง ๆ!
ทัตอดชื่นชมไม่ได้ที่ทั้งสองทำตามแผนของเขาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากความตั้งใจแล้ว มันสมองเองก็ดูจะเป็นไปในทางเดียวกัน
และความสามารถนั่น ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กับเซนและทอง
“หม่ำ ๆ กู๊ดบอยครั้งที่สอง!”
“ไม่ต้องตะโกนก็ได้ค่ะ!”
ควินน์กับฝ้ายเข้ามาจากจุดบอด แทงดาบเลื่อยยนตร์และหอกใส่หลังของเจ้าอัศวินจนเกราะทะลุ
เกราะด้านหลังของมันปริแตกกว้างขึ้น ความเสียหายถูกสร้างได้ง่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพลังชีวิตของมันเริ่มลดลง
โฮรกกกกก!!!!
เจ้าอัศวินคำรามซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวกับยิ่งย้ำเตือนถึงความร้อนรนของมัน
แต่สำหรับพวกทัต นี่เป็นสัญญาณว่าชัยชนะกำลังใกล้เข้ามา
“ขอเอาคืนหน่อยเถอะ!”
น้ำหวานเข้าไปฟันหลังคอของเจ้าอัศวินจนเกราะแตกอีกจุด เพราะมันมัวแต่หันไปคำรามใส่ทางฝ้ายและควินน์นั่นแหละ
พิมเองก็เห็นช่องว่างเลยวิ่งเข้าไปซ้ำหลังเข่าอีกจุดจนเกราะแตกไปอีก หนนี้มันถึงกับทรุดเข่าจนลุกไม่ขึ้น แต่ก็ยังพยายามหันไปหาทางพิมเพื่อล้างแค้น
นั่นทำให้เซนและทองอยู่ด้านหลังของมัน
เซนพันผ้าเหล็กไว้กับหมัดขวาก่อนต่อยใส่หลังเกราะที่แตกของมัน แล้วทองก็ยิงลูกซองอัดเข้าใส่หลังคอของมัน ของเหลวที่เป็นเนื้อจริงของมันกระเซ็นออกมาเพราะกระสุนลูกปราย ทำเอาเจ้าอัศวินถึงกับแหงนคออย่างเจ็บปวด
สุดท้ายคือเป็นทีของทัต เขาอาบเพลิงและสายฟ้าไว้ที่หมัดขวาในจังหวะเดียวกัน จากนั้นกระโดดขึ้นสูงแทนที่ทอง
ไปตายซะ!!!!
แล้วอัดเข้าใส่กลางหลังหัวของมันจนล้มหน้ากระแทกพื้น เกิดหลุมเครเตอร์ใต้ร่างของมันยังกับอุกกาบาตเพิ่งตกสู่ผืนโลก
เจ้าอัศวินดำพยายามใช้แขนทั้งสองยกตัวขึ้นแต่ร่างมันกลับสั่นระรัวและเชื่องช้า ชัดเจนว่าความคล่องแคล่วถูกลดทอนตามพลังชีวิตที่ใกล้มอดดับ
อัศวินอหังการอันเคยทรงพลังราวกับเป็นทัณฑ์สวรรค์จากธรรมชาติผู้ยิ่งใหญ่ บัดนี้ ต่อหน้าเจตจำนงของเหล่าผู้ต่อต้านโชคชะตา มันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าเศษเหล็ก
ตัวตนผู้สูงศักดิ์อย่างมันกำลังจะถูกมดปลวกบดขยี้ เจ้าอัศวินดำไม่อาจยอมรับความจริงข้อนั้นได้
โฮรกกกกกก!!!!!
เจ้าอัศวินดำคำรามพิโรธไม่รู้เป็นหนที่เท่าไหร่ แถมมันยังสะบัดมือไม้ที่ถือหอกไปทั่วจนพวกทัตต้องถีบพื้นถอยร่นระยะออกมา
การเคลื่อนไหวของมันมั่วซั่วจนยากจะเข้าไปประชิด แต่นั่นแหละคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความร้อนรนของมันทะลุปรอทแล้ว
เข้าใจความรู้สึกพวกเราบ้างรึยังล่ะไอ้เวร!
แต่ว่า… ห้ามรีบร้อนเด็ดขาด
ต้องรอจังหวะตอนอยู่ในจุดบอดเท่านั้น!
ทัตเฝ้ารอจังหวะปิดฉากอย่างไม่รีบร้อน คนอื่น ๆ เองก็เหยียบยั้งเท้ารอจังหวะ เพราะจุดบอดอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ทั้งนั้น
แต่เจ้าอัศวินดำไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ มันยันตัวขึ้นจนสำเร็จแม้เข่าจะยังคุกพื้น
นั่นเป็นจังหวะที่ทุกคนเตรียมพร้อม เพราะเมื่อไหร่ที่มันมองใครสักคน คนที่อยู่ตรงข้ามก็จะได้โอกาสปิดฉาก
ทว่า… โลกนี้ไม่มีอะไรง่าย
ซู่ม!!!
“อะไรอีกวะเนี่ย!”
ทองถึงกับหลุดสบถเมื่อเห็นร่างของเจ้าอัศวินทมิฬถูกคลุมด้วยออร่าสีดำทมิฬ ลักษณะของมันคล้ายคลึงกับสกิล ‘จิตล่าสังหาร’ ที่ติดมากับอาวุธประจำตัวที่ได้จาก Chivalry
แต่ความสามารถของมันยังไม่ถูกพิสูจน์จนหมด ทุกคนถึงเกร็งตัวกันไปหมดเพราะไม่รู้จะเจอกับอะไร
ทว่าไม่ทันการ… ออร่าสีดำทมิฬนั้นขยายออกไปรอบทิศ แล้วพริบตาที่สัมผัสร่างของพวกทัต เขาทุกคนก็ตัวชา ขนทุกเส้นเองก็ชูชันราวกับโดนสาดน้ำเย็น
ความกลัวเข้าปกคลุมทุกคนจนชะงักไปหมด
เวรเอ้ย! ยังจะมีลูกไม้อยู่อีกเหรอ!?
แต่… อย่าคิดว่าฉันจะยอมแกง่าย ๆ เชียว!
ทัตพยายามฝืนยืนตรงต่อแรงกดดัน จ้องแววตาของมันกลับไปแม้จะทำให้ตัวเขาสั่นกว่าเดิม
ทนไว้ให้ได้! มันแค่พยายามซื้อเวลาเท่านั้นแหละ!
ขอแค่ทนไว้ได้จนถึงตอนที่มันเผยจุดบอดก็พอ!
หลังจากนั้นแกเสร็จแน่!!!
ถึงความหวาดกลัวจะเข้ามาแทรก แต่เปลวไฟที่ปรารถนาจะเปลี่ยนแปลงโชตชะตานั้นยังไม่มอดดับ
ทัต ไม่สิ… ทั้งพิม ฝ้าย เซน ทอง น้ำหวานและควินน์ ต่างก็พยายามยั้งยืนไม่ยอมจมพื้นไปกับแรงกดดันต่อความกลัว
เจ้าอัศวินดำเห็นพวกทัตต่อต้านโชคชะตายิ่งไม่สบอารมณ์จนยกมือทุบพื้น แสดงความหงุดหงิดอย่างไม่คิดปิดบัง แต่ก็ยังพยายามเร่งออร่าสีดำทมิฬจนกว่าพวกทัตจะกลัวจนหมอบกราบพสุธา
หารู้ไม่… ว่าผู้มิหวาดกลัวต่อความตายยังเหลืออีกหนึ่งคน
ตู้ม!!!
แรงกระแทกอัดเข้าใส่กลางหลังของเจ้าอัศวินแบบไม่ทันตั้งตัว จนมันต้องหันไปมองคนที่เป็นต้นเหตุ
…มองมาร์คที่สะสมแรงกายมาตลอด และพุ่งเข้ามาอัดเจ้าอัศวินจากนอกระยะสกิลข่มขู่
การโจมตีของเขาทำเอามันเสียศูนย์ ออร่าสีดำทมิฬก็ถึงกับอันตรธานหายไปหมดสิ้น ด้วยหมัดที่ขับดันมาจากเปลวเพลิงแห่งการไถ่ถอนของมาร์ค
…ส่งต่อสู่เปลวไฟแห่งการปลดแอกของทัต
“เอามันให้ลง! ทัต!!!”
มาร์คส่งลูกมาให้ทัตรับ เขาก็เปิดใช้งานสกิลทั้งเสริมพลังกายและเสริมพลังเวทจนหมดทุกอัน
ออร่าสีทองเป็นประกาย 4 ชั้นอาบร่างของทัต ก่อนจะถีบพื้นพุ่งเข้าใส่กลางลำตัวของเจ้าอัศวินดำราวกับดาวหาง
ตู้ม!!!!
แรงกระทบสร้างเสียงระเบิดดังลั่น ส่งแรงกระทุ้งเข้าไปในเกราะจนของเหลวทะลุกระจายออกจากทุกจุดที่เกราะแตก
“ยังไม่จบ!!!”
ทัตคว้าคอของเจ้าอัศวินก่อนที่มันจะหันกลับมามอง แล้วเหวี่ยงลงกับพื้นจนแตกระแหง
ไม่พอ เขายังกระโดดขึ้นสูงแล้วสร้างพื้นบนอากาศด้วยเวทเกราะใช้เป็นแท่นเหยียบ ก่อนที่จะย่อตัวส่งแรง และมองไปยังเจ้าอัศวินดำที่อยู่เบื้องล่าง
พอกันทีที่ถูกแย่งชิง พอกันทีที่ถูกทำให้เปลี่ยน
พอกันทีที่ถูกกลืนกิน
หนนี้… แกต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถูกกลืนกิน!!!
ทัตถีบพื้นด้วยแรงกายทั้งหมดที่มี พุ่งลงสู่พสุธายิ่งกว่าดาวตกเข้าใส่กลางร่างของเจ้าอัศวินดำจนเกิดระเบิดขนาดใหญ่
ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจนทุกคนต้องยกแขนขึ้นปิดบัง คงจะมีแต่พิมและฝ้ายที่เป็นห่วงทัตจนต้องพยายามหรี่ตามองผลลัพธ์
ราวกับสายลมเป็นใจแก่พวกเธอจึงพัดออก จนเห็นภาพทัตที่ยืนอยู่บนซากเหล็กซึ่งเคยเป็นอัศวินดำ
ร่างภายในเกราะที่เป็นของเหลวของมันค่อย ๆ กลายเป็นฝุ่นหายไป พร้อมกับข้อความเลเวลอัพที่ขึ้นแจ้งเตือนในสติของทุกคน เป็นดั่งสัญญาณของจุดจบแห่งการต่อสู้
ทั้งอย่างนั้นในอกของทุกคนกลับยังสั่นระทึก และไม่ใช่เพราะความหวาดกลัวแต่เป็นความตื่นเต้น
ที่ผ่านมา… เหล่าผู้มีพลังล้วนถูกบังคับให้ต่อสู้ พ่ายแพ้ สูญเสียและเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาตัวรอด
แต่นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เอาชนะมาได้โดยไม่สูญเสียทั้งพวกพ้องและสิ่งที่ตัวเองเป็น มือไม้ของพวกเขาถึงยังสั่นด้วยความดีใจไม่หยุด
คิดแบบนั้น สายตาทุกคู่ก็ถูกดึงดูดไปยังเด็กหนุ่มผู้เปิดทางสู่ชัยชนะ
ไปยังทัตผู้ยืนอยู่บนซากเหล็กกล้า กำลังกำหมัดแน่นด้วยความสะใจถึงขีดสุดยิ่งกว่าใคร
คือความสะใจ… ของผู้ที่ก้าวข้ามโชคชะตา และเอาคืนโลกใบนี้ได้สำเร็จนั่นเอง
❖❖❖❖❖
Chapters
Comments
- ตอนที่ 50 ทำแล้วเสียใจ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 49 หากเปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ก็จงเปลี่ยนโลกเสีย มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 48 การเสียสละ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 47 เหล่านักล่ามังกร มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 46 อัศวินมังกร มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 45 เก้าอี้ดนตรีย่อมต้องมีผู้แพ้ มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 44 ความเห็นไม่ลงรอย มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 43 บ้านนอกเข้ากรุง มิถุนายน 1, 2025
- ตอนที่ 42 การนำเสนอไม่เคยเป็นเรื่องง่ายในห้องประชุม มีนาคม 1, 2023
- ตอนที่ 41 ความแปรผันของระยะห่างกับความสัมพันธ์ กุมภาพันธ์ 7, 2023
- ตอนที่ 40 เข้าใจศัตรูได้ ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ธันวาคม 17, 2022
- ตอนที่ 39 ไม่อยากเสียใจทีหลังเป็นครั้งที่สาม ธันวาคม 17, 2022
- ตอนที่ 38 กันยายน 27, 2022
- ตอนที่ 37 กันยายน 23, 2022
- ตอนที่ 36 ต่อให้ตาย ก็ต้องจัดการมันให้ได้ สิงหาคม 25, 2022
- ตอนที่ 35 ถึงจะมีอีกตัว ก็ต้องจัดการมันให้ได้ สิงหาคม 25, 2022
- ตอนที่ 34 สิงหาคม 25, 2022
- ตอนที่ 33 สิงหาคม 25, 2022
- ตอนที่ 32 สิงหาคม 25, 2022
- ตอนที่ 29: ใครจะรู้ว่าท่านลอร์ดคืออะไร เมษายน 2, 2022
- ตอนที่ 28: ใครจะรู้ว่าการสูญเสียจะมาเมื่อไร มีนาคม 18, 2022
- ตอนที่ 27: ใครจะรู้ว่าพวกมันจะร่วมมือกัน มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 26: ใครจะรู้ว่าน้องสาวจะน่ารักขนาดนี้ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 25: ใครจะรู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 24: ใครจะรู้จักวิธีการเอาตัวรอดที่ถูกต้อง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 24 ถึง 31 เป็นแบบขายรายตอนนะครับ สิงหาคม 25, 2022
- ตอนที่ 23: ใครจะรู้ว่าน้องสาวกำลังคิดอะไรอยู่ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 22: ใครจะรู้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไร มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 21: ใครจะรู้ว่าจะเจอมิโนทอร์ในซุปเปอร์มาร์เก็ต มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 20: ใครจะรู้ว่าทุกคนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 19: ใครจะรู้ว่าเธอจะยอมให้ไปลาดตระเวนด้วย มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 18: ใครจะรู้ว่าจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 17: ใครจะรู้ว่าคนพวกนี้ทั้งหมดคือเซฟเวอร์ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 16: ใครจะรู้ว่ากำลังเสริมหมายถึงเธอ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 15: ใครจะรู้ว่าหัวหน้าใหญ่จะออกมาเร็วขนาดนี้ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 14: ใครจะรู้ว่ามีเพื่อนอยู่ฝั่งนี้เหมือนกัน มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 13: ใครจะรู้ว่าต้องมารู้สึกผิดทีหลัง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 12: ใครจะรู้ว่าต้องให้ใช้กำลัง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 11: ใครจะรู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 10: ใครจะรู้ว่ามีอาชีพลับซ่อนอยู่ด้วย มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 9: ใครจะรู้ว่าสองหัวดีกว่าหัวเดียวจริง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 8: ใครจะรู้ว่าเธอก็อยากจะเลือกอาชีพของตัวเองเหมือนกัน มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 7: ใครจะรู้ว่าเธอจะมาเยี่ยม มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 6: ใครจะรู้ว่าตั๋วจะมาส่งถึงที่ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 5: ใครจะรู้ว่าหนีเสือปะจระเข้ มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 4: ใครจะรู้ว่ามีรังผึ้งอยู่ใต้ห้องของตัวเองด้วย มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 3: ใครจะรู้ว่าเธอจะมาหาถึงที่ห้อง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 2: ใครจะรู้ว่ากลางคืนมีหนที่สอง มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 1: ใครจะรู้ว่าทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด มีนาคม 6, 2022
- ตอนที่ 0: บทนำ มีนาคม 6, 2022
MANGA DISCUSSION