เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 86 ฉันคิดว่าคุณไม่ควรรักฉัน
บทที่ 86 ฉันคิดว่าคุณไม่ควรรักฉัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่ดวงตาของเขา
ก่อนหน้านี้เธอให้พ่อบ้านนำที่ทับกระดาษกลับมา ก่อนที่จะถูกตกแต่งไว้บนเสาทางเดิน
ไฟที่ส่องลงมา ก็ทำให้เปล่งประกาย
แต่สิ่งที่จี้จิ่งเชินพูดไว้ก่อนหน้านี้ ก็ปรากฏขึ้นในสมองอีกครั้ง
ผมเคยให้ของขวัญคุณไหม?
นี่เป็นครั้งแรก
จี้จิ่งเชินบีบมือเธอไว้แน่น
“คุณก็ทิ้งมันไว้ที่โถงทางเดิน?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องการให้ของบางอย่างกับคนอื่นอย่างจริงใจ
ในเมื่อถูกเธอทิ้งไว้อย่างไม่สนใจ?
หัวใจของผู้หญิงคนนี้ทำจากหินอย่างนั้นหรือ?
เขาโกรธมากจนเส้นเลือดดำผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา แม้ว่าจะเป็นเจียงหยู่เทียน แต่หลังจากได้รับของขวัญจะต้องพูดขอบคุณอย่างออดอ้อนแน่นอน
ผู้หญิงคนนี้หล่ะ?
ไม่ออดอ้อนก็ช่างเถอะ!
แต่ถึงขนาดกับตั้งใจทิ้งมัน!
ตั้งใจ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วแน่น เธอดิ้นรนอย่างรุนแรงพยายามจะผลักเขาออกไป
แต่ว่าแรงเพียงเล็กน้อยนี้สำหรับจี้จิ่งเชินแล้วมีแรงไม่พอ
เขาประสานกุมมือเวินเที๋ยนเที๋ยนได้อย่างง่ายดาย
“ฉันแค่ให้พ่อบ้านหาที่วางมัน” เธออธิบาย
คิดไม่ถึงว่าพูดอะไรไม่พูด แต่พูดแบบนี้ ดวงตาของจี้จิ่งเชินมีไฟลุกขึ้นมาเพราะความโกรธอีกครั้ง!
“หาที่วางมัน?”
เขาหัวเราะเยาะออกมา
“คุณไม่อยากแม้แต่จะเห็นมัน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าหนี หลบสายตาของเขา
เมื่อเธอเห็นจี้จิ่งเชินและเจียงหยู่เทียนออกไปต่อหน้า เธอยังจะเอาที่ทับกระดาษไว้ข้างเธอได้อย่างไร?
เตือนตัวเองว่าอย่าเผลอมีความหวังเหรอ?
จี้จิ่งเชินรอเจียงหยู่เทียนมาสิบสองปีนะ!
กี่ปีแล้วที่ในใจของเขาคิดถึงแต่เจียงหยู่เทียน?
สิ่งที่ยึดมั่นในความต้องการของคน ที่จะมีคนคนหนึ่งที่อยู่ในใจ หยั่งรากลึกมานานถึงสิบสองปี?
ความรู้สึกนี้เธอรู้ดีกว่าใคร
เพราะไหนเลยเธอกำลังรอพี่จิ่งกลับมา……
แต่จิ่งของเธอไม่ได้กลับมา แต่จี้จิ่งเชินกลับรอใครสักคนที่อยู่ในใจของเขา
เธอเอาอะไรไปเปรียบเทียบกับเจียงหยู่เทียน?
สิบสองปีที่ผ่านมา จะเอาอะไรมาชดเชยได้?
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มอย่างขมขื่นความเข้มแข็งของเธอดูเหมือนจะหายไปในทันทีและขาของเธอแทบจะยืนไม่ได้
เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลออกมา
“ถูกแล้ว ฉันไม่ต้องการที่เห็นมัน แม้แต่มองฉันก็ไม่ต้องการ”
เธอสะบัดจี้จิ่งเชินออก เมื่อกี้เธอดิ้นไม่หลุดแต่ตอนนี้กลับง่ายดาย
จี้จิ่งเชินยืนนิ่ง ลืมแม้แต่จะดึงเธอกลับมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยออกไปหนึ่งก้าว
“ฉันไม่ชอบสิ่งนี้ ฉันเห็นมันแล้ว……”
เธอยังไม่ทันได้พูดต่อ ก็หันกลับมา “ทำไมไม่เอาไปให้คนที่คุณรักเจียงหยู่เทียนหล่ะ?”
หลังจากพูดจบแล้วเธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองท่าทางของจี้จิ่งเชินแล้วหันไปเดินกลับห้อง
จี้จิ่งเชินกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น
ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำและแตกเป็นเสี่ยงๆ
“เอาสิ่งที่คุณเพิ่งพูดกลับไปด้วย”
เสียงของเขาต่ำมากราวกับใช้พลังงานทั้งหมดของร่างกายหมดแล้ว ผ่านคอออกมา
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงได้ยิน
เธอไม่ได้หยุดและเดินต่อไป
จี้จิ่งเชินคำรามเสียงของเขาอย่างรุนแรงเหมือนสิงโตที่โกรธ
เขารักษาสมบัติชิ้นสุดท้ายของเขาด้วยความโกรธและความเย่อหยิ่ง
“คุณก้าวไปอีกขั้น! ผมจะทำให้คุณเสียใจ! เสียใจไปตลอดชีวิต! ผมจี้จิ่งเชินพูดไว้เลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยุด แต่เธอไม่ได้หันกลับไป
เธอไม่กล้า
ไม่กล้าให้จี้จิ่งเชินเห็นน้ำตาบนใบหน้าของเธอ
นี่คือศักดิ์ศรีที่เธอสามารถรักษาไว้ได้
เธออ้าปากค้างเพื่อสูดลมหายใจและบังคับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่ารุนแรง และพยายามทำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ
“นอกจากขู่แล้ว แล้วคุณยังทำอะไรเป็นอีก”
พูดจบ น้ำตาในดวงตาของเธอก็ไหลรินออกมาอีกครั้ง
ดวงตาของเธอพร่ามัวเธอกะพริบตาอย่างหนักและน้ำตาไหลออกมาจากตา
แต่ในไม่ช้าสายตาของเธอก็พร่ามัวอีกครั้ง
เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้อง
หากรอไปอีกวินาทีเธออาจร้องไห้ออกมา
เธออาจร้องไห้ต่อหน้าจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ที่เดิม เขากำแน่นและสั่นเล็กน้อย
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เขายืนอยู่สักพักก่อนที่เขา จะหันไปด้วยความโกรธ
พ่อบ้านรีบลงบันไดตามลงมา สังเกตเห็นว่าบรรยากาศผิดปกติ
“คุณผู้ชาย?”
จี้จิ่งเชินหยุดและหันไปดูที่ทับกระดาษชิงเถียนแกะสลักในทางเดิน
ที่ทับกระดาษแกะสลักสวยงาม แต่มันทำให้ดวงตาของเขาเจ็บปวด
“เอาสิ่งนี้ออกไปทิ้งซะ!”
พ่อบ้านมองเขาด้วยความตกใจ ไม่ตอบสนองเป็นเวลานาน
ที่ทับกระดาษนี้คุณผู้หญิงไม่ได้นำกลับเหรอ?
ดูก็รู้แล้วว่ามันมีค่ามาก ทำไมพอกลับมาถึงให้ทิ้งมัน?
ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เขาจากไปด้วยสีหน้าทะมึนตึง
เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เรียกก็มา
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนตระกูลเจี่ยง!
เขาค่อยๆก้าวลงบันไดทีละขั้น
เมื่อเธอเป็นคนไร้น้ำใจทำไมเขาถึงต้องสนใจความรู้สึกของเธอด้วย?
แต่ว่า……
ทำไมหัวใจของเขาถึงได้ยับเยินไปหมด?
ทำไมถึงยังคิดถึงเธออยู่?
พ่อบ้านยืนอยู่ที่ทางเดินมองไปที่พวกเขาแล้วถอนหายใจ
เขาหยิบที่ทับกระดาษที่อยู่ทางเดินอย่างระมัดระวังและเก็บเอาไว้อย่างดี
สองสามมานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เห็นจี้จิ่งเชิน
แม่บ้านเปิดเผยโดยเจตนาหรือไม่ตั้งใจ ว่าเขาพักอยู่ในบริษัทตลอดเวลา
ตอนเขาพูดสิ่งนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังกินอาหารเช้าอยู่ เขามองเธอด้วยความคาดหวังอย่างมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากกินอาหารเช้าอย่างใจเย็นเสร็จ เธอก็หันกลับไป
พ่อบ้านเพิ่งออกไปเรียกคนขับ เวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยเดินมา แต่เห็นเจียงหยู่เทียนเดินลงบันไดมาจากข้างบน
เมื่อกี้ตอนที่เธอนั่งอยู่ในห้องอาหาร เธอไม่เห็นมีใครเข้ามาเลย
“ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?”
เจียงหยู่เทียนลงมาอย่างลับๆล่อ เมื่อมีเสียงขึ้นมาก็ทำให้เธอตกใจ
พบว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอก็ยืนอย่างอวดดีทันที
“ฉันมาช่วยพี่จี้จิ่งเชินเอาของบางอย่าง”
เธอเหลือบมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
พร้อมกับหัวเราะเยาะ
“ถ้าไม่ใช่เพราะใครบางคน บังคับให้พี่จี้จิ่งเชินไม่กล้ากลับบ้าน จะให้ฉันจะกลับมาเอาของให้ได้อย่างไร?”
“ฉันแนะนำให้เธอรีบไปเร็วๆ อย่ายึดบ้านของคนอื่นคุณรู้จักความละอายบ้างหรือเปล่า?”
เธอถือกระเป๋าไว้ในมือ แล้วบิดสะโพกเดินออกไปอย่างยั่วยวน
มีการเสนอราคาที่ดินถึงห้าพันตารางเมตรข้างแม่น้ำไทยหวู่ในศูนย์กลางของเขตตงฟู้
ที่ตั้งในใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรืองนี้ ต้อนรับการแข่งขันจากบริษัทที่จดทะเบียนกว่ายี่สิบแห่งในประเทศจีนมาร่วมประมูล
และในที่สุดก็เหลือเพียงสามแห่งเท่านั้น
พวกเขาเขียนแผนงานของตนเองการก่อสร้างและการคำนวณงบประมาณสำหรับที่ดินนี้และในขณะเดียวกันก็ดำเนินการประมูลได้ดี
ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเสนอราคาเท่าไหร่ ผู้เสนอราคาที่สูงกว่าจะได้รับโครงการไป
การเสนอราคาดังกล่าวเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย หากการเสนอราคาสูงเกินไปอาจทำให้ขาดดุลการเงิน
หากการเสนอราคาต่ำเกินไปโครงการจะตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น
วิธีที่ดีที่สุดคือการหาวิธีที่จะรู้แผนงานและงบประมาณของอีกฝ่ายและชนะด้วยช่องโหว่นี้
สำหรับโครงการนี้มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านหยวนจี้จิ่งเชินปรากฏตัวและมีเข้าร่วมในการเสนอราคาเป็นการส่วนตัว
แผนงานของ บริษัทเอ็มไอกรุ้ปนั้นสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของการออกแบบและงบประมาณและมีมาตรฐานที่สูงมาก
ที่จริงแล้ว บริษัทอื่นๆก็รู้ว่าเมื่อบริษัทเอ็มไอกรุ้ปเข้าร่วมในการประมูลก็รู้ผลแล้ว
แต่เมื่อจี้ยี่หยันนำเสนอแผนของเขาทุกคนเห็นก็ตกใจทันที
แผนนี้กับบริษัทเอ็มไอกรุ้ปคล้ายกันมาก!