ตอนที่ 54
ช่วงโฮมรูมในตอนเช้า บนจอโปรเจกเตอร์ที่ฉายขึ้นมานั้น ชื่อของฉันถูกแสดงไว้บนสุดของตารางลำดับคะแนน
「นี่คือผลลัพธ์ของพวกเธอหลังจากจบสองภารกิจ ถือว่าเป็นความสามารถในปัจจุบันก็ไม่ผิด」
ครูที่ยืนอยู่หน้าชั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและเย็นชา
「ตลอดเดือนเมษายนนี้ จะถือเป็นช่วงเวลาแห่งความพยายามโดยอิงจากผลลัพธ์นี้ มองย้อนกลับไปดูสิ่งที่ตัวเองยังไม่มี และสิ่งที่มีอยู่ แล้วเติมเต็มและพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจพิเศษที่จะเริ่มในเดือนพฤษภาคม」
หลังจากคำพูดพวกนั้น โฮมรูมก็จบลง สีหน้าของเพื่อนร่วมชั้นแบ่งออกเป็นสองแบบ—บางคนดูเหมือนจะฮึดสู้ขึ้นมา บางคนก็โล่งใจที่ไม่มีภารกิจใหม่ในตอนนี้
ส่วนฉันคงทำหน้าละห้อยอยู่ เพราะไม่ได้รู้สึกแบบไหนเลย
หากมีภารกิจให้ทำ ก็คงไม่มีเวลามาคิดเรื่องฟุ้งซ่านหรอกนะ…
***
เพราะแช่น้ำนานไปหน่อย เลยรู้สึกวิงเวียนนิด ๆ
ฉันเลยออกมาเดินเล่นในโรงเรียน เพื่อรับลมเย็นยามค่ำคืน
แสงไฟสปอร์ตไลต์ที่ส่องมายังสนาม กับแสงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า ทำให้ท้องฟ้ายามคืนนี้ดูสว่างจนน่าประหลาด
พอนึกขึ้นได้ ฉันก็เริ่มสงสัยว่าโรงเรียนนี้มีชมรมหรือกิจกรรมหลังเลิกเรียนอะไรบ้างไหม—เพราะจำไม่ได้ว่าเคยอ่านในต้นฉบับ
ด้วยความสงสัย ฉันจึงเดินไปที่สนามกีฬา
สนามหญ้ากว้างใหญ่และลู่วิ่งล้อมรอบที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับสนามแข่งขันจริง
ที่นั่น มีเพียงคนเดียวที่กำลังวิ่งอยู่—ยุย
ฉันหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงวอร์มขึ้นมากดดูเวลา
21:36
ค่อนข้างดึกทีเดียวสำหรับการออกมาวิ่ง
ทำไมถึงยังวิ่งอยู่ตอนนี้กันนะ?
…แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดให้ซับซ้อน คงเป็นเพราะต้องการเสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายล่ะมั้ง
เธอกำลังพยายามอยู่ เพื่อจัดการกับปัญหาของตัวเอง
ฉันยืนดูเธออยู่นาน กระทั่งยุยวิ่งเข้ามาใกล้ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เห็นฉันเลย และก็ยังคงวิ่งต่อไป
ถึงจะดูเหนื่อยหอบ ท่าทางหมดแรง และแทบจะลากขาไปข้างหน้า แต่แววตาของเธอกลับเปล่งประกายมีชีวิตชีวา
ฉันเห็นเข้าโดยบังเอิญก็จริง แต่ก็ทำให้เข้าใจว่า—
ยุยนั้น พยายามอยู่เสมอ แม้ในที่ที่ไม่มีใครเห็นก็ตาม
การได้เห็นเธอพยายามเพียงลำพังแบบนั้น ทำให้ฉันคิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
คำว่าควร “ช่วยเหลือ” อะไรนั่น มันเป็นความคิดที่หยิ่งยโสเกินไปจริง ๆ
ราวกับว่าได้ถูกเตือนให้รู้ว่า “นี่แหละ คือสิ่งที่ตัวเอกควรจะเป็น”
มันทำให้เกิดความรู้สึกขุ่นมัวในใจ
ฉันยังคงไม่เห็นด้วย
กลับกัน—ฉันยิ่งไม่อยากเป็นตัวเอกเลยด้วยซ้ำ
เพราะถ้าต้องเป็นตัวเอกแล้วล่ะก็…
ก็จะมีแต่ภาพของความลำบากและความยากลำบากหลังจากเข้าสู่รูทนั้นลอยขึ้นมาในหัว
แล้วจู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่า—
ทั้งฮิเมโนะ ทั้งวาคานะ ฉันก็ “ช่วยเหลือ” พวกเธอมาแล้วเหมือนกัน แต่กลับไม่นึกถึงเลยแม้แต่น้อย
นั่นหมายความว่า ฉันไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องลำบากเลยใช่ไหม?
ก็เป็นการช่วยเหลือเหมือนกัน แต่กลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน
แล้วความแตกต่างนั้นคืออะไรล่ะ?
ทำไมถึงได้กลัวแต่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกัน?
คำถามในหัวมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วมันก็เริ่มกลายเป็นความเครียด
“เอาเถอะ”
ฉันหันกลับไปมองยุย ที่ยังคงไม่หยุดวิ่งอยู่
ทั้งที่ดูเหนื่อยแทบหมดแรงแล้ว แต่ก็ยังคงพยายามวิ่งต่อไป
เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนั้น ฉันก็รู้สึกแน่ใจว่า—
การที่ฉันอยากจะให้กำลังใจเธอแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องผิดแน่นอน.
MANGA DISCUSSION