เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 51 ขึ้นมา
บาทที่ 51 ขึ้นมา
มาครั้งนี้จี้จิ่งเชินไม่ได้บอกล่วงหน้า เจี่ยงหงซึ่งกับจางม้างหรูต่างไม่ทราบทั้งคู่ ก็เลยใช้เวลาค่อนข้างนานในการเตรียมอาหารเย็น เวินเที๋ยนเที๋ยหาข้ออ้างออกไปข้างนอก ตามเส้นทางในความทรงจำมาที่ห้องของเจี่ยงเนี่ยนเหยา
เธอมองไปที่เฟอร์นิเจอร์ในห้อง และนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
หลังจากที่หนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้ ก็มีคนตบให้เธอให้หมดสติ
แต่ก่อนที่เธอจะหมดสติไป เธอได้ยินเสียงคนสองคนกำลังพูดคุยกันแต่ไม่ได้ชัดมาก ผู้หญิงคนนั้นอาจเป็นเจี่ยงเนี่ยนเหยา
เพื่อหนีการแต่งงาน เจี่ยงเนี่ยนเหยาจึงตบเวินเที๋ยนเที๋ยนที่หนีเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจให้หมดสติ และส่งตัวเข้าไปในรถแต่งงาน
ไม่รู้ว่าจะสามารถหาร่องรอยของเจี่ยงเนี่ยนเหยาที่นี่ได้บ้างไหม มีแต่เร่งเธอให้กลับมาโดยเร็วที่สุด ตัวเองถึงจะสามารถรอดจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบันได้ และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะได้ดีขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปิดลิ้นชักแล้วค้นหาอย่างละเอียด
ตามที่เจี่ยงหงซึ่งบอก เจี่ยงเนี่ยนเหยามาที่นี่ครั้งแรกตั้งแต่เขาอายุแปดขวบ ห้องนอนว่างเปล่าและทุกอย่างเป็นของใหม่ ไม่เจออะไรเลย
เธอขมวดคิ้วแน่นมาก พยายามจะเปิดแล็ปท็อปบนโต๊ะ
เมื่อเปิดแล็ปท็อปได้ ตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นประกาย รีบเปิดดูประวัติการท่องอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว เจี่ยงเนี่ยนเหยาซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาถึงประเทศ ต่อจากนั้นไม่มีเบาะแสอะไรอีกแล้ว
หรือว่าเจี่ยงเนี่ยนเหยาไม่ได้ซื้อตั๋วไปจากที่นี่
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองหน้าจอที่เปิดอยู่ และเห็นบันทึกคลาวด์ จึงเกิดความคิดอะไรขึ้นมาทันที
จึงรีบเปิดดู
กล่องโต้ตอบปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ต้องการรหัสผ่านหรอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ลองพิมพ์วันเกิดของเจี่ยงเนี่ยนเหยาเข้าไป
"คุณกำลังทำอะไรอยู่? " มีเสียงดังมาจากทางประตู ของเวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจทันที และเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
เห็นจี้จิ่งเชินยืนอยู่หน้าประตู
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนเป็นสีซีดทันที
"ฉันก็แค่มองไปรอบ ๆ เฉยๆ "
สายตาของจี้จิ่งเชินมองไปที่น้าของเธอชั่วครู่ แล้วเธอก็ก้าวเดินเข้ามา
"เมื่อก่อนหนีออกจากบ้าน เพื่อให้ได้กลับมาที่นี่ แต่ตอนนี้มาแล้ว เธอกลับซ่อนตัวอยู่ที่นี่"
"ฉันแค่จะเข้ามาเอาของบางอย่าง เดี๋ยวก็ออกไป"
เธอพูดไป และแอบมองที่คอมพิวเตอร์ไป ร่างกายของเธอเกร็งเล็กน้อย
เปิดได้แล้ว! ประวัติการเรียกดูบนที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์กำลังโหลดอย่างช้าๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยตื่นเต้นจนเหงื่อออกในมือ
จี้จิ่งเชินเดินมาตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยแล้ว
"คุณกังวลเรื่องอะไรอยู่"
"ไม่มีอะไร… "
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันแล็ปท็อปไปอีกทาง หลบสายตาของจี้จิ่งเชิน
"ฉันแค่ไม่ค่อยชิน"
จี้จิ่งเชินขำเบา ๆ ไม่รู้ว่ามันเป็นประชดหรือคำตอบ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ มุมตาของเธอมองดูบันทึกการสืบค้นบนหน้าจออยู่ตลอด
จางม้างหรูก็เดินมาจากข้างนอกห้องในเวลานี้พอดี
“ไปกินข้าวได้แล้วจ้า”
เธอมองเข้ามา เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่บนเตียงของเจี่ยงเนี่ยนเหยา สายตาของเธอไม่พอใจเล็กน้อย
"เนี่ยนเหยา หนูกำลังทำอะไร กลับมาถึงก็อยู่แต่ในห้อง ไม่พาจิ่งเชินไปเดินดูรอบๆ เลยนะ"
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แต่ก็ไม่ออกไป
การบันทึกคลาวด์บนคอมพิวเตอร์โหลดมาหมดแล้ว
เธอเห็นว่า ในวันที่สองหลังจากหนีการแต่งงาน เจี่ยงเนี่ยนเหยายังใช้คอมฯ นี้อยู่เลย
แต่ตอนนี้จี้จิ่งเชินและจางม้างหรูอยู่ตรงนี้ทั้งคู่ แล้วเธอจะเจาะลงมายังไงละ
"แม่คะ คุณแม่ไปก่อนนะ เดี๋ยวหนูจะตามไป"
จางม้างหรูมองเธออย่างสงสัย แต่เห็นจี้จิ่งเชินก็อยู่ที่นี่ด้วย เดินออกไปโดยมีรอยยิ้ม
เมื่อจางม้างหรูออกไปแล้ว จี้จิ่งเชินก็ยืนขึ้นมา
"คุณจะเอาอะไร ก็ รีบๆ เอาไป"
เวินเที๋ยนเที๋ยน ก็หยิบหมีตัวเล็กจากเตียง
"เอาตัวนี่ โอเคแล้ว เราออกไปเถอะ"
เมื่อจี้จิ่งเชินหันตัวเดินออกไปข้างนอก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบเปิดโทรศัพท์
ถ่ายภาพหน้าจออย่างรวดเร็ว และปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
เธอรีบเดินไปที่ข้างหลังของจี้จิ่งเชิน และออกไปพร้อมกัน
เวลากินข้าวสายไปหน่อย เมื่อออกมาจากบ้านเจี่ยงมันก็เก้าโมงแล้ว
มันมืดมากแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังเหมือนปกติ
เธอยังไม่ทันนั่งลงเลย ก็มีเสียงของจี้จิ่งเชินดังมาจากที่นั่งคนขับ
"คุณคิดว่าฉันเป็นคนขับหรือ? "
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้น เห็นจี้จิ่งเชินกำลังมองตัวเองจากกระจกมองหลัง
"พ่อบ้านและคนขับรถล่ะ? "
“ฉันให้พวกเขากลับไปก่อน” จี้จิ่งเชินพูดด้วยใบหน้าเย็นชา
เวินเที๋ยนเที๋ยนลงจากรถ และนั่งไปที่ข้างหน้า แต่เธอก็ยังคิดบันทึกคลาวด์เพิ่งค้นเจออยู่
เมื่อกี้เธอมองอย่างรีบๆ ดูเหมือนเจี่ยงเนี่ยนเหยาจะซื้อตั๋วไปที่ไหนสักแห่ง แต่เธอมองไม่ชัด
จี้จิ่งเชินเมื่อเห็นเธอไม่พูดจา เขาก็ไม่ได้พูดด้วย ทำหน้าตาเย็นชา
รถสปอร์ตสีดำเดินทางไปภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ขับออกจากในเมืองอย่างช้าๆ
อาณาจักรขนาดใหญ่ของจี้จิ่งเชิน ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตชานเมือง ตรงข้ามกับปราสาทขนาดใหญ่รอบๆ ไม่มีใครพักเลย
จากเชิงเขาไปยังด้านหน้าของประตู ถึงแม้จะขับรถก็ยังต้องใช้เวลาหลายสิบนาที
ในรถเงียบมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนโฟกัสกับเบาะแสที่หาเจอ สีหน้าของจี้จิ่งเชินก็ไม่ค่อยดี ดูเย็นชามาก
รถสปอร์ตไม่มีเสียงสักนิดเลย เมื่อมันเริ่มขึ้นไปบนภูเขา เกิดเสียงดังขึ้นมา
รถสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
เวินเที๋ยนเที๋ยนยกหัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และจับราวข้างๆ ไว้
"เกิดอะไรขึ้น? "
แชสซีของรถสปอร์ตเกิดเสียงทานอย่างมาก แม้แต่รถก็สั่นสะเทือนแรงมาก
จี้จิ่งเชินควบคุมพวงมาลัย และขมวดคิ้วแน่นมาก ในที่สุดเขาก็ควบคุมรถได้
แต่ทันใดนั้นรถก็ดับ
รถหยุดกลางคัน
จี้จิ่งเชินเปิดประตูรถยนต์ และลงไปเห็นว่า มีหินก้อนใหญ่อยู่บนพื้นดินที่เขาเพิ่งขับข้ามไป มันควรตกลงจากภูเขา
ก้อนหินทำให้แชสซีของรถสปอร์ตเป็นรอยขีดข่วน และทำให้รถดับ
ในตอนนี้ไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่รอบ ๆ
มีไฟส่องทางทั้งสองด้านของถนน แต่ไม่เห็นมีใครสักคนเลย ทางลาดยาวกว้างมากก็ไม่เห็นมีบ้านแม้แต่สักหลัง
อีกอย่าง ถนนเส้นนี้เป็นของจี้จิ่งเชิน นอกจากรถของเขาแล้ว ไม่มีบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาได้เลย
คิดจะเจอรถก็ไม่มีทาง
"ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?
จี้จิ่งเชินดูโกรธ
หน้าตาของเขาภายใต้แสงไฟ ดูยิ่งหล่อ
"เดินขึ้นไป"
หลังจากพูดเสร็จก็หันหลังเดินขึ้นไปเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหัวมองไปที่ถนนบนภูเขาที่มองไม่เห็นสิ้นสุด
เดินขึ้นไปเหรอ
เธอก้มลงมองที่รองเท้าส้นสูงบนเท้าของเธอ พยายามเดินตามจี้จิ่งเชิน เดินขึ้นภูเขายิ่งยา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินแป็บเดียวก็ถอดรองเท้าเลย
"หรือว่าเราจะโทรไปให้คนขับรถลงมาดีไหม"
"พูดมาก"
จี้จิ่งเชินพูดมาและหันมา เขาขมวดคิ้วแน่นๆ เมื่อเห็นท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เธอถอยรองเท้าส้นสูงลงมา และเดินเท้าเปล่า นิ้วเท้าของเธอขาวมาก แตะกับพื้นดิน ทำให้นิ้วเท้ายิ่งน่ารักไปอีก
มีแผลที่เท้าเธอ และฝ่าเท้าก็แดงมาก
จี้จิ่งเชินเก็บสายตาทันที และหันไปอย่างเย็นชา
"เดินเร็วๆ หน่อย"
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า และตามมาอย่างรวดเร็ว
เดินไปไม่กี่ก้าวเอง ก้อนหินบนพื้นดินเยอะขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว ปิดปากอย่างแน่น เธอพยายามหลีกเลี่ยงก้อนหิน แต่เท้าของเธอยังเจ็บแสบมาก
"จิ๊"
เมื่อเสียงนี้ออกมาครั้งที่สอง จี้จิ่งเชินก็หยุดเดินชะงัก
เขาหันมาพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด ถอดเสื้อคลุมของเขาอย่างไม่เต็มใจเท่าไร โยนไปตัวที่เวินเที๋ยนเที๋ยนโดยตรง
"เอาไป! "
พูดเสร็จก็เดินมาที่หน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน หันหลังหมอบลงไป
"ขึ้นมา! "