ตอนที่ 42
เมื่อไปถึงห้องสมุด ฉันก็เปิดผ้าม่านตามที่วาคานะบอก แล้วก็เห็นกระดาษปริศนาติดอยู่ที่หน้าต่าง
『จงย้ายเส้นของตุ๊กตาที่มีแต่หัวใหญ่ แล้วเติมวงกลมลงไป ปริศนาถัดไปอยู่ตรงนั้น』
ในเกมไม่มีปริศนาแบบนี้เลย
หากไม่มีวาคานะช่วย ฉันคงไม่มีทางแก้ได้แน่
ฉันจึงหยิบอุปกรณ์ขึ้นมาแล้วติดต่อหาวาคานะ
“เจอแล้วล่ะ ปริศนา”
“จริงเหรอ? เนื้อหาว่ายังไง?”
“มันเขียนว่า ‘จงย้ายเส้นของตุ๊กตาที่มีแต่หัวใหญ่ แล้วเติมวงกลมลงไป ปริศนาถัดไปอยู่ตรงนั้น’ น่ะ”
“รีบไปที่สระว่ายน้ำเลยได้มั้ย?”
“ว่าแต่ ทำไมถึงเป็นที่นั่นล่ะ?”
“‘ตุ๊กตา’ ภาษาอังกฤษคือ DOLL ใช่มั้ย? ถ้าเป็นตุ๊กตาที่มีแค่หัวใหญ่ ก็คงหมายถึงแค่ Doll นั่นแหละ แล้วถ้าย้ายตัว ‘l’ ไป แล้วเติมวงกลมเข้าไป—ก็คือ ‘O’—ก็จะกลายเป็น ‘Pool’ ไงล่ะ”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวไปที่นั่นเลย”
“เดี๋ยวก่อนนะ ขอฉันถามอาจารย์ให้แน่ใจก่อน”
เพราะในระบบ พอไขปริศนาได้แล้ว นักเรียนชั้นสูงจะได้รับบอกตำแหน่งต่อไป ไม่ใช่แค่เดาถูกก็ไปต่อได้เลย
“โอเค ได้คำยืนยันแล้วว่าสระว่ายน้ำถูกต้อง งั้น ไปกันเถอะ! รีบเลยนะ ริคุง!”
ถูกเร่งแบบนั้น ฉันก็รีบมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปทันที
ที่สระว่ายน้ำ ฉันก็พบปริศนาอีกข้อ วาคานะก็ไขได้อย่างง่ายดายเหมือนข้อแรก แล้วก็สั่งให้ฉันไปต่อยังจุดถัดไป
ฉันแก้ปริศนาไปทีละข้อ แล้วมุ่งหน้าไปยังจุดต่อไปอย่างราบรื่น
ไม่ว่าจะยากแค่ไหน วาคานะก็ไขได้หมด จนกระทั่งใกล้เที่ยง ฉันก็มาถึงจุดหมายสุดท้าย—ห้องเรียนที่ว่างอยู่
“ริคุง ปริศนาล่ะ?”
“อืม… เขียนว่า 『”ลองหากุญแจจากพจนานุกรมสิ』 แล้วก็ ‘กุญแจอยู่ที่นี่’ น่ะ”
“ลองดูรอบๆ ว่ามีพจนานุกรมรึเปล่า? เพราะคำว่า ‘กุญแจ’ (คากิ) น่าจะอยู่ในคำว่า ‘จิ’ กับ ‘โช’ (‘じ’ กับ ‘しょ’) ซึ่งน่าจะหมายถึง ‘จิ-โช’ หรือ ‘辞書’ ที่แปลว่าพจนานุกรมไงล่ะ”
พอเธอพูดอย่างนั้น ฉันก็ลองมองดูรอบๆ แล้วก็เห็นพจนานุกรมวางอยู่บนชั้นหนังสือ พอหยิบมาดู มันกลับเป็นกล่องที่ทำรูปร่างเหมือนพจนานุกรม ด้านในมี ‘กุญแจ’ ซ่อนอยู่จริงๆ
“เจอแล้ว”
“เยี่ยม! งั้นรีบไปกันเถอะ! เร็วๆ ริคุง!”
ฉันก็รีบวิ่งไปยังห้องที่นักเรียนชั้นสูงอยู่
เมื่อไปถึงหน้าห้อง อาจารย์ก็ยืนอยู่เหมือนเป็นยามเฝ้าประตู
“นำกุญแจมาด้วยหรือเปล่า?”
“ครับ นี่ครับ”
พอฉันส่งให้ อาจารย์ก็ไขประตูให้เปิดออก
ทันใดนั้น วาคานะก็พุ่งออกมาจากข้างใน
“ริคุง!”
เธอโผเข้ามากอดฉันแน่น
ความนุ่มนิ่มแบบมีน้ำหนักที่แนบเข้ามา พร้อมกลิ่นหอมหวานอมเปรี้ยวแบบผลไม้ตระกูลส้มลอยมากระทบจมูก
“ไปกันเถอะ!”
เธอคว้ามือฉันแล้วออกวิ่ง
“เดี๋ยวๆ ไปไหนน่ะ?”
“ก็ไปกินข้าวไง! ก็บอกไว้ว่าถ้าเล่าอะไรให้ฟัง เธอจะยิ้มให้ไม่ใช่เหรอ!”
เสียงอาจารย์ตะโกนตามหลังมาว่า “ห้ามวิ่งในทางเดิน!” แต่เธอก็ไม่สนใจ วิ่งไปโดยไม่เหลียวหลัง
พอออกมาข้างนอก ลมที่พัดมาก็สดชื่นมาก เหงื่อของวาคานะสะท้อนแสงแดดแวววับ
“อ๊า~ สบายสุดๆ เลย!”
เสียงของวาคานะพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าสีคราม
รอยยิ้มสดใสของเธอดูเปล่งประกายเจิดจ้า เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เหมาะกับคำว่า “อาโอฮารุ (วัยใส)” หรือวัยเยาว์อย่างที่สุด จนฉันแทบละสายตาไม่ได้
“แบบว่า…แบบว่า… ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเลย!”
เธอพูดไปยิ้มไป ราวกับหัวใจแทบจะระเบิดออกมาด้วยความสุข
“เอ่อ… เราหยุดวิ่งกันก่อนได้มั้ย?”
“ไม่เอา! ก็ความรู้สึกที่มีต่อริคุงมันล้นทะลักจนหยุดไม่ได้แล้ว! ห้ามไม่ไหวแล้วจริงๆ!!”
ความสดชื่นแบบซาบซ่าเหมือนโซดา พุ่งพล่านไปทั่วร่าง
จนฉันเองก็รู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย
“โอเค งั้นก็วิ่งกันต่อ!”
“นั่นแหละ! ต้องอย่างนั้นสิ!”
เราวิ่งออกจากโรงเรียน ลัดเลาะลงเขา จนมาถึงริมแม่น้ำ
สุดท้ายก็หมดแรง นอนแผ่หลาอยู่บนสนามหญ้าสีเขียวสด
ท้องฟ้าสีครามแผ่กว้างอยู่ตรงหน้า
ลมก็เย็นสบาย หญ้าก็อ่อนนุ่ม
รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย
“อ๊า— ดีใจจังเลย!”
วาคานะพูดพลางหอบเล็กน้อย หน้าอกก็ขยับขึ้นลงอย่างมีชีวิตชีวา
เธอช่างดูเหมือนตัวละครสาวสวยจากหนังอนิเมะวัยรุ่นเข้าไปทุกที จนหัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ
ได้วิ่งจับมือกับสาวน่ารักขนาดนี้ แถมตอนนี้ก็นอนอยู่ข้างๆ กันอีก…
“นี่ ริคุง”
“หะ— หือ? วาคานะ?”
“ชอบนะ… ชอบมาก… รักเลยล่ะ”
“อะ เอ่อ… ขอบใจนะ…”
“อ่าฮะๆ อะไรน่ะ ปฏิกิริยาแบบนั้น”
เธอยิ้มแล้วพูดต่อ
“ฉันน่ะ ตั้งใจจะลองทำหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะสนุกหรือไม่สนุก อาจมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นก็ได้… แต่ไม่ว่าจะเจออะไร เธอจะหัวเราะให้ฉันอยู่ใช่มั้ย?”
“แน่นอนสิ เราสัญญากันแล้วนี่นา”
“อ๊าา… แค่นั้นแหละ แค่นั้นฉันก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว… ฉันทนไม่ไหวแล้วล่ะ”
พูดจบ วาคานะก็พลิกตัวมากอดฉันไว้
แล้วเธอก็จูบฉันอย่างแผ่วเบา อ่อนโยน
“ฉันรักเธอนะ ริคุง”
รอยยิ้มเขินอายของวาคานะ ทำให้ฉันรู้แน่ชัดว่า ไม่มีใครเหมาะกับคำว่า อาโอฮารุ ได้เท่าเธออีกแล้วจริงๆ
ครับ
MANGA DISCUSSION