อัศวินเกราะทมิฬคุมบังเหียนราชันย์มังกรเหนือเวหา ผู้แปรเปลี่ยนผืนปฐพีเป็นนรกบนดิน
รอยแยกบนพื้นถูกเลเซอร์ตัดราวโมเสสแหวกทะเล ตัดแบ่งตึกโรงพยาบาลเป็นสองส่วน และจุดเพลิงละแวกใกล้เคียงประหนึ่งพวกทัตอยู่กลางกระทะทองแดง
ภาพนั้นทำทุกคนสะพรึง… แม้ความร้อนระอุจากเพลิงรอบทิศจะทำรู้สึกแสบร้อนผิว แต่กลับไม่ทำให้ความหนาวเย็นบนแผ่นหลังหายไป
…เพราะแววตาเวทนาของเจ้าอัศวินบนนั้นยังจดจ้องทัตไม่วางตา ทำเขากลืนน้ำลายจนริมฝีปากแห้งผาก
แย่ล่ะสิ… ศัตรูสามารถลอยบนอากาศได้
แบบนี้รูปแบบการต่อสู้จะถูกยกระดับจากสองมิติเป็นสามมิติ จากแนวระนาบเป็นกลางเวหา
ไม่สิ เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเท่ากับเรื่องที่พวกมันยังไม่เอาจริงเลย!
พอมานึกดู… พวกมันก็สู้กับเราแบบไม่ได้จริงจังอะไร
ไอ้เวรนี่ก็คงอยากดูท่าทีเราก่อนที่จะเอาจริงเหมือนกันสินะ
ทัตกัดฟันกรอดรู้สึกเหมือนโดนตุ๋น ไม่แปลกใจที่การโจมตีระลอกก่อนได้ผลดีเกินจริง
และตอนนี้… ของจริงที่ว่าก็กำลังจะมา
“!!!?”
อัศวินดำง้างหอกขึ้นเหนือหัว ทุกคนเลยรีบยืนขึ้นเหยียบพื้นแน่นพร้อมถีบหนีได้ทุกเมื่อ
พิมกับฝ้ายพยักหน้ามองกันในเสี้ยววิ แล้วรีบเข้ามาเกาะทัตจนตัวติด …เพราะก่อนหน้านี้ทัตเอาเวลาหลบเลเซอร์ไปเตือนคนอื่น เขาเลยเกือบหลบไม่พ้นเสียเอง
ความกังวลนั้นทำให้สองสาวอยากป้องกันไว้ก่อน พวกเธอช่วยกันจับจ้องอัศวินดำเป็นดั่งดวงตาอีกสองดวงให้แก่ทัต
แต่… เจ้าอัศวินดำก็ยังไม่ขว้างหอกลงมาเสียที
มันรออะไรอยู่วะเนี่ย
ทัตขมวดคิ้วแน่น ทั้งหงุดหงิดทั้งกังวลว่ามันจะเล่นอะไรอีก
วูมมมม!!!!
แต่ตัวที่เคลื่อนไหวก่อนกลับเป็นราชันย์มังกรเพลิง ในปากของมันเปล่งแสงร่ายลูกบอลเพลิงอีกครั้ง
รอบนี้ลูกไฟมันใหญ่จนไม่อาจคาบไว้ได้ บอลเพลิงจึงลอยอยู่เบื้องหน้าของมันแทน
และที่น่ากลัวยิ่งกว่า… คือมันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนเส้นผ่านศูนย์กลางเกินกว่า 15 เมตรไปแล้ว
“อะไรอีกวะเนี่ย”
“ชิ”
มาร์คกับทองทั้งบ่นและเดาะลิ้น สีหน้าตึงเครียดเหงื่อตก แม้แต่ควินน์ที่บ้าดีเดือดยังต้องยิ้มแหยกับบอลเพลิงขนาดเท่าบ้าน
เซนก็เป็นอีกคนที่ขมวดคิ้วกัดฟันแน่น
บ้าเอ้ย!
ถึงจะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็เถอะ… แต่ว่า!
“ทุกคนกระจายกันครับ! ไม่ว่ามันจะเป็นการโจมตีแบบไหน แต่การเกาะกลุ่มจะเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองครับ!!!”
เซนสะบัดมือเหมือนออกคำสั่งก่อนจะวิ่งนำออกไปใต้เงาของเจ้าอัศวินมังกร
มาร์ค ทอง น้ำหวานและควินน์สับสนในจังหวะแรก แต่ก็วิ่งหนีไปคนละทิศตามที่เซนบอก
เป็นการกระจายความเสี่ยงที่ทุกคนจะถูกโจมตีพร้อมกัน แถมยังทำให้เจ้ามังกรมันเลือกเป้าหมายได้ยากขึ้นด้วย
“ทัต ไปหลบในอาคารเถอะ!” พิมเรียกพร้อมกับดึงแขน แต่ทัตกลับยังจ้องเจ้าอัศวินมังกรไม่วางตา ทำเอาฝ้ายกังวลจนหน้าเสีย
“พี่ทัตคะ!”
“มันไม่ขยับเลย” แต่ทัตกลับตอบฝ้ายที่ตะโกนเตือนเขาอย่างใจเย็น
พิมกับฝ้ายคิดตามก็เริ่มเอ๊ะใจเหงื่อตก เปลี่ยนไปมองเจ้าอัศวินมังกรบนท้องฟ้าตามทัต
เซนตัดสินใจถูกแล้วที่แยกกัน มันจะได้ล็อคเป้าไม่ถูก
แต่ถ้างั้น… ทำไมมันถึงไม่เล็งเป้าไปที่ใครสักคนเลยล่ะ?
…หรือว่า!!!
“ทุกคนกลับมา! การโจมตีมันเป็นแบบวงกว้าง!!!”
ทัตตะโกนเรียกทุกคนทำพวกเขาหน้าถอดสี
พริบตาที่ตระหนักเหมือนกัน… มาร์ค ทอง น้ำหวาน ควินน์ รวมถึงเซนก็ถีบพื้นกลับมาอยู่กับทัตโดยไม่ลังเล
ก๊าซซซซซซซซซ!!!!
ราชันย์มังกรเพลิงคำรามส่งไฟบรรลัยกัลป์ลงสู่พื้นพสุธา ลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่กว่า 20 เมตรพุ่งลงมาจากท้องฟ้าประหนึ่งอุกกาบาต เห็นแล้วยิ่งขนลุกกันไปใหญ่
มาแล้ว! จุดตกอยู่ไม่ตรงกับเราแต่ก็ไม่ไกลมาก
แบบนี้มันหนีไม่ทันจริง ๆ ด้วย ทุกคนที่อยู่ในเขตโรงพยาบาลคงโดนหมดแน่!
งั้นต้องสร้างกำแพง! จุดอ่อนมันคือธาตุดินกับน้ำ
จะใช้ดินเหมือนก่อนหน้านี้ดีไหม?
ไม่สิ… ไม่ได้! กำแพงดินมันแข็ง แต่ก็บดบังทัศนวิสัย
ไอ้อัศวินมันต้องฉวยโอกาสโจมตีซ้ำเข้ามาในจุดบอดนี้แน่
“ทุกคนมาหลบหลังฉัน! พิมช่วยฉันสร้างกำแพงน้ำด้วย!”
“จัดไป!”
ทัตนัดแนะพิม เพราะมีอาชีพ Mage กันแค่สองคน
ทัตยื่นมือออก ร่ายเวทเกราะธาตุน้ำสร้างกำแพงเป็นรูปโดมครึ่งวงกลมเบื้องหน้าทุกคน
พิมขยับมายืนอยู่ข้างทัต เธอสร้างกำแพงน้ำแบบเดียวกันโดยซ้อนเขาไว้อีกทบ
บอลเพลิงยักษ์ร่วงหล่นใกล้เข้ามาทุกขณะ แม้จะห่างขนาดนี้ แต่กำแพงน้ำก็เริ่มจะระเหยเป็นไอยิ่งทำให้ทุกคนเหงื่อตกว่ามันจะป้องกันไหวไหม
ตู้ม!!!!!!
บอลเพลิงยักษ์ตกลงห่างจากพวกทัตแค่ 5 เมตร
พริบตานั้นเปลวเพลิงก็ขยายออกไปทุกทิศจากจุดตก ทะเลเพลิงไหลบ่าเข้ามาหาพวกทัตราวกับคลื่นสึนามิ จนกระแทกเข้ากับกำแพงวารีของทัตกับพิม
“อึก!”
ทัตกับพิมยึดยื้อแรงอัดกระแทกนั้นไว้สุดแรง เพลิงส่วนที่เกินมาไหลออกไปทางซ้ายและขวา แต่คลื่นทะเลเพลิงไม่มีวี่แววจะชะลอความรุนแรงลงเลยสักนิด
“พยายามเข้านะครับคุณทัต!” เซนถึงกับตะโกนส่งเสียงเชียร์
“อย่าแพ้มันนะ! ถ้ากันมันได้เดี๋ยวให้ปั่มปั๊มเลยเอ้า!”
“เวลาแบบนี้อย่ามาพูดบ้า ๆ ได้ไหมยะ!!!!”
พิมตะโกนด่าสวนควินน์แทบไม่ทัน จนฝ้ายกับน้ำหวานต้องพุ่งเข้าไปปิดปากควินน์เอาไว้
แต่ไม่ว่าจะดีหรือร้าย… ทัตและพิมเลยยิ่งรู้สึกรับผิดชอบต่อชีวิตด้านหลังของตน
“ไม่ยอมหรอกโว้ย!!!!”
“หยุดซะทีสิยะ!!!!!”
แรงกายไม่สำคัญเท่าแรงใจ ทั้งสองคนใช้พลังจากภายในดันต้านทะเลเพลิง แม้กำแพงน้ำจะระเหยก็สร้างขึ้นใหม่ทดแทน ส่วนที่ถูกดันเข้ามาก็ช่วยกันผลักกลับไปด้วยแรงกายจนแขนชักจะเริ่มชา
จนทะเลเพลิงอ่อนกำลังลง และหยุดการไหลบ่ามาในที่สุด
“รอด… แฮ่ก… สักที…”
“แฮ่ก… นั่น… สิ…”
ทัตกับพิมหายใจหอบจนต้องยืนค้ำเข่าตัวเอง แค่ต้านมันไว้ก็เหนื่อยจนเหงื่อท่วมแล้ว แถมการโจมตีเมื่อกี้ยังเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมดเป็นทะเลเพลิงของจริง ยิ่งทำทั้งสองคนร้อนจนหมดแรงไปอีก
…แต่เวลาพักหาได้มีไม่
“หลบเร็วครับ!!!!”
“ “!!?” ”
เซนตะโกนเตือนหลังจากทัตกับพิมหลุดโฟกัสเพียงเสี้ยววินาที
มาร์คกับฝ้ายพุ่งเข้าไปคว้าตัวทัตหลบไปทางซ้าย ส่วนพิมนั้นถูกน้ำหวานกับควินน์ดึงออกไปอีกทาง
ตู้ม!!!!
พริบตาถัดมา หอกสองง่ามของเจ้าอัศวินก็พุ่งทะลุกำแพงน้ำของทัตกับพิม แทงลงปักกลางกลุ่มแบบไม่มีจังหวะให้พักหายใจ ความฉิวเฉียดทำให้ทัตเบิกตาเสียวสันหลังเย็นวาบ
พอได้มาร์คกับฝ้ายช่วยพยุง ทัตเลยพอโล่งใจขึ้นมาบ้าง
อย่างที่คิดเลย… ไอ้เวรนี่มันเล็งจังหวะหลังจากที่เราป้องกันการโจมตีไว้ได้
นี่ถ้าใช้กำแพงดินเราก็จะมองไม่เห็นมัน และคงต้องมีใครสักคนที่ตายไปแล้ว
ประมาทไม่ได้เลยไอ้เวรเอ้ย!
ทัตขมวดคิ้วกัดฟันแทบแตก รู้สึกเหมือนทุกตัวเลือกที่ทำจะตัดสินความเป็นตาย
ฟุ่บ!
ทุกคนถอยจากจุดปะทะเมื่อเห็นหอกกำลังดึงตัวเอง มันลอยกลับเข้ามือของอัศวินดำบนท้องฟ้าเตรียมจะโจมตีอีกครั้ง
…และช่วงก่อนพวกมันจะเริ่มโจมตีครั้งต่อไปนี่แหละ ที่เซนเห็นว่าเป็นจังหวะโต้กลับ
“แบบนี้ไม่ได้การแน่ครับ… เราต้องจัดการมันทีละตัว”
“งั้นก็ต้องเอาไอ้มังกรก่อน”
มาร์คช่วยพูดเสริมพร้อมกับดึงทัตขึ้นมาให้ยืนดี ๆ ซึ่งเรื่องนั้นทัตเองก็เห็นด้วย
นั่นสิ… ถ้าตัดไอ้มังกรออกไปได้ อย่างน้อย ๆ ความได้เปรียบของไอ้อัศวินที่บินได้อยู่คนเดียวก็จะหายไป
แต่ต้องทำยังไง พวกเราถึงจะขึ้นไปสู้กับมันได้เนี่ยสิ———
ความคิดของทัตถูกแทรกด้วยความทรงจำจากศึกก่อน ๆ
ไอเดียเก่าแต่ยังคงบรรเจิดเลยเกิดขึ้นในหัว ณ ช่วงเวลานี้
“ฉันมีแผนแล้ว” ทัตเลยเปิดปากขึ้นมากลางวง ดึงหูของทุกคนให้หันไปฟังแม้จะไม่ได้มอง
เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้เวทเกราะธาตุลมสร้างพื้นขึ้นบนอากาศแล้วกระโดดขึ้นไปเหยียบให้ทุกคนเห็น ประหนึ่งเขากำลังเลียนแบบเจ้ามังกรเพลิง
แม้แต่เจ้าอัศวินดำยังหรี่ตามองลงมายังทัตด้วย
“อั๊ยย๊ะ! แบบนี้ก็แจ๋วเลยสิ!” รอยยิ้มกลับมาบนใบหน้าของควินน์หลังจากหายไปนาน
ไม่สิ… แววตามุ่งมั่นประสมความหวังอยู่บนใบหน้าทุกคนเลยต่างหาก
มาร์ค ทอง เซนและน้ำหวานจึงกระชับอาวุธในมือ พร้อมที่จะทำตามแผนของทัตได้ทุกเมื่อ
ถึงจะลอยไม่ได้อิสระเหมือนกับไอ้อัศวินดำก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ยังใช้เป็นแท่นเหยียบแล้วสู้กลางอากาศได้อยู่
เรียกว่าพอถูไถนั่นแหละ
แต่… แค่เราคนเดียวคงช่วยสนับสนุนทั้ง 6 คนไม่ได้แน่
ทัตตระหนักข้อจำกัดของตัวเอง …แต่ใช่ว่าจะไม่มีตัวเลือก
“พิม… ช่วยฉันอีกหน่อยนะ” ทัตเปิดปากขอร้อง แต่กลับได้ยินเสียงถอนหายใจกลับมาจนแอบหวั่น
ทว่าความกังวลก็หายไป เมื่อเธอคนนั้นสร้างพื้นด้วยเวทเกราะธาตุลมมายืนอยู่ข้าง ๆ เขา
“ช่วยอีกหน่อยอะไรเล่า มากแค่ไหนก็จะช่วยทั้งหมดนั่นแหละ!”
‘เป็นแฟนกันแท้ ๆ มาขอร้องกันทำไมเล่า’ พิมขมวดคิ้วมองทัต แอบทำแก้มพองลมราวกับจะบอกทัตแบบนั้น ทำให้เขาอมยิ้มขึ้นมา
“นั่นสินะ”
ทัตกล่าวราวสำนึกผิดแม้ในใจจะรู้สึกขอบคุณมากกว่า ได้แต่คิดว่าตนช่างโชคดีที่มีเธออยู่ข้าง ๆ
กำลังใจทัตยิ่งล้นปรี่ในช่วงสำคัญ
งั้นก็… ลุยกันเลย!
ทัตสะบัดมือไปรอบด้าน
พริบตานั้นพื้นใสอันเกิดจากเวทเกราะธาตุลมก็ปรากฏขึ้นบนเวหาในระดับต่าง ๆ กว่า 20 อัน
พิมเองก็ทำตามและได้ผลลัพธ์ออกมา 15 แผ่น ให้อารมณ์เหมือนกับกำลังเล่นเกมจำพวกกระโดดขึ้นที่สูง
ทัตมองความสูงของเจ้าอัศวินกับตัวเองแล้วเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้
ข้อจำกัดของเวทเกราะคือถ้าสร้างสิ่งที่ใหญ่กว่าเลเวลสกิล มันจะต้องใช้เวลาในการร่าย
แต่แบบนั้นน่ะสู้กับมันไม่ทันหรอก เพราะงั้นปริมาณสสารที่สร้างได้แบบไม่ร่ายเลยมีข้อจำกัด
ดังนั้น ถ้าอยากได้จำนวนมากขึ้นก็ต้องลดขนาดลงแทน
แต่ 30 กว่าแผ่นนี่ก็ทำให้พวกเราแปดคนเคลื่อนไหวกลางอากาศได้อิสระพอแล้ว
แถมอันที่สร้างไว้แล้วมันก็จะไม่หายไปด้วย
เพราะงั้น… เราก็สามารถสร้างแท่นยืนได้เรื่อย ๆ จนเต็มท้องฟ้านั่นแหละ!
“ไปเลย! ฉันกับพิมจะสร้างแท่นเหยียบให้เอง!!!”
“เข้าใจแล้วครับ! ทุกคนคอยจู่โจมโดยเน้นที่มังกรนะครับ ส่วนคุณทัตกับคุณพิมให้มองศัตรูแล้วหลบอย่างเดียวพอครับ!”
“ “ “ “ “โอ้ว” ” ” ” ”
ทุกคนตอบรับคำสั่งของเซนเสียงดังฟังชัด ถีบพื้นขึ้นไปบนพื้นกลางอากาศอย่างต่อเนื่อง แรงกายของผู้มีพลังแรงค์ 2 ร่นระยะบนท้องฟ้าได้ในชั่วอึดใจ
ทัตกับพิมรีบสร้างพื้นให้ทันกับความเร็วของทุกคน พร้อมกับกระโดดตามและรักษาระยะห่างไปด้วยราวกับวาทยากรคุมวงบรรเลง
และด้วยระยะห่างที่ลดลง… นั่นสร้างความไม่พอใจให้กับราชันย์มังกรเป็นอย่างมาก
พวกมันมองทัตอย่างคับข้อง ประหนึ่งความเป็นเทพถูกลูบคมโดยน้ำมือของมนุษย์ต่ำต้อย
โฮรกกกกกกกกก!!!!
ทั้งราชันย์มังกรและอัศวินคำรามลั่นยอมไม่ได้ มันพุ่งลงมาใส่พวกทัตที่กำลังกระโดดไต่ระดับความสูง
มันต้องไม่ยอมลอยอยู่กับที่อยู่แล้วสินะ!
ทัตรู้ทันเลยเปลี่ยนแผน เขาสร้างพื้นให้กระจายตัวกันมากขึ้น สร้างทางเลือกให้กับพวกหัวหน้าหน่วยกระโดดหลบออกข้าง
พิมเองก็ตอบโต้แบบเดียวกับทัต รู้ใจโดยไม่ต้องสื่อสาร
อัศวินมังกรพุ่งลงมา …แต่มันดันพุ่งผ่านพวกหัวหน้าหน่วยเสียดื้อ ๆ
เป้าหมายของมัน คือทัตกับพิมที่กระโดดตามขึ้นมาหลังสุดต่างหาก
เล็งเรากับพิมจริง ๆ ด้วยสินะ
ฉลาดซะด้วยไอ้เวรเอ้ย!
ทัตเห็นแววตาอาฆาตของมันพุ่งลงใกล้เข้ามาเรื่อย เขาเตรียมจะกระโดดขึ้นฟ้าแต่เบี่ยงไปทางอื่นแยกกับพิม
พริบตานั้น ผ้าเหล็กของเซนก็พุ่งเข้ามาพันคอของอัศวินดำไว้จนมันหงายหน้า
โมเมนตัมจากแรงพุ่งบินเกือบจะทำให้อัศวินดำถูกดึงตกจากหลังมังกร แต่มันดันดึงเชือกไว้ทัน
“หนอย… เกือบไปแล้ว” เซนยิ้มแห้งกัดฟันเสียดาย
แต่นั่นไม่ใช่การสร้างจังหวะที่เสียเปล่า หัวหน้าหน่วยทุกคนพุ่งเข้าไปในจังหวะนั้นพร้อมกันหมด
“แบบนี้ดีแล้ว!” มาร์คพุ่งเข้าไป แล้วออกหมัดอัดเข้าใส่กลางอกเจ้าอัศวินดำ แต่มันก็ยังไม่ยอมปล่อยเชือกอีก
“ปล่อยซะไอ้เวรตะไล!”
ปัง!!!
ทองตามมาทีหลัง เขาลงไปเหยียบหลังมังกรแล้วยิงใส่แขนของอัศวินดำจนเกราะบุบ
อัศวินดำถึงกับครางขู่ หรี่ตามองทั้งสองคนอย่างเคียดแค้น หอกที่มันยกขึ้นหมุนควงในมือทำให้ทั้งสองคนขนลุกซู่
แย่แล้ว! สองคนนั้นเข้าไปใกล้เกินไป!
ทัตพยายามจะพุ่งเข้าไปและสร้างกำแพงขัดจังหวะให้ แต่ดันห่างเกินไปเสียอีก
มาร์คเองก็มีแค่สนับมือ ทองก็มีแต่ปืน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือกับหอกในระยะเสียเปรียบ
คมหอกนั่นพุ่งลงมา กะจะตวัดทั้งมาร์คและทองให้ดับดิ้นไปพร้อมกัน
“เวรแล้ว!”
เคร๊ง!
แต่หอกที่พุ่งเข้ามากลับถูกดาบเลื่อยยนตร์รับด้วยการสไลด์ ทำให้คมหอกไหลผ่านเฉี่ยวหัวทั้งสองคนรวมถึงเจ้าของดาบไปอย่างฉิวเฉียด
“อุ้ยตาย เกือบไปแล้วนา”
เจ้าของดาบเลื่อยยนตร์… ควินน์เข้ามาแทรกทั้งสองคน
แต่แค่ปัดป้องการโจมตีไม่ทำให้เธอพอใจ… ควินน์ย่อตัวยั้งเท้ากับหลังมังกรใช้เป็นแท่นเหยียบ แล้วพุ่งเข้าไปฟันท้องเจ้าอัศวินเข้าอย่างจัง
โฮรกกกกกกกก!!!!!!!
อัศวินดำร้องลั่นตัวงอ เซนเห็นเป็นจังหวะงามเลยสะบัดผ้าเหล็กเข้าพันแขนของมันเสีย
“โอววววว”
เซนเหยียบพื้นอากาศที่ทัตสร้างจนมันแตกร้าว ออกแรงดึงเจ้าอัศวินดำจนหลุดออกจากหลังของมังกรได้ในที่สุด
ก๊าซซซซซซซซซซซ
ราชันย์มังกรเพลิงคำรามลั่นเมื่อรู้ว่าเจ้านายกำลังตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง มันรีบกระพือปีกเลี้ยวลงไป ไม่สนใจเลยว่ามีทั้งทอง มาร์คและควินน์เกาะอยู่บนหลัง
“บ้าเอ้ย! เร็วเกินไปแล้ว!” ทองเกาะอานมังกรสุดแรง แค่ไม่ทำให้ตัวเองหลุดกระเด็นก็เต็มกลืนแล้ว
แต่มาร์คกับควินน์สังเกตเห็นเชือกที่เจ้าอัศวินดำใช้คุม กำลังปลิวไสวตามกระแสลมจากแรงบิน
ทั้งสองคนพยายามต้านแรงลม ไต่อานเข้าไปหาเชือกนั้น
…ทัตอยู่รอบนอกและสังเกตเห็นมันบินจากซ้ายโฉบลงไปขวา แต่ดูจากความเร็ว มันคงพุ่งไปรับเจ้านายมาขึ้นหลังได้ก่อนจะถึงพื้นซะอีก
“สร้างกำแพงอัดมันเลยทัต!”
เสียงของน้ำหวานดังมาจากด้านข้าง เธอพุ่งเข้าไปหามังกรที่กำลังจะลอยตัดผ่าน
ทัตที่ยังไม่มีแผนเลยสร้างกำแพงดินขึ้นขวางวิถีบินตามเธอสั่ง พิมที่อยู่ข้างเขาเองก็สร้างเพิ่มเผื่อมันหลบไปทางอื่น
ตึง!!!
ด้วยความเร็วที่มันพุ่งมาย่อมเบรกไม่อยู่ หน้ามันกระแทกเข้ากับกำแพงดินกลางอากาศอย่างจัง
แต่ก็ทำได้แค่ลดความเร็วและชะงักมันเท่านั้น หยุดมันไม่ได้เลย
…ซึ่งมันเพียงพอแล้วสำหรับน้ำหวาน เธอเข้าไปเกาะหัวของราชันย์มังกรได้สำเร็จตามแผนพร้อมมีดในมือ
“ตายซะ”
ก๊าซซซซซซซซซซ
น้ำหวานแทงดวงตาของมันจนร้องลั่นผืนฟ้า
เจ้ามังกรเพลิงเจ็บปวดจนสะบัดหน้าไปมา บินว่อนไร้ทิศทางหมุนควงเป็นสว่านกะจะสะบัดน้ำหวานให้หลุด แต่เธอนั้นใช้ลวดพันคอเจ้ามังกรไว้อยู่ก่อนแล้ว
แถมเพราะได้น้ำหวานถ่วงเวลาให้ มาร์คกับควินน์เลยไปถึงเชือกคุมบังเหียนและดึงรั้งช่วยอีก
เยี่ยม! ทางนั้นเริ่มได้เปรียบแล้ว
ทัตยิ้มสะใจเมื่อเห็นเจ้าราชันย์มังกรถูกกำราบโดยเหล่าหัวหน้าหน่วยสี่คน
แต่พอมองไปอีกฝั่งก็ยังน่าห่วง… เจ้าอัศวินที่กำลังร่วงลงไปเหลือแค่เซนกับน้องสาวของเขาที่ต้องรับมือกับมัน
“ระวังนะฝ้าย!”
ทัตหลุดตะโกน ความรู้สึกกลัวจนแทบขาดใจกลับเข้ามาในอก และรีบสร้างพื้นให้ฝ้ายมากขึ้น
แต่ว่า…
ไม่ต้องห่วงค่ะพี่ทัต หนูได้กำลังใจมาแล้วค่ะ
เสียงตะโกนของทัตทำฝ้ายยิ้มกรุ่มกริ่ม เหมือนดวงใจได้รับการเติมพลัง แววตาอันมุ่งมั่นของเธอสะท้อนเจ้าอัศวินดำที่กำลังดิ่งพสุธา โดยมีเธอกระโดดตามมันลงไป
อัศวินดำสังเกตเห็นตัวตนของฝ้ายและหอกในมือเธอ มันเลยควงหอกกลางอากาศ
คมหอกอันตรายถูกแกว่งไปทั่วอย่างซับซ้อน มองไม่ออกเลยว่าจะตวัดเข้ามาหาเธอตอนไหน
พอสู้กับอาวุธชนิดเดียวกันก็ใช้เทคนิคเข้าว่าสินะคะ
งั้นไม่เข้าไปในระยะก็สิ้นเรื่อง
ฝ้ายตัดสินใจฉับไว เธอถีบพื้นถอยออก เว้นระยะห่างให้เห็นวิถีหอกทั้งหมดแทนที่จะคลุกวงใน
คมหอกของมันตวัดเข้ามาอย่างชำนาญแม้จะร่วงไม่มีหลักยืน แต่ฝ้ายก็ใช้หอกของตนปัดป้องออกไปได้อย่างใจเย็นขณะที่เหยียบพื้นไต่ระดับลงไปด้วย
แต่แล้วแววตาของมันก็หันไปยังทัตที่ยืนบนอากาศเหนือมัน และทำท่าจะเขวี้ยงหอก
“ไม่ยอมหรอกค่ะ!”
ฝ้ายสังเกตเห็นทัน เข้าไปตวัดคมหอกใส่มือของมันจนเสียจังหวะร่วงลงไปต่อ
ประมาทไม่ได้เลย
ฝ้ายเริ่มเหงื่อตกกังวล ไม่สามารถปล่อยมันตกลงไปเฉย ๆ โดยไม่คอยเฝ้าดูได้
เซนลอยตามลงมาเห็นแล้วว่าฝ้ายรับมือไหว …แต่ก็แค่ตอนนี้
ตอนนี้คุณฝ้ายกำลังได้เปรียบเพราะมันไม่มีหลักยืนให้ทรงตัว
แต่ถ้ามันถึงพื้น การเคลื่อนไหวมันจะเฉียบคมขึ้นแน่ เรากับคุณฝ้ายสองคนเอาไม่อยู่หรอก
ถ้าอย่างนั้น!!!
เซนพยายามอ่านเกมล่วงหน้า รีบลงไปถึงพื้นเพื่อตั้งหลักรอ
ยัง… ยังไม่ใช่ตอนนี้
แววตาเขาจดจ้อง มองตามร่างของอัศวินดำที่ร่วงลงมาพร้อมกับฝ้าย
กระทั่งเหลืออีก 10 เมตรจะถึงพื้น
ตอนนี้แหละ!!!
เซนกะจังหวะในเสี้ยววินาที กระโดดขึ้นท้องฟ้าสวนกับที่ฝ้ายถีบพื้นอากาศหลบออกไป
เขาพุ่งขึ้นไปแล้วพลิกตัวเหยียบพื้นราวกับตีลังกาเหยียบเพดาน แถมยังใช้ผ้าเหล็กมาคลุมเท้าขวาไว้อีกด้วย
พอดีกับที่ร่างของอัศวินดำตกกระแทกพื้นจนหลังแอ่น เซนก็พุ่งลงใส่มันอย่างไม่รอรีราวกับดาวตก
“นอนนิ่ง ๆ ไปซะเถอะครับ!!!!”
ตู้ม!!!!
เซนถีบลงไปที่กลางร่างของอัศวินดำ แรงกระแทกมหาศาลเกิดเป็นหลุมที่จุดตกถึงสองชั้น
เขารีบกระโดดหลบออกไปเพราะกลัวจะโดนโจมตีสวน แต่มันกลับตัวชักกระตุกอยู่ ดูท่าความเสียหายจะมากกว่าที่คาด
พื้นอากาศถูกสร้างขึ้นรอบหลุมจุดตกในจังหวะนั้น
“น้องฝ้าย! คุณหัวหน้า! ขึ้นมาเร็ว!!!”
พิมตะโกนให้ทั้งสองคนรีบขึ้นมาตามพื้นที่เธอสร้าง ทั้งสองคนก็รีบกลับไปอยู่บนท้องฟ้า
แม้จะยังเหงื่อท่วมแต่ก็ยังพักไม่ได้ เพราะนี่คือโอกาสพลิกสถานการณ์ให้กลับมาได้เปรียบอีกครั้งและทุกคนรู้ดี
แต่ว่า… เจ้าอัศวินดำดันถึงพื้นซะแล้ว เวรเอ้ย!
ทัตกัดฟันกรอด สลับไปมองฝั่งของกลุ่มที่กำลังสู้กับมังกร ขับเคี้ยวกันกลางเวหาหมุนคว้างเป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะ
“เอามันลงพื้นไม่ได้รึไง!”
“แล้วใครมันขี่มังกรเป็นล่ะหา!!?”
มาร์คตะโกนสวนใส่ทอง เขาพยายามดึงเชือกสุดแรงแล้ว แต่เจ้ามังกรที่สูญเสียตาไปไม่ได้สนใจเลย มันบินหมุนไปเรื่อยอย่างเสียสติและโกรธา
น้ำหวานเองก็ใช้ลวดมัดคอและเกาะเกล็ดมันไว้สุดชีวิต แต่กรงเล็บของมันก็พุ่งเข้ามาหาเธอ
“แย่แล้ว!” น้ำหวานรีบปล่อยมือจากเกล็ดจนตกจากคอมังกร แต่เพราะจับลวดที่มัดคอมันไว้อยู่เลยไม่ได้ตกลงไป
“อึก! ใครก็ได้ทำอะไรสักอย่างสิยะ!!!”
กระแสลมกรรโชกใส่น้ำหวานอย่างหนัก รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในเครื่องปั่นยังไงอย่างงั้น
ทองกับควินน์รีบต้านลมหันกลับไปด้านหลังพร้อมกัน หันอาวุธไปทางปีกของเจ้ามังกรคนละข้าง
“ด้วนไปซ้า!”
“หยุดได้แล้วไอ้เวรนี่!”
ปัง! ปัง! ปัง!
ทองรัวลั่นกระสุนลูกปรายใส่ปีกขวาจนเป็นรู
“ขาดเลย ขาดเลย!!!”
ส่วนควินน์ก็ฟาดเลื่อยยนตร์เข้าใส่โคนปีกซ้าย เธอออกแรงกดและเลื่อยเฉือนเนื้อจนปีกมันขาดสะบั้น
ก๊าซซซซซซซซซซซซซซ
มังกรเพลิงคำรามลั่นอย่างเกรี้ยวโกรธ ร่วงลงพสุธาเช่นเดียวกับเจ้านายของมัน
แต่ไม่ใช่แค่นั้น… ร่างของมันมีไอน้ำระเหยออกมาจากเกล็ด มือของเหล่าหัวหน้าหน่วยที่เกาะอยู่ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนจนเผาผิว ดูท่าไม่ดีเอาซะเลย
“เวรแล้ว! สละเรือ!!!”
มาร์คตะโกนบอกก่อนรีบกระโดดลงจากหลังมังกร ตามด้วยทั้งควินน์ ทองและน้ำหวาน
ทัตเห็นทั้งสี่คนกระโดดจากมังกรก็รีบสร้างพื้นขึ้นเป็นจำนวนมาก เหล่าหัวหน้าหน่วยลงเหยียบพื้นอันแล้วอันเล่าเพื่อใช้ทรงตัวจากแรงเหวี่ยง
ร่างของเจ้ามังกรถูกจุดเปลวเพลิงคลุมร่างอย่างฉิวเฉียด แปรเปลี่ยนเป็นอุกกาบาตเพลิงร่วงลงสู่ผืนดิน
ตู้ม!!!!
เจ้าราชันย์มังกรไร้ปีกตกลงกระแทกพื้น ทำเอาทะเลเพลิงที่มันสร้างถูกพัดปลิวหาย เหลือเพียงฝุ่นคละคลุ้งทั่วบริเวณนั้น
เมื่อกี้… กะจะระเบิดพวกที่เกาะอยู่ไปด้วยสินะ
ทัตพยายามตามสถานการณ์จากข้างบน ได้แต่หวังว่าท่าเมื่อกี้จะทำให้มันตายไปเองด้วย
ทว่า… อสรพิษนั้นไม่แพ้ภัยตัวเอง
ก๊าซซซซซซซซซซซซซ
เสียงคำรามของเจ้ามังกรเพลิงปัดเป่าฝุ่นจนปลิวหายไป เผยให้เห็นปีกสภาพเละทั้งสอง ดวงตาขวาถูกทำลาย และทั่วทั้งร่างนั้นไม่มีบาดแผลอื่นใดเลย
แต่มีคนที่ไม่ปล่อยให้จบแค่นี้…
“ ‘เสริมพลังกาย’ คูณสอง!!!” มาร์คใช้แรงโน้มถ่วงทิ้งตัวลงมาพร้อมกับออร่าสีทองถึงสองชั้นคลุมร่าง
ร่นระยะลงมาราวกับจรวดโหม่งโลก ใช้หมัดสวมสนับมือหนามอัดกระแทกกลางหลังของมังกรประหนึ่งมิสไซล์
อานบนหลังมันพังแหลกละเอียด พลังทำลายทะลวงเกล็ดไปถึงเนื้อจนเลือดสีเดียวกับเพลิงกระจายออกมา เจ้ามังกรถึงกับสะบัดหัวและหางไปทั่วอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
“ ‘เสริมคริติคอล’ !!!!”
“ ‘เสริมคริติคอล’ !!!!”
ไม่ใช่แค่นั้น… น้ำหวานและทองใช้สกิลเพิ่มความเสียหายพิเศษของอาชีพตน ทำให้สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นสองเท่า และพุ่งเข้าไปที่หัวของมังกรคนละฝั่ง
น้ำหวานใช้มีดเข้าไปแทงตาอีกข้างของมันอย่างเลือดเย็น
ส่วนทองกระโดดลงมาเหยียบพื้น ฝืนยัดปากกระบอกปืนเข้าไปในดวงตาข้างที่ถูกทำลาย แล้วซัดกระสุนเข้าไปเต็มเหนี่ยวจนมันร้องไม่หยุด
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด…
“คนสวยลาสจ้า!!!!”
ควินน์ลงมาเป็นคนสุดท้าย เสียงตะโกนแผดลงมาพร้อมกับเสียงเลื่อยยนตร์ปั่นเต็มกำลัง
ดาวตกดวงสุดท้ายทิ่มลงที่กลางกบาลของเจ้ามังกรจนมันอ้าปาก เสียงร้องอันแห้งเหือดถูกกลบด้วยเสียงใบเลื่อยเสียดสีกับผิวหนังทะลุลงถึงแก่นกะโหลก
หัวที่ฝืนชูขึ้นครั้งสุดท้ายสิ้นแรงไปพร้อมลม ร่างของมังกรที่ยืนตระหง่านถูกทิ้งลงพื้นสิ้นสภาพ
และความตายของมัน… ก็ถูกยืนยันด้วยคำแจ้งเตือนอัพเลเวลในหัวของทัต
สำเร็จ! ปิดงานไวมาก สมแล้วที่เป็นหัวหน้าหน่วย
ที่เหลือก็!!!!
ทัต ไม่สิ… ทุกคนรีบหันไปมองเจ้าอัศวินดำที่อยู่ห่างออกไปบนผืนดิน ไม่มีแม้แต่เวลาดีใจเพราะศึกยังไม่จบ
แต่… ภาพที่เห็นคือเจ้าอัศวินเกราะทมิฬกลับยืนนิ่งตัวตรง ปลายหอกมันก็ทิ่มลงพื้นแม้เบื้องหน้าของมันจะมีเซนกับฝ้ายรอตั้งรับอยู่
นิ่งไปเลยแฮะ… หรือว่ามันจะกลัว?
…ไม่อยู่แล้ว …มันต้องรอจังหวะอยู่แน่นอน
“พิม… เราเองก็รีบลงไปเถอะ”
“อื้ม”
ทัตชวนพิมลงไปรวมกลุ่มกับพวกมาร์ค ไม่มีความจำเป็นต้องสู้บนท้องฟ้าอีกแล้ว แถมเจ้าอัศวินดำก็อาจจะขว้างหอกมาอีกก็ได้ การเผชิญหน้ากับมันบนพื้นจึงง่ายต่อการหลบมากกว่า
แต่ในพริบตาที่เท้าของทัตกับพิมเพิ่งถึงพื้น…
ซู่มมมมมมมมมมมม
“ “ “ “ “!!!!?” ” ” ” ”
ออร่าสีดำทมิฬพวยพุ่งออกมาจากทั่วทุกอณูของเจ้าอัศวินดำ บรรยากาศหนาวเย็นแผ่กลบความร้อนจากทะเลเพลิงจนทุกคนขนหัวลุก มือที่จับอาวุธก็ถึงกับสั่นจนเผลอคลายไปชั่วขณะ
บรรยากาศแบบนี้… สกิล ‘จิตล่าสังหาร’ !!?
ทัตรีบตั้งสติอยู่ข้าง ๆ พิม ทวนกับตัวเองในใจว่าความกลัวนี้เป็นแค่ผลของสกิลอีกฝ่าย
แต่เจ้าอัศวินดำไม่รอช้า มันง้างหอกไปข้างหลังเตรียมฟาดในแนวนอน วิ่งสไลด์เข้าไปหาเซนกับฝ้ายที่อยู่ใกล้ที่สุดหวังกวาดทั้งคู่ในคราเดียว
“อย่าหวังเลยโว้ย!”
ทัตรีบถีบพื้นเข้าไปหาฝ้ายอัตโนมัติ ไม่คิดจะให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกแล้ว
“หา!?”
ทว่า… เจ้าอัศวินดำมันกลับสไลด์ผ่ากลางเซนกับฝ้าย
หอกที่ฟาดพร้อมกับความเร็วที่พุ่งเข้าไปกลับไม่ได้เล็งที่ทั้งสองคน …แต่เป็นทัตที่พุ่งเข้ามาหามันนี่เอง
ความปวดร้าวในอกตกไปอยู่ที่พิมและฝ้าย พวกเธอถีบพื้นยื่นมือพยายามจะเข้ามาช่วยแต่ช่างห่างไกลเหลือเกิน
ในขณะที่ทัตได้แต่เบิกตาสะท้อนอัศวินร่างมหึมาบดบังทุกสิ่ง เห็นแต่เพียงคมหอกที่กำลังฟาดเข้ามาอย่างไร้ทางเลี่ยง
แย่แล้ว… หลบไม่ทันแน่!
❖❖❖❖❖
MANGA DISCUSSION