ตอนที่45 ทะยานผ่านท้องฟ้ายามราตรี
แอโร่ไบค์ที่พวกรูดี้ขับนั้น พุ่งทะยานผ่านความมืดของป่าด้วยความเร็วที่มากยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาเดินทางไปยังหมู่บ้าน
ต่างจากตอนกลางวัน ทัศนวิสัยในป่ายามค่ำนั้นแคบเอามากๆซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของระบบสนับสนุนการควบคุมอย่างปลอดภัยลดลงไปเหลือแค่1ใน3 ด้วยคารมเร็วที่เพิ่มขึ้นมาตอนนี้ รูดี้นั่นต้องตื่นตัวและเพ่งสมาธิในการหลบหลีกต้นไม้ตามทาง
คาร์ลที่นั่งอยู่ด้านหลังนั้นกอดร่างของ นีน่า ที่เขามันติดกับตัวเองไว้แน่น พลางมองข้ามหัวของรูดี้ออกไปข้างหน้า
“แย่ล่ะ!!”
ทันได้นั้นก็มีวัวขนยาวที่มีเขาเดียวยื่นออกมากลางหัวของมันโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ข้างหน้าหน้า
รูดี้เพ่งสมาธิไปที่การหลบต้นไม้จึงไม่ทันสังเกตเห็นมันจึงร้องออกมาแบบไม่จบประโยคต่างจากที่เขามักจะทำอยู่เสมอ
“หมอบลง!!”
ได้ยินเสียงตะโกนของคาร์ลรูดี้ก็หมอบลงทันที
“ฮาซัน!!” *(TLnote: มันแปลว่า”การฟาดฟันขั้นสูงสุด” แต่ปล่อยไว้แบบนี้ชื่อท่ามันจะฟังดูดีกว่า)
คาร์ลตะโกนพร้อมกับเหวี่ยงดาบใหญ่ของเขาออกไปในแนวนอน
พอใบดาบตวัดผ่านบนหัวของรูได้ไป ก็มี ปราณดาบ สีดำพุ่งแหวกอากาศออกไปด้วย มันตัดผ่านทุดอย่างที่ขวางทางนอกจากเจ้าสัตว์เวทย์แล้วแม้แต่ต้นไม้ที่อยู่ในแนวการฟันด้วยกันกับมันทั้งหมดก็โดนตัดออกไปด้วย
ฉายาของคาร์ล นั้นคือ ดาบทมิฬ ด้วยการอัดพลังเวทย์เข้าไปในใบดาบ แล้วเสริมคารมแข็งแกร่งของร่ายกานด้วยเวทมนต์ การพาดฟันของเขานั้นมีพลังมากพอที่จะตัดผ่านได้แม้แต่เหล็กกล้า แต่ทว่า นอกจากการใช้ท่า “ฮาซัน” แล้ว ความสามรถในการใช้เวทย์อื่นๆของเขากลับไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
แม้ว่าเขาจะตื่นตาตื่นใจไปกับความสามารถของคาร์ล แต่พอจู่ๆก็รู้สึกว่าน้ำหนักบนแอโร่ไบท์นั้นลดลง เขาก็รีหันกลับไปดูอย่างตื่นตระหนก แล้วได้เห็นว่าคาร์ลนั้นเสียหลักเพราะการโจมตีที่ปล่อยออกไปและกำลังจะตกลงไปพร้อมๆกับนีน่าที่โดนมัดไว้ด้วยกัน
รูดี้เปิดระบบเร่งความเร็วแล้วเข้าสู่โหมด โซน ทนไดนั้นเขาก็ยื่นมือกลับไปคว้าตัวคาร์ลเอาไว้ แล้วในช่วงเสี้ยววินาทีที่สบตากันเขาก็ดึงให้กลับมานั่งบนแอโร่ไบค์ได้อีกครั้ง
“โทษทีนะ ช่วยได้เยอะเลย”
รูดี้พยักหน้าให้แล้วรีบหันกลับไปตั้งใจขับแอโร่ไบค์อีกครั้ง
“เราเกือบจะถึงหน้าผาแล้ว เตรียมใจไว้เลยเดส”
“ยังทำได้อยู่ไหม?”
“แบบเฉียดฉิวเลยแหละเดส!”
รูดี้ตะโกนตอบคาร์ลที่ถามอย่างเป็นกังวล
ถ้าข้ามไม่พ้นแล้วชนเข้ากับหน้าผาอีกฟากพวกเขาก็อาจจะตายทันที แม้กระนั้น รูดี้กลับเร่งความเร็วยิ่งขึ้นจนตอนนี้พวกเขาพุงไปด้วยความเร็วมากกว่า150กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว
พอแอโร่ไบค์พุ่งพ้นชายป่าออกมาก็พบกับความมืดมิดที่แผ่ออกไปเกินกว่าระยะของไฟหน้าจะส่องถึง
“จะบินละนะ เดส!”
“โอ้ว!”
แอโร่ไบค์พุ่งข้ามหุบเหวไต่ระดับความสูงขึ้นไป
ด้วยแรงส่งและระดับความสูงของพวกเขา รุดี้มันใจว่าวิถีการกระโดดรอบนี้นี้จะต้องข้ามไปถึงอีกฝั่งอย่างแน่นอน แต่ทว่าเข้ากลับเห็นโซลาริสพุ่งเข้ามาจากอีกฝั่งในวิถีการกระโดดเดียวกันแป๊ะ
ทำไมโซลาริสถึงมาอยู่ที่นี่น่ะเหรอ? จริงๆแล้วพวกเขาทั้งมุ่งหน้าไปยังจุดหมายโดยใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด และด้วยกำลังขาของแอนดรอยด์ โซลาริสนั้นวิ่งมาจากอีกฝั่งด้วยความเร็วกว่า100กิโลเมตรต่อชั่วโมงและกระโดดข้ามมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาจึงมาเจอกันที่กลางหุบเหวแบบพอดิบพอดี
“โซลาริส!?—”
[……..ขอเสียมารยาทค่ะ]
บนแอโร่ไบค์รูดี้ร้องออกมาอย่างแตกตื่น คาร์ลเองก็ตกตะลึงที่เห็นโซลาริสบินสวนมา
แต่โซลาริสกลับเฉยเมิยแล้วใช้แอโร่ไบค์เป็นแท่นรองเหยียบแล้วถีบตัวข้ามไป
พอโดนโซลาริสถีบเข้า ความสูงของแอโร่ไบค์ก็ตกฮวบ ทำให้วิถีการเคลื่อนที่ของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นพุ่งเข้าชนกับหน้าผาของอีกฝั่ง
“ยัยบ้าโซลาริส!!”
รูดี้ร้องเสียงหลง พยายามดึงแกนควบคุมเข้าหาตัวทำให้ด้านหน้าของแอโร่ไบค์ยกขึ้นในแนวดิ่ง เพื่อลงจอดขนาบไปกับหน้าผา
พวกเขาหยุดแรงเฉื่อยจากการกระโดดได้แบบหวุดหวิด แต่พอทำแบบนั้นพวกเขาก็เริ่มที่จะตกลงข้างล่างเพราะแรงโน้มถ่วง แต่ทว่ารูดี้ไม่ยอมตัดใจสลับเป็นเกียร์สูงสุดแล้วบิดคันเร่งจนมิด ทำให้เครื่องยนต์ของแอโร่ไบค์คำรามออกมาดังลั่น
แอโร่ไบค์เริ่มขัดขืนแรงโน้มถ่วงแล้วพุ่งไต่หน้าผาขึ้นไปในแนวดิ่ง
“อุโว้วววว!”
“โอ้ว เดส!”
ทั้งสองคนร้องออกมาระหว่างที่แอโร่ไบค์พุ่งพ้นขอบเหวขึ้นไปบนฟ้า
มันตีลังกากลับหลังหนึ่งตลบแล้วลงจอดบนพื้นของอีกฝั่งได้อย่างปลอดภัย
“ฮ่า-ฮ่า-…เกือบแย่จริงๆแล้วไง เดส”
“…อา…เมื่อกี้คิดว่าจะได้ตายจริงเลยละ”
รูดี้บ่นออกมาพลางตัวสั่น คาร์ลเองก็เช็ดเหงื่อที่ย้อยออกมาบนหน้าผากของเขา
“จะว่าไปแล้วรูดี้คุง นี่มันอาจจะเป็นเพราะข้าคิดไปเองก็เหอะ แต่ตอนที่เรากำลังลอยข้ามมาข้ารู้สึกว่าจะเห็น เมด ที่บ้านของนาราคุบินสวนทางมาใช่ไหม?”
คาร์ลนั้นไม่รู้ว่าโซลาริสนั้นเป็นแอนดรอยด์ จึงทำให้แม้ว่าเขาจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ แต่ก็ไม่ได้คาดว่ามันเป็นไปได้ที่จะทำอะไรแบบนั้นด้วยความสามารถทางร่างกายล้วนๆ
“……เวทมนต์ของ ชิโชว เดส”
รูดี้โยนเหตุผลของสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปให้ข้ออ้างแสนสะดวกที่ชื่อว่าเวทมนต์ของนาโอมิอีกครั้ง
ส่วนคาร์ลเองก็พยายามอดทนที่จะไม่ตบมุขกลับไปว่าข้ออ้างมันฟังไม่ขึ้นแล้วก็มองเห็นได้ชัดเลยว่าเขากำลังโกหกอยู่
รูดี้ หันแอโร่ไบค์เข้าไปในป่าแต่ก่อนจะเริ่มออกตัวเขาก็ติดต่อกับ โซลาริส ผ่านการเชื่อมต่อของสมองอิเล็คทรอนิคส์ของเขา
“ยัยโซลาริส! เมื่อกี้พวกฉันเกือบตกลงไปเลยนะเฮ้ย!!”
[ยังปลอดภัยอยู่ก็ดีแล้วนี่คะ ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันได้รับรายงานจากยานไนกี้ว่าเป้าหมายที่ให้ไปรับตัวมากำลังจะถูกศัตรูล้อมเข้าแล้ว ดิฉันต้องรีบไปเช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องขอตัวก่อนค่ะ ]
“นี่เธอ เดี๋ยว!….ตัดสายเฉยเลย”
รูดี้พยายามจะบ่นแต่โซลาริสกลับไม่สนใจแล้วตัดสายทิ้งราวกับว่าพยายามจะหนี
“จำไว้เลยนะ เดี๋ยวจะสร้างโปรแกรมที่ขยายอารมณ์ความรู้สึกของยัยนั้นสัก3,000เท่าให้ชักตาตั้งไปเลยคอยดูเถอะ”
“รูดี้คุงมีเรื่องอะไรเหรอ?”
เห็นรูดี้กัดฟัน กร็อดๆ คาร์ลก็ถามออกมา
“ไม่มีอะไรเดส”
รูดี้ปรับอารมณ์แล้วเริ่มขับแอโร่ไบค์เข้าไปในป่าอีกครั้ง
………………………………………………………………………………………………………………………..
“ท่านนาราคุ ถึงจะมาพูดเอาตอนนี้ก็เถอะ แต่ผมคิดว่านี่มันไม่น่าจะใช่วิธีกินของพวกนี้หรอกครับ”
“….อืม…ก็จริงแหละ แข็งเป็นบ้าเลยนี่นะ”
นาโอมิกับฟรานซ์ กำลังมีปัญหากับบะหมี่ถ้วยที่โซลาริสเตรียมไว้ให้เป็นมื้อเย็น
แม้ว่าจริงๆแล้วมันจะมีการอธิบายวิธีใช้งานติดอยู่กับถ้วย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถทำความเข้าใจตัวอักษรของจักรวรรดิแห่งดวงดาวได้ พวกเขาจึงเปิดฝาถ้วยออกมาจนหมดโดยไม่ได้อ่านมัน
โดยที่ยังไม่ได้ใส่น้ำร้อน พวกเขาพยายามเอาซ่อมจิ้มมันขึ้นมาแต่ก็ทิ่มไม่เข้า พวกเขาจึงใช้มือหยิบมันขึ้นมากัดดูอย่างลังเล แต่ก็พบว่ามันแข็งเกินกว่าจะกินได้ จึงได้นำไปสู่บทสนทนาเมื่อสักครู่
“พอลองเลียดูมันก็มีรสชาติอยู่นี่นะ….”
“นั่นสิครับ….อ๋อ แบบนี้นี่เอง… หรือว่ามันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้”
“นึกอะไรออกแล้วเหรอ?”
“ครับ บางที่นะ ถ้าเราเอามันไปย่างมันอาจจะนิ่มลงก็ได้”
น่าเสียดายที่ฟรานซ์เองก็ไม่มีเซ้นส์ในการทำอาหารเช่นกัน
“อย่างนี้นี่เอง มาลองกันเลย!”
พอนาโอมิเข้าไปในครัว เธอก็เริ่มเอาของที่อยู่ในถ้วยบะหมี่มาผัดกับน้ำมันสลัด
บะหมี่ถ้วยเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาโดยกรรมวิธีที่ไม่ใช้น้ำมัน ถ้าพวกผู้ผลิตมาเห็นสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ละก็คงได้ร้องไห้แหงๆ
………….5นาทีต่อมา
“กลายเป็นว่าทำให้มันไหม้เท่านั่งเองล่ะ”
“แบบนี้ไม่ได้สินะ….”
ผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ได้ พวกเขาถอนหายใจออกมาพร้อมๆกันขณะที่จ้องมองไปยังเส้นบะหมี่ไหม้เกรียมในจานของพวกเขาด้วยความหิว
*(TLnote: ตั้งแต่วันที่28 เดือนนี้ไปจนถึง16เืดอนหน้า จะต้องไปวิ่งควายทำเควสกิจกรรม ก็จะหายไปสักพักนั่นแหละ)
MANGA DISCUSSION