เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 73 ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรก
บทที่73 ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรก
เวินเที๋ยนเที๋ยนนิ่งอึ้งไป หันไปมองเขาด้วยความตกใจ
“พี่……”
หมินอันเกอหัวเราะขึ้น
“เธอไม่น่าจะลืมพี่หรอกใช่ไหม? ตอนเด็ก ๆ เธอเคยรับปากกับพี่ไม่ใช่เหรอว่าต่อไปจะฟังพี่ร้องเพลง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาโตขึ้น
“พี่หมิน…….พี่จำฉันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรกพี่ก็รู้แล้ว”
หมินอันเกอเดินเข้าไปหาเธอก้าวหนึ่ง พูดด้วยความผิดหวังว่า: “พี่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอหลายต่อหลายครั้ง ไม่คิดเลยว่าเธอจะจำพี่ไม่ได้”
“ฉันจำพี่ได้ เพียงแต่ว่า……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับชายกระโปรงของตนเอง และพูดออกมาด้วยความลำบากใจว่า: “ตอนนี้ฉันไม่ใช่เวินเที๋ยนเที๋ยน”
หมินอันเกอจ้องมองหญิงที่อยู่ตรงหน้า
หลังจากที่เขาออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาได้ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อเป้าหมายของเขา เขารอวันที่เขาตัวคนเดียวแล้วมอบตำแหน่งที่ดีที่สุดให้กับเธอ
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงในตอนนี้
เขายื่นมือมาดึงเวินเที๋ยนเที๋ยน และพูดกับเธอเบา ๆ ว่า: “พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยหรือเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลใจไปชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้า
บนโลกใบนี้หากจะมีใครที่คอยปกป้องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนเธอ นั่นก็คงจะเป็นพี่หมินแล้วล่ะ
“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะถูกรื้อทิ้งแล้ว”
“พี่รู้”
ช่วงไม่กี่วันมานี้หมินอันเกอก็ตรวจสอบข้อมูลของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ และกำลังปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่ไม่ชัดเจนนี้อยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อว่า: “ฉันตกลงกับเจี่ยงหงซึ่งไว้แล้ว ฉันปลอมตัวเป็นเจี่ยงเนี่ยนเหยา และรอเธอกลับมาจากต่างประเทศ แค่นี้เขาก็ไม่รื้อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทิ้งแล้ว”
“เธอเชื่อเขาเหรอ? ”
หมินอันเกอสงสัยเล็กน้อย เจี่ยงหงซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์ เฒ่าสารพัดพิษ
วิลล่าพวกนั้นเมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วมันจะนำพามาซึ่งกำไรมหาศาล เขาจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน?
แน่นอนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ดีถึงจุดนี้ แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
“ฉันทำได้แค่เชื่อเขา”
หมินอันเกอนึกถึงท่าทางที่จี้จิ่งเชินมีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยน จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความไม่พอใจ
มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับงานของจี้จิ่งเชิน ข่าวลือแต่ละอย่างไม่มีดีเลย
หากยังปล่อยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่กับเขาต่อไป เธอจะได้รับบาดเจ็บไม่ช้าก็เร็ว
“แต่เจี่ยงเนี่ยนเหยาจะกลับมาเมื่อไหร่? ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันพอจะได้เบาะแสมาบ้างแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเอามือถือขึ้นมา เปิดภาพที่ได้ถ่ายมาจากคอมพิวเตอร์ของเจี่ยงเนี่ยนเหยา
“พวกเธอไปซานย่า”
หมินอันเกอเอามือถือมาดูภาพ
ภายในนี้มีแต่ประวัติการซื้อของ แต่ถ้าตรวจสอบจากเที่ยวบินก็อาจจะมีวิธี
“พี่จะช่วยเธอตรวจสอบเอง ขอแค่ให้เจี่ยงเนี่ยนเหยาตัวจริงกลับมา เธอก็ออกมาจากจี้จิ่งเชินได้แล้วใช่ไหม? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอ้าปากค้าง ทันใดนั้นก็เจ็บแผลฟกช้ำที่ไหล่ขึ้นมา
ภาพที่จี้จิ่งเชินตั้งใจทายาให้เธอนั้นปรากฏขึ้นอยู่ในหัวเธอ
เธอกัดฟันพร้อมทั้งพยักหน้า และพยายามลบภาพนั้นออกจากหัวเธอ
“ใช่”
หมินอันเกอไม่ทันได้สังเกตถึงน้ำเสียงสองจิตสองใจของเธอ
ในใจเขาอยากจะทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาจากจี้จิ่งเชิน ถึงแม้ว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะถูกรื้อออก แต่เขาสามารถสร้างใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิมได้
เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็สามารถดูแลเวินเที๋ยนเที๋ยนได้อย่างเต็มที่
เหมือนกับตอนเด็ก ๆ
เขาจับมือเธอไว้แน่น มองเธอด้วยสายตาที่รักใคร่ และชื่นชม
“เธอวางใจเถะ พี่หาตัวเจี่ยงเนี่ยนเหยากลับมาได้แน่”
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนกระสับกระส่าย ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกเขาเลยแม้แต่น้อย
“อือ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาที่ห้องเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ในห้องต่างกันก็ถกเถียงกันถึงเรื่องของหมินอันเกอ
ในเวลาตอนบ่าย ทางมหาวิทยาลัยได้ประกาศกิจกรรมคร่าว ๆ ของงานสถาปนามหาวิทยาลัย และกิจกรรมที่ดึงดูดคนมากที่สุดนั่นก็คือละครเวทีที่มีหมินอันเกอเข้าร่วมด้วย!
ตั๋วถูกขายหมดภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนคนที่ซื้อตั๋วไม่ทันก็อยากจะช่วยงานอยู่ด้านหลังเวที
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งใบสมัครไป หัวหน้าห้องเห็นก็ตกใจ: “นี่เธอก็สมัครละครเวทีเหมือนกันเหรอ? ได้ยินมาว่านักศึกษาหญิงเกือบทั้งมหาวิทยาลัยก็สมัครกิจกรรมนี้ แต่เขาจำกัดแค่สิบคน เธอลองสมัครอย่างอื่นไหม?”
“ไม่ละ สมัครตามนี้แหละ”
หัวหน้าห้องส่ายหัวไปมา
“ใคร ๆ ก็อยากเข้า มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
เมื่อเพื่อนในห้องได้ยินว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนก็สมัครเข้าร่วมแสดงละครเวทีด้วย ก็ต่างพากันเหลือมองเธอ
“เขาลือกันว่ารู้จักกับหมินอันเกอมาก่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่มีตั๋วเสียละ? ”
“อย่าพูดไป แกไม่กลัวโดนไล่ออกจากมหาลัยเหรอ? ”
เพื่อนในห้องตอบว่า: “กลัวสิ จะให้ใครหนุนหลังล่ะ?”
ระหว่างที่พูดพวกเธอก็หัวเราะกิ๊กกั๊กไปด้วย
เจียงหยู่เทียนนั่งข้าง ๆ ฟังทั้งสองคุยกัน ทันใดนั้นก็พูดขึ้นเสียงดังว่า
“เมื่อกี้นี้ฉันเพิ่งจะซื้อตั๋วมาห้าใบ ตอนนี้เหลือตั๋วสามใบ ใครอยากได้บ้าง? ”
เมื่อทุกคนได้ยินก็รีบวิ่งไปที่เธอทันที
“ฉัน! ฉัน! หยู่เทียน เธอนี่เจ๋งจริง ๆ ได้บัตรมาตั้งห้าใบ!”
“แต่ยังเหลือบัตรอีกตั้งสองใบ เธอจะไปกับใครเหรอ? แฟนหรือเปล่า?”
หลายคนหัวเราะขึ้นมา และสายตาก็จับจ้องไปที่เธอ
เจียงหยู่เทียนหน้าแดงด้วยความเขินอาย
“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย……”
คนไม่กี่คนไม่ยอมวางมือ ถามต่อว่า: “ใช่คุณจี้หรือเปล่า?”
“พวกเธอพูดจาซี้ซั้วแล้ว……”
คนกลุ่มหนึ่งหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมาพูดกับเจียงหยู่เทียนตรง ๆ ว่าตั๋วใบนั้นเก็บไว้ให้กับคุณจี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น ลุกขึ้นยืนจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง
เจียงหยู่เทียนแหลบไปมองแวบหนึ่ง และตะโกนเรียกเธอเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน ฉันให้เธอใบนึงเอาไหม? ”
“ไม่ต้อง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบแล้วเดินออกไปจากห้อง
เมื่อเธอเดินออกไปแล้ว คนพวกนั้นก็หัวเราะเยาะเย้ยเธอ
“ทำนิสัยอะไรกัน! มิน่าล่ะคุณจี้ถึงได้มองข้ามเธอ!”
“ฉันได้ยินมาว่า ที่เธอได้แต่งงานกับคุณจี้ก็เพราะว่าใช้วิธีการที่สกปรก”
“ฉันว่าต้องมีสักวันนึงแหละที่คุณจี้ต้องไล่เธอออกไป หยู่เทียนต่างหากที่เป็นภรรยาตัวจริงของคุณจี้”
เจียงหยู่เทียนหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับมองรูปหมินอันเกอที่อยู่ในตั๋ว
หมินอันเกอคนนี้น่าจะเคยอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อก่อน คือคนเดียวกันกับที่เคยอยู่กับเวินเที๋ยนเที๋ยนใช่ไหม?
หากเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ ละครเวทีในครั้งนี้เธอต้องเชิญจี้จิ่งเชินมาดูแน่
ในวันต่อมา ผู้ที่ได้เข้าร่วมแสดงละครเวทีถูกคัดเลือกออกมาแล้วสิบคน ไม่รู้ว่าหมินอันเกอเข้ามามีส่วนร่วมในการคัดเลือกนี้ด้วยหรือเปล่า คาดไม่ถึงเลยว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกคัดเลือกเข้าไปเป็นหนึ่งในสิบคนนั้นด้วย
เมื่อเลิกเรียน ผู้ที่ถูกคัดเลือกเข้าร่วมอยู่ในฮอลล์อย่างตื่นเต้น
“ได้ยินมาว่าวันนี้หมินอันเกอก็มาด้วย! ”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ ช่วงสองสามวันนี้เขาจะเข้ามาฝึกซ้อมการแสดงด้วย! พวกเราจะได้เจอเขาทุกวันแล้ว!”
“ใช่ ใช่ ฉันเตรียมกล้องถ่ายรูปไว้เรียบร้อยแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่คนสุดท้าย ก้มหน้าส่งข้อความหาพ่อบ้านว่าให้พ่อบ้านมารับช้า ๆ หน่อย
บรรยากาศรอบ ๆ เงียบลงอย่างไม่รู้ตัว เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
และเห็นมีคนออกมาจากหลังเวที
ชุดราญสีขาวยาว มีดาบแขวนอยู่ข้างเอว ขาเรียวยาวลูกปกปิดด้วยกางเกงสีเบจ บุคลิกองอาจกล้าหาญ และสง่างาม
หนังสือพิมพ์เคยเขียนเอาไว้ว่า ไม่มีใครเหมาะจะเป็นดาราเท่ากับหมินอันเกออีกแล้ว เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงจริง ๆ
และตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งนี้
แสงไฟสาดส่องลงที่ใบหน้าของเขา ทำให้เห็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเขามากยิ่งขึ้น
หมินอันเกอมองไปรอบ ๆ และเดินไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างช้า ๆ
มือข้างหนึ่งทาบหน้าอกไว้ และโค้งคำนับทำความเคารพท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คน
“สวัสดีตอนบ่าย องค์หญิงของข้า”