ตอนที่ 57 การปฏิวัติชุดชั้นใน
เมื่อครอบครัวของคาร์ลตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ในบ้านของนาโอมิจนกว่าการรักษาของ นีน่าจะเสร็จสิ้นลงก็ได้พบกับปัญหาของการจัดสรรที่พักเพราะว่าบ้านหลังนี้ไม่มีห้องว่างเหลืออยู่แล้ว
เพื่อแก้ปัญหานั้นคาร์ลจึงให้ ฟรานซ์ที่ยังตัวเล็กอยู่ นอนที่ห้องพักแขกต่อไป ส่วนตัวเขาเองจะลงไปนอนที่ห้องพักฟื้นในชั้นไต้ดินที่ นีน่านอนพักอยู่ ในขณะเดียวกันโดมินิคกับชอว์น นั้นให้เป่ายิ้งฉุบกันทุกคืนเพื่อตัดสินว่าใครจะได้ไปนอนกับ ฟรานซ์ในห้องพักแขกและคนที่แพ้ก็จะต้องไปนอนบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
วันถัดมาหลังจากที่ยืนยันความปลอดภัยของ นีน่าได้แล้ว ครอบครัวของคาร์ลก็ออกไปสำรวจหาแหล่งพักอาศัยของ มิตสึโมริคิตสึเนะ เพื่อที่จะจบงานที่พวกเขารับมา พวกเขาพบมันได้โดยใช้เวลาไม่นานามากนักเพราะข้อมูลที่ได้มาจากโซลาริส แต่ทว่าพวกเขาตั้งจะไม่เข้าไปเก็บเลือดของมันในทันที เพราะเลือดของมันจะเสื่อมสภาพไปตามเวลา พวกเขาจึงตั้งใจว่าจะรอให้ นีน่าหายป่วยก่อนค่อยมาทำต่ออีกที
พอตกลงกันได้แบบนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่การหาเสบียงเพื่อใช้แทนค่าเช่าของพวกเขา
แม้ว่า นีน่า จะรอดตายจากวันแรกมาได้เพราะการรักษาของรูดี้ แต่ทว่ามันยังมีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่ในร่างของเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องใช้เวลาในแต่ละวันลงไปแช่น้ำยาในถังบำบัด วันละ4ชั่วโมง เพื่อทำการรักษาต่อไป
ในช่วงเวลาว่างหลังการรักษาในแต่ละวัน นาโอมิที่ไม่มีอะไรทำเพราะถูกรูดี้สั่งห้ามปรุงยาเพิ่มก็มามาใช้เวลาเป็นเพื่อนคุยกับเธอ
นีน่าผู้มีบุคลิกภาพแบบเดียวกันกับนาโอมิ นั้นมีความอยากรู้อยากเห็นค่อนข้างสูง จึงถามหลายๆอย่างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของนาโอมิตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน แต่แน่นอนว่านาโอมิไม่สามารถเล่าเรื่องที่รูดี้เป็นมนุษย์ต่างดาวได้
เธอด้นสดสร้างเรื่องไปโดยแสร้งทำเป็นว่าเธอจัดการโค่น มาดาระ สัตว์อสูร ที่อาศัยอยู่ในเขาวงกฎ ที่เคยถูกเรียกว่ายานเบียก้า แฟรล์ แล้วเก็บกู้เอาอุปกรเวทมนต์หลายๆอย่างออกมาจากที่นั่น เธออธิบายไปว่าเธอได้ใช้อุปกรเวทมนต์สำหรับการรักษาที่ได้มานั้นมาใช้ในการรักษา นีน่า แล้วก็หน้าของตัวเองด้วย
พอได้ยินเรื่องที่เธอเล่าให้ฟัง นีน่าก็ถึงกับตกตะลึงที่นาโอมิส่ามารถโค่นเจ้า มาดาระ ลงได้ และยังตื่นตาตื่นใจไปกับอุปกรเวทมนต์ที่สามารถรักษาโรคที่เธอคิดไว้ว่าเธอต้องตายเพราะมันแน่ๆแล้ว ได้อีกด้วย
หลังจากนั้น นาโอมิก็เล่าให้รูดี้ฟังถึงเรื่องที่แต่งขึ้น เขาก็เพียงแค่พยักหน้า แล้วบอกว่า ยังไงซะในอีกไม่นานเรื่องที่ผมกำจัดเจ้า มาดาระ ก็จะแดงขึ้นมาอยู่แล้วล่ะ แล้วเขาก็ยังเอ่ยชมนาโอมิที่สามารถด้นสดเรื่องฟังขึ้นพวกนั้นขึ้นมาได้ทันทีอีกด้วย มันทำให้เขานับถือนาโอมิยิ่งขึ้นไปอีก
นีน่า นั้นถูกห้อมล้อมไปด้วยสมาชิกครอบครัวที่เป็นชายล้วน จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสได้พูดคุยเรื่องของพวกสาวๆสักเท่าไหร่ ความเก็บกดนั้นนำไปสู่หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับชุดของนาโอมิ
นีน่ากล่าวชมชุดของนาโอมิโดยให้ความเห็นว่าแม้ว่ามันจะดูหวือหวาไปหน่อยแต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความหรูหรามีระดับของมัน และพอเริ่มคุยกันถึงเรื่องถุงน่อง นีน่าก็แสดงให้เห็นถึงความอัดอันตันใจเพราะเธออยากจะลองสัมผัสมันดูแต่ทว่าผาครอบกระจกของเตียงปลอดเชื้อกลับขัดขวางไม่ให้เธอทำแบบนั้นได้
และพอเริ่มพูดถึงเรื่องชุดชั้นใน นีน่าก็เริ่มอ้อน”ขอดูหน่อย ขอดูหน่อย” เร่งเร้าให้นาโอมิเปิดให้เธอดู
แม้ว่านาโอมิจะ ปฏิเสธในตอนแรกเพรามันน่าอายแต่พอโดนคะยั้นคะยอเข้าไปเรื่อยๆสุดท้ายเธอก็ยอมแง้มให้ดู
เมื่อ นีน่า ได้เห็นชุดชั้นในของนาโอมิก็ถึงกับตะลึงตาค้างราวกับโดนฟ้าฝ่า แล้วดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยประกายของความตื่นเต้น
“นะ นี่มัน…เป็นการจารึกจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่แห่งวงการชุดชั้นในเลยไม่ใช่เหรอ!”
“อะไรล่ะนั่น?”
“ทั้งๆทีสวมอยู่แต่ไม่ได้รู้สึกตัวเลยเหรอ? ชุดชั้นในที่ทำให้ผู้หญิงสวมดูสวยขึ้นแบบนี้น่ะ ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ!”
“จะว่าไปมันก็น่าจะเป็นแบบนั้นละนะ”
“มันไม่ใช่แค่ น่าจะเป็นแบบนั้น แล้วย่ะ เธอน่ะ หัดเพิ่มพูนพลังความเป็นสาวซะหน่อยสิ”
“….เอางั้นเลย?”
นาโอมิงุนงงที่จู่ๆก็โดน นีน่าดุเอา
“โดยเฉพาะบาร์ที่มียกทรงนั่น เธออาจจะไม่เข้าใจเพราะยังไม่เคยมีลูก แต่หลังจากนั้นน่ะ หน้าอกมันเสียทรงจนดูไม่ได้เลยแหละ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
นีน่าร้องออกมาเสียงแหลม ส่วนนาโอมิก็ได้แต่ถามเบาๆ
“มันยานออกมาเกินกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหละ”
“…..มันจะยานออกมาเลยเหรอ!”
“ใช่สิ เพราะงั้นถ้าฉันได้อกไปจากเตียงนี่เมื่อไหร่ ต้องขอทำการวิจัยเกี่ยวกับชุดชั้นในพวกนั้นหน่อยล่ะนะ!”
พอได้ยิน นีน่า ป่าวประกาศแบบนั้น นาโอมิก็ยิ้มเจือนๆ เพราะรู้สึกดีใจกึ่งสับสนกับสิ่งที่เธอพูด
………………………………………………………………………………………………………….
พอเริ่มตกเย็นพวกคาร์ลก็กลับมาถึงบ้านของนาโอมิ
“รูดี้คุง อยู่หรือเปล่า?”
เมื่อ ฟรานซ์เข้ามาในตัวบ้านก็เรียกหารูดี้แล้วพบว่าเขานั่งอยู่ในห้องนั่งล่น กำลังติดต่อกับฮาล อยู่
“ ……….อะไรเหรอ?”
“เราจับกวางตัวใหญ่มาได้ละ ลองเอาไปทำอะไรกินเย็นนี้ดูสิ!”
“มื้อเย็นวันนี้เหรอเดส?”
รูดี้เอียงหัวสงสัย ฟรานซ์จึงดึงแขนเสื้อแล้วชวนเขาออกไปดู
เนื่องจากลูปลักษณ์ของรูดี้ ฟรานซ์จึงเข้าใจผิดเรื่องอายุที่แท้จริงของเขาและคิดว่าพวกเขามีอายุใกล้เคียงกัน และเนื่องจากอาชีพของคาร์ลทำให้พวกเขาต้องเดินทางอยู่เสมอ จึงทำให้ ฟรานซ์นั้นมีเพื่อนน้อยมาก ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะเป็นเพื่อนกับรูดี้ จึงได้หาเวลาเข้าไปพูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆอยู่ประจำ
“ไม่ต้องเร่งก็ได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละเดส”
พอตาม ฟรานซ์ ออกมาข้างนอกก็พบว่าพวกคาร์ลกำลังรออยู่
“ไงล่ะ รูดี้คุง สุดยอดไปเลยใช่ไหม”
“เป็นกวางที่ตัวใหญ่เป็นบ้าเลยเดส”
ตามที่คาร์ลว่าไว้พอเขามองไปยังกวางที่โดมินิคบแกมาก็พบว่ามันเป็นกวางตัวผู้ทีมีความยาวกว่า3เมตร
แต่ทว่ามันต่างจากกวาง2เขาที่รูดี้รู้จักอยู่หน่อยตรงที่บนหัวของมันมีถึง6เขา แสดงให้เห็นว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองของดาวดวงนี้
“รีดเลือดมาหรือยังเดส?”
“เห็นอย่างนี้แต่พวกข้าก็เป็นมืออาชีพนะเออ ทั้งรีดเลือด แล้วก็ใช้เวทย์น้ำทำความสะอาดเครื่องในจน สะอาดเอี่ยมอ่อง สมบูรณ์แบบไปเลยล่ะ”
พอได้ยินชอว์นตอบมาแบบนั้นรูดี้ก็กอดอกแล้วใช้ความคิด
“อืม….ไอ้นี่มัน….จะกินวันนี้เลยเหรอเดส?”
“ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ วันนี้พวกเราคงกินมันไม่หมดหรอก ก็นะ ข้าว่ามันน่าจะแบ่งกินได้สักสามวันเลยละมั้ง?”
พอโดมินิค ว่าแบบนั้นรูดี้ก็ส่ายหัว แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น
“ถ้าเอามันมากินทั้งๆแบบนี้มันจะเหนียวเอามากๆเลยนะ แต่ถ้าบ่มมันไว้สักหน่อยเนื้อมันก็จะนิ่มลงเยอะเลยแหละ เอาไงล่ะ จะกินมันเลยไหมเดส?”
“….รูดี้คุง การบ่มที่ว่านี่คืออะไรรึ?”
พอได้ยินคาร์ลถามแบบนั้นมันก็ทำให้รูดี้นึกถึงความต่างในระดับอารยะธรรมขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ พอมันตาย ก็จะเกิดอาการตัวแข็งขึ้นทำให้กล้ามเนื้อของมันเหนียวมากเดส”
“มันก็จริงที่มันตัวแข็งอย่างที่ว่านั่นแหละ แต่ข้าไม่เคยได้ยินถึงวิธีที่จะทำให้มันนิ่มลงเลยนะ”
พอได้ยิน ชอว์นว่าแบบนั้นรูดี้ก็อธิบายต่อ
“ถ้าแขวนมันเอาไว้ในสถานที่ที่แห้ง เย็นและอากาศถ่ายเท สัก1สัปดาห์ละก็ เนื้อมันจะนุ่มลงและมีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น อร่อยมากเลยล่ะเดส”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ?”
“ถ้าเอาเนื้อไปแขวนไว้ที่ชายคาในช่วงฤดูหนาวล่ะก็มันจะอร่อยขึ้นมากเลยล่ะเดส”
“เพราะอย่างนั้นพวกร้านขายเนื้อในเมืองถึงได้แขวนมันเอาไว้แบบนั้นสินะ”
รูดี้พยักหน้าเมื่อ ฟรานซ์พูดถึงสิ่งที่เขาเพิ่งนึกออก
“แต่จะทำแบบนั้นในช่วงฤดูร้อนมันก็ไม่มีความหมายนักหรอก อะไรแบบนั้นแหละ เดส”
“อย่างนี้นี่เอง นั่นมันเป็นแค่ข้อเสนอให้เลือกได้งั้นสินะ”
“แต่ว่าตอนนี้มันเดือนพฤษภาคมนะ ถ้าแขวนมันเอาไว้ก็มีแต่จะเน่าทิ้งเปล่าๆนะสิ”
“ถึงจะใช้เวทมนต์ก็ไม่ไหวเหรอเดส?”
รูดี้ถามแทรกเข้าไประหว่างที่โดมินิคกับชอว์นกำลังปรึกษากันพอได้ยินแบบนั้นชอว์นก็เริ่มหัวเราะออกมา
“อาฮาฮาฮา ใช้เวทมนต์เพียงเพื่อจะแช่เย็นเนื้องั้นเหรอ ไอ้วิธีการใช้เวทมนต์แบบนั้นจนถึงป่านนี้แล้วก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยแฮะ”
“ก็เมื่อกี้เห็นว่าใช้เวทย์น้ำทำความสะอาดมันอยู่นี่เดส”
“นั่นก็เพราะเราไม่มีทางเลือกไงล่ะ ถ้ามีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆละก็เราก็จะใช้มันแทนที่จะใช้เวทมนต์ให้เปลืองมานาไปเปล่าๆอยู่หรอกนะ”
“อืม….ทำไม่ได้เหรอเดส…..”
“มันจะต้องใช้มานามหาศาลเลยนะ แม้แต่ท่านนาราคุเองก็อาจจะยากพอสมควรเลยล่ะ”
“ถ้าเป็นชิโชวละก็จะต้องทำได้แหงๆเลยเดส เดี๋ยวไปลองถามดูเลยละกันเดส”
รูดี้เริ่มรำคาญกับความเห็นของชอว์นจึงกะว่าจะไปถามนาโอมิดูแต่ก็ถูก ชอว์นหยุดไว้ก่อน
“ไม่สิ รอเดี๋ยวนะ!”
“อะไรเหรอ?”
“ไปรบกวนท่านนาราคุด้วยเรื่องแบบนี้จะไม่โดนโกรธเอาเหรอ?”
“ชิโชวไม่โกรธกับเรื่องแค่นี้หรอกเดส”
“….อย่างนั้นหรอกเหรอ?”
“อย่างนั้นและ เดี๋ยวผมจะไปเรียกเธอมา ระหว่างนี้ก็จัดการแยกชิ้นส่วนมันไปเลยละกันเดส”
พอรูดี้เดินเข้าไปในบ้าน พวกคาร์ลห็หันไปมองหน้ากันครู่หนึ่งแล้วเริ่มทำการแยกชิ้นส่วนกวางโดยแขวนมันเอาไว้ที่ต้นไม้ใกล้ๆ
MANGA DISCUSSION