ตอนที่38 ใครล่ะนั่น?
คาร์ล และ ฟรานซ์ เดินตามแสงนำทาง ตัดผ่านป่าแล้วออกมายังจัตุรัสที่เปิดโล่ง
พื้นที่ในจัตุรัสนั้นถูกจัดการให้ราบดล่งปราศจากพืชพรรณไดๆ และต่อหน้าของเขาก็พบกับบ้านขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างด้วยท่อนซุงตั้งอยู่ ข้างบ้านนั้นก็ยังมีสวนขนาดเล็กอยู่อีกด้วย
“บ้านหลังเบ้อเริ่มในป่าแบบนี้เนี่ยนะ?”
“แถวนี้ก็ไม่มีใครอาศัยอยู่ด้วยสิ หรือว่าเธอจะสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวคนเดียวเลยเหรอ”
ท่ามกลางป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรแบบนี้ เธอสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงกัน?
ระหว่างที่พวกเขามุ่งห้าไปที่ตัวบ้านอย่างระมัดระวัง ประตูหน้าของมันก็เปิดออก และนาโอมิก็เดินออกมา
“ใครล่ะเนี่ย?”
“….เจ้านั่นแหละใครกัน?”
พอนาโอมิมองลงไปแล้วลองทักพวกเขาดู คาร์ลก็ถามกลับมาเพราะไม่รู้ว่านาโอมิคือใครกันแน่
“….หืม? เดี๋ยวนะ รู้สึกว่าฉันเคยเห็นเจ้าเครารกๆแบบนั้นที่ไหนมาก่อนเลย…อ๋อ จำได้ละ แกชื่อว่า คาร์ลใช่ไหม?”
พอนาโอมิมองหน้าของคาร์ลดีๆแล้วแล้วก็ทำให้นึกออกว่าเขาเป็นคนที่เคยทำงานร่วมกับเธอมาก่อน
“ก็ใช่แหละ เพราะงั้นถึงได้ถามไงว่าเจ้าคือใครกันน่ะ?”
แต่ทว่าคาร์ลกลับยังจำนาโอมิไม่ได้จึงเริ่มขมวดคิ้ว
“อ้า…จริงด้วย ลืมไปซะสนิทเลย”
นาโอมิลืมไปว่ารอยแผลไฟไหม้บนหน้าขอเธอได้หายไปแล้ว เธอจึงดึงผมมาปิดใบหน้าด้านซ้ายของเธอ
นั่นจึงทำให้คาร์ลนึกขึ้นมาได้ทันที่ว่านี่คือนาโอมิ
“ถ้าแบบนี้ล่ะรู้หรือยังว่าใคร?”
“เจ้า…นาราคุ เหรอ!!”
คาร์ลแปลกใจเมื่อเห็นหน้าของนาโอมิ ด้านหลังของเขา ฟรานซ์นั้นตะลึงไปกับความงามของเธอและชุดที่เธอสวมจน อ้าปากค้างออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
“ฉันไม่ได้ต้องการชื่อเล่นแบบนั้นสักหน่อย”
“เรื่องนั้นจะยังก็ช่างเถอะ ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นกับแผลไฟไหม้บนหน้าของเจ้าล่ะ?”
นาโอมิดูจะไม่พอใจที่ถูกเรียกด้วยชื่อที่เกลียด แต่คาร์ลที่กำลังแปลกใจกลับถามต่อไปโดยไม่ใส่ใจ
“เห็นแล้วก็ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ก็รักษาไปแล้วไง”
“…..นี่คงไม่ใช่ภาพลวงตาอันเลื่องชื่อของเจ้าสินะ”
“ไม่ใช่ย่ะ”
“งั้นเองเหรอ…ตกใจเลยนะเนี่ย ถ้าไม่ใช่เพราะแผลไฟไหม้ละก็ เจ้านี่ก็เป็นคนที่สวยอย่างไม่น่าเชื่อไปเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ถึงจะมาชมกันไป ฉันก็ไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ จะว่าไปที่อยู่ข้างหลังนั้นลูกชายของแกเหรอ?”
“โอ้? ดูออกด้วยเหรอ?”
“ก็เพราะได้ฟังแกอวดเรื่องครอบครัวอันน่าภูมิใจจนหูชามาแล้วล่ะนะ”
แม้ว่ารูปลักษณ์ของ คาร์ลจะดูเถื่อนๆ แต่เอาจริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ทุ่มเทกับครอบครัวของตัวเองเอามากๆ และเขามันจะเอามันไปอวดให้คนอื่นฟังในวงเหล้าอยู่ตลอด และนาโอมิเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของมัน
“นี่คือ ฟรานซ์ ลูกชายคนที่สามของข้าเอง ดูเหมือนข้าเลยใช่มะ ถึงจะยังเป็นนักผจญภัยมือใหม่อยู่ แต่มันมีพรสวรรค์ทางเวทมนต์ด้วย ดูแล้วท่าทางจะมีอนาคตไกลเลยแหละ”
“ยะ…ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อ ฟรานซ์ ครับ”
คาร์ล ดัน ฟรานซ์ ออกมาด้านหน้าแล้วแนะนำตัวให้เขา ฟรานซ์นั้นลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะโค้งคำนับให้กับนาโอมิ
“โชคดีแล้วล่ะที่เธอไม่เหมือนคาร์ลน่ะ จะว่าไป วันนี้มีธุระอะไรเหรอ? ”
“ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านหน้าทางเข้าป่าเขาฝากจดหมายมาให้น่ะ นอกจากนั้นตอนนี้ นีน่ากำลังป่วยหนักอยู่แล้วข้าจำได้ว่าเจ้ามีความรู้เกี่ยวกับโรคมากกว่าหมอทั่วไปอยู่ใช่ไหม ขอร้องล่ะ ได้โปรดช่วยรักษา นีน่าที”
พอได้ยินคำขอของคาร์ล นาโอมิก็ขมวดคิ้ว
นีน่า เหรอ…ฉันเองก็ติดค้างเธออยู่หลายๆเรื่องด้วยสิ
เอาจริงๆแล้วฉันก็ไม่อยากจะให้ใครเข้าไปเห็นในบ้านก็เถอะ แต่ นีน่า เมียของคาร์ลนั้นเป็นหนึ่งในบรรดาเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่ ปฏิบัติต่อนาโอมิอย่างอ่อนโยนในขณะที่คนอื่นๆหลีกเลี่ยงเธอเพราะแผลไฟไหม้บนใบหน้า
นอกจากนั้นนาโอมิเองก็เคยติดหนี้บุญคุณกับเธอ ในตอนที่ยังเป็นนักผจญภัยอยู่อีกด้วย ดังนั้นเธอจึงอยากที่จะช่วย นีน่าให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
“เข้าใจละ ถ้าเพื่อ นีน่า ละก็มันก็ช่วยไม่ได้ละนะ ก่อนอื่นเลยฉันอยากจะฟังเกี่ยวกับอาการของเธอก่อน เข้าไปในบ้านเลย เดี๋ยวฉันจะชงชาให้ ”
พอบอกทั้งสองคนแบบนั้นนาโอมิก็เริ่มเดินเข้าไปในบ้าน
“โทษทีนะ ช่วยได้มากเลย เอ้า ฟรานซ์ เราก็เข้าไปกันเถอะ”
“อื…อืม”
เมื่อพวกเขาตามนาโอมิเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็เริ่มมองไปรอบๆแล้วก็ต้องประหลาดใจไปกับความกว้างของมัน
อย่าเอาแต่จ้องเข้าไปในบ้านของคนอื่นแบบนั้นสิ มันเสียมารยาทนะ
พอนาโอมิบ่นแบบนั้น คาร์ลก็หันไปจ้องเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง
“นาราคุ นี่มันบ้านสุดหรูที่ตกแต่งด้วยของแต่บ้านอันหรูหราทั้งๆที่ตั้งอยู่กลางป่าที่ไม่มีใครอยู่เลยสักคนนะ จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไง!”
พอได้ยินคาร์ลตอบกลับมาแบบนั้น นาโอมิก็นึกถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนที่เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้เป็นครั้งแรกขึ้นมาได้
“อย่ามาโวยวายในบ้านของคนอื่นสิ แล้วก็อย่ามามัวยืนเตร็ดเตร่อยู่รอบๆด้วย ไปนั่งรอบนโซฟานู่นไป”
นาโอมิคะยั้นคะยอให้พวกเขาไปนั่งบนโซฟา
ทันได้นั้น สปริงในโซฟาก็แผลงฤทธิ์ออกมาแล้วทำให้พวกเขาตกใจอีกครั้งไปกับความยืดหยุ่นของมัน
ตอนที่ ฟรานซ์ได้ยินว่าเขากำลังจะได้ไปพบกับแม่มดแห่งขุมนรกเขานั้นก็รู้สึกสนใจขึ้นมาแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวไปด้วย
ข่าวลือเกี่ยวกับนาโอมิที่เขาได้ยินมาจนถึงตอนนี้นั้น ระบุว่าเธอเป็นแม่มดที่มีใบหน้าอันน่ารังเกียจที่ครึ่งหนึ่งถูกเผาออกไป และเธอยังชื่นชอบการฆ่าเป็นที่สุด เธอเข่นฆ่าคนไปนับพันอย่างไร้ความปราณี เธอควบคุมสัตว์อสูรเป็นจำนวนมาก และยังว่ากันว่าเธอนั้นมีนิสัยที่ดุร้ายและโหดเหี้ยม ถึงขนาดที่ว่าถ้ามีใครกล้าไปท้าทายเธอเข้าล่ะก็ คนพวกนั้นถูกเธอสังหารอย่าแน่นอน
แต่ทว่าพอได้มาพบกับเธอเข้าจริงๆ เข้ากลับพบว่าเธอไม่ได้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย กลับกันเธอดูจะเป็นคนประเภทโฉมงามผู้ฉลาดหลักแหลม นอกจากนั้นชุดที่เธอสวมมันยังดูเย้ายวนแบบแปลกๆอีกด้วย แม้ว่าเธอจะออกอาการไม่พอใจเล็กน้อยตอนที่พูดคุยกับพ่อของเขา นาโอมินั้นกลับดูเหมือนผู้หญิงปรกติทั่วไป และเขาก็ไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเธอจะมีนิสัยอันโหดเหี้ยมอยู่เลย
เอาจริงๆแล้ว นาโอมินั้นไม่ได้อารมเสียแต่อย่างได เธอเพียงแค่กังวลเกี่ยวกับเรื่องของบ้าน และความลับของรูดี้จะรั่วไหลเท่านั้น
หลังจากที่นาโอมิรับจดหมายของผู้ใหญ่บ้านมาจากคาร์ล เธอก็นั่งไขว่ห้างและปรับท่าทางเล็กน้อย ในตอนนั้นเองช่องผ่าข้างของกระโปรงก็เปิดออกมาเล็กน้อย เผยให้เห็นต้นขาของเธอออกมาครู่หนึ่ง
เมื่อพูดถึงกางเกงในของผู้หญิงบนดาวดวงนี้นั้น แบบที่เป็นที่นิยมกันมันจะเป็นประเภทที่ครอบคลุมไปจนถึงกลางน่อง
จะดูไม่ได้นะ!!
ฟรานซ์ ผู้ซังกำลังอยู่ระหว่างเข้าสู่วัยรุ่นนั้นได้มาเห็นต้นขาสุดเย้ายวนของนาโอมิ ทำให้ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขาจึงรีบเบือนสายตามองไปที่อื่นทันที
ในจังหวะที่เขาเบือนหน้าหนีนั้นเอง เขาก็ได้สบตาเข้ากับ สายตาของรูดี้และโซลาริส ที่โผล่หน้าออกมาจากด้านหลังของเคาน์เตอร์ในครัวเพียงแค่ครึ่งเดียว
“……ใครละนั่น?”
เมื่อพวกเขาถูก ฟรานซ์ สังเกตเห็นก็รีบพากันหลบทันที่ แต่พอถูกเจอเข้ามันก็สายไปแล้ว
“………หืม?”
พอนาโอมิใด้ยินเสียงของ ฟรานซ์ เธอก็มองตามแนวสายตาของเขาไป แล้วก็ได้ยินเสียงกระซิบของรูดี้และโซลาริสดังมาจากหลังเคาน์เตอร์ในครัว
“ถูกพบเข้าซะแล้ว เดส”
[เพราะอย่างนี้ดิฉันถึงได้บอกว่าไปหลบในชั้นไต้ดินจะดีกว่าไงล่ะคะ]
“ก็มันอยากรู้นี่นา ช่วยไม่ได้ เดส”
[แต่ถ้าพวกเราถูกตรวจพบเข้ามันจะเป็นปัญหาใหญ่เอานะคะ]
“อันที่จริงมันก็เป็นความผิดของชิโชวที่ปล่อยให้พวกเขาเข้ามานั้นแหละ เดส”
เสียงของพวกเขาดังขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุด นอกจากนาโอมิ และ ฟรานซ์ แล้ว แม้แต่คาร์ลเองก็ได้ยินเหมือนกัน
“นี่ นาราคุ สองคนนั้นใครเหรอ?”
นาโอมิไม่ได้ตอบคำถามของคาร์ล เธอเพียงแค่เอามือกุมหัวแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ
*(TLnote: ต้งแต่วันที่16 เดือนนี้ ยาวไปถึงวันที่12 เดือนหน้า ก็จะต้องไปวิ่งควายทำเควสกิจกรรม(อีกแล้ว) เพราะงั้นอาจจะหายไปสักพัก หรือไม่ก็อัพช้าเอามากๆเลยแหละ)
MANGA DISCUSSION