อยู่กับซินเหม่ยอิงเเล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวแปลกๆ ไม่มีงานอดิเรกหรือความเชี่ยวชาญพิเศษอะไร แล้วก็ไม่ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เรียกได้ว่าไร้ประโยชน์
เหลยถิงเองก็ฟังอยู่ตลอด ได้ยินเฉินซู่ลำบากใจ เขาก็เทน้ำให้เหลยว่านจวินแล้วฟังเฉินซู่ตอบต่อไป
เมื่อเฉินซู่พูดเรื่องมหาวิทยาลัยที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ซินเหม่ยอิงก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
"แม่คะ เที่ยงแล้วทำอะไรทานดีคะ หนูไปดูในครัวจะได้ไหมคะ?" เฉินซู่เปลี่ยนเรื่อง
ซินเหม่ยอิงพูดชื่ออาหารก่อนจะถาม: "เธอชอบกินอะไรงั้นเหรอ ฉันจะให้ที่ครัวทำให้"
"อาหารที่พูดมา หนูชอบหมดเลยค่ะ เมื่อวานเหลยถิงบอกอยากทานขนมรากบัว เดี๋ยวหนูจะไปทำให้เขาก่อนนะคะ" เฉินซูลุกขึ้น
"เธอจะไปทำเองเหรอ?" ซินเหม่ยอิงรู้สึกประหลาดใจ
เฉินซู่ส่งเสียงตอบรับ "แม่ดูพวกเขาเล่นหมากรุกที่นี่แหละค่ะ หนูไปห้องครัวเดี๋ยวเดียวก็ออกมาแล้วค่ะ"
ขนมรากบัวเป็นสิ่งที่แม่ของเฉินซู่ชอบทาน รากบัวสองแผ่นประกบเนื้อสับแล้วห่อด้วยแป้งแล้วทอดในน้ำมัน มีกลิ่นหอม รสชาติทั้งอร่อยทั้งกรอบ เมื่อวานเฉินซู่คิดถึงแม่มากก็พูดถึงขนมนี้กับเหลยถิง เขาก็บอกว่าอยากทาน
ทำขนมรากบัวขึ้นมาใหม่ เฉินซู่นึกถึงสิ่งที่แม่พูดตอนที่เธอกำลังจะเสีย เธอบอกว่าให้ใช้ชีวิตให้ดีและปล่อยความเกลียดชังไป
จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? เธอไม่ใช่นักบุญ จะไม่เกลียดคนที่ทำร้ายเธอได้ยังไงล่ะ?
เธอจะเกลียด จะแก้แค้น นี่คือสิ่งที่เธอควรทำ
ซินเหม่ยอิงมองเฉินซู่ที่กำลังทำอาหารอยู่ข้างนอก ดูเชี่ยวชาญและเก่งมาก จู่ๆ เธอสงสัยว่าไม่ใช่ลูกสาวของเฉินจินซานเหรอ? ทำไมถึงทำอย่างอื่นไม่เป็นแต่ทำอาหารเป็นล่ะ? แม้ว่าตระกูลเฉินจินซานจะไม่ดีเท่าตระกูลเหลยอย่างพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ให้เงินเลี้ยงดูลูกๆหรอกมั้ง
เหลยว่านจวินแพ้อีกแล้ว
"ว่านจวิน คุณไม่คิดว่าลูกสะใภ้ของเราแปลกไปหน่อยเหรอ?" ซินเหม่ยอิงพูดขึ้น
"ลูกสะใภ้เนี่ยนะแปลก? ฉันว่าลูกชายเธอสิแปลก จะเอาแบบนี้เหรอ จะเล่นอย่างนี้ใช่ไหม" เหลยว่านจวินมองหลี่ถิงอย่างดุเดือด
แต่เหลยถิงก็ไม่ขยับตัว ดื่มชาช้าๆ เพื่อสงบสติอารมณ์
"ถิงเอ๋อร์ ลูกคงไม่ได้วันๆ ขอให้เธอทำอาหารให้ใช่ไหม?" ซินเหม่ยอิงถามลูกชายของเธออีกครั้ง
เหลยถิงขานรับเพื่อขจัดข้อสงสัยของซินเหม่ยอิงอย่างสมบูรณ์
ซินเหม่ยอิงพึมพำ: "ไม่น่าล่ะ"
ความอยากรู้เกี่ยวกับเฉินซู่ก็หายไป และก็เห็นด้วยกับที่สามีของเธอพูด "ลูกชายคุณสิแปลก"
เมื่อรับประทานอาหาร เหลยหยาที่เที่ยวอยู่ข้างนอกตลอดทั้งเช้าก็กลับมา หลังจากทักทายก็ทานข้าว เธอมองเฉินซู่ตำแหน่งของเฉินซู่
เฉินซู่รู้ "ฉันจะไปตักน้ำซุปนะ"
ทันทีที่เธอลุกขึ้น เหลยหย่าก็เข้าไปนั่งข้างเหลยถิงและพูดอย่างสนิทสนม: "พี่คะ ทำไมพี่ไม่บอกฉันว่าจะกลับมาทานข้าววันนี้ล่ะ ถ้าฉันรู้ก็คงไม่ไปข้างนอกหรอก"
"เธอหยุดสัปดาห์ละหนึ่งวัน อยากออกก็ออกสิ" ท่าทีของเหลยถิงที่มีต่อเหลยหย่ายังคงเรียบเฉย
เหลยหย่าไม่ค่อยชอบใจ "แต่คนเขาอยากอยู่กับพี่มากกว่านี้นี่นา ตั้งแต่พี่ย้ายออกไป เวลาเราสองพี่น้องที่ได้ใช้เวลาร่วมกันก็น้อยลงเรื่อยๆ ไม่เหมือนตอนเด็กเลยสักนิดที่พี่ชอบพาฉันไปเที่ยว แถมยังพาฉันไปเรียนกับพี่ด้วย"
เมื่อเฉินซู่กลับมาพร้อมกับซุป ก็บังเอิญได้ยินคำพูดของเหลยหย่าพอดี
เหลยถิงเลี่ยงเหลยหย่าและพูดกัเฉินซู่: "ยังไม่เอาซุปมาให้ฉันอีก"
เฉินซูตอบรับ เหลยหย่าก็หลีกทางอย่างไม่พอใจ เฉินซู่กลับไปนั่งตำแหน่งนั้นอีกครั้ง รับแรงกดดันมหาศาลอย่างอิจฉาจากเหลยหย่า
"เสี่ยวหย่า ลูกลองชิมอันนี้สิ พี่สะใภ้ลูกทำเลยนะ" ซินเหม่ยอิงคีบขนมรากบัวหนึ่งชิ้นให้เหลยหย่า
เหลยหย่าหยิบมันออกมาอย่างไม่พอใจแล้วโยนลงบนโต๊ะ "นี่อะไรกัน ทำคนไม่อยากอาหารเลย"
ใจเฉินซู่สั่นทันที นั่นเป็นอาหารที่แม่ของเธอชอบทานตลอด เธอโยนทิ้งแบบนี้ แถมพูดอย่างนั้นช่างให้อภัยไม่ได้
"เสี่ยวหย่า ลูกหยาบคายเกินไปแล้วนะ พี่สะใภ้ลูกทำตั้งนาน เราก็ทานกันอย่างอร่อย ลูกทำเสียของหมด ขอโทษพี่สะใภ้เลยนะ" ซินเหม่ยอิงทำหน้าบึ้งและดุ
เหลยหย่าสนใจที่ไหนกัน "พวกแม่พูดว่าอร่อยก็แค่เสแสร้ง หนูแค่พูดความจริง หนูไม่ขอโทษหรอก"
"เสี่ยวหย่า!" ซินเหม่ยอิงที่อยู่ตรงกลางรู้สึกลำบากใจมาก
เฉินซูมองขนมรากบัวที่ถูกเขาโยนทิ้งไป เธอยืนขึ้น เดินข้ามไป หยิบขนมรากบัวขึ้นมาแล้วยัดเข้าปาก ซินเหม่ยอิงและเหล่ยหยาต่างก็อึ้ง
"เธอสามารถวิจารณ์ได้ แต่อย่าทิ้งขว้าง เพราะยังไง…" เฉินซูมองเหลยหย่าและพูดเสียงต่ำ "ฉันก็ไม่ได้ทำให้เธอ"
"เธอ…" เหลยหย่าหัวเสีย เธอกล้าดียังไงถึงพูดแบบนี้
ซินเหม่ยอิงรีบหยุดเหลยหย่า "เอาล่ะ พี่ลูกนานๆทีจะกลับมา หรือลูกจะไม่อยากให้พี่ลูกกลับมาแล้วเหรอ?"
เหลยหย่ากลั้นใจไม่โมโหใส่เฉินซู่ แต่เธอกลืนคำนี้ไปไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องจัดการฉินซู่ ถึงเวลาที่เธอจะต้องเตือนว่าอย่าลืมว่าความลับที่ใหญ่ที่สุดยังคงอยู่ในมือของเธอ
เฉินซู่นั่งลง หลังจากนั้นก็ไม่กินอะไรอีกและทานขนมรากบัวที่เหลือจนหมด เธอไม่ยอมให้คนอื่นมาทำให้เสียของ
"ไม่เก็บไว้ให้ฉันสักชิ้นเลยเหรอ ฉันขอให้เธอทำให้ฉันนะ ไม่ได้ทำให้ตัวเองสักหน่อย" เหลยถิงวางตะเกียบลง
เฉินซู่ผงะ เขายังอยากทานอยู่อีกเหรอ?
"เดี๋ยวกลับบ้านแล้วจะทำให้นะ"
เหลยถิงตอบรับ นี่ก็ได้เวลาแล้ว
หลังอาหารกลางวัน เหลยหย่าก็ขวางเฉินซู่ที่ห้องน้ำ
"ตอนนี้เธอกล้าขึ้นนี่ กล้ายั่วโมโหฉันต่อหน้าพ่อแม่เเล้วสินะ?" เหลยหยาเป็นเหมือนนางร้ายที่กลั่นแกล้งคนอื่นด้วยท่าทีหยิ่งผยอง
"เธอทำเกินไปก่อน เธอจะไม่กินเข้าไปก็ได้ แต่ต้องไม่โยนทิ้งขว้าง" เฉินซู่ไม่มีทางยอมแพ้ในเรื่องนี้ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับแม่ เธอไม่มีทางยอมเด็ดขาด
เหลยหย่าไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้เธอจะยังไม่คิดเสียใจ แถมยังกล้าพูดแบบนี้
เธอพูดอย่างโกรธเคือง: "เธอเชื่อไหมว่าฉันจะบอกพี่ชายและพ่อแม่เรื่องอื้อฉาวของเธอได้ตอนนี้"
"ถ้าเธอคิดว่าการทำแบบนี้มันดีต่อเธอก็ทำเลย ถ้าทำแบบนั้น ต่อไปเธอก็ไม่ต้องเข้าใกล้เหลยถิงอีก ฉันจะไม่สร้างโอกาสอะไรกับเธอเลย" เฉินซู่พูดขู่
"เธอ…" เหลยหยากำหมัดแน่น ตั้งแต่เด็กจนโตไม่มีใครกล้าพูดกับเธอแบบนี้ เฉินซู่กล้าดียังไง? เธอกล้าดียังไง…
เพียะ เหลยหย่าตบหน้าเธอก่อนจะแค่นเสียง
เฉินซู่แตะใบหน้า เลียเลือดที่มุมปาก "ระบายอารมณ์แล้วก็ไปซะ ใครก็มีมุมมืด ฉันแค่พูดไม่กี่คำเธอก็ตบฉัน แบบนี้เธอคงพอใจสินะ"
เหลยหย่าเดินออกจากห้องน้ำไปอย่างโกรธจัด
เฉินซู่มองตัวเองในกระจกก่อนยิ้มอย่างขมขื่นและเปิดประตูห้องน้ำอีกครั้ง เธอก็เห็นเหลยถิงอยู่ด้านนอก
"คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่ะ?" เธอก้มหน้าลงและเอาผมปิดหน้าที่ถูกตบ
เหลยถิงเหลือบมองที่ใบหน้าของเธอ "เอาผมออก"
เฉินซู่รีบวิ่งไปข้างหลังเขา "ฉันไม่เป็นอะไร พ่อแม่กำลังนอนกลางวัน เราไปกันเถอะ"
"เธอคิดว่าฉันสนใจเธอเหรอ? ฉันมองหน้าเธอเพื่อดูว่ามือของเสี่ยวหย่าเจ็บหรือเปล่าก็เท่านั้น"
เฉินซู่อึ้งไปเลย…
MANGA DISCUSSION