เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 330 ฉันจะแต่งงานแล้ว
บทที่ 330 ฉันจะแต่งงานแล้ว
เพิ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าวนั้น จู่ๆพ่อบ้านฉวีผิงก็เอ่ยเรียกเธอเอาไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักด้วยความประหลาดใจ แล้วหันกลับมามอง
“ทำไมหรือคะ? คุณนายหล่อนยังประชุมไม่เสร็จ เธอยังไม่กลับมาหรือคะ?”
พ่อบ้านส่ายหน้า
“ตอนนี้คุณนายหล่อนอยู่ที่ตระกูลเวินครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้วนั้น เธอเบิกตาโต สีหน้าแตกตื่นขึ้นมาทันที
“ทำไมคะ? ทำไมเธอถึงไปอยู่ที่นั่นได้? เป็น…..เป็นเพราะเวินหงไห่อีกแล้วใช่ไหม?”
เธอขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา แล้วเดินออกไปยังด้านนอกทันที
เธอเดินออกไปพลางเอ่ยพูดขึ้นมา : “น่ารังเกียจ! เอาตัวพวกเสี่ยวชิ่งไปแล้วยังไม่พออีกหรือ! ทั้งๆที่ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้ว ตอนนี้ยังจะกล้าลงมือกับคุณนายหล่อนอีก!”
“ฉันจะต้องไปเอาตัวคุณนายหล่อนกลับมาให้ได้!“
เธอเดินออกไปอย่างรวดเร็ว จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่ได้ตามเธอไป แต่หันกลับมามองฉวีผิงแทน
“เกิดอะไรขึ้นครับ?”
ใบหน้าของฉวีผิงนั้นไม่ได้มีความกังวลอยู่แล้วแม้แต่นิดเดียว แต่กลับยิ้มออกมาอย่างช้าๆ แม้แต่ดวงตาของเขาก็ยังมีรอยยิ้มที่จริงใจออกมาอีกด้วย
“ความปรารถนาอันแสนยาวนานของคุณนายหล่อน ในที่สุดก็เป็นจริงขึ้นมาแล้วครับ”
ได้ยินประโยคนี้แล้ว จี้จิ่งเชินยิ่งมองเขาอย่างไม่เข้าใจ แล้วจึงเดินตามเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไป
รถยนต์ขับเข้าไปยังเขตกองกำลังทหารของตระกูลเวิน
ที่แปลกก็คือ ตลอดทางที่รถของเวินเที๋ยนเที๋ยนขับเข้ามานั้น กลับไม่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่หน้าประตูขวางเอาไว้เลย ขับเข้ามาได้ตลอดทาง จนมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์แห่งนี้
ครั้งที่แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นรถของจี้จิ่งเชินขับเข้ามา สุดท้ายแล้วก็ต้องถูกตรวจสอบถึงสถานะอยู่ดี
แต่ตอนนี้บุคคลเหล่านั้น กลับไม่ได้มาขัดขวางเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมองคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลเวิน แล้วขมวดคิ้วขึ้น
“มีอะไรแปลกๆ”
จี้จิ่งเชินนึกถึงคำพูดของพ่อบ้านฉวีผิงเมื่อครู่นี้ แล้วจู่ๆก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
เขาดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนลงมาจากรถ
“ผมเข้าไปเป็นเพื่อนคุณเองครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แล้วจับมือเขาเอาไว้แน่น พลางเดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังนี้
และเมื่อเพิ่งจะเดินเข้าประตูมา และเธอก็มองเห็นอุปสรรคทั้งเวินหงหยู้และเวินหงไห่ที่กำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก
พวกเขานั่งกันอย่างเรียบร้อย ราวกับว่ากำลังรอใครอยู่อย่างไรอย่างนั้น
และเมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาแล้ว อาการที่แสดงออกมาของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปหา แล้วเอ่ยพูดกับเวินหงไห่ : “คุณเอาตัวคุณนายหล่อนไปไว้ที่ไหน?”
เวินหงไห่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง
ที่น่าแปลกก็คือ ทั้งๆที่อำนาจตัวแทนยุทโธปกรณ์ในครั้งนี้พวกเขาได้ไปแล้ว แต่เวินหงไห่ที่นั่งอยู่ตรงนี้นั้นสีหน้าของเขาดูแย่ยิ่งนัก
“อืม ตอนนี้อยากที่จะเข้ามายังตระกูลเวินจนรอไม่ไหวกันแล้วอย่างนั้นหรือ? พวกเธอแม่ลูกวางแผนกันเอาไว้เป็นอย่างดีแล้วสินะ!” เขาเอ่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร แต่ตอนนี้คุณปล่อยตัวคุณนายหล่อนมาได้แล้วค่ะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดจบแล้ว แต่คนที่อยู่ตรงนั้น กลับไม่มีใครที่ตอบคำถามของเธอเลย
หมิงเฮ่าที่นั่งอยู่ข้างๆแม่ของเขาอยู่ตลอดนั้น เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว กลับเอาปืนของเล่นที่อยู่ในมือออกมา แล้วเล็งไปที่ทั้งสองคน
เมื่อเล็งไปยังเป้าหมายแล้วนั้น เขาก็ถูกเหยาเย้นที่อยู่ข้างๆดึงตัวกลับมา แล้วล็อคตัวเขาเอาไว้อย่างจริงจัง
เวลานี้เองที่เวินหงหยู้ลุกขึ้นมา แล้วเดินมาตรงหน้าพวกเขา
“หรือบางทีอาจจะมีอะไรเข้าใจผิด หล่อนหลีอยู่ที่ตระกูลเวินนี้จริง แต่ไม่ใช่พวกฉันที่เป็นคนจับตัวเธอมา แต่เธอยอมมาเองต่างหาก”
“ยอมมาเองอย่างนั้นหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยจะเชื่อเขาซักเท่าไหร่
เธอกำลังเตรียมที่จะถามให้ชัดเจน แต่กลับมีเสียงฝีเท้าเดินลงมาจากทางด้านบนดังขึ้นเสียก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไปมอง เห็นเวินฉี่และหล่อนหลี ทั้งสองคนที่เดินตามกันลงมาจากทางด้านบน
หล่อนหลีที่เดินตามมาอยู่ทางด้านหลังนั้นมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ตอนนี้ของเธอนั้นนับว่าไม่เลวเลย
ส่วนเวินฉี่ที่ยืนอยู่ทางหน้าเธอนั้น สีหน้ากลับดูมืดมน ดูไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก
มือทั้งสองข้างของเขาจับไม้เท้าเดินลงมา มองมายังเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินที่อยู่ในห้องรับแขกแวบหนึ่งแล้วถึงได้ละสายตาออกไป
เวินฉี่หยุดอยู่ตรงขั้นบันได แล้วในขณะเดียวกันก็เอ่ยพูดเสียงดังกับทุกคน
“หลังจากนี้สองอาทิตย์ งานแต่งงานระหว่างตระกูลหล่อนและตระกูลเวินจะถูกจัดขึ้นตามปกติ”
“งานแต่งงาน?” เวินเที๋ยนเที๋ยนส่งเสียงออกมาอย่างประหลาดใจ ทั้งยังเบิกตาโตขึ้นมาอีกด้วย
ไม่เพียงแค่เธอ แม้แต่จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆเธอก็มองมาด้วยความแปลกใจด้วยเช่นกัน
หลายคนที่อยู่ในห้องรับแขก และเวินหงไห่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที และแสดงความไม่พอใจออกมา
ในเวลานี้สองคนที่ยืนอยู่ตรงขั้นบันไดนั้นกลับไม่มีใครอธิบายอะไรออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมาเอ่ยถามกับคนที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก
“ใครจะแต่งงานหรือคะ?”
เวินฉี่ยืนอยู่ตรงขั้นบันได สายตามองลงไปยังทุกคนที่ยืนอยู่ในห้องรับแขกนี้
“หลังจากนี้สองอาทิตย์ เวินหงหยู้จะแต่งเข้าตระกูลหล่อน แต่งงานกับหล่อนหลีอย่างเป็นทางการ”
เขามีเจตนาที่จะทำให้เสียงดังขึ้น และในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความเกลียดชังอีกด้วย
แต่ก็ยังคงเป็นเสียงที่ดังและมีพลัง เข้าหูของทุกคนอย่างชัดเจน
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว ดวงตาของเธอหรี่ลงเล็กน้อย มองหล่อนหลีที่ยืนอยู่ทางด้านบนในเวลานี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ
หล่อนหลีสังเกตเห็นถึงสายตาที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน รอยยิ้มตรงมุมปากค่อยๆยิ้มกว้างขึ้น
แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างช้าๆ : “ต่อไป ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ว่าแล้วนั้น สายตาของเธอก็มองมายังเวินหงหยู้ สบตากันแล้วยิ้มออกมา
ทั้งห้องรับแขกเงียบสนิท แม้แต่เข็มหล่นก็คงจะได้ยินเสียงนั้น
ผ่านไปสักพักใหญ่ เวินหงไห่ที่มีสีหน้าแย่มากๆนั้นก็ลุกขึ้นยืน ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียวแล้วจึงหันหลังเดินออกไป
เหยาเย้นเห็นสถานการณ์ตอนนี้แล้ว จึงพาหมิงเฮ่าเดินตามไปด้วย
เวินฉี่เม้มปาก สีหน้านิ่งเล็กน้อย แล้วเอ่ยพูดขึ้นกับหล่อนหลีที่อยู่ทางด้านหลัง : “ตอนนี้เธอพอใจแล้วใช่ไหม?”
หล่อนหลียิ้มออกมา
“แน่นอนค่ะ เรื่องที่ฉันรับปากคุณเอาไว้ ฉันเองก็จะไม่ลืมเช่นกัน นี่ประจวบเหมาะพอดีสำหรับคุณไม่ใช่หรือคะ?”
ว่าแล้ว เธอก็เดินอ้อมเวินฉี่มายังด้านหน้า แล้วค่อยๆเดินลงมาจากขั้นบันไดนั้น
พลางเอ่ยขึ้น : “นั่นเป็นเพราะว่าในสายตาของคุณ อนาคตของตระกูลเวินคงจะสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้นใช่หรือเปล่าคะ? กับเพียงแค่เวินหงหยู้สำหรับคุณแล้วก็คงไม่สำคัญเท่าไหร่อยู่แล้วนี่คะ”
พูดจบแล้วนั้น เธอก็เดินมายังด้านหน้าเวินหงหยู้ หันมายืนเคียงข้างเขา แล้วมองไปยังเวินฉี่ที่อยู่ด้านบน
ใบหน้าของเวินฉี่นั้นเคร่งขรึม เขากำไม้เท้าในมือแน่น
เขายืนตัวตรงอยู่ที่เดิม หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วมองไปยังเวินหงหยู้ที่อยู่ตรงหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน เขาถึงได้เตรียมที่จะหันกลับไป แล้วจึงเอ่ยพูดขึ้นมา
“ไม่เลวนี่ แต่ก็เป็นเพียงแค่คนทรยศที่ถูกไล่ออกไปจากตระกูลตั้งนานแล้ว สามารถแลกกับอนาคตของตระกูลเวินมาได้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะชดใช้ให้ได้”
ว่าแล้ว เขาก็ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นอีก หันหลังกลับแล้วเดินจากไปเลยทันที
เสียงฝีเท้าและเสียงกระทบของไม้เท้านั้นดังก้องขึ้นมาในห้องรับแขก
มองเขาเดินจากไปแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา
เธอมองคุณนายหล่อนและเวินหงหยู้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
“คุณนายหล่อน นี่…..นี่มันเรื่องอะไรกันคะ?”
คุณนายหล่อนหันหน้ามา ไม่คิดว่าใบหน้าของเธอจะปรากฏรอยยิ้มที่สดใสอย่างที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เคยเห็นมาก่อนเลยเช่นนี้
เธอเอียงศีรษะ เป็นการกระทำดูซุกซนและเต็มไปด้วยความสุข
“ฉันอยากแต่งงานแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมอง แล้วถึงกับพูดไม่ออก
เธอรู้จักคุณนายหล่อนมานานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอมีท่าทางที่ดูมีความสุขเช่นนี้
ในใจของเธอ คุณนายหล่อนเป็นเสาหลักและบุคคลที่มีอำนาจของตระกูลหล่อน
แต่ผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ เธอที่อายุยังไม่ถึงสี่สิบปี…..
บางที นี่คือสิ่งที่เธอต้องการเพียงเท่านั้น
ความสุขที่รอคอยมาเป็นเวลายี่สิบปี
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกดีใจ รอยยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นมา
“ยินดีด้วยนะคะ คุณนายหล่อน”