เอ่อ...ขอโทษนะ แต่แกจะขโมยสกิลแบบนี้ไม่ได้นะ - ตอนที่ 256.2 : เติบโตขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็นะ...เติบโตแบบนั้นแหล่ะ (ตอนปลาย)
- Home
- เอ่อ...ขอโทษนะ แต่แกจะขโมยสกิลแบบนี้ไม่ได้นะ
- ตอนที่ 256.2 : เติบโตขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็นะ...เติบโตแบบนั้นแหล่ะ (ตอนปลาย)
……
…
“ ดูท่าแทนที่จะง่ายกลายเป็นยากเฉยเลยนะทิเรีย ”
“ ก็ไม่มีใครคาดการณ์ว่าอีกฝ่ายจะฮึดสู้ขึ้นมาแบบนี้นี่เจ้าคะท่านพี่หญิง ”
เวลาผ่านไปนานเกือบเดือน การบุกก็เกือบจะถึงยังแหล่งกบดานสุดท้ายของกองทัพจอมมาร ซึ่งด้วยความที่เป็นแหล่งสุดท้ายของกองทัพจอมมารประกอบกับแผนการณ์การบุกที่กดดันและล้อมศัตรูจากรอบด้านของเอเนอาสงครามควรจะจบตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ว่าการที่กดดันพวกมันแบบนี้ก็ทำให้พวกนั้นไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากพยายามต่อต้านอย่างสุดความสามารถกับทุกวิธีที่มีเพราะถ้าเสียที่นี้ไปแล้ว กลุ่มผู้ตามหาก็จะไม่มีทางได้มีโอกาสเข้ามายึดทวีปที่อุดมสมบูรณ์ได้อีก
“ แต่ว่าพอมาอยู่บนที่ที่มีแต่น้ำนานเป็นเดือนแบบนี้ก็แอบสงสัยนะว่าทำไมพี่ดีย์โอะแกถึงชอบนักน่ะ ว่างเปล่าแถมกลางคืนตอนมีพายุก็น่าปวดหัวด้วย ”
“ ก็ท่านพี่ดีย์โอะเป็นเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในน้ำเป็นหลักนี่เจ้าคะท่านพี่ จะให้ไม่ชอบน้ำมันก็จะแปลกๆเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่างที่ที่เราเห็นก็เป็นบนน้ำไม่ใช่ใต้น้ำเจ้าค่ะ ใต้น้ำสหรับท่านพี่ดีย์โอะเห็นว่าเป็นที่ที่สวยมากๆเลยนะเจ้าคะ ”
“ งั้นเหรอ? แต่ถ้าพวกเราดำลงไปก็มีแต่ความมืดนิ? ”
ในขณะเดียวกันที่กลางทะเลห่างจากตอนเหนือของยูโทเปียไป 250 กิโลเมตรหรือก็คือห่างจากเมืองไปเกือบ 1500 กิโลเมตร การก่อสร้างของศูนย์ผ่าตัดนั้นก็ยังไม่เสร็จจากการที่มีความซับซ้อนหลายอย่าง ไม่ว่าจะการเดินท่อส่งมานา แหล่งเก็บมานาขนาดใหญ่ที่ต้องสามารถจำลองมานาของมาร์ได้และยังต้องเคลื่อนย้ายออกหรือขนย้ายออกไปได้
ปิ๊บๆ ปิ๊บๆ
[ ติดต่อมานอกเวลารายงานแบบนี้คงมีเรื่องอะไรสินะเจ้าคะ ]
ทว่าระหว่างที่ยูเรย์ กับทิเรียกำลังนั่งดื่มชารอการก่อสร้างในห้องประชุมบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ก็มีการแจ้งเตือนเข้ามาจากยูโทเปีย การแจ้งเตือนที่ไม่ใช่การรายงานประจำวัน ทิเรียเลยกดปุ่มรับสายและภาพกับเสียงก็ถูกฉายขึ้นที่กลางห้องเหนือโต๊ะประชุม
“ ขออนุญาตรายงานด่วนเจ้าค่ะ!! ”
“ อึก… เริ่มได้เลยเจ้าค่ะ…จุส ”
ภาพของคนที่คุ้นเคยดีหรือเปล่า ภาพของตัวเองในเครื่องแบบที่ไม่เหมือนเดิมชุดเมดแบบกระโปรงได้กลายมาเป็นกางเกง และนั้นก็ไม่ใช่เธอแต่เป็นหญิงสาวที่เปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลาเธอคือจุส มันเลยให้ทิเรียมีความรู้สึกแปลกๆที่ต้องมามองดูตัวเองรายงานตนเองแบบนี้ อย่างไรก็ตามสีหน้าของทิเรียในภาพฉายนั้นดูจะเหงื่อตกต่างจากที่ตัวจริงไม่เคยจะมีเหงื่อไหลออกมาเลย
“ เจ้าค่ะท่านทิเรีย! ตอนนี้บุคคลเฝ้าระวังระดับ 5 เฝ้าระวังเป็นพิเศษ อย่าง เอเลนอร์ 1 ในจอมเวทย์แห่งโอดุนยา เธอได้เดินทางมาที่ยูโทเปียแล้วเจ้าค่ะ โดยมีเอกสารถูกต้องครบถ้วนทุกอย่างทั้งให้เหตุผลว่ามาเพื่อศึกษาวัฒนธรรม ทว่าตามเอกสารที่ยูโทเปียมีนั้นเธอมีความรู้สึกกับนายท่าน ร่างโนวัล อินวิว และคงมาเพื่อตามหาเขาแน่ๆ แต่นั้นก็เป็นแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้นเจ้าค่ะ ”
“ มาไวกว่าที่คาดไว้นะเจ้าคะ ทั้งยังมาตอนนายท่านกับพวกเราอยู่ในสภาพเช่นนี้อีก ”
ทิเรียพอได้ฟังรายงานก็เป็นกังวลทันที เพราะเธอนั้นมั่นใจเป็นอย่างมากว่าคนที่จะรับมือจอมเวทย์ที่มีมานาระดับนั้นได้ก็มีเพียงแค่นายท่านกับฝ่ายทหารของยูโทเปียเท่านั้น แต่ว่านายท่านก็อยู่ในสภาพหลับไหลและฝ่ายทหารเองก็ยังวุ่นอยู่กับสงครามที่ดินแดนจอมมารอีก เกิดอะไรขึ้นมาคงจะแย่แน่ๆ
“ แล้วจุสได้เลือกวิธีตอบโต้อะไรไปเจ้าคะ? ”
“ ดิชั้นได้ตกลงเลือกที่จะให้ทหารของพวกเราที่คอยลาดตระเวนตามเมืองต่างๆคอยจับตาการเคลื่อนไหวของเป้าหมายเจ้าค่ะ โดยจะตั้งรายงานทุกๆ 30 นาที ซึ่งตอนนี้เป้าหมายก็ยังอยู่ที่เมืองคนนอกอยู่เจ้าค่ะ ”
จุสได้เลือกวิธีที่อยู่ในคู่มือการตอบโต้ที่ทิเรียให้ไว้ มันเป็นสิ่งที่ควรทำแล้วนั้นก็ทำให้ทิเรียพอใจกับการแสดงเป็นเธอของจุสมากๆ แต่ว่าการพอใจนั้นก็อยู่ได้ไม่นานสักเท่าไหร่เพราะเป้าหมายสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างอิสระภายใต้กฎของยูโทเปียโดยที่เธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าจับตามองเท่านั้น เว้นแต่เป้าหมายจะมีเจตนาแอบแฝงเป็นภัยต่อยูโทเปียเช่นนั้นเธอก็จะกล้าสั่งคำสั่งพิเศษลงไปเพื่อกำจัดเป้าหมายได้ ทว่า…อีกคนที่นั่งฟังอยู่กลับมีอะไรมากกว่านั้น
“ จุส นี้เป็นคำสั่ง…ไปคอยจับตาดูตามเดิมไปก่อนและพยายามให้คนเข้าไปป้อนข้อมูลเล่นๆว่า มีข่าวเรื่องอดีตอาจารย์มหาลัยเวทย์มนต์คนนึงโดนการลอบโจมตีบางอย่างเข้าไปเลยโคม่าต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลสนาม อ๋อ…แล้วก็หลังจากนั้นสักวันสองวัน ก็กรอกไปว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกไม่หวังดีจากทวีปที่ยังไม่ถูกพบ กรอกไปเรื่อยๆพร้อมกับรายงานผลทุกวันให้ชั้นด้วยล่ะ เอ้า ไปได้แล้ว! ”
“ รับทราบแล้วเจ้าค่ะ จะดำเนินการเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ! ”
ยูเรย์ได้ให้คำสั่งที่ไม่มีใครคิดและมันก็เป็นคำสั่งที่ดูประหลาดเกินกว่าปกติที่ยูเรย์มักจะให้ อย่างไรก็ตามเมื่อได้คำสั่งแล้วจุสก็ขอตัวเพื่อดำเนินการต่อทันที ทว่าตอนที่ตัดสายไปทิเรียก็หันมามองยูเรย์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยแม้ใบหน้าจะนิ่งเฉยก็ตาม
“ ทำไมถึงได้สั่งให้กรอกข้อมูลแบบนั้นเข้าไปล่ะเจ้าคะ? หรือว่าท่านพี่หญิงจะต้องการดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอย่างงั้นเหรอเจ้าคะ?!? ”
“ … ”
ซึ่งยูเรย์ก็ยิ้มก่อนจะหยิบเอาชาขึ้นมาจิบอย่างช้าๆ แล้ววางมันลงโดยที่ไม่ได้พูดอะไรหรือแสดงสีหน้าใดๆเลย ทำเอาทิเรียได้แต่ยืนสับสนอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ความสับสนที่ไม่อาจเข้าใจในตัวของพี่สาวผู้นี้ได้
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
“ ได้เวลาไปทำงานแล้วนะทิเรีย ”
“ เจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นดิชั้นขอตัวก่อนนะเจ้าคะท่านพี่หญิง ”
ก่อนจะมีเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น เสียงที่ว่ามันเตือนให้เธอกลับไปคุมงานต่อ ยูเรย์ก็ได้ทักขึ้นมาก่อนที่ทิเรียจะได้พูดเสียอีก นั้นทำให้ทิเรียก้มหัวทำความเคารพพี่สาวของเธอและหันหลังเดินออกไปจากห้องประชุมนี้
“ เหลือแค่เราแล้วสินะ ”
ตึก ตึก ตึก กริ๊ก ฟุบ…
และเมื่อยูเรย์อยู่ตัวคนเดียวแล้วเธอก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปยังกระจกของห้องประชุม แล้วก็กดปุ่มปิดการกั้นภายนอกลงทำให้กำแพงฝั่งริมเรือค่อยๆโปร่งแสงและทำให้มองเห็นด้านนอกได้ ภาพของฐานลอยน้ำขนาดใหญ่คล้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันที่กำลังถูกก่อสร้างโดยเรือและเฮลิคอปเตอร์มากมาย เธอเงยหน้าขึ้นก่อนจะหลับตาลงแล้วพูดออกมาอย่างช้าๆด้วยเสียงที่เย็นชา
“ เป่าหูให้แค้นแล้วก็ไปเปิดทางให้ก่อน หึ.. โชคดียัยนั้นก็คงฆ่าตัวปัญหาที่มาทำร้ายพี่เราได้ แต่ถ้าไม่ล่ะ? อ่าา …ก็แค่ถูกฆ่าตายซะเองละมั้ง แต่จริงๆยัยจอมเวทย์นั้นตายๆไปน่าจะดีกว่า เราเองจะได้ไม่มีคู่แข่งที่เป็นคนนอกอีกเพราะแค่พี่น้องก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว แต่หวังว่าจะไม่ต้องวุ่นวายเหมือนกับตอนที่เอนนาไปจัดการยัยประธานซัคคิวบัสนั้นนะ ”
……