ตอนที่ 35
หลังจากออกจากโรงเรียนลงมาถึงตัวเมืองแล้ว ก็ดูเหมือนว่าวาคานะจะไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย เธอครางอืมอาอยู่ตลอดพลางเดินไปตามถนนใหญ่
“อา… จะไปไหนดีนะ”
“บอกว่าจะไปเดตกันแล้วแท้ ๆ นึกว่าจะวางแผนอะไรไว้บ้าง”
“อ่าฮะ ๆ ไม่มีหรอก แค่อยากไปเฉย ๆ ตามอารมณ์น่ะ… อ๊ะ”
วาคานะรีบเอามือปิดปากเหมือนเผลอพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป…แต่ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ”
ผมก็ไม่เข้าใจนักหรอก แต่เพราะรอยยิ้มของวาคานะที่ฉาบด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็นทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนดึงดูด ไม่สามารถคิดอะไรอื่นได้เลย
“อืม จะทำยังไงดีนะ เพราะริคุงอยู่หอ ต้องกลับก่อนสองทุ่ม…งั้นที่นั่นล่ะ?”
วาคานะชี้ไปยังอาคารทรงกล่องขนาดใหญ่ที่มีรูปพินโบว์ลิ่งตั้งอยู่ข้างบน เป็นศูนย์เกมขนาดใหญ่ชื่อ “ราวด์ 2”
“ดีนี่ ออกแนวเด็กมัธยมหน่อย”
“เหรอ? งั้นไปกันเถอะ ริคุง”
เมื่อเดินเข้าไปในร้าน สายตาก็ไปสะดุดที่แถวยาวหน้าเคาน์เตอร์ คนเยอะทีเดียว คงเพราะเป็นเวลาหลังเลิกเรียน เสียงเด็กวัยเดียวกันดังระงมไปทั่วห้องโถง
“ถ้าจะเล่น ก็ต้อง ‘สปอชชัง’ แหละมั้ง~”
หลังจากพูดแบบนั้น วาคานะก็ยืนต่อแถวประมาณ 10 นาที ในที่สุดก็ถึงคิวของเรา ระหว่างรอพวกเราตัดสินใจเลือกแพ็กเกจฟรีไทม์แล้วเข้าไปข้างใน
ยืนอยู่หน้าผังของสถานที่ วาคานะหันมาถามผม
“ริคุง อยากเล่นอะไรเหรอ?”
“อะไรก็ได้ วาคานะอยากเล่นอะไรก็ไปเล่นนั่นแหละ”
“อ่าฮะๆ ที่ฉันอยากเล่นเหรอ…?”
สีหน้าของวาคานะดูเงียบลงชั่วครู่ แต่จากนั้นเธอก็เรียกความมั่นใจกลับมา แล้วชี้ไปที่จุด ๆ หนึ่ง
“อยากไปตีเบสบอล”
“แต่นี่ไม่ใช่สนามตีเบสบอลนะ”
“รู้แล้วน่า แล้ว… เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่าอะไรนะ?”
“พิตชิ่งแมชชีนมั้ง?”
“รู้ก็อย่าทักสิ เขินนะ ถ้าจะทักก็ทักด้วยปาก หรือไม่ก็ข้างหน้า หรือข้างหลังก็ได้นะ”
ผมไม่สนใจมุกของวาคานะ แล้วพวกเราก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นดาดฟ้าที่มีเครื่องพิตชิ่งแมชชีน
พอถึงชั้นบนสุด เราก็เห็นพื้นที่ด้านนอกที่แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ด้วยตาข่าย มีทั้งบาสเกตบอล ฟุตซอล คอร์ตเทนนิส
“ริคุง ๆ ลองโชว์ให้ดูหน่อยสิ~”
ถูกวาคานะที่ดูตื่นเต้นผลักดันให้เดินไปหน้าประตูของเครื่องพิตชิ่งแมชชีน อุปกรณ์บางอย่างมีคนรอคิวอยู่บ้าง แต่ตรงนี้ไม่มีใครเลย อาจเพราะเปลี่ยนรอบเร็ว เลยเข้าได้ทันที
“ความฝันของฉันคือได้ไปเชียร์แฟนตัวเองใน (โคชิเอ็น)”
“ในโลกนี้จะมีอาซากุระซังด้วยไหมนะ?”
“อะไรเนี่ย? ไม่เข้าใจเลย เอาน่า รีบเล่นเลย!”
“เฮ้อ…”
วาคานะยิ้มแป้นพลางดันหลังผม ผมก็เลยต้องเดินออกไปข้างนอก หยิบไม้เบสบอลที่เสียบไว้ออกมาถือไว้
“เบสบอลงั้นเหรอ จะตีได้ไหมเนี่ย…”
ผมหันกลับไปมองวาคานะผ่านประตู เธอยกนิ้วโป้งขึ้นให้พร้อมสายตาเป็นประกาย
ถ้าโชว์ห่วยตอนนี้ ความรู้สึกของวาคานะจะจืดจางลงไหมนะ…
แต่คิดไปก็เท่านั้น ถ้าแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำให้เธอหมดใจ ก็คงเลิกสนใจผมไปตั้งนานแล้ว วาคานะเป็นคนที่ไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะทำได้หรือเปล่า ขอแค่สนุกก็พอแล้ว
งั้น ก็แค่เล่นให้ธรรมดาล่ะนะ
ผมกดสวิตช์เครื่องแล้วเดินเข้าไปยังตำแหน่งตี
เสียงเครื่องดัง กัชกัชกัช วื๊นนน แล้วลูกก็พุ่งออกมา ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ผมเหวี่ยงไม้ให้ตรงกับลูก แล้วก็เกิดเสียงโลหะดังแหลม ความรู้สึกแข็งกระด้างสะเทือนมาถึงแขน ลูกที่ถูกตีพุ่งเข้าตาข่ายด้านหลังอย่างสวยงาม
หลังจากตีครบ 15 ลูก เครื่องก็หยุด ผมเก็บไม้แล้วเดินกลับเข้ามาข้างใน
“ริคุง เก่งจังเลยนะ~”
ลูกที่ตีไปทั้งหมดเป็นลูกที่ใกล้เคียงกับการตีได้จริงทั้งนั้น ชักเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นพระเอกเกมจีบสาวอย่างมินาโตะ ริคุเข้าไปทุกที
พอกลับเข้ามา วาคานะก็ถามพลางยิ้ม
“จะไปแข่งโคชิเอ็นไหม?”
“ไม่ล่ะ ดูเหมือนจะยุ่งยาก”
“นั่นสิ~ จะทำได้ก็ต้องมีแรงจูงใจอยากชนะแหละเนอะ”
“แล้ววาคานะล่ะ?”
“จะว่าไม่มี…ก็ไม่ใช่ จะว่ามีก็…ไม่เชิง”
วาคานะเอียงคอเล็กน้อย แล้วกำหมัด
“ริคุง มาแข่งกันไหม ถ้าฉันตีได้แบบฮิตทุกลูกก็คือชนะเลยนะ”
“แค่ไม่มีบทลงโทษก็ตามใจเลย”
“ไม่ต้องห่วง รอบนี้ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก”
พูดจบ วาคานะก็เดินเข้าไปยังจุดตี
ผมยืนมองจากข้างใน แต่แล้ววาคานะก็เรียกผมด้วยท่าทาง จึงต้องเดินออกไปหา
“ริคุง ท่านี้ยืนยังไงเหรอ?”
วาคานะเอาไม้พาดบ่ามาขอให้สอน
“เดี๋ยวนะ ถ้าจะตีให้ฮิตทุกลูก ก็ต้องรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ไม่รู้จริง ๆ นี่นา ไม่เคยเล่นเบสบอลสักหน่อย”
วาคานะดูงุนงงจริง ๆ ผมเลยตัดสินใจลองสอนให้
“ยืนแยกเท่าช่วงไหล่ รักษาระดับสะโพกแล้วงอเข่าเล็กน้อย…”
ผมอธิบาย แต่ดูเหมือนวาคานะจะไม่เข้าใจนัก
“งั้น…ช่วยขยับร่างกายฉันหน่อยสิ”
พอพูดแบบนั้น ผมก็ยืนซ้อนหลังแล้วจับแขนของวาคานะ กลิ่นหอมหวานจากผมของเธอลอยมากระทบ และผิวที่เนียนนุ่มทำให้หัวใจผมเต้นตึกตัก ผมรีบผละออก
“ทำไมล่ะ ริคุง รีบบอกสิ?”
วาคานะถามอย่างไร้เดียงสา แต่ใบหน้านั้นยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ เธอตั้งใจแกล้งชัด ๆ
“ลวนลามแล้ว”
“กลับกันไม่ใช่เหรอ?”
“สำหรับผู้ชายดี ๆ นี่เรียกว่าถูกลวนลามครับ”
“งั้นฉันก็คือพิษน่ะสิ… ริคุงนี่ใจร้ายจัง”
วาคานะทำตาเศร้าใส่ แต่ผมรู้ว่าเธอแค่กำลังอยากแกล้งผม
“นึกว่าฉันจะไม่รู้หรือไงว่าเธอจงใจ”
พอพูดแบบนั้น วาคานะก็แลบลิ้นออกมาเล็กน้อย
“โดนจับได้ซะแล้ว ทั้งที่อยากทำให้หัวใจเต้นแรงแท้ ๆ”
“ต่อให้โดนหลอก สิ่งที่รู้สึกคงไม่ใช่ตึกตัก แต่เป็นหวิว ๆ มากกว่า”
“ริคุง…ตรงที่โดนจับเมื่อกี้มันร้อนเลยล่ะ หัวใจก็เต้นแรงมาก ๆ ด้วย ลอง…จับดูไหมล่ะ?”
วาคานะแก้มแดงเรื่อ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นมุกตลก แต่ก็ดูเหมือนจะจริงจังอยู่
สายตาผมเผลอมองไปยังหน้าอกของเธอ ใหญ่ เต่งตึง…แค่คิดก็รู้สึกร้อนผ่าว จึงรีบหยุดคิด
“นี่ ริคุง หัวใจเต้นไหม?”
ผมโกหกว่า “ไม่เต้นเลย” แล้วเร่งให้เธอรีบตีได้แล้ว
วาคานะทำเสียงจิ๊เบา ๆ แล้วพูดขึ้น
“ก็ได้ๆ งั้นเริ่มเลยนะ”
“ไม่ต้องให้สอนแล้วเหรอ?”
“แค่ที่บอกตอนแรกก็พอเข้าใจแล้วล่ะ”
พูดจบ เธอก็กดสวิตช์เพื่อเริ่มเกม ผมเลยรีบกลับเข้ามาข้างใน
วาคานะยืนประจำตำแหน่งแล้วจับไม้เบสบอลไว้แน่น
ท่าทางดูดีทีเดียว ผมรู้สึกทึ่งเล็กน้อยที่เธอทำได้ดีขนาดนี้แม้จะไม่เคยเล่นเลย
แล้วพิตชิ่งแมชชีนก็เริ่มทำงาน
ลูกพุ่งมา วาคานะก็สวิงไม้ตีอย่างสวยงาม เสียงของไม้กระทบลูกดังกังวาน การวาดวงสวิงสมบูรณ์แบบชนิดที่ไม่อยากเชื่อว่าไม่เคยเรียนเบสบอลมาก่อน
จากนั้น วาคานะก็ตีได้ดีต่อเนื่องทุกลูก ยกเว้นลูกที่ 12 ที่กลายเป็นลูกฟาวล์
“อืม ก็ว่าอยู่แล้วล่ะนะ”
เธอพึมพำพลางดูตัวเล็กลงอย่างผิดหวัง แต่พอเดินกลับเข้ามาข้างใน เธอก็ยิ้มสว่างไสวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แพ้แล้วล่ะ ไปกันเถอะ ริคุง ไปที่ต่อไป”
MANGA DISCUSSION