เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 61 ลูกชายฉันดีกว่าจี้จิ่งเชินตั้งเยอะ
บทที่ 61 ลูกชายฉันดีกว่าจี้จิ่งเชินตั้งเยอะ
ยิ่งท่านจางมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างน่าพอใจ ยิ่งมองเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชื่นชมเธอมากขึ้นเท่านั้น
“น่าเสียดายจัง”เขาถอนหายใจเบาๆ
ลุงหลิวและจี้คางหันมามองอย่างแปลกใจ
“ทำไมถึงน่าเสียดายล่ะ”
ท่านจางพูดอย่างลำบากใจว่า:“น่าเสียดายที่สาวตัวน้อยแต่งงานแล้ว ถ้าไม่ได้แต่งให้เธอก็มาเป็นลูกสะใภ้ฉันก็ได้ ลูกชายฉันดีเพรียบพร้อมทุกอย่าง เขาพูดพลางจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ปีนี้ลูกชายฉันอายุแค่ยี่สิบแปด เขาก็เป็นคนจัดการทุกเรื่องในตระกูลจางแล้ว สุภาพน้อบน้อม พวกเธอทั้งสองคนต้องเหมาะสมกันเป็นอย่างมากแน่ ไว้คราวหน้าจะแนะนำให้รู้จัก
ลุงหลิวรีบหยุดบทสนทนา เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของจี้คางเปลี่ยนไป
“นี่แกก็พูดจาเหลวไหล สาวตัวน้อยเขาแต่งงานแล้ว นี่มันไม่หวังดีชัดๆ”
ก็จี้จิ่งเชินไม่ชอบสาวตัวน้อย เอง ลูกชายข้าจะชอบไม่ได้เหรอ ลูกชายข้าดีกว่าตั้งเยอะ
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ต่างก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
ข่าวพวกนั้นร่ำลือกันไปทั่ว ทุกคนล้วนรู้สึกเสียดายที่เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้
จี้จิ่งเชินที่กำลังเตรียมตัวจะเข้าไป เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเขาเย็นไปเลยในทันที
นี่มีคนกล้าที่จะยุให้พวกเขาหย่ากันต่อหน้าต่อตาเขาเลยรึ
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไปยืนข้างเวินเที๋ยนเที๋ยนพร้อมโอบเอวเธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างตกใจ
“จี้จิ่งเชิน”
จี้จิ่งเชินมองท่านจางด้วยสายตาที่แหลมคมไร้ความอบอุ่น สายตาของทั้งสองปะทะกันอย่างร้อนแรง
ชั่วครู่ เขาถึงจะเอ่ยคำพูดอย่างเชื่องช้า
“ท่านจาง”
“เหอะ”
ท่านจางเหอะอย่างไม่พอใจ
“กลับเถอะ คนบางคนนี้ช่างขัดอารมณ์จริงๆ” ก่อนที่เขาสะบัดมือแล้วเดินจากไปก็ไม่ลืมเตือนเวินเที๋ยนเที๋ยนว่า:สาวตัวน้อย เธออย่าลืมนะ อีกสองวันฉันจะให้คนไปรับเธอ”
“ได้ค่ะ”
“พอท่านจางกลับ แขกทั้งหลายในงานก็พากันทยอยกลับ
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งพวกเขาขึ้นรถ ในห้องโถงยังมีแขกอยู่จำนวนไม่มาก
แต่เมื่อเป็นฝ่ายจัดงาน ตราบใดที่ยังมีแขกเหลืออยู่เธอก็ยังคงต้องอยู่ต่อ
แต่การทำงานหนักในช่วงนี้ ทำให้ร่างกายของเธอเหนื่อยล้าจนถึงสุดขีด
เวินเที๋ยนเที๋ยนหาวไม่หยุด เธอจึงได้หามุมนั่งเพื่อพักผ่อน
ในห้องทำงานของจี้คาง
จี้จิ่งเชินมองหน้าจี้คางอย่างเย็นชาไร้ซึ่งความรู้สึก เปรียบเสมือนมองคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
“อยากพูดอะไร”
จี้คางรู้ดีว่าจี้จิ่งเชินเกลียดเขา แต่ทุกครั้งที่เขาสบตากับดวงตาที่เย็นเฉียบนี้ เขาก็อดรู้สึกเกรงกลัวไม่ได้
เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ อย่างไม่อ้อมค้อม:“นี่นายเป็นอะไรกับผู้หญิงที่ชื่อว่าเจียงหยู่เทียน”
“เป็นเพื่อน”
จี้คางไม่เชื่อ เพราะดูจากท่าทีของทั้งสองคนในวันนี้แล้วจะเป็นแต่เพื่อนกันได้ยังไง
“ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นชู้งั้นเหรอ?” จี้จิ่งเชินถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เขายิ้มมุมปาก อย่างประชดประชัน
“ผมไม่เหมือนพ่อ”
สีหน้าของจี้คางชีดลงในทันที
“พ่อไม่สนว่าเขาจะเป็นอะไรกับลูก แต่ตอนนี้ลูกแต่งานแล้ว ก็ต้องแยกให้ออกว่า สถานะของลูกตอนนี้เป็นยังไง ลูกรู้ไหมว่าคนเขาลือกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
จี้จิ่งเชินนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเขาได้ใส่ใจในสิ่งที่จี้คางพูดหรือไม่
แต่ก็เพราะจี้คางรู้สึกผิดต่อเขา จึงไม่รู้จะทำยังไงกับเขาดี
ผ่านไปชั่วครู่เขาถึงได้ถอนหายใจเบา
“ถึงแม้งานแต่งงานครั้งนี้จะเร่งด่วนเกินไป แต่วันนี้ลูกก็เห็นแล้วนิ ว่าเธอเป็นคนดี ถ้าลูกไม่เห็นคุณค่าของเธอ จะต้องเสียใจภายหลังแน่”
“พูดจบหรือยัง” จี้จิ่งเชินขัดด้วยน้ำเสียงแนบนิ่ง
จนจี้คางตัวแข็งทื่อเมื่อถูกโต้กลับ และสีห้องของเขาก็ค่อยๆหมองลง
“ลูกไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสั่งสอนพ่อ”เขาพูดก่อนที่จี้จิ่งเชินจะเดินออกจากประตูห้อง
ร่างกายของจี้คางเหมือนหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงแต่ความเศร้าโศกเสียใจหลังจี้จิ่งเชินเดินจากไป
จี้จิ่งเชินตรงไปยังห้องโถง หลังเดินออกจากห้องทำงานของพ่อเขา
คนส่วนมากกลับหมดแล้ว เหลือเพียงแขกหนุ่มสาวไม่กี่คนที่ยังสังสรรค์กันอยู่
เจียงหยู่เทียนที่กำลังเต้นอยู่กลางห้องโถงเมื่อสังเกตเห็นเขา ก็รีบตรงเขามาหาเขาอย่างยิ้มแย้ม
“พี่จิ่งเชินคะ เมื่อกี้พี่ไปไหนมาคะ”
หล่อนลากมือจี้จิ่งเชิน ตรงไปยังกลางห้องโถง
“เรามาเต้นด้วยกันนะคะ”
จี้จิ่งเชินกวาดตามองรอบๆอย่างใจลอย สายตาเขาสะดุดลงเมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง
เขาสะบัดมือเจียงหยู่เทียนออก
“ผมยังมีเรื่องต้องทำ คุณไปคนเดียวก่อนนะ”
เมื่อเจียงหยู่เทียนมองไปยังทิศทางที่เขาจ้องอยู่ หล่อนก็รู้เลยว่าเรื่องที่เขาพูดนั้นหมายถึงเรื่องอะไร สีหน้าของเธอเย็นลงในทันที
แต่เธอก็รีบเก็บอาการความไม่พอใจนี้ไว้ แล้วยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน
“ไม่ล่ะ พี่จิ่งเชิน ฉันรู้สึกเหนื่อยอ่ะ พี่จิ่งเชินส่งฉันกลับบ้านหน่อยนะ ฉันอยากกลับพร้อมพี่”
เธอพูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปยังเขา
พักนี้ขอเพียงแค่เธอทำเช่นนี้ จี้จิ่งเชินก็จะทำตามทุกอย่างที่เธอร้องขอตลอด
แต่ครั้งนี้จี้จิ่งเชินกลับ นิ่งเงียบ
“เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่งนะ”
เจียงหยู่เทียนอึ้งไปชั่วครู่ หล่อนยังไม่ทันตั้งสติ จี้จิ่งเชินก็เดินตรงเข้าไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนเรียบร้อย
พอหล่อนได้สติจะตามเขาไป คนขับรถก็มาถึงตรงหน้าหล่อนพอดี
เจียงหยู่เทียนจ้องไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแววตาโกรธแค้น แล้วเดินจากไปด้วยความไม่พอใจ
เมื่อจิ่งเชินเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ที่หลับสนิทที่ตรงมุมห้อง
เขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ยัยนี่นี่โง่จริงๆ ใครกันจะปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยขนาดนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหลับอย่างสนิท จนรอบๆตัวเธอเหมือนโอบอ้อมไปด้วยความสงบ
พอเข้าใกล้เธอมันทำให้เสียงดังรอบๆเหมือนถูกปิดกั้นโดยปริยาย
เขานั่งข้างๆเธอ เหมือนถูกสะกด
ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาหลายวัน ทำให้เธอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่นิดว่ามีคนมานั่งข้างๆเธอ
แต่เพียงไม่นานตัวเธอก็ค่อยเซลงไปตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ตัวเธอค่อยๆเซไปซบกับไหล่เขา
จี้จิ่งเชินนิ่งอึ้งไปสักพัก แล้วค่อยๆเอนตัวเข้าหาเธอเพื่อให้เธอหลับสบายมากขึ้น
เขาอดใจเหลวมองใบหน้าอมชมพูของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่หลับสนิทไม่ได้
หลังจากที่เสร็จงานทั้งหมดผู้จัดการท้ายครัว เดินมาหาเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างเร่งรีบ
“คุณเจี่ยงครับ ท้ายครัว”
เขายังพูดไม่ทันจบ แต่ก็ต้องหยุดพูดทันทีเมื่อเขาเห็นสายตาแหลมคมของจี้จิ่งเชินที่มองมา มันทำให้เขาตกใจแล้วหยุดพูดไปโดยอัตโนมัติ
จี้จิ่งเชินทำท่าทีให้เขายื่นใบเสร็จรายการมา เขาวาดตามองรายการ แล้วเซ็นชื่อลงอย่างรวดเร็ว และบอกให้พวกเขาเลิกงานได้
ผู้จัดการพยักหน้ารับ แต่พอเดินไปถึงตรงประตู เขาก็หันมองทั้งคู่ที่นั่งพิงกันอีกรอบหนึ่ง
ใครว่าคุณจี้ไม่ชอบภรรยาของเขา? เขาไม่เชื่อ
วันต่อมา เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นมามองเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้อง
เธอจำไม่ได้เลยว่าเมื่อวานงานเลี้ยงจบลงตอนไหน เธอเดินลงจากบันได และเห็นพ่อบ้านกำลังจัดเตรียมอาหารอยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยวเดินตรงไปหาเขา พร้อมความคับข้องในใจ
“พ่อบ้านคะ รู้ไหมคะว่าเมื่อวาน ฉันกลับมายังไง”
“พ่อบ้านยิ้มบางๆ ดูเหมือนว่าจะดีใจมากกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเสียอีก
“คุณผู้ชายเป็นคนอุ้มคุณผู้หญิงกลับมาเองครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คุณจี้” เป็นไปได้ยังไง
พ่อบ้านพยักหน้ายืนยัน
เธอกินโจ๊กพลาง คิดถึงเรื่องเมื่อคืนแต่ว่าก็จำอะไรไม่ได้เลย
นึกไม่ถึงเลยว่าจี้จิ่งเชินจะเป็นคนพาเค้ากลับมา
เขาน่าจะกลัวว่าเธอจะขายหน้าเขามากกว่าถ้าปล่อยให้เธอนอนอยู่ตรงนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะอย่างข่มขื่น เธอรู้ดีไม่ใช่เหรอว่าเขาเป็นคนยังไง?