ตอนที่ 134
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
แมงมุมเข้าไปที่ป่า มุดไปอย่างไร้เสียงและอย่างมีทักษะผ่านต้นไม้ จากนั้นหยุดอย่างช้าๆ
ผมลงจากแมงมุมกับริกกะ และเราเดินโดยไม่ลังเล
ผมไม่รู้รายละเอียดของที่นัดพบ แต่มันไม่สำคัญ เพราะทั้งหมด ด้วยตาของผม ป่าที่เต็มไปด้วยอุปสรรค์เหมือนที่ราบที่ว่างเปล่า
「ซูซูฮาระ……」
ทามะมูชิ ที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ สังเกตการเข้าหาของผมทำเสียงพุ่งไม้ ตามทามะมูชิมา นานะฟูชิก็ปรากฏตัวด้วย
แต่ก่อนหน้าที่ผมจะลงจากแมงมุม ผมเห็นพวกเธอสองคนแล้ว
「งั้นนั่นก็บาเรีย」
ผมพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ผมหยุดอยู่หน้าทามะมูชิ มองตรงไปข้างหน้า
ผม “เห็น” กำแพงใสตรงหน้าผม เหมือนกำแพงกระจก
「ซูซูฮาระ นายสามารถที่จะ ‘เห็น’ บาเรียเหรอ?」
ทามะมูชิถามด้วยหน้าที่ตกใจ
「เธอมองไม่เห็นมันเหรอ?」
「มัน ชั้นไม่เห็น ชั้นแค่รู้สึกมันอย่างไรก็ไม่รู้」
ทามะมูชิส่ายหัวในการตอบกับคำถามของผม
ใช่ มัน “ล่องหน” กับทามะมูชิเหรอ?
「ชั้นได้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งบาเรีย ดังนั้น ชั้นสามารถที่จะสังเกตมัน แต่ปรกติแล้ว ชั้นจะต้องก้าวเข้าไปในบาเรียเพื่อที่จะสังเกตมันได้ มันพิเศษมากที่ซูซูฮาระ “มอง” เห็นบาเรียเองได้」
ขณะที่ผมฟังเรื่องราวของทามะมูชิระหว่างที่มองตรงไปข้างหน้า ผมมองดูนานะฟูชิ
「มันเป็นปัญหาสำหรับชั้น ถ้ามันไม่ใช่มาสเตอร์ ชั้นจะไม่แม้แต่สังเกตุบาเรีย」
ขณะที่ผมมองเธอ ทามะมูชิยักไหล่และส่งเสียง
งั้นนานะฟูชิทำไม่ได้แม้แต่สังเกตมัน?
มันไม่ใช่ว่าความสามารถที่จะสังเกตของนานะฟูชิต่ำ แต่มันคือความสามารถที่ทามะมูชิสังเกตุมันนั้นยอดเยี่ยม
――ซูซูฮาระ-ซัง…….
เสียงของมารินะ ที่ก้องในหัวผม ฟังดูกังวล
มารินะ เธอสามารถที่จะ “เห็น” มันเหรอ?
――ใช่
เมื่อผมถามมารินะ เธอตอบด้วยเสียงที่กังวล
มารินะมองภาพที่ผมเห็นด้วยตาของผม
ภาพที่มีอีกกำแพงไกลจากกำแพงใส
「น่าจะมีมากกว่าหนึ่งบาเรีย」
「อะไร?」
ทามะมูชิส่งเสียงของเธอ
「นายหมายความว่ายังไง」
ทามะมูชิถาม คิ้วขมวด
「ตาของชั้นเห็นบาเรียเป็นกำแพงใส แต่เลยนั่นไปชั้นเห็นกำแพงที่คล้ายกัน」
「บาเรียสองชั้น?」
「ไม่」
「เอ๋?」
เมื่อปฏิเสธคำพึมพำของทามะมูชิ มันทำให้เธอเอียงหัวของเธอ
ผมจะตั้งสมาธิที่แนวหน้าและตั้งสมาธิกับสติของผม
ระยะมีผลของความสามารถผมเป็นวงกลมที่สมบูรณ์ โดยมีรัศมีประมาณ 15 เมตร โดยการตั้วสมาธิสติ ผมทำให้บริเวณที่ไม่จำเป็นหดและยืดระยะมีผลของจุดหนึ่งได้
ระยะเต็มที่ประมาณ 30 เมตร
「ชั้นรู้มัน…..」
เมื่อผมยืดระยะมีผมของความสามารถของผมไปตรงข้างหน้า ผมเจอ “กำแพงใส” อีกสองชั้น
「ไม่ได้มีสองบาเรีย แต่สี่บาเรีย นั่นไกลที่สุดที่ชั้นเห็นได้จากที่นี่ มันน่าจะมีมากกว่านั้น」
เมื่อทามะมูชิได้ยินคำพูดของผม เธอตกตะลึง จากนั้นซีด
「บาเรียสี่ชั้น? และนายบอกว่ามันอาจจะมีมากขึ้น?」
ทามะมูชิ โมโหอย่างแน่นอน สั่นเล็กน้อย
「สำหรับส่วนใหญ่ บาเรียที่ชั้นสามารถที่จะรับรู้นั้นถูกสร้างด้วยเทคนิคที่ล้ำหน้าอย่างดี เมื่อคิดว่ามันมี บาเรียสี่ชั้น และถ้าพวกมันทั้งหมดคล้ายกัน มันไม่ใช่บางอย่างที่สร้างได้เมื่อวานหรือวันนี้ มันจะใช้อย่างน้อยหนึ่งเดือน ขึ้นอยู่กับความสามารถ และจำนวนคน」
เดือนหนึ่ง นั่นหมายถึง――
「นั่นหมายถึงแผนนี้ได้ดำเนินการมาซักพักแล้ว」
「นั่นถูกต้อง」
ทามะมูชิที่ซีดพยักหน้ากับคำถามของผม
「เธอคิดว่าบาเรียทั้งหมดเหมือนกันมั้ย? ยกตัวอย่างเช่น จำนวนของบาเรียที่ตั้งขึ้นเพื่อแทรกแซงกับความสามารถสื่อสารและทำให้มันมีผลมากกว่าเดิม」
「ชั้นพูดไม่ได้ว่าพวกเค้าไม่ทำ แต่มันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างสูง บางทีพวกเค้าเอาบาเรียขึ้นเพื่อเหตุผลอื่น」
มันหมายถึงพวกเขาได้ตั้งการต้านหลายๆแบบเพื่อที่จะลดความสามารถของศัตรูมากที่สุดเท่าทีทำได้
มันค่อนข้างเป็นสาถานะการณ์ที่แย่
「ชั้นพูดมันไม่ได้อย่างมั่นใจจนกว่าชั้นจะเข้าไปข้างใน แต่มีสิ่งนึงที่ชั้นพูดได้อย่างมั่นใจ」
「มันคืออะไร?」
「มีหลายบาเรีย หนึ่งในมันน่าจะเพื่อปกป้องบาเรีย」
ได้ยินคำพูดของทามะมูชิ ผมช่วยไม่ได้นอกจากจะปล่อยการถอนหายใจ
บาเรียเพื่อปกป้องบาเรีย พูดอีกอย่าง….
「บาเรียที่เลี่ยงการทำลายของบาเรีย?」
「อุมุ」
ทามะมูชิพยักหน้ากับคำถามของผม
「บาเรียสองชั้นปรกติแล้วใช้ด้วยเหตุผลนั้น นายตั้งบาเรียที่ที่สอดคล้องกับที่จะใช้ จากนั้นตั้งบาเรียที่ปกป้องอันนั้น มันค่อนข้างซับซ้อน แต่มันไม่ใช่บาเรียที่เสริมความแข็งแกร่งให้อีกบาเรีย แต่เพื่อป้องกันบาเรียอีกอัน ในหลายกรณี บาเรียเหล่านี้ทรงพลังมาก เพราะมันเน้นไปที่จุดเดียวคือการปกป้องของมัน」
「มันเป็นไปได้ที่จะทำลายมันมั้ย?」
「มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายมันทางกายภาพ แต่ถ้าชั้นเห็นจุดเริ่มต้นสำหรับโครงสร้าง ชั้นทำลายมันได้ แต่……」
「เธอจะไม่บอกชั้นในภาษาไทยธรรมดาว่าอะไรจะทำลายถ้าชั้นเจอมัน ใช่มั้ย?」
「……อุมุ」
เมื่อทามะมูชิได้ยินคำพูดของผม เธอพยักหน้าอย่างขอโทษขอโพย
โดยไม่ต้องพูด นี่เป็นเรื่องใหญ่
อลิส สายลับขององค์กรปกป้อง เป็นคนที่มีความสามารถ ที่ต้องการการระวังมากขนาดนี้?
ไม่ บางทีทามะมูชิก็ถูกโดนจ้องมองด้วย
ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะให้ทามะมูชิและอลิสสู้กันเอง และเมื่อเวลาถูกต้อง พวกเขาจะนำกองกำลังออกมา แต่พวกเขาจะต้องระวัง
ผมพูดอะไรไม่ได้จนกว่าผมจะเข้าไปข้างใน แต่ผมสงสัยว่าไกลแค่ไหนที่พวกเขาอยากจะปิดความสามารถของเรา
――ทำไมเราไม่ยกเลิกการดำเนินการล่ะ?
เสียงของมารินะก้องอยู่ในหัวของผม
――ถ้าเราทำลายบาเรียไม่ได้ เราจะไม่สามารถใช้ความสามารถของชั้นหรือยูกะเพื่อสนับสนุนนายในกรณีฉุกเฉิน
นั่นใช่แล้ว ตราบใดที่บาเรียมีตัวตน “เด็นชิน” ของมารินะใช้ไม่ได้ ถ้าเธอใช้เด็นชินไม่ได้ งั้นเธอก็ใช้มนตร์ของยูกะล้างสมองไม่ได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ถ้าผมถอยที่จุดนี้ ทามะมูชิจะถูกไล่ตาม
มันคงจะเป็นการยากที่จะสกัดกั้นคนไล่ตาม โดยไม่รู้ถึงแผนของศัตรู
ถ้าเราจะต่อต้านพวกเขา ผมอยากได้ข้อมูลมากเท่าที่ทำได้ครั้งนี้
「มันเร็วเกินไปที่จะพูดยกเลิกมัน」
นานะฟูชิ ที่เงียบจนถึงตอนนี้ ขึ้นเสียงของเธอ
「ไม่ว่าพวกเค้าจะมีบาเรียแบบไหน มีบางเผ่าพันธุ์ ที่ทำให้มันหมดความสามารถได้」
จากนั้นนานะฟูชิหันหลายตาของเธอ
「มันเรียบง่าย เผ่ากายภาพที่บริสุทธิ์ นั่นคือกึ่งสัตว์」
นานะฟูชิ ที่จ้องริกกะและพูด มองดูผมและยิ้ม
「มีบาเรียที่ปกป้องความสามารถกายภาพ แต่ถ้าพวกเค้าใช้มัน ความสามารถทางกายภาพของทุกคนที่เข้าไปในบาเรียจะถูกลด นั่นทำไมชั้นไม่คิดว่าจะมีบาเรียแบบนั้น ชั้นแค่เดา แต่ชั้นคิดว่าศัตรูมีแผนจะนำกึ่งสัตว์มา」
ได้ยินคำพูดของนานะฟูชิ ผมช่วยไม่ได้นอกจากจะยิ้ม
ผมเข้าใจ ผมเข้าใจจุดหมาย
มันเป็นไปได้ว่าเหตุผลที่ทำไมพวกเขาตั้งบาเรียมากมาย เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ของความสามารถกายภาพ ของกึ่งสัตว์ระหว่างที่ป้องกันความสามารถภายนอก?
「เราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดด้วย แต่เราช่วยเธอไม่ได้ ถ้าเราไม่มีแมลงเลย ถ้ามาสเตอร์เข้าไปในบาเรีย และปล่อยแมลงของเธอไม่ได้ เราจะไร้ความสามารถ」
นานะฟูชิยักไหล่ของเธอ
ไม่ ไม่ ไม่ มันพอแล้วที่รู้ว่าริกกะน่าจะสามารถปล่อยพลังของเธอได้โดยไม่มีปัญหา แม้ว่าจะข้างในบาเรีย
แต่นั่นทำมัน อย่างที่วางแผนไว้ตั้งแต่แรก ผมต้องการให้ริกกะรอข้างนอกบาเรีย
ศัตรูมีแผนจะนำกึ่งสัตว์มา ศัตรูจะระวังกึ่งสัตว์มากกว่าอะไรทั้งสิ้น
――ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะส่งคนช่วยไปที่นั่นเดี๋ยวนี้
เสียงของมารินะก้องอยู่ในสมองของผม เธอหมายความว่าอย่างไร “ผู้ช่วย”? เธอพยายามจะส่งคาซะฮานะมาที่นี่หรือ?
นั่นไม่ดีเลย ถ้าเราส่งคาซะฮานะมาที่นี่ พวกเธอจะอยู่ในอันตราย
――แต่…
ได้โปรดรอจนกว่านาทีสุดท้ายที่จะส่งคาซะฮานะมาที่นี่ ถ้าพวกเธอถูกโจมตีระหว่างที่คาซะฮานะไม่อยู่ หน่วยจะพังทลาย
ฟังนะ มารินะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอต้องเอาชีวิตตัวเองขึ้นก่อน
ไม่ว่าสถานาการณ์จะเป็นอย่างไร ตราบใดที่เธอ ผู้บัญชาการ มีชีวิตอยู่ หน่วยจะฟื้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
เธอเป็นกุญแจ อย่าได้ลืมสิ่งนั้นไป
――……แต่นายปฏิบัติกับชีวิตตัวนายเองเหมือน “สิ่งของ”
มารินะบ่นเกี่ยวกับมัน ถ้าเธอบ่น มันหมายถึงเธอเชื่อ
โอเค ถ้าอย่างนั้น มารินะ ได้โปรดอธิบายแผนกับทุกคนที่อยู่ที่นี่
ไม่กี่นาทีผ่านไป และมารินะอธิบายโดย “เด็นชิน” จบ
ที่ผมคิดไม่ถึงคือริกกะ ที่ผมคิดว่าจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะไม่ตามผม เชื่อคำแนะนำของมารินะโดยไม่ลังเล
ผมเดาว่าเธอช่วยไม่ได้นอกจากเชื่อคำอธิบาย ว่าศัตรูน่าจะเป็นกึ่งสัตว์
「มาสเตอร์……」
ยืนตรงหน้าผมและมองดูผมด้วยตาสีแดงริกกะคุกเข่าหนึ่งข้าง
「เมื่อมาสเตอร์เรียกหนู หนูจะ……」
ริกกะที่คุกเข่ามองขึ้นมาหาผม ส่งเสียงของเธออย่างเงียบๆ นำมือของเธอไว้ข้างหลังเธอ และเธอดึงมีดใหญ่ออกมา
「ในวินาทีที่ร้อย หนูจะพุ่งไปหามาสเตอร์แน่」
ตาของเธอวาวเป็นประกายขณะที่เธอพูดอย่างนี้
「หนูโง่รึเปล่า? เมื่อพี่เรียกเธอ พุ่งมาหาพี่ในวินาทีที่พัน」
「ค่ะ ท่าน! แน่นอนที่สุด!」
มันล้อเล่น แต่ริกกะไม่ลังเลที่จะตอบ
ผมจะพึ่งเธอนะ กึ่งสัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุด
และดังนั้น ในที่สุดภารกิจก็ถึงการเริ่ม
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
เป้าหมายเดือน 5/66
ค่าเน็ต 200/200
กาแฟ 300/300
ค่าไฟ 100/1000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ Facebook: “wayuwayu แปล” Line: @326jilhj
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน แจ้งได้ที่ Facebook และ Line
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook,Line และ Discord
MANGA DISCUSSION