หลังจากที่ทาเนดะออกไป คิอิจิ ก็เสนออะไรบางอย่างกับชูทาโร่ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้
“อยากให้พวกเราตอบแทนอะไรบ้างไหม? แต่ขอเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ให้กลับไปแนวหน้าแล้วกันนะ”
คิอิจิพูดพลางเกาหน้าผาก โยชิโนะก็ใช้ศอกกระทุ้งสีข้างเขาพลางพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ชูทาโร่คุงคงไม่เสนออะไรไร้เหตุผลแบบนั้นหรอกน่า”
“งั้นผมอยากได้ข้อมูลแนวหน้าที่พวกคุณรู้ครับ”
ชูทาโร่ตอบกลับไปโดยไม่ลังเล โยชิโนะมองตอบชูทาโร่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“หรือว่า…นายตั้งใจจะไปแนวหน้าจริงๆ เหรอ?”
“ครับ! เป้าหมายของผมคือการเคลียร์เกม!”
ชูทาโร่ประกาศด้วยดวงตาที่แน่วแน่ น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินจากดวงตาของโยชิโนะ
“? คุณโยชิโนะ?”
“อ๊ะ…ทำไมนะ…ขอโทษนะ พอดีนายคล้ายกับคนที่ฉันเคยชื่นชมมากเลยน่ะ”
โยชิโนะพูดพลางรีบเช็ดน้ำตา เธอหวนนึกถึงชายหนุ่มที่เคยส่องประกายแห่งความหวังให้กับผู้คนท่ามกลางความสับสนอลหม่านในวันที่โลกนี้กลายเป็นเกมมรณะ
“คิดดูแล้ว พวกเราก็ได้รับกำลังใจจากคุณวาตารุมาจนถึงตอนนี้เลยนะ”
“พูดอะไรน่ะ พวกเราต้องพยายามต่อไปในฐานะสมาชิกกิลด์เครสต์ต่างหาก”
หลังจากพูดคุยกันได้สักพัก ทั้งสองก็หันกลับมาหาชูทาโร่และเริ่มเล่าสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับแนวหน้า
“ตอนนี้แนวหน้ามีฐานอยู่ที่ ปราการเหล็กแซนด์ลาส ซึ่งอยู่ห่างออกไปเจ็ดเขตจากที่นี่ คาดว่าเลเวลเฉลี่ยของมอนสเตอร์แถวนั้นอยู่ที่ 20-40 แต่พวกเราก็รู้สึกว่าถึงขีดจำกัดแล้ว ตอนนี้ที่กำลังบุกอยู่คือ หอคอยใหญ่ชิโอรา ซึ่งอยู่ห่างไปอีกหนึ่งเขต”
คิอิจิส่งแผนที่ที่สำรวจแล้วหลายฉบับให้ชูทาโร่ และอธิบายต่อพลางยืนยันว่าชูทาโร่เข้าใจดี?
“หอคอยใหญ่ชิโอราศัตรูหลักเป็นมอนสเตอร์ประเภทนก แต่ลักษณะพิเศษของมอนสเตอร์ประเภทนกคือมีความเร็วและระยะโจมตีที่น่ารำคาญซึ่งจะโจมตีถึงแนวหลังได้หากไม่มี Tank ที่มีฝีมือสูง พวกเราทราบว่ามีคนเสียชีวิตจำนวนมากที่นี่และการบุกจึงหยุดชะงักอยู่ อ้อ Tank ในปาร์ตี้ของพวกเราก็ตายที่นั่นเหมือนกันนะ”
คิอิจิพูดพลางจิบกาแฟ โยชิโนะก็พูดต่อจากเขา
“การจะเข้าหอคอยใหญ่ชิโอราได้นั้นต้องใช้กุญแจ ฉันคิดว่าจากนี้ไปคงไม่สามารถข้ามพื้นที่ได้แล้วล่ะ”
“กุญแจหาได้จากที่ไหนครับ?”
ชูทาโร่นึกถึงตอนที่เขาไปเขาวงกตใต้ดินเซรุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อทำลายบาเรียของภูติอัคคีที่เหมืองหินหนามพร้อมกับเอลลอร์ด
ซุ้มประตูหินที่นำไปสู่เขาวงกตใต้ดินเซรุถูกล็อกไว้ ชูทาโร่คาดเดาว่าหอคอยใหญ่ชิโอราซึ่งเป็นแนวหน้าก็คงถูกล็อกในลักษณะเดียวกัน
สมกับที่เป็นอดีตทีมแนวหน้าจริงๆ
โยชิโนะมีคำตอบสำหรับคำถามนั้นด้วย
“การจะได้กุญแจมา ส่วนใหญ่แล้วคือต้องรับภารกิจบางอย่างที่ถูกกำหนดขึ้นโดยไอเท็มที่มีชื่อว่า ‘ของมีค่า’ ที่ได้จากการเอาชนะบอสของพื้นที่ก่อนหน้านี้ แล้วจะได้เป็นรางวัลเมื่อทำภารกิจสำเร็จ ตัวอย่างเช่น พอไปกำจัดสัตว์ร้ายที่บุกรุกไร่นา ก็ปรากฏว่าเป็นมอนสเตอร์หลงฝูงจากหอคอยใหญ่ชิโอรา…จากนั้นก็ได้รับมอบหมายให้กำจัดมอนสเตอร์ในหอคอยและได้รับกุญแจมา”
(เข้าใจแล้ว) ชูทาโร่พยักหน้า คิอิจิเริ่มพูดว่า “แล้วก็มีอีกเรื่องที่อยากให้จำไว้”
“ตอนนี้มีกิลด์สามแห่งที่อยู่ในแนวหน้าในฐานะทีมบุกเบิก และของมีค่าที่ได้จากการพิชิตบอสจะถูกแบ่งปันในคลังกิลด์ ดังนั้นคุณควรเข้าร่วมกิลด์มากกว่าทำคนเดียว!”
“บ้า! ในยุคนี้ไม่มีใครไปแนวหน้าคนเดียวหรอก!”
“ก็จริงนะ…”
ชูทาโร่มองการโต้ตอบของทั้งสองอย่างยิ้มๆ ทั้งสองสังเกตเห็นแล้วก็ผงะ คิอิจิเลยแกล้งทำเป็นพูดเสียงดังขึ้นเพื่อกลบเกลื่อน
“มีกิลด์ทั้งหมดสามกิลด์ แต่ถ้าตราสัญลักษณ์เข้าร่วมด้วยก็จะเป็นสี่กิลด์…คุณควรจำชื่อและลักษณะเด่นของพวกมันไว้ ไม่เสียหายหรอก”
“อ๊ะ นั่นคือกิลด์ใหญ่ที่เคยมีมาตั้งแต่สมัย β ใช่ไหมครับ?”
“ใช่แล้ว มี ‘เอจิส (Aegis), ‘นักผจญภัยแห่งสนธยา’ (Twilight Adventurers), ‘ยามาตะ’ (Yamata) และ ‘เครสต์’ (Crest) ผมคิดว่าจากนี้ไปสี่กิลด์นี้จะบุกเบิกแนวหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้าจะไปรวมตัวกับแนวหน้า กิลด์เครสต์มีแผนจะจัดส่งประจำเดือนละครั้ง ดังนั้นไปเดือนหน้าก็ได้นะ”
ชื่อที่ชูทาโร่คุ้นเคยเรียงรายอยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอจิส และ ยามาตะ เป็นกิลด์ที่มีชื่อเสียงพอๆ กับกิลด์ตราสัญลักษณ์ในสมัยนั้น และชูทาโร่ก็คุ้นเคยกับชื่อเหล่านี้จากการอ่านเว็บไซต์แนะนำกลยุทธ์ต่างๆ
“พวกเราเคยอยู่ใน นักผจญภัยแห่งสนธยา ที่นั่นเป็นกิลด์ที่ดำเนินไปอย่างมั่นคง ไม่เสี่ยงทำอะไรบุ่มบ่าม และมีมารยาทดีด้วย เลยอยู่สบาย ถ้าจะสังกัดกิลด์ ก็แนะนำให้เข้าร่วมเครสต์ต่อไป หรือไม่ก็ นักผจญภัยแห่งสนธยานะ…”
คิอิจิพูดพลางดื่มกาแฟจนหมด
“ข้อมูลที่พวกเรารู้ก็ประมาณนี้แหละ”
“มีประโยชน์มากเลยครับ!”
คิอิจิลุกขึ้นยืนอย่างพึงพอใจ ตามด้วยโยชิโนะที่ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“พวกเราก็คงต้องไปแล้วล่ะ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ—”
คิอิจิยื่นมือให้ชูทาโร่เหมือนตอนที่เจอกันครั้งแรก เมื่อชูทาโร่จับมือเขาแน่น คิอิจิก็พยักหน้าอย่างมีความสุข
“ชูทาโร่คุง…ความตั้งใจที่จะเป็นจอมอัญเชิญเปลี่ยนไปไหม?”
เมื่อโยชิโนะถาม ชูทาโร่ก็ตอบโดยไม่ลังเล
“แน่นอนครับ ไม่เปลี่ยนหรอก”
“งั้นเหรอ งั้นก็ระมัดระวังตัวให้มากนะ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะกลายเป็นพวกพ้องได้ แต่เดิมแล้วพวกเขาก็คือ ‘มอนสเตอร์ศัตรู’ นั่นแหละ”
ชูทาโร่ฟังคำเตือนของโยชิโนะเงียบๆ หลังจากนั้นคิอิจิและโยชิโนะก็โบกมือลาเป็นครั้งสุดท้าย แล้วหายไปจากร้าน
MANGA DISCUSSION