ตอนที่51 จะเตะให้กระเด็นเลยค่ะ
หลังจากที่โซลาริสป่าวประกาศออกมา ภายในป่าก็ตกลงสู่ความเงียบงัน
แม้ว่าโซลาริสจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมาจนหมดเปลือก แต่ทว่าโชคยังดีที่โดมินิคและชอว์นนั้นไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงเรื่องอะไรอยู่พวกเขาจึงพากันเอียงหัวอย่างงุนงง
นอกจากนั้นสายตาของพวกเขาที่มองไปยังโซลาริสก็แสดงให้เห็นถึงความคิดที่ว่า “ยัยนี่มันตัวอันตราย”เหมือนกับสายตาของเหล่าลิงปอบที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน บาคูรัส ที่ไม่สามารถสื่อสารกับพวกเขาได้ก็ถือโอกาสที่มันไม่โดนโจมตีเพื่อตั้งหน้าตั้งตาฟื้นฟูตัวเอง
“คุณโซลาริส ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่คุณบอกว่าจะมาช่วยพวกเราสู้ใช่ไหม?”
[ถูกต้องตามนั้นค่ะ]
โซลาริสตอบคำถามของโดมินิคไปพลางหันไปมองบาคูลัส
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็อยากจะขอให้ช่วยใช้เวทย์แสงแบบก่อนหน้านี้ที”
[ถึงจะน่าเสียดายไปหน่อย แต่ตอนนี้มันได้รับความเสียหายจึงยังใช้งานไม่ได้ค่ะ]
“…..งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น อาวุธที่ส่งเสียงดังลั่นตอนที่จะใช้สู้กับลิงปอบก่อนหน้านี้….”
[นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะว่ามันค่อนข้างเทอะทะ ดิฉันเลยทิ้งมันเอาไว้ที่บ้านค่ะ]
พอได้ยินแบบนั้น โดมินิคทำหน้ายู่ยี่ ส่วยชอว์นเองก็ได้แต่แหงนมองท้องฟ้า
“….ถ้าอย่างนั้น ช่วยบอกได้ไหมว่าเจาจะสู้มันยังไง?”
[ขณะนี้แขนของดิฉันยังอยู่ระหว่างการซ่อมแซม เพราะฉะนั้นดิฉันจะเตะมันให้กระเด็นเลยค่ะ]
“เตะเอาเหรอ……”
ได้ยินแบบนั้นโดมินิคก็ประเมินเอาว่าตอนนี้เธอคงจะสู้ไม่ได้แล้วล่ะ
“เข้าใจแล้ว ขืนปล่อยไว้แบบนี้พวกเราก็มีแต่จะโดนมันกินเอาเท่านั้นแหละ เดี๋ยวข้าจะเปิดทางให้ ส่วนคุณโซลาริสก็หาจังหวะโจมตีเอาละกัน”
[รับทราบ ดิฉันจะทำตามคำแนะนำค่ะ]
เธอพยักหน้ารับตามที่โดมินิคเสนอ ในขณะนั้นเอง บาคูลัส ที่เพิ่งเสร็จจาการฟื้นฟูตัวเองก็เริ่มโจมตีพวกเขา
“มันจะเข้ามาแล้ว!”
พอได้ยินโดมินิคเตือนชอว์นก็เริ่มร่ายเวทย์ ส่วนตัวเขาเองก็ยกขวานขึ้นมาตั้งการ์ดไว้ข้างหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้โดนเส้นใยของมันพันเข้ากับตัว
บาคูลัส เริ่มโจมตีด้วยการพ่นใยของมันใส่เขา แต่ก็ถูกขวานของเขาป้องกันเอาไว้ได้
โดมินิค ควงขวานของเขาโดยใช้เส้นใยของมันแล้วฟาดขวานลงไปในแนวดิ่งอย่างรุนแรงโดยการใช้ประโยชน์จากแรงเหวี่ยง เล็งไปที่หัวของมัน แต่ทว่าเจ้าบาคูลัสมันคาดเดาเอาไว้ว่าจะโดนโจมตีแบบนั้นก็หดตัวหลบออกไป
“คมมีดสายลม!”
ชอว์นยิงเวทย์ของเขาออกมา คมดาบสายลมโปร่งใสพุ่งเข้าตัดหนึ่งในขาด้านขวาของมัน
พอมันเห็นว่าขาของมันโดนตัดออกไป เจ้าบาคูลัสก็หันไปหาชอว์นแล้วพ่นพิษใส่เขา
พิษของมันพุ่งเข้าไปหา ชอว์น ที่ยังขยับไม่ได้หลังจากยิงเวทย์ออกไป แต่ก่อนที่มันจะโดนเขา โซลาริสก็เข้ามาขวางแล้วรับมันด้วยร่างกายของเธอ
“คุณโซลาริส!”
ชอว์นร้องออกมา เมื่อเห็นโซลาริสเข้ามารับพิษแทนเขา
[ดิฉันไม่เป็นอะไรค่ะ กรุณาตั้งใจกับการต่อสูด้วยค่ะ]
พิษทางระบบประสาทนั้นไม่มีผลอะไรกับเธอ โซลาริสจึงตอบได้อย่างสงบ
“ข…เข้าใจแล้ว!”
ชอว์นพยักหน้ารับแล้วเริ่มร่ายเวทย์อีกครั้ง
โซลาริสเองก็เริ่มวิ่งเข้าไปหาบาคูลัสเพื่อที่จะสนับสนุนโดมินิค
โดมินิค ฟาดขวานศึกของเขาออกไปอีกครั้ง
บาคูลัสที่เพิ่งจะพ่นพิษออกไปนั้นยังขยับไม่ได้ในทันทีจึงโดนตัดขาออกไปอีกข้าง
โดมินิคพยายามจะโจมตีมันอีกครั้งแต่บาคูลัสสัมผัสได้ว่าเขาจะทำอะไรก็ถอยหลบออกไป
แต่ทันไดนั้นเองโซลาริสที่โผล่ออกมาจากด้านหลังของโดมินิคก็กระโดดหมุนตัวกลางอากาศสองตลบแล้วยื่นขาออกมาถีบเข้าที่หัวของมัน
[ขอรบกวนด้วยนะคะ]
โซลาริสกล่าวออกมาในขณะที่ บาคูลัสกระเด็นเสียหลักถอยออกไป
เธอใช้มือทั้งสองข้างจับชายกระโปรงยกขึ้นมาเล็กน้อยแล้วกระโดดขึ้นไปอีกครั้ง ก่อนที่จะเตะสองจังหวะไปที่ด้านซ้ายและขวาของลำตัวของมัน
พอเธอกลับลงมาที่ผื้นก็หมุนตัวแล้วเตะเข้าไปที่หน้าของมันอีกครั้งทำให้มันกระเด็นถอยออกไปอีก
“ยอดไปเลยนะนั่น!”
[มันเป็นคุณสมบัติค่ะ]
เธอตอบโดมินิคที่กำลังทึ่งกับความสามารถของเธอแล้วยื่นมือขวาออกไปทางบาคูลัส
[การซ่อมแซมเขนขวาเสร็จสิ้น จะทำการกำจัดเลยนะคะ]
แขนขวาของโซลาริสแปลงสภาพไปเป็นโหมดปืน
ลำกล้องของมันเริ่มเรืองแสงแล้วกระสุนลำแสงที่ยิงออกมาก็เจาะทะลุหัวของบาคูลัสออกไป
“จัดการมัน…ได้แล้วเหรอ?”
[สัญญาณชีพของมันหายไปแล้วค่ะ]
โดมินิค พูดพึมพำอยู่ต่อหน้าซากของบาคูลัส
โซลาริสที่ทำการตรวจสอบบาคูลัสอยู่ข้างๆเขาก็รายงานออกมา
“คุณโซลาริส เอานี่ไปสวมสิ”
ชอว์นที่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับชุดเมดที่ขาดรุ่งริ่งของโซลาริสก็ถอดชุดคลุมที่เขาสวมอยู่ไปให้เธอใช้
[ไม่มีปัญหาด้านการรักษาอุณหภูมิ มันจึงไม่มีความจำเป็นค่ะ]
“ไม่ใช่สิ สภาพชุดนั่นแหละที่เป็นปัญหาน่ะ”
[…….ก็จริงอย่างที่ว่าค่ะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะขอรับมันไว้ค่ะ]
พอโซลาริสรับชุดคลุมมาจาก ชอว์น เธอก็สวมมันทับชุดเมดขาดๆของเธอ
“เดี๋ยวอาจจะมีสัตว์อสูรตัวอื่นตามกลิ่นศพมาอีกก็ได้ พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”
[…..ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณชีพของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ดิฉันเห็นด้วยกับข้อเสนอนั้นค่ะ]
“รับทราบ ถ้างั้นเดี๋ยวข้าจะขนน้ำกับอาหารเอง”
[คนที่สามารถควบคุมแอโร่ไบค์ได้ตอนนี้มีแค่ดิฉันเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะขนย้ายมันเอง]
ทั้งสามคนรีบรวบรวมสัมภาระแล้วย้ายออกไปพักในจุดที่ไกลออกไปเล็กน้อย
หลังจากย้ายที่เสร็จ พวกเขาทั้งสามคนก็พากันมานั่งล้อมวงกินบะหมี่ถ้วยที่โซลาริสพกมาด้วย อยู่ที่หน้ากองไฟ
“ไอ้นี่มันนอกจากจะสะดวกแล้วยังอร่อยอีกด้วยนะ ขอบคุณมากเลย”
บะหมี่ถ้วยที่เพียงแค่เติมน้ำร้อนก็พร้อมทานได้ใน3นาที
แม้ว่าพวกเขาจะงุนงงกับอาหารที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกแต่พอได้ลองกินดูแล้วก็พากันกล่าวขอบคุณโซลาริสกันยกใหญ่
[มันเป็นความผิดของดิฉันเองที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเสบียง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องมาขอบคุณดิฉันหรอกค่ะ]
โซลาริส กล่าวขอโทษ แต่ ชอว์น กลับส่ายหัวปฏิเสธเธอ
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก อันที่จริงแล้วมันควรจะเป็นปัญหาที่พวกเราต้องหาทางทำอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้ว จะว่าไป รสชาตินี่มันคืออะไรเหรอ?”
[มันเป็นรสหมูทอดซอสโชวยุ ค่ะ]
โซลาริสมองไปที่ถ้วยของชอว์นแล้วตอบคำถามของเขา
“หมูทอดซอสโชวยุ?”
[มันเป็นผงปรุงรสที่ทำมาจากไขกระดูกหมูและถั่วเหลืองค่ะ]
“ไขกระดูกหมู? นอกจากนั้นยังเอาถั่วเหลืองมาทำเครื่องปรุงแบบนี้ได้ด้วย? เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย”
โซลาริสที่ตอบคำถามพวกเขาอยู่เองก็ซดบะหมี่ถ้วยไปด้วย เพราะการซ่อมแซมกล้ามเนื้อและผิวหนังที่เสียหายไปนั้นจำเป็นต้องใช้โปรตีน
“จะว่าไปแล้วอาการบาดเจ็บของเธอเนี่ยจะไม่เป็นอะไรเหรอ?”
[ตอนนี้แขนซ้ายของดิฉันได้รับการฟื้นฟูไปถึง93%แล้วค่ะ และส่วนอื่นๆเองก็ได้เสร็จสิ้นการฟื้นฟูไปเรียบร้อยแล้ว]
พอมองดูใบหน้าของโซลาริสที่กำลังตอบคำถามของโดมินิคอยู่นั้นก็จะเห็นได้ว่าบาดแผลที่ถูกบาคูลัสโจมตีได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว เธอจึงกลับคืนสู่ใบหน้าที่งดงามแต่ก็ยังไร้ซึ่งอารมณ์เหมือนเคย
“สะดวกดีนะ”
[มันถูกออกแบบมาแบบนั้นค่ะ]
โดมินิคยักไหล่ โซลาริส จึงยื่นถ้วยชาที่ชงจากถุงชาสำเร็จรูปให้เขา
“ขอบคุณ”
พอโดมินิค ได้ลองจิบชาถ้วยนั้นเขาก็ต้องตกใจที่มันมีรสชาติดียิ่งกว่าชาทุกชนิดที่เขาเคยได้ดื่มมาจนถึงตอนนี้
“จะว่าไปแล้ว หลังจากนี้เราจะทำยังไงต่อล่ะ?”
พอชอว์นถามเรื่องแผนการหลังจากนี้ โดมินิคก็กล่าวออกมา
“วันนี้มันดึกแล้ว ข้าเลยคิดว่าจะดีกว่าถ้าเรารอให้เช้าก่อนจะออกเดินทางน่ะ คุณโซลาริสล่ะคิดว่ายังไง?”
“ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะอยู่เผ้ายามเอง พวกคุณทั้งสองคนเชิญนอนพักเพื่อฟื้นฟูกำลังได้เลยค่ะ”
“นี่คุณโซลาริส กำลังจะบอกว่าจะเฝ้ายามให้โดยไม่นอนงั้นเหรอ?”
[ตามที่ว่ามาค่ะ]
“ไม่สิไม่สิ แบบนั้นมันไม่ได้ไม่ใช่เหรอ!”
“เรามีกันอยู่ตั้ง3คนก็ต้องผลัดเวรกันสิ!”
พอทั้งสองคนได้ยินเธอตอบแบบนั้นก็พยายามที่จะหยุดเธอ
[ดิฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนอน เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีปัญหาค่ะ]
“จะบอกว่านั่นก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติด้วยเหรอ?”
[ค่ะ มันถูกออกแบบมาแบบนั้น]
โดมินิคและชอว์นหันไปสบตากัน ด้วยสายตาที่แสดงให้เห็นว่าไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินโซลาริสว่าแบบนั้น
MANGA DISCUSSION