เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 316 ครั้งต่อไปมาด้วยกัน
บทที่316 ครั้งต่อไปมาด้วยกัน
อย่างที่จี้จิ่งเชินพูด ถ้าหากคุณนายหล่อนอยากจะซ่อนตัวขึ้นมาจริงๆละก็ ไม่ว่าจะทำยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางหาเจอแน่
ถึงแม้จะรวมกำลังของตระกูลหล่อนและจี้จิ่งเชินแล้ว แต่ตามหามาตั้งนาน ก็ยังคงไม่ได้ข่าวอะไรเลย
แล้วนับประสาอะไรคนของเวินหงไห่ที่ยังคงตามหลังเราอยู่ พวกเขาไม่สามารถที่จะตามหาในวงกว้างได้ ทำได้เพียงแค่ดำเนินการอย่าระมัดระวังเท่านั้น
อย่างนี้แล้ว ความคืบหน้าในการตามหาก็จะช้าลงไปมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว และทำอะไรไม่ถูก
“ฉันรู้สึกว่า เวินหงหยู้จะอยู่ด้วยกันกับพวกเขา เพียงแค่หาหนึ่งในพวกเขา ก็จะเจอเบาะแสของพวกเขาได้”
“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็รีบร้อนไม่ได้อยู่ดี”จี้จิ่งเชินพูดขึ้น
เขามองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังเป็นกังวลอยู่ และพูดขึ้นว่า:“ในเมื่อคุณนายหล่อนตั้งใจที่จะสั่งพ่อบ้าน ให้เขาบอกเธอว่าจะไปสัมมนา อย่างนั้นก็คงไม่มีอันตรายอะไรมากแน่นอน เธออย่ากังวลเกินไปเลย”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ประตูของห้องหนังสือก็ถูกคนเปิดออก พ่อบ้านก็เดินเข้ามาจากข้างนอก
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ในห้องหนังสือ เขาก็ลังเลอยู่เล็กน้อย จึงจะเดินเข้าไป
“คุณท่าน ป้ายที่สลักชื่อบนหลุมฝังศพที่สั่งไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ยินก็ เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างประหลาดใจ
หลังจากนั้น ก็นึกขึ้นมาได้ทันที
จี้จิ่งเชินหาเถ้ากระดูกของหลิ่วถิงเจอแล้ว แน่นอนว่าต้องฝังลงดินใหม่
ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเขาพูดอยู่ แต่ช่วงนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนยุ่งอยู่กับการตามหาข่าวของคุณนายหล่อน ก็เลยลืมไปแล้ว
“กำหนดเวลาไว้แล้วยัง?”เธอถามขึ้น
พ่อบ้านพยักหน้า
“พรุ่งนี้ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังเสร็จ ก็หันหน้าไปถามจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า:“ช่วงนี้เธอยุ่งๆเรื่องของตระกูลเวินอยู่น่ะ ฉันเลยไม่ได้บอกเธอ กลัวจะทำให้เธอเสียเวลา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?ในเมื่อเป็นเรื่องของนาย ฉันต้องกลับไปอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับ……”
นับประสาอะไรกับ คุณแม่ของจี้จิ่งเชินที่สำหรับเธอแล้วนั้นอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญมาก เธอจะพลาดได้อย่างไร?
แต่เธอกลับลืมไปซะได้
จี้จิ่งเชินที่เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มจะโทษตัวเอง ก็ยื่นมือไปดึงเธอไว้
“ถามตอนนี้ก็ไม่สายไปหรอก งั้นพรุ่งนี้ไปส่งเธอกับฉันดีไหม?”
ในขณะที่พูด จี้จิ่งเชินก็ยกมุมปากขึ้น แล้วยิ้มพลางพูดว่า:“เธอยังไม่รู้ว่าฉันได้มีคนที่จะคอยอยู่เคียงข้างฉันไปตลอดทั้งชีวิตแล้ว ถ้าหากเธอได้รับรู้ คงจะดีใจมากแน่ๆ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือเขาไว้แน่น แล้วก็พยักหน้า
“ได้ พวกเราไปด้วยกัน”
เรื่องที่หลิ่วถิงจะถูกฝังลงอีกครั้ง จี้จิ่งเชินก็ไม่ได้บอกใครมากมาย
วันถัดมา มีเพียงพ่อบ้านและพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้มาถึงสุสาน
หลิ่วถิงถูกฝังลงโดยหันหน้าไปทางทะเล สุสานถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด มีลมทะเลพัดเข้ามาจากทุกด้าน สบายอย่างมาก
สุสานไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและงดงามประณีตของหญิงสาว แต่เพียงแค่บนป้ายสุสานไม่ได้มีรูป มีเพียงแค่สลักชื่อเอาไว้เท่านั้น เรียบง่ายมาก
จี้จิ่งเชินวางดอกไม้ในมือลง แล้วพูดขึ้นว่า:“รูปของแม่ฉันเมื่อก่อนถูกฉวีผิงทำลายไปหมดแล้ว ไม่หลงเหลือเลยแม้แต่รูปเดียว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่สามารถจินตนาการได้ ถึงชีวิตในเมื่อก่อนของจี้จิ่งเชิน
ตกลงมาสวรรค์สู้นรกตั้งแต่สามขวบ ถึงจะรู้ว่าแม่แท้ๆของตัวเองถูกขังอยู่ชั้นใต้ดินตั้งแปดปี
ไม่ง่ายเลยที่จะหนีออกมา แต่แม่ของเขาก็กลับถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาของเขาอีก
ถึงแม้ภายหลังจะถูกจี้คางพากลับมาที่ตระกูลจี้ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ทั้งโดนตีโดนด่าว่า การเยาะเย้ยดูถูกเสียดสีเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างปกติ
มันไม่ง่ายเลยจนถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็พึ่งจะได้เถ้ากระดูกของแม่กลับคืนมา
ทางที่เดินมานั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนได้พลาดไปแล้ว เธอไม่ได้อยู่เคียงข้างเขา
เวลาที่ได้หายไปจะไม่มีอีกแล้ว แต่หลังจากนี้ เธอจะไม่ปล่อยให้จี้จิ่งเชินโดดเดี่ยวอีกต่อไป
ถึงหนทางข้างหน้าจะยากลำบากและอันตราย แต่ถ้าหากมีคนสองคนเดินเคียงข้างไปด้วยกัน ถึงแม้จะมีปัญหาความยากลำบากเข้ามาอีกมากมายก็ไม่สามารถล้มพวกเขาลงได้
ในขณะที่คิด เธอก็ยื่นมือออกไปจับจี้จิ่งเชินเอาไว้ และประสานมือกับเขา
และเดินเข้าไปข้างๆเขา และพูดกับป้ายสุสานว่า:“สวัสดีค่ะ คุณป้า ฉันคือเวินเที๋ยนเที๋ยนนะคะ”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะอยู่เคียงข้างจี้จิ่งเชิน จะไม่จากเขาไป จะไม่ทำร้ายเขา ขอให้คุณวางใจนะคะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็โน้มตัวลงไป และโค้งคำนับให้กับป้ายสุสาน
พอเงยหน้าขึ้นมา เธอก็หันไปยิ้มให้กับจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินจ้องมองไปที่เธอ สีหน้าดูไม่ออกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไป แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาจับมือเธอแน่นมากขึ้น
เขาไม่ได้หันหน้าไป แต่กลับจ้องมองเวินเที๋ยนเที๋ยน และพูดต่อว่า:“แม่ครับ ผมยังมีอีกเรื่องนึงที่อยากจะบอก”
แววตาของจี้จิ่งเชินก็ลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก
“ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณแม่ตอนนี้ จะกลายเป็นภรรยาของผมครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้ยินประโยคนี้ ก็มองเขาอย่างประหลาดใจ
จี้จิ่งเชินที่เห็นท่าทางที่ประหม่าของเธอ ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
และพูดเสริมว่า:“ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ใช่ แต่ครั้งหน้าที่ผมพาเธอมา ก็จะพามาในฐานะภรรยานะครับ”
“ฉันจี้จิ่งเชิน ไม่เคยผิดสัญญา”
ลมทะเลพัดมา ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเย็นเฉียบ แต่ฝ่ามือกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งมาจากจี้จิ่งเชินอย่างชัดเจน
อุณหภูมิความร้อนนั้น เพียงพอที่จะละลายน้ำแข็งไปได้เลย
ทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหน้าสุสานครู่หนึ่ง จึงจะจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือจี้จิ่งเชินไว้แน่น และเห็นอารมณ์ของเขานั้นดูเหงาหงอย
จึงพูดขึ้นอย่างนุ่มนวลว่า:“ที่นี่หันหน้าไปทางทะเล และวิวก็สวย คุณป้าต้องชอบแน่ๆ”
จี้จิ่งเชินหันหน้ามามอง
เดิมทีเขาคิดว่า เรื่องมันก็ผ่านไปนานมากแล้ว ตอนนี้ก็แค่ฝังคนที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็คงจะลืมความรู้สึกที่เหมือนจะหายใจไม่ออกไปนานแล้ว
แต่ว่าเมื่อต้องมายืนอยู่ข้างหน้าสุสานของหลิ่วถิงจริงๆแล้ว จี้จิ่งเชินกลับพบว่า ความรู้สึกที่ถูกกลบฝังในใจของเขามาตลอดนั้น ก็ระเบิดออกมาในชั่วพริบตา
ภาพที่อยู่ตรงหน้าปรากฏออกมาในหัวไม่หยุด เป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนเคียงข้างเขา และจับมือเขาเอาไว้แน่น
“ขอบใจนะ”
จี้จิ่งเชินหันมา และเอื้อมมือไปกอดเวินเที๋ยนเที๋ยน
แขนทั้งสองข้างของเขากอดไว้แน่น ราวกับว่าจะอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาจากพื้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ดิ้นรนอะไร ในแววตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม เธอกลับกอดเขาตอบ และพิงลงที่ไหล่ของจี้จิ่งเชิน
“ครั้งต่อไป ฉันจะมากับนายนะ”
“อื้ม”
จี้จิ่งเชินตอบกลับ
ชั่วพริบตา ร่างกายก็แข็งทื่อ รูม่านตาก็หดเล็กลงทันที!
เมื่อกี้ตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าสุสานของหลิ่วถิงได้พูดว่า ครั้งหน้าที่จะพาเวินเที๋ยนเที๋ยนมา เธอจะเป็นภรรยาของเขา
แต่ตอนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ได้พูดประโยคนี้ออกไป หรือว่า……
จี้จิ่งเชินดีใจและปล่อยตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนออก จากนั้นก็มองหน้าเธอ
“จริงๆหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นสีหน้าของเขาที่ไม่อยากจะเชื่อ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“นายไม่อยากให้ฉันมาหรอ?”เธอพูดแบบติดตลก
“อยากสิ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของจี้จิ่งเชินกว้างขึ้น ราวกับว่าจะเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างมีความสุข
“เธอรับปากแล้วนะ จะกลับคำไม่ได้นะ ถ้าครั้งหน้าไม่มา ถึงจะต้องแบกเธอมา ฉันก็จะทำ”
ในขณะที่พูด เขาก็รีบหยิบของจำนวนมากออกมาจะกระเป๋ากางเกง
อย่างแรก เป็นรูปสร้อยคอที่เคยส่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยน
เขารีบสวมลงที่คอของเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง และไม่ปล่อยให้เธอขัดขืน เขาก็รีบหยิบแหวนที่ใช้ขอแต่งงานที่พกติดตัวมาตลอดอย่างรวดเร็ว
เขาคุกเข่าข้างนึงลง โดยที่ไม่พูดอะไร และรีบสวมลงบนนิ้วข้างขวาของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างรวดเร็ว
เขาทำอย่างรวดเร็วมาก ราวกับกลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะกลับคำยังไงอย่างนั้นเลย