ตอนที่43 ขนส่งฉุกเฉิน ทะลวงไปเลย!
เหล่าทหารที่ห้อมล้อม อัลเฟร็ดกับผู้ใหญ่บ้านอยู่สังเกตเห็นพวกเขา เดินเข้าไปใกล้
คนนึ่งดูกำยำและโดดเด่น ส่วนอีกคนคลุมหน้าคลุมตาดูน่าสงสัย
เมื่อพวกทหารเริ่มรู้สึกกังวลตอตัวตนของทั่งคู่ หนึ่งในพวกของเขา จึงเริ่มเดินเข้าไปหา
“มีอะไรเหรอ?”
“พวกนั้นไง”
พวกทหารพยักหนาส่งสัญญาณให้พวกพ้องของตน
เมื่อพวกพ้องของเขาหันไปดูแล้วจำได้ว่านั่นคือคาร์ล เขาก็เบิกตาโผลง
“…หรือว่านั่นจะเป็น นักดาบทมิฬ คาร์ล!?”
“นักดาบทมิฬที่ว่าเนี่ย ที่ว่ากันว่าไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนก็จัดการได้ในดาบเดียว วีรบุรุษ คาร์ลคนนั้นน่ะเหรอ!”
“เต่งชุดสีดำทั้งตัวและสะพายดาบขนาดใหญ่ไว้บนหลัง ไม่ผิดตัวแน่ๆ”
เมื่อเสียงของทหารทั้งสองคนดังขึ้นเรื่อยๆ ชายคนที่กำลังสอบปากคำผู้ใหญ่บ้านอยู่ก็หันมาดู
“พวกแก มีปัญหาอะไรกัน?”
“…..ตรงนั้นมี คาร์ล นักดาบทมิฬอยู่ขอรับ”
พอเห็นทหารชี้ไปที่คาร์ล เขาเองก็รู้สึกตัวแล้วเริ่มตระหนก
“คาร์ล นักดาบทมิฬ สินะ…..”
อัลเฟร็ด เองก็เคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคาร์ล เพราะงั้นมันต้องมีสาเหตุที่เขาจะมาอยู่ในสถานที่ไกลปืนเที่ยงแบบนี้อยู่แน่ๆ และมันก็อาจจะเกี่ยวกับยาที่เขากำลังตามหาอยู่ก็ได้
อัลเฟร็ดปลีกตัวออกมาจากผู้ใหญ่บ้านแล้วมุ่งหน้าเข้าไปหาคาร์ลกับรูดี้
“นี่มัน~ นี่มัน~ ท่านคาร์ล นักดาบทมิฬผู้โด่งดังไม่ใช่รึ”
อัลเฟร็ดเริ่มทักทายคาร์ล
คาร์ลหยุดเดินแล้วทำหน้าปลงตก รูดี้ที่ก้มหน้าก้มตาเดินตามมาก็ชนเข้าที่หลังของเขาแล้วส่งเสียง มุกิ้ว ออกดมา
“……ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าเป็นใคร แต่ตอนนี้ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปทำ ช่วยอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับข้าทีเถอะ”
คาร์ลพยายามจะรีบเดินต่อไป แต่ อัลเฟร็ดกับเข้าไปยืนขวางทางเขาไว้
“ตั้งใจจะทำอะไร?”
น้ำเสียงของคาร์ลแผงไปด้วยความโกรธและความกระหายเลือดทำให้ทั้งอัลเฟร็ดและเหล่าทหารต่างขนลุกขนชัน
ถึงกระนั้น อัลเฟร็ด กลับกลืนน้ำลายพยายามปั้นยิ้มแล้วพูดต่ออย่างกล้าหาญ
“ข้าเพียงแค่ต้องการที่จะรู้ที่อยู่ของยาชนิดหนึ่งในหมู่บ้านนี้เท่านั้นแหละ การที่ท่านพยายามแสดงอารมฉุนเฉียวแบบนั้น หรือว่ากำลังคิดที่จะปกปิดความลับเกียวกับมันอยู่หรือเปล่านะ?”
“ทึกทักเอาเองไปทั่วเลยนะเจ้าน่ะ หรือว่าไอ้ยาที่หาอยู่นี่จะเอามารักษาหัวของเจ้างั้นรึ?”
พวกชาวบ้านที่มุงดูดยู่ได้ยินคาร์ลว่าแบบนั้นก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ในขณะเดียวกัน อัลเฟร็ดที่โดนล้อเลียนก็เปลี่ยนสิหน้าจากปั้นยิ้มเป็นโกรธเกรี้ยว
“ว่าแล้วเชียว ถึงแม้ว่าจะเป็นวีรบุรุษแต่ก็ยังเป็นแค่สามัญชน คำพูดคำจาและกิริยาที่แสดงต่อขุนนางนี่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ”
“นี่ ตอนนี้ข้ากำลังรีบอยู่จริงๆนะ ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าเป็นใครแต่ถ้าเข้ามาขวางข้าละก็ ข้าก็จะจัดการไปตามสมควรละนะ”
“นั่นมันคำพูดของข้าต่างหากล่ะ เจ้าผู้ใหญ่บ้านมันบอกว่ามันซื้อยามาอีกที แต่ภายในอาณาเขตนี้มันไม่มีหมอยาคนไหน ที่สามารถรักษาทั้งอาการบาดเจ็บและโรคพวกนั้นได้สักคน ถ้าอย่างนั้นละก็ ยามันจะมาจากไหนล่ะนอกจากป่าปิศาจ ท่านคาร์ล อย่าบอกนะว่าท่านมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วยน่ะ?”
คาร์ลแหงนมองฟ้า ตกตลึงไปกับความมโนของ อัลเฟร็ด
ก่อนที่คาร์ลจะหมดความอดทน ประตูของโรงแรมก็เปิดออกอย่างรุนแรง แล้ว โดมินิค ลูกชายคนโตของคาร์ลก็โผล่ออกมา
“ว่าแล้วเชียวสัมผัสแบบนี่พ่อจริงๆด้วย!”
“โดมินิค!”
คาร์ลตอบกับแต่โดมินิคมีเรื่องเร่งด่วนอยู่ในใจจึงคว้าแขนเสื้อของเขา
“คุณแม่อาการทรุดหนักแล้วรีบเขาไปข้างในเร็วๆเลย”
“นีน่าเหรอ!!”
คาร์ลรีบวิ่งเข้าไปในโดรงแรม รูดี้เองก็ตามเข้าไป
“เดี๋ยวสิ ยังพูดกับข้าไม่จบเลยนะ!!”
อัลเฟร็ดที่ถูกทิ้งไว้ตระโกนไล่หลังแล้วรีบพาเหล่าทหารตามเข้าไป
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
“นี่น่า!!”
เมื่อคาร์ลเข้าไปในห้องก็พบกับนีน่านอนเหงื่อท่วมส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดอยู่บนเตียง
ใกล้กับเธอนั้นมี ชอว์น ลูกชายคนที่สองของคาร์ล กุมมือเธอไว้แน่น พลางพยายามร่ายเวทย์รักษาอย่างต่อเนื่อง
เขาเหลือบไปดูเมื่อให้ยินเสียงของคาร์ลแต่ก็หันกลับไปจดจ่อกับการรักษา นีน่า ทันทีที่เธอส่งเสียงเจ็บปวดออกมา
“นี่น่า อดทนไว้นะ อีกเดี๋ยวเราจะได้รักษาโรคของเธอแล้ว!”
พอได้ยินเสียงของคาร์ล นีน่าก็พยายามลืมตาขึ้นมาดูเขาอย่างอ่อนแรง
“…..คุณคะ……ขอโทษนะ”
“ไม่ต้อมาขอโทษหรอก! อีกเดี๋ยวก็จะรู้สึกดีขึ้นแล้ว รูดี้!!”
คาร์ลให้กำลังใจกับนีน่าแล้วก็หันไปเรียกรูดี้
“เดี๋ยวจะขอรบกวนสักหน่อย เดส”
รูดี้แทรกเข้ามาระหว่างคาร์ลกับชอว์น ชอว์น นั้นตกใจที่จู่เขาก็โผล่ออกมาจึงหันไปดูอย่างเลิกลัก
แม้ว่าตอนนี้ นีน่าจะดูผมแห้ง และอ่อนแอ แต่เธอนั้นมีเคล้าโครงของความงามและผมสีทองที่ดูคล้ายคลึงกับ ฟรานซ์ ตามที่คาร์ลเคยอวดไว้
นอกจากนั้น โดมินิค ลูกชายคนโตของคาร์ล นั้นมีผมสีเทาและเคล้าโครงหน้าที่คล้ายกับคาร์ล แต่เขามีร่างกายที่บึกบึนยิ่งกว่า คาร์ล และแผ่ออร่าที่แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่เข้มงวดออกมา
ในทางกลับกัน ชอว์น ลูกชายคนที่สอง นั้นมีโครงร่างที่ผอมเพรียว สูงพอๆกับคาร์ล และผมสีดำ ใบหน้าของเขานั้นดูคล้ายคลึงกับนีน่า
“แบบนี้มันต้องแข่งกับเวลาแล้วเดส ก่อนอื่นเลยต้องให้ยาแก้ปวดกับเธอก่อน เดส”
รูดี้เอายาแก้ปวดออกมาจากกล่องปฐมพยาบาลแล้วแทงเข็มฉีดยาเข้าไปที่แขนของนีน่า
“เฮ้ย นี่เธอทำอะไรน่ะ?”
“อย่ามาขวางนะ!”
โดมินิตกใจกับการกระทำของรูดี้จึงพยายามจะเข้ามาหยุดเขา แต่คาร์ลกลับห้ามเอาไว้
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าของ นีน่า ก็ค่อยๆผ่อนคลายลง แล้วผล็อยหลับไป
“คาร์ล อุ้มนี่น่าขึ้นมาเลย”
“เข้าใจแล้ว”
พอตรวจสอบว่า นีน่าหลับไปแล้ว รูดี้ก็ห่อร่างเธอด้วยผ้าคลุมเตียง
คารล์จึงเข้ามาอุ้มเธออย่างระมัดระวัง
“คุณพ่อ กำลังจะทำอะไร…..”
พอ ชอว์นหยุดร่ายเวทย์แล้วเอ่ยถามคาร์ล เขาก็มองกลับไปแล้วยิ้มให้
“โดมินิค ชอว์น พวกเจ้าทำได้ดีมากแล้วล่ะ ฝากที่เหลือให้ให้ข้าได้เลย ข้ามั่นใจว่า นีน่า จะหายป่วยแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงไป”
“คุณพ่อจะพาคุณแม่ไปไหนเหรอ?”
“ที่บ้านของนาราคุน่ะ พอรักษาแม่แกเสร็จแล้วเดี๋ยวจะกลับมา!”
ทั้งสองคนที่ทำใจไว้แล้วถึงความตายของแม่ตัวเองพอได้ยินแบบนั้นว่าสามารถรักษาได้ก็ตกใจ และที่ยิ่งน่าตกใจไปกว่านั้นก็เพราะได้ยินว่า นาราคุจะเป็นคนรักษาให้นั่นเอง
“นาราคุ งั้นเหรอ!!”
ทว่า อัลเฟร็ดที่โวยว่ายอยู่หน้าทางเข้าเองก็ประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อของนาราคุลอยออกมา
“อธิบายเรื่องที่พูดมาเมื่อกี้ให้ข้าฟังเดียวนี้เลยนะ!”
พอ อัลเฟร็ด เข้าไปใกล้คาร์ลก็จ้องไปที่เขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“หลีกไป!”
“เล่าให้ข้าฟังก่อนแล้วจะหลบให้ ตามที่เห็นนี่คือ ดูเหมือนว่าเมียของแกกำลังจะตายแล้วคนที่รักษานางได้ก็คือแม่มดแห่งขุมนรกใช่ไหม?”
“ถ้าเข้าใจขนาดนั้นแล้วก็หลบไปซะเซ่ พวกข้ากำลังแข่งกับเวลาอยู่นะ!”
คาร์ลตวาดกลับไป โดมินิคกับชอว์นเองก็รู้สึกโมโหกับการแสดงออกของ อัลเฟร็ด
แต่ทว่า อัลเฟร็ดนั้นเป็นลูกชายของเจ้าเมืองพวกเข้าจึงไม่สามารถลงไม้ลงมือได้ตามใจชอบ
“แกเข้าใจหรือเปล่าว่า แม่มดแห่งขุมนรกน่ะ มีค่าหัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง10ล้านเหรียญทองเลยนะ แล้วถ้าเรื่องที่ว่าว่านางสามารถปรุงยาที่รักษาคนใกล้ตายได้ด้วยแพร่ออกไปล่ะก็ ค่าหัวมันต้องพุ่งสูงขึ้นอีกแน่ๆ ฮาฮาฮา ถ้าข้ารายงายเรื่องนี้ให้ท่านพ่อฟังแล้วไปจับตัวนางมาแบบเป็นๆได้ละก็ ข้าจะได้ใช้ชีวิตหรูหราไปตลอดชาติแน่ๆ”
อัลเฟร็ดผู้ซึ่งลุ่มหลงในความเป็นไปได้ของค่าหัวของแม่มดแห่งขุมนรกเริ่มหัวเราะออกมา
“แก….คิดจะไปหาเรื่องกับนาราคุเนี่ยนะ? เดี๋ยวก็ตายหรอก”
“แม้ว่าจะเป็นแม่มดแห่งขุมนรก แต่ก็มีแค่ตัวคนเดียว เราต้องจัดการนางได้แน่ๆ”
คาร์ลมองดูเขาอย่างสมเพช แล้วตอบกลับไป
“นี่ถือว่าเป็นคำเตือนของข้าละกัน อย่าได้อาจไปหาเรื่องกับนาราคุ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่จบแต่ชีวิตของแกคนเดียว”
“เรื่องพรรค์นั้นมันก็แค่ข่าวลือ…….”
“รำคาญ เดส!”
“….อุ๊ก!!”
ระหว่างที่ อัลเฟร็ด กำลังต่อปากต่อคำกับคาร์ล รูดี้ที่หมดความอดทนก็ถีบเข้าไปที่ท้องของเขา ทำให้เขาร้องออกมา
MANGA DISCUSSION