เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 65 เธอเป็นของฉัน
บทที่ 65 เธอเป็นของฉัน
กลับไปแล้วเหรอ? แววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความผิดหวังแฝงอยู่
จงหลีรู้สึกสงสาร
"พวกเขาพึ่งไปครับ ถ้าโทรไปตอนนี้น่าจะยังทันนะครับ
"ไม่ต้องแล้ว"
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า แล้วยิ้มเบาๆ แล้วนอกนอกเรื่องว่า:"ดีไซน์ของห้างสวยดีนะคะ ตอนที่ฉันขึ้นมากได้ยินแต่คำชื่นชมของลูกค้า"
"ขอบคุณมากครับ เป็นเพราะคำแนะนำของคุณเลยนะครับ"
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายมืออย่างน้อบน้อม แล้วเดินกลับไปขึ้นลิฟต์
เธอไม่ได้กลับไปทันที เมื่อลงมาจากชั้นบนสุด แต่เธอนั่งชื่นชมพลุไฟที่สวยงามอย่าน่าหลงใหลท่ามกลางความมืด อยู่ตรงเก้าอี้นั่งบริเวณลาน
ทันใดนั้นก็มีผู้ชายสวมหมวกแก๊ปวิ่งฝ่าออกมาจากฝูงชน
ยังไม่ทันที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะได้ตั้งตัว เขาก็ย่อตัวลงเข้าไปหลบในพุ่มไม้ที่อยู่ตรงด้านหลังเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกตะลึง กำลังจะลุกขึ้น เขากลับดึงชายเสื้อเธอเอาไว้”
"ชู่…อย่าบอกพวกเธอนะว่าฉันอยู่ที่นี่นะ"
เมื่อเขาพูดจบ แฟนคลับจำนวนมากก็วิ่งตามออกมาทันที
ในมือของพวกเธอล้วนมีป้ายไฟ โปสเตอร์ถือไว้ในมือ เมื่อมองหารอบๆแล้วไม่เจอเขา เลยเดินเข้ามาถามเวินเที๋ยนเที๋ยน
"นี่คุณเห็นหมินอันเกอเดินผ่านมาตรงนี้บ้างหรือเปล่า"
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองรูปภาพบนโปสเตอร์ แล้วส่ายหัว
"หมินอันเกอ? ฉันไม่รู้จัก"
พวกเธอมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาดูแคลนอย่างไม่น่าเชื่อ
"นี่เธอไม่รู้จักหมินอันเกอของพวกเราได้ไง ช่างมันเถอะ เราไปทางทางโน้นกัน วันนี้ฉันต้องเอาลายเซ็นของเขาให้ได้
พอพวกเธอเดินจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้บอกกับคนข้างหลังอย่างเบาๆว่า:"พวกเธอไปแล้ว"
พอพูดจบเขาคนนั้นก็เดินออกมาจากพุ่มไม้ แล้วมานั่งข้างๆเธอ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนหันมองเขา ก็เผชิญกับสายตาของหมินอันเกอที่ที่มองมาพอดี
เขาเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อคมที่อยู่ใต้หมวกแก๊ปขึ้น
ใบหน้าที่ถูกโหวตให้เป็นใบหน้าที่น่าหลงใหลมากที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เวลาเขายิ้มบางๆ ดูสะดุดตามากกว่าพลุไฟที่อยู่บนท้องฟ้าเสียอีก ทำให้ดวงดาว และพระจันทร์ดูหม่นหมองขึ้นมาเลยทันที
"เราเจอกันอีกแล้ว"
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังเขา
ถึงแม้เธอจะรู้ตั้งนานแล้วว่าเพื่อนสมัยวัยเด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้กลายเป็นดาราดัง แต่เมื่อเธอเจอเขาจริงๆ กลับรู้สึกเหมือนเขายังเป็นเป็นเด็กผู้ชายคนเดิม。
เธอชะงักไปสักพัก แล้วรีบเบี่ยงหน้าหนี กลัวว่าเขาจะจำเธอได้
"พวกเธอไปไกลแล้ว คุณรีบไปเถอะ"
แต่นึกไม่ถึงว่าเขานอกจากจะไม่ไปแล้ว ยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้เวินเที๋ยนเที๋ยนมากยิ่งขึ้น ด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด
"นี่คุณไม่รู้จักฉันจริงๆเหรอ"
เวินเที๋ยนเที๋ยนขยับถอยหลัง มองเขาด้วยสายตาตกตะลึงใจ
"รู้จัก.."
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตื่นตระหนกตกใจ หมินอันเกอไม่เหมือนเด็กคนอื่นในสภาเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะเด็กพวกนั้นไม่มีทางที่จะเข้ามาผัวพันกับตระกูลจี้ได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องกลัวว่าความลับจะถูกเปิดโปง แต่หมินอันเกอไม่เหมือนพวกเขา เหมือนอย่างวันนี้ที่เขาถูกเชิญมาแสดงในงานเปิดตัวห้างให้มาของตระกูลจี้ แต่….
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังเขา เหมือนว่าเขาจะจำเธอไม่ได้
หมินอันเกอหัวเราะอย่างกะทันหัน แล้วนั่งกลับไปที่เดิม
"ให้ผมพักอีกสักแป๊บ นี่คุณไม่รู้ว่าเพื่อหลบแฟนขับพวกนั้น ผมต้องวิ่งลงมาจากชั้นสิบ "
เขาพูดพลาง ถอนหายใจ เหมือนยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่าเขาจำเธอไม่ได้จริงๆถึงค่อยๆผ่อนคลายลง
"เพราะพวกเธอชอบคุณแหละ ถึงได้วิ่งไล่ตามคุณ"
"แต่ก็ไม่ควรเข้าไปแม้กระทั่งห้องน้ำผู้ชายนะ ทำผู้ชายคนอื่นๆตกใจกันหมด" หมินอันเกอพูดเสียจนเธอเห็นภาพในตอนนั้นจนเวินเที๋ยนเที๋ยนฝืนกลั้นไม่ไหว
หมินอันเกอพูดต่อ:"อันที่จริงถ้าครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดตัวของห้างตระกูลจี้ ผมก็ไม่มาหรอก"
"ทำไมล่ะ"
"คุณรู้จักสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีที่อยูชานเมืองไหม"
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไป เธอเบี่ยงหน้าหนีอย่างใจฝ่อ”
"ฉันไม่รู้"
"หมินอันเกอพูดพลางจ้องมองไปยังเธอ "สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นกำลังจะถูกจะถูกรื้อ ได้ยินมาว่าเป็นโปรเจคสร้างหมู่บ้านจัดสรร ระหว่างตระกูลเจี่ยงและตระกูลจี้ ผมอยากจะซื้อสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้านั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าลงอย่าเงียบๆ
และเขาก็พูดต่อว่า:"เมื่อก่อนผมเคยอยู่ที่นั่นมาสองปี ที่นั่นมีความหมายสำหรับผมมาก ผมรับงานแสดงครั้งนี้ก็เพราะเรื่องนี้แหละ"
"อืม"
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างเสียงแผ่วเบาว่า:"คุณสำคัญผิดคนแล้ว คนที่จะร่วมลงทุนเป็นตระกูลจี้ไม่ใช่จี้จิ่งเชิน พวกเขาไม่ใช่คนเดียวกัน"
"ไม่ใช่เหรอ?"
"ไม่ใช่"เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้น ถามเขาด้วยความประหลาดใจ
"คุณคิดว่าพวกเขาจะยอมล้มเลิกโปรเจคนี้เพราะสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้างั้นเหรอ?"
หมินอันเกอพูดอย่างแน่วแน่ว่า:"ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่ที่ความพยายามของคน"
"ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความพยายามของคน"
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมองเขา เธอไม่เคยคิดเลยว่านอกจากเธอแล้วยังมีคนที่พยายามปกป้องสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้านั้นอยู่
มันเธอรู้สึกว่าเธอไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไป
แสงที่กระทบลงบนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำให้หน้าเธอเปล่งประกายเหมือนดวงดาวที่อยู่บนฟ้า จนใจของหมินอันเกอเริ่มอ่อนไหว เขายกมือขึ้นค่อยๆโน้มตัวเข้าหาเธอ ขยับเข้าใกล้เธอทีละนิด
"เจี่ยงเนี่ยนเหยา"
เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธดังมาจากด้านหลัง!
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนเธอรีบหันหลับ
ใบหน้าของคนที่อยู่ทางด้านหลังเปี่ยมไปด้วยความโกรธ เขากำหมัดแน่น มองเธอด้วยสายตาแหลมคม
เขามองไปยังอันเกอ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
"คุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่?"
หมินอันเกอรีบดึงมือเขาออก แล้วส่งรอยยิ้มที่เป็นมิตรให้กับจี้จิ่งเชิน
"คุณจี้ ผมเป็นหมินอันเกอนะครับ พวกเรากำลัง…"
"ผมไม่ได้ถามคุณ"
จี้จิ่งเชินขัดเขาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด แล้วจ้องมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยสายตาโหดร้าย พร้อมเดินเข้าใกล้เธอทีละก้าว
"ไหนคุณบอกว่าไม่มีเวลา ไหนคุณบอกว่าจะไปบ้านตระกูลฉวี"
"ไหนคุณบอกผมมาสิ ว่าคุณมาอยู่ที่ได้ยังไง"
บรรยากาศรอบๆเหมือนถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็ง เมื่อเขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
จี้จิ่งเชินคว้ามือเธออย่างแรง เพื่อให้เธอเผชิญหน้ากับเขา
"เมื่อเช้าผมพึ่งเตือนคุณไปว่ายังไง"
หมินอันเกอขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ซีดเผือด เขายกมือจับที่แขนของจี้จิ่งเชินเพื่อห้ามเขา
"คุณอย่าดึงเธอแบบนี้"
เมื่อได้ยินแบบนี้ อารมณ์โทสะในใจของจี้จิ่งเชินก็ระเบิดออกมา
"อย่ามายุ่ง เธอเป็นภรรยาผม!"
หมินอันเกอพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ
"เธอคือ…"
เขาเกือบจะพลั้งปากพูดไป แต่ก็ต้องหยุดลงอย่างไม่พอใจ
เขาจะบอกฐานะของเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาไม่ได้
จี้จิ่งเชินยิ้มอย่างเย้ยหยัน แล้วโอบเอวเวินเทียนเทียนแน่น
”เธอเป็นของฉัน"
พูดจบเขาก็ก้มลงจูบลงบนริมฝีปากเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างร้อนแรง
จูบที่รุกรานนี้ เหมือนเป็นการป่าวประกาศว่าเธอเป็นของเขา
จี้จิ่งเชินโอบเอวเธอแน่น ดูดดื่มริมฝีปากเธออย่าไม่รู้จักพอ
เหมือนว่ามีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาลดความหวาดกลัวในใจเขาลง
ปัง!
พลุที่ตกกระจายไปทั่วจุดประกายท้องฟ้าที่มืดมิด
จี้จิ่งเชินกัดริบฝีปากเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นเจ้าของ
"เธอเป็นคุณหญิงจี้ อยู่ห่างๆเธอหน่อย"
หมิ่นอันเกอที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆกำหมัดทั้งสองข้างแน่น เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาพาตัวไป
เธอไม่ใช่ทั้งคุณหญิงจี้ และเจี่ยงเนี่ยนเหยา