ชูทาโร่นั่งลงบนเก้าอี้ใหม่เอี่ยมตัวหนึ่งในบรรดาเก้าอี้เจ็ดตัวที่เรียงรายอยู่รอบโต๊ะขนาดมหึมาที่ทำเป็นรูปแผนที่โลก เขารู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก
“สร้างดันเจี้ยน…ผมไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ” เอลลอร์ด พ่อบ้านในชุดทักซิโด้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะพึมพำขณะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ
แม้จะไม่ตั้งใจ แต่ชูทาโร่ก็ได้ทำให้จอมมารทั้ง 6 คนที่อาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเขา เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจอย่างน้อยที่สุด เขาจึงเล่าเรื่องสกิลที่เขาใช้ให้ทั้งสามคนฟัง
“แน่นอนว่าที่นี่คือชั้นใต้ดิน…นายเหนือหัวคะ ท่านใช้ทักษะนั้นที่ตำแหน่งใดบนแผนที่นี้อย่างนั้นหรือคะ?” บัมปี้ เด็กสาวผมขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ถาม
ชูทาโร่ลุกขึ้นยืนและมองไปยังแผนที่โลกอันกว้างใหญ่
เขาหวนนึกถึงบทความแนะนำเกม Beta Tester Yoritsura Goes! ที่เขาเคยอ่านอย่างใจจดใจจ่อในช่วงที่รอให้ไอดีหลัก Eternity ของเขาสามารถใช้งานได้
ผู้เข้าทดสอบเบต้าเทสต์สามารถบุกเบิกพื้นที่ได้ 9 แห่งในหนึ่งเดือน เริ่มจากเมืองใหญ่อาริสโทราสซึ่งเป็นเมืองเริ่มต้น ได้แก่ เหมืองอิเลียนา, ประตูน้ำอูร์, เมืองเอมาโร, โอแรมออร์สล็อต, เมืองปราสาทคาโรอา, สุสานคิเรน, ซากปรักหักพังคุริซิลา และถ้ำเคนรอนขนาดใหญ่
นอกเรื่องนิดหน่อย แต่ชูทาโร่เพิ่งตระหนักได้ในตอนนั้นว่าเขามีความจำที่ดีเลิศในสิ่งที่เขาสนใจ
ในการวิเคราะห์เบื้องต้น มีการคาดการณ์ว่าแผนที่หลักของ Eternity นั้นดูเหมือนจะถูกตั้งชื่อตามลำดับตัวอักษรเสียง “あ い う え お” โดยยิ่งพื้นที่ที่เสียงใกล้ตัว ” ん ” มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยู่ไกลจากจุดเริ่มต้นมากขึ้นเท่านั้น—และถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีระดับความยากสูง
ในเว็บบอร์ดกลยุทธ์ มีการแสดงความคิดเห็นมากมายที่เยาะเย้ย mother AI ซึ่งเป็นสุดยอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยกล่าวว่า “มันก็สมเหตุสมผลอยู่หรอก แต่ไอเดียมันเรียบง่ายเกินไป”
“ที่ที่ผมอยู่คือ…เมืองใหญ่อาริสโทราส” ชูทาโร่กล่าวพร้อมชี้ไปยังอาริสโทราสที่เขาเพิ่งหาเจอ และสังเกตปฏิกิริยาของทั้งสามคน
ชูทาโร่หวาดระแวดทั้งสามคน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกว่าที่นั่นคือ “เมืองเริ่มต้น” เพราะเขารู้สึกว่าเขากำลังกุมชะตาชีวิตของผู้คนจำนวนมากมายมหาศาลไว้ในมืออยู่ในขณะนี้
ธีโอดอร์ อัศวินผมดำเอียงศีรษะ
“อาริสโทราสงั้นเหรอ”
“ปะ…เปล่านะครับ?” ชูทาโร่ที่จิตอ่อนอยู่แล้วจากการโกหกเล็กน้อย แสดงอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด กระนั้นธีโอดอร์ก็ไม่ได้แสดงท่าทีจะซักไซ้อะไรเพิ่มเติม เขากลับชี้ไปยังจุดหนึ่งบนแผนที่
“ที่นี่คือดินแดนแห่งปีศาจร้ายรอส มาโอร่า ที่ส่วนลึกที่สุดของที่นี่คือปราสาทรอส มาโอร่าที่เราอยู่ จากที่นี่ไปอาริสทราสก็…”
เขาเลื่อนนิ้วไปเรื่อยๆ แล้วหยุดลงที่จุดหนึ่งซึ่งค่อนข้างไกล
มันเป็นระยะทางเกือบสุดขอบแผนที่
“ไกลเกินไป” ธีโอดอร์กล่าวเช่นนั้นพร้อมกับมองชูทาโร่ ดวงตาสีทองของเขาดูเหมือนจะมองทะลุทุกสิ่ง
แม้ว่าชูทาโร่จะไม่ได้โกหกจริงๆ แต่เขาก็รู้สึกอยากจะเอ่ยคำขอโทษขึ้นมาในทันที
ความจริงที่ไม่มีใครรู้คือ…
ช่วงเวลาที่เกมมรณะได้เริ่มต้นขึ้นและช่วงเวลาที่ชูทาโร่ใช้ทักษะของเขาเกิดขึ้นพร้อมกันโดยไม่มีความคลาดเคลื่อนแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว!
ผลลัพธ์คือเกิดความปั่นป่วนของพิกัดครั้งใหญ่ ทำให้เชื่อมต่อกับแผนที่ที่ยังไม่ได้เปิดตัว ปราสาทรอส มาโอร่า ซึ่งได้มีกำหนดการจะเปิดตัวในอนาคต
แน่นอนว่านั่นเป็นสถานการณ์ที่แม้แต่ชูทาโร่ เหล่าจอมมาร หรือแม้แต่ mother AI ที่วางแผนทุกอย่างไว้ก็คาดไม่ถึง
“แม้ว่ารายละเอียดสกิลของท่านจะไม่ตรงกัน แต่เรื่องที่พวกเราชาวรอส มาโอร่าได้พบกับท่านที่มาจากอาริสโทราสก็ถือเป็นความจริง ยิ่งไปกว่านั้น สัมผัสพลังอันแข็งแกร่งที่ซิลเวียรู้สึกได้นั้นอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกันก็เป็นได้” เอลลอร์ดกล่าวเสริมอย่างนุ่มนวลพร้อมกับเปิดหนังสือปกขาวเล่มหนา
“นายเหนือหัวครับ ทักษะเฉพาะตัวที่เรียกว่า ‘สร้างดันเจี้ยน’ นี้ ยังสามารถทำอะไรได้อีกบ้างหรือครับ?”
สายตาทั้งสามคู่จับจ้องมาที่เขา ชูทาโร่ผู้ซื่อตรงเรียกหน้าต่างเมนูขึ้นมา และเปิดส่วนที่ชื่อว่า “เมนูดันเจี้ยน” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาใช้
คะแนนสะสม: 1000 P
○ พัฒนา
○ ก่อสร้าง
○ อัญเชิญ
ชูทาโร่ตัดสินใจว่าการก่อสร้างและการอัญเชิญดูเหมือนจะมีผลลัพธ์ทันทีและน่าสนใจ เขาเลือกส่วน “ก่อสร้าง” และใช้ 1 คะแนนเพื่อสร้าง “หิน”
โครม!!!
พร้อมกับเสียงดังสนั่น หินก็งอกขึ้นมาจากพื้น กระแทกเก้าอี้ตัวหนึ่งกระเด็น
เก้าอี้แตกละเอียดจากการกระแทก
ชูทาโร่ยังคงแข็งทื่อ ปลายนิ้วที่สั่งการยังคงค้างอยู่
“แค่เวทมนตร์ธาตุดินงั้นเท่านั้นเองเหรอ?” บัมปี้ถามด้วยความสงสัย
“ไม่เลยครับ นี่มันสุดยอดเลยต่างหาก…!” เอลลอร์ดอุทานด้วยความประทับใจขณะมองมายังที่หิน ตรงกันข้ามกับบัมปี้ที่ดูไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่
ส่วน “สิ่งกีดขวาง” นั้นมีจุดประสงค์ตามชื่อ คือสร้างสิ่งกีดขวางภายในดันเจี้ยน ไม่มีผลพิเศษอื่นใดนอกจากการปิดกั้นเส้นทาง ดังนั้นจึงใช้คะแนนน้อย โดยปกติแล้ว 1000 คะแนนคือจำนวนที่ได้รับเริ่มต้น
“บัมปี้ ปราสาทแห่งนี้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด สร้างขึ้นจาก ‘แร่โคซิด’ ซึ่งไม่อาจถูกแทรงแซงจากเวทมนตร์หรือทักษะใดๆ ได้ทั้งสิ้นนะครับ”
“! จริงด้วย” บัมปี้พยักหน้าอย่างเข้าใจผิดๆ ขณะที่เอลลอร์ดเขียนอะไรบางอย่างลงในหนังสือปกขาว และมองหินด้วยท่าทีแปลกๆ
ในขณะที่ชูทาโร่กำลังวุ่นวายอยู่กับการหาวิธีลบสิ่งกีดขวาง และรู้สึกกระวนกระวายใจที่ทำเก้าอี้สำคัญของใครบางคนพัง ธีโอดอร์ก็ชักดาบใหญ่ที่อยู่บนหลังออกมา
ดาบนั้นประดับประดาด้วยลวดลายละเอียด และมีใบดาบที่ดูน่าสะพรึงกลัว
ไอน้ำสีดำคล้ายควันลอยขึ้นมาจากใบดาบ ดูเหมือนมันกำลังเปล่งแสงอย่างน่าประหลาด
“ฮึ่ก…!”
ตายแน่ ความคิดนั้นยังไม่ทันผุดขึ้นในหัว เสียงฟันดังสนั่นพร้อมกับหินที่ถูกสับจนละเอียดเป็นผุยผง เหลือไว้เพียงรูปร่างของเก้าอี้เท่านั้น
ธีโอดอร์นั่งลงบนเก้าอี้ของตนเองด้วยท่าทีพึงพอใจ
ดูเหมือนเขาจะแค่แกะสลักเก้าอี้
“นายเหนือหัวครับ มีอะไรอีกไหมครับ?”
“เอ๊ะ อ๊ะ ครับ” ชูทาโร่ได้สติจากเสียงของเอลโร้ด ขยับนิ้วที่หยุดนิ่ง และเลือกส่วน “อัญเชิญ” ในครั้งนี้
○ สไลม์ Lv.001 [5P] ฟรีครั้งแรก!
○
○
○
ชูทาโร่เข้าใจว่าสไลม์ที่อยู่บนสุดคือมอนสเตอร์ตัวแรกที่สามารถอัญเชิญได้ มันเป็นมอนสเตอร์เริ่มต้นทั่วไปในเกม RPG
การสร้างดันเจี้ยนเป็นสกิลที่หาได้ยากอย่างยิ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อล่อสิ่งมีชีวิตให้หลงเข้ามาในดันเจี้ยน แล้วฆ่าพวกมันด้วยมอนสเตอร์และกับดักที่วางไว้ เพื่อรับค่าประสบการณ์และคะแนนสะสมสำหรับการขยายขนาดของดันเจี้ยน
ในช่วงแรก สิ่งที่สามารถติดตั้งได้มีเพียงสไลม์และกับดักที่ระดับต่ำ แต่เมื่อมีจำนวนศพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งต่างๆ ก็จะถูกปลดล็อกมากขึ้น และดันเจี้ยนก็จะเติบโตขึ้นจนยากต่อการพิชิตมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากผู้ครอบครองสกิลถูกสังหารลง ดันเจี้ยนก็จะพังทลาย และคะแนนสะสมรวมถึงฐานที่มั่นก็จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ดังนั้นในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่กลายเป็นเกมมรณะ การรอรับศัตรูด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเริ่มต้นจึงมีความเสี่ยงสูงเกินไป และอาจกล่าวได้ว่าเป็นทักษะที่ไร้ประโยชน์
ชูทาโร่เลื่อนลงไปด้านล่างอย่างไม่ใส่ใจ
เขาทำเช่นนั้นโดยพิจารณาว่ามอนสเตอร์ที่สามารถอัญเชิญได้อาจไม่ได้เรียงตามลำดับจากบนลงล่าง แต่เรียงตามตัวอักษร เมื่อเขาเลื่อนลงไปจนสุด เขาก็ได้เห็นส่วนที่ไม่น่าเป็นไปได้
○
○
○ เอลลอร์ด Lv.120 [0P]
○ การารัส Lv.120 [0P]
○ ซิลเวีย Lv.120 [0P]
○ ธีโอดอร์ Lv.120 [0P]
○ เบอร์ทรานด์ Lv.120 [0P]
○ บัมปี้ Lv.120 [0P]
“หนึ่งร้อย…!”
ความตกใจทำให้เขาเผลอส่งเสียงออกมา ชูทาโร่รีบเอามือปิดปาก
เขาจำได้ว่าในเว็บไซต์กลยุทธ์ที่เขาเคยอ่าน มีการระบุว่าความแตกต่างของระดับใน Eternity นั้นถือว่ามากผิดปกติเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ในอดีต
ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นระดับ 10 จำนวนสิบคนไม่อาจเทียบได้กับผู้เล่นระดับ 20 เพียงคนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณค่าประสบการณ์ที่จำเป็นในการเพิ่มระดับก็ค่อนข้างมาก แม้ว่ามันจะขึ้นอยู่กับอาชีพ แต่ผู้เล่นระดับสูงบางคนก็รายงานว่าไม่สามารถเพิ่มระดับได้แม้แต่ระดับเดียวจาก 40 ขึ้นไป แม้จะใช้เวลาทั้งวันในวันสุดท้ายของการทดสอบเบต้าก็ตาม
เมื่อพิจารณาถึงดูลาฮาน เป็นบอสระดับ 30 ที่มีคุณสมบัติเป็นอมตะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีปาร์ตี้ที่มีระดับ 31 ขึ้นไป และอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของสมาชิกในปาร์ตี้ต้องมีอาวุธที่แพ้ทางมัน จึงจะสามารถต่อสู้ได้
ด้วยผู้ทดสอบเบต้าเพียง 100 คน การรวบรวมปาร์ตี้หกคนที่มีเงื่อนไขดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการพิชิตดูลาฮานในสุสานคิเลน จึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง ไม่น่าแปลกใจที่การสำรวจจึงหยุดชะงักหลังจากค้นพบพื้นที่อีกเพียงสองแห่ง
ชูทาโร่เลือกสไลม์และอัญเชิญมันออกมาโดยไม่พูดอะไร การอัญเชิญครั้งแรกนั้นฟรีตามโบนัสเริ่มต้น คะแนนสะสมของเขาจึงไม่ลดลง
วงเวทสีฟ้าขนาดเล็กปรากฏขึ้น จากนั้นวงเวทก็หมุนช้าๆ และวัตถุโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นตรงกลาง เคลื่อนไหวอย่างกระตือรือร้น
ทั้งสามจอมมารก้มมองสไลม์ตัวนั้น
“สไลม์ทั่วไปสินะครับ” เอลลอร์ดกล่าว
“แต่เจ้านี่ก็เหมือนท่านเลยค่ะ สกิลเฉพาะตัวของฉันใช้ไม่ได้ผลกับมัน” บัมปี้สังเกต
ชูทาโร่กำลังหลีกหนีจากความเป็นจริงด้วยการลูบหัวสไลม์ สไลม์เองก็ดูเหมือนจะพอใจที่เจ้านายลูบมัน มันขยับร่างกายที่เป็นวุ้นไปมาอย่างมีความสุข
MANGA DISCUSSION