เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 70 เขาเป็นซาตาน
บทที่70 เขาเป็นซาตาน
พอถึงบ้านท่านจาง เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นโถลายครามสีฟ้าและสีขาวบูรพาเสร็จให้กับท่าน
ท่านจางตกตะลึงกับความประณีตในการบูรพาวัตถุโบราณของเธอ เขาเอาไปล่องใต้ไฟเพื่อให้เห็นได้ชัดมากขึ้น ทักษะการบูรพาวัตถุโบราณของเธอนั้น ช่างแนบเนียนจริงๆ ท่านจางไม่เคยเห็นใครทำได้ดีมากกว่าเธอมาก่อน
"สุดยอด! สุดยอดจริงๆ"
เขาวางมันกลับเข้าไปในกล่อง ลุงฉวี และท่านเฉินที่ได้ยินต่างพากันเข้ามามุงดู คนที่เป็นนักสะสมวัตถุโบราณนั้น ต่อให้พวกเขาจะระมัดระวังในการเก็บรักษามันอย่างไร มันก็มักจะมีส่วนสึกหรอไม่มากก็น้อย แต่เพียงแค่มันโดนขีดขวดเล็กน้อย ใจพวกเขาก็แทบจะสลาย
คิดไม่ไม่ถึงเลยว่าโถลายครามสีฟ้าและสีขาวที่แตกสลายจะสามารถบูรพากลับมาได้เหมือนเดิม
ฝีมือเธอน่าทึ่งมาก พวกเขาที่นั่งอยู่ตรงนี้ทุกคนในบ้านแต่ละคนต่างก็มีวัตถุโบราณที่สึกหรอหรือแตกสลาย และไม่ยอมทิ้งกันทั้งนั้น พวกเขาต่างพากันมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแววตาชื่นชม ล้วนอยากได้เธอบูรพาวัตถุโบราณให้ ท่านจางที่อ่านความคิดของพวกเขา จึงรีบพูดห้ามขึ้นว่า
"พวกเจ้าก็อย่าพึงใจร้อน สาวตัวน้อยพึงซ่อมให้ข้าเสร็จ ให้เธอพักผ่อนสักสองสามวันก่อน เดี๋ยวเธอจะเหนื่อยเกินไปนะ"
ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย แต่เมื่อมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนพวกเขากลับกลุ้มใจขึ้นมาเลยทันที คิดไม่ออกว่าจะเอาชิ้นไหนให้เธอบูรพาก่อนดี อันนี้ก็ชอบ อันโน้นก็รัก อยากจะให้เธอบูรพาเสียให้หมด
ขณะที่พวกเขากำลังคิดอยู่ มีคนเดินมาจากข้างนอกแล้วกระซิบพูดกับท่านจาง พอท่านจางฟังจบ ก็หันมาพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนว่า:"สาวตัวน้อยมีคนมาหาหนู"
"ใครคะ"
ลูกชายคนรองของตระกูลจี้"
จี้ยี่หยัน? เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกแปลกใจ เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่
ท่านจางพูด:"ถ้าหนูไม่อยากเจอเขา เดี๋ยวฉันเรียกคนไล่เขาออกไป"
"ไม่เป็นไรค่ะ ให้เขาเข้ามาเถอะค่ะ"
ท่านจางพยักหน้ารับแล้วเรียกให้คนไปเชิญเขาเข้ามา เพียงชั่วครู่จี้ยี่หยันก็เดินเข้ามาจากทางประตู เขาแต่งตัวด้วยชุดลำลอง เวลาที่เขายิ้มบางๆรอบๆตัวเขาเหมือนมีแสงอาทิตย์ล้อมรอบ เมื่อเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน รอยยิ้มของเขาลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
"เนี่ยนเหยา ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะ"
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างประหลาดใจ "คุยมาหาฉันมีเรื่องอะไรไหม?"
จี้ยี่หยันน่าเคารพพวกท่านทั้งหลายแล้ว ถึงได้พูดขึ้นว่า:"แม่บอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับเธอน่ะ"
"ฉันเหรอ?"
เวินเที๋ยนเที๋ยนชี้หน้าตัวเองอย่าไม่น่าเชื่อ เธอคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าฉวีช่วยฉิน และจี้คางจะมีเรื่องอะไรคุยกับเธอ
"จี้จิ่งเชินล่ะ?"”
"เขาอยู่ที่บริษัท คุณแม่น่าจะบอกเขาแล้ว ผมทำธุระอยู่แถวนี้พอดีเลยแวะมารับ"
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้ารับ วันนี้เธอมาแค่เพื่อส่งของ ไม่ได้มีธุระอะไรต่อ เลยตอบรับเขาไป
"งั้นเราไปกันเถอะ"
ท่านเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆรีบพูดขึ้นว่า:"งั้นเดี๋ยวข้าเดินไปส่งหน้าบ้าน"
พอเดิมมาถึงตรงหน้าบ้าน ระหว่างที่จี้ยี่หยันไปเอารถ ท่านเฉินกลับพูดขึ้นว่า
"สาวตัวน้อย นี่หนูชอบแค่จี้จิ่งเชินคนเดียวเลยใช่ไหม?"
เวินเที๋ยนที๋ยนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่ได้ตอบ
ท่านเฉินถอนหายใจ
"หมอนั่นมันไม่เหมาะกับหนู"
ท่านพูดอย่างมีชั้นเชิง เวินเที๋ยนเที๋ยนถามอย่างประหลาดใจ "ทำไมคะ?"
"หนูลองไปถามเขาเรื่องเก่าๆในอดีตที่เขาเคยทำกับตระกูลจี้ดู ก็จะรู้เอง"
ยังไม่ทันที่ท่านเฉินจะพูดจบ รถของจี้ยี่หยันก็แล่นมาจอดตรงหน้าพอดี ท่านเฉินคว้ามือเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังจะเดินจากไปแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า:"ใครก็ชอบได้แต่อย่าเป็นจี้จิ่งเชิน เพราะเขาคือซาตาลที่ชั่วร้าย เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น แต่ท่านเฉินไม่อยากพูดเยอะจนเกิดไป เลยเดินจากไป
พอขึ้นไปนั่งบนรถ เธอก็ยังฝืนกลั้นรู้อยากเห็นในใจไม่ได้
"จี้ยี่หยัน นายรู้เรื่องราวในอดีตของจี้จิ่งเชินได้หรือเปล่า?"
จี้ยี่หยันยิ้มบางๆ แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า:"ไม่รู้เหมือนกัน ฉันพึ่งรู้จักเขาเมื่อตอนอายุสิบขวบ"
"อายุสิบขวบ? แต่เขาเป็นพี่ชายนายไม่ใช่เหรอ" เวินเที๋ยนเที๋ยนถามอย่างตกตะลึง
"คงใช่แหละ"
จี้ยี่หยันเบี่ยงหน้าหนี แล้วยิ้มมุมปาก ในดวงตาอันล้ำลึกของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
"เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของฉัน"
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะรู้มาโดยตลอดว่าความสัมพันธ์ของจี้จิ่งเชินกับคนในครอบครัวจะไม่ค่อยดีนัก แต่เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ เพราะเธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
จี้ยี่หยันกลับพูดขึ้นว่า:"จริงๆมันก็ไม่ใช่ความลับอะไร ก็แค่คนเขาไม่ค่อยพูดกันเท่านั้นแหละ"
ขณะที่รถก็ได้แล่นมาจอดตรงประตูหน้าบ้านตระกูลจี้
จี้ยี่หยันยิ้มบางๆ
"มันเป็นแค่เรื่องในอดีตน่ะ ไม่รู้จะพูดมันทำไม"
พอพูดจบเขาโน้มตัวลง เข้าหาเธอจน ใบหน้าของพวกเขาแทบจะสัมผัสกัน เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเอนตัวไปข้างหลังอย่างตกใจ และจี้ยี่หยันยื่นแขนออก เพื่อช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัย
"ลงไปกันเถอะ อาหารเย็นน่าจะเตรียมเสร็จแล้ว"
เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตาโต แล้วรีบเปิดประตูลงจากรถอย่างไม่รอช้า
ฉวีช่วยฉินที่นั่งอยู่ตรงห้องรับแขก เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา หล่อนกวาดตามองเวินเที๋ยนเที๋ยนก่อนชั่วครู่
ก่อนพูดขึ้นว่า:
"ตาฉันมา"
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังจี้ยี่หยันอย่างประหลาดใจ แต่เธอก็เดินตามหล่อนไป
พอฉวีช่วยฉินพาเธอเข้าไปในห้องทำงาน
สีหน้าของหล่อนเกรี้ยวกราดขึ้นมาเลยทันที
"คุกเข่าลง"
หล่อนพูดอย่างเสียงดังลั่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ด้วยสีหน้ามึนงง
ฉวีช่วยฉินพูดต่อว่า:"ฉันบอกให้เธอคุกเข่าลง!"
"ทำไม? หนูทำผิดอะไร?"
"นี่เธอยังจะกล้ามาถามอีกเหรอห่ะ? ฉวีช่วยฉินใช้พัดที่อยู่ในมือ ตีลงไปบนหัวไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างแรง ด้วยสีหน้าที่โกรธจัด "เธอแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลจี้แล้ว ก็ต้องทำตามกฎระเบียบของตระกูลจี้ แต่งานแล้วก็ควรเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือน แต่นี่เธอกลับกล้าออกไปมั่วสุ่มกับผู้ชาย ทำให้ตระกูลจี้อับอาย"
เวินเที๋ยนเที๋ยนเจ็บหัวไหล่จนเธอขมวดคิ้ว แต่เธอก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่หล่อนพูดอยู่ดี
"ฉันไม่ได้ทำ"
"นี่เธอยังจะกล้าปฏิเสธอีกเหรอ"
หล่อนหันไปหยิบรูปภาพที่อยู่ในลิ้นชัก แล้วโยนลงไปบนตัวเธออย่างแรง
"แล้วนี่คืออะไรห่ะ? นี่แต่งงานกันพึ่งจะไม่กี่วั? เธอกูทนความเหงาไม่ไหวแล้วเหรอ? ฉันให้เธอแต่งงานกับจี้จิ่งเชินไม่ใช่ให้เธอนำความละอายมาให้แก่ตระกูล
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังภาพถ่ายที่ตกอยู่บนพื้น มันเป็นภาพถ่ายในคืนที่เธอกับหมินอันเกอนั่งอยู่ตรงลานหน้าห้างสรรพสินค้า
นี่ถูกถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัวเลย?
ฉวีช่วยฉินยิ้มอย่างเย้ยหยัน
"อันที่จริงเธอจะทำร้ายจี้จิ่งเชินก็ได้ แต่อย่าให้เรื่องมันส่งผลกระทบต่อตระกูลจี้ก็พอ"
"ไม่แปลกเลยจริงๆ ลูกชายของโสเภณี ต่อให้หาผู้หญิง ก็คงหาได้แต่เพียงแค่…."
เขายังพูดไม่ทันจบ ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกดังปัง!
ประตูที่ถูกปิดแน่น ถูกถีบออกจากด้านนอก เสียงดังสนั่นไปทั่ว
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ตรงหน้าประตู เขากวาดตามองรอบๆ ด้วยแววตาพิฆาต
ฉวีช่วยฉินตกใจกับสายตาที่เขามองมา จนพัดในมือหล่นลงกับพื้น
"นี่ ลูกมาได้ยังไง?"
จี้จิ่งเชินเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ราวกับซาตานที่จะมาคร่าชีวิต เขายิ้มอย่างเย้ยหยัน และพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า:
"ผมมารับภรรยาของผม กลับบ้าน!"