เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 312 เรดาร์น้อย
บทที่ 312 เรดาร์น้อย
เมื่อพ่อเก็บกวาดเสร็จ และลงมาจากชั้นบนแล้ว เห็นจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น
จี้จิ่งเชินที่เห็นเขา ก็ถามขึ้นว่า:“เก็บกวาดห้องเสร็จแล้วหรอ?”
“เสร็จแล้วครับ”
พ่อบ้านพยักหน้า ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนั้น แต่สายตาของเขาที่มองจี้จิ่งเชินอยู่นั้น กลับแฝงไปด้วยความหวังที่อยากจะให้เขาได้ดีมีสุข
โอกาสดีอย่างนี้ก็ไม่คว้าเอาไว้
คุณชาย ผมคงต้องประเมินความสามารถของคุณในใจใหม่แล้วล่ะ
อีกฝั่ง จี้จิ่งเชินไม่ได้รู้สึกถึงความคิดในใจของเขา และหันไปพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนว่า:“ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ถ้าเธอเหนื่อยก็ไปพักเถอะ”
“อื้ม นายก็รีบไปพักผ่อนเถอะ”
พอพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ลุกขึ้น แต่กลับพบว่า พ่อบ้านจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย และมองดูเธอเดินจากไป
เธอขมวดคิ้ว และหันกลับมามอง
“พ่อบ้าน คุณโอเคหรือเปล่า?”
พ่อบ้านรีบเผยรอยยิ้มอันสมบูรณ์แบบออกมาทันที แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย
“แน่นอนครับ ขอให้คืนนี้ฝันดีนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างงุนงงเล็กน้อย ก็จะเดินจากไป
เมื่อเธอเดินจากไป จี้จิ่งเชินก็ลุกขึ้นทันที
“ฉันก็จะไปพักผ่อนแล้ว”
พอพูดจบ ก็ทิ้งให้พ่อบ้านอยู่ที่ห้องนั่งเล่นคนเดียว แล้วกลับมาที่ห้องนอนของตัวเอง
พ่อบ้านยังคงมองดูพวกเขา ที่ห้องนั่งเล่นอยู่นานไม่ยอมไปไหน
เขาจึงค่อยๆถอนหายใจ
เจ้าตัวไม่เดือดเนื้อร้อนใจ แต่คนข้างๆกลับร้อนใจจนจะตายอยู่แล้ว
กลางดึก
ฟ้าร้องฟ้าผ่า จู่ๆก็มีพายุฝนตกลงมา
จี้จิ่งเชินที่กำลังหลับสนิทอยู่นั้น จู่ก็ถูกปลุกด้วยเสียงเคาะประตู
เขาลุกนั่งขึ้นมา และดูนาฬิกาข้อมือ พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสอง
หรือว่าจะเป็นพ่อบ้านมีเรื่องอะไรมาหาเขา?
จี้จิ่งเชินเปิดประตูออก
ข้างนอกห้อง ไม่มีใครสักคน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว และงุนงงไปชั่วขณะ
เขาหันหลังกลับไป เตรียมที่จะเดินกลับ จู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนดึงกางเกงของเขาอยู่
จี้จิ่งเชินจึงก้มหน้าลง และสายตาก็ลดลงต่ำไปด้วย
และพบว่ามีเด็กผู้ชายยืนอยู่ที่หน้าประตู
เด็กผู้ชายถือผ้านวมอยู่ในมือ เงยหน้ามองเขา แววตาดูน่าสงสารมาก
จี้จิ่งเชินก้มมองดูเขา
ดูเหมือนว่าจะเป็นเขาที่เคาะประตู
จี้จิ่งเชินจำได้ว่า คนที่อยู่ตรงหน้า เป็นหนึ่งในเด็กที่เขาช่วยมาจากในป่าครั้งที่แล้ว
เขาควรอยู่ที่หอคอยไม่ใช่หรอ?
มาได้ยังไงกัน?
จู่ๆก็ถูกทำให้ตื่นมากลางดึก สีหน้าของจี้จิ่งเชินจึงไม่น่าดู และมองที่เขา
“มีอะไรหรอ?”
พอเขาพูดจบ ก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นจากข้างนอก
เด็กน้อยตกใจจนหน้าซีดเผือด เขาดึงกางเกงของจี้จิ่งเชินไว้แน่น
ถ้าหากสีหน้าของเขาไม่น่าดูขนาดนี้ จี้จิ่งเชินก็คิดว่า เด็กคนนี้ต้องกระโดดขึ้นมาบนตัวเขาแน่
ก่อนหน้านี้ เรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น
“ฟ้าผ่าแล้ว……”เด็กชายน้อยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“เธอลงมาจากหอคอย ปีนขึ้นมาที่ชั้นสาม แล้วมาเคาะห้องนอนฉัน เพื่อที่จะมาบอกฉันแค่นี้หรอ?”
เด็กน้อยเบ้ปาก แล้วพูดด้วยเสียงเบาๆว่า:“ผมกลัวนิดหน่อยครับ……”
จี้จิ่งเชินมองดูเขาครู่หนึ่ง
“อืม”
พอพูดจบ เขาก็เตรียมจะปิดประตู
เด็กชายเห็นว่าเขากำลังจะไป ก็รีบตามมาอย่างรวดเร็ว และกอดขาของเขาเอาไว้แน่น
เขาหลับตาปี๋ แล้วตะโกนออกมาว่า:“จริงๆแล้วผมอยากจะไปหาพี่เที๋ยนเที๋ยน แต่ผมกลัวว่าผมจะไปทำให้เธอตื่น แล้วจะนอนหลับไม่สนิท ผมก็เลยต้องมาหาคุณ”
“คุณอย่าทิ้งผมเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ผมกลัวมากจริงๆ!”
ขณะที่เขาพูด ข้างนอกก็มีฟ้าผ่าและฟ้าร้อง ฟ้าผ่าจนทำให้ในห้องสว่างอย่างไม่หยุดหย่อน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“นายเป็นผู้ชาย จะกลัวอะไรกับฟ้าผ่า?”
เด็กชายตัวน้อยกะพริบตา แล้วกอดขาเขาไว้แน่น
“พี่สาวบอกว่า พวกเรายังคงเป็นเด็ก”
จี้จิ่งเชินไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากว่ากลัวจริงๆ ยังจะลงมาจากหอคอยได้อีกหรอ?
จี้จิ่งเชินยกขาขึ้น และเขาก็ยังคงห้อยตัวอยู่อย่างนั้น ยังไงก็ไม่ปล่อยมือ
เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย แล้วมองไปที่เขาพร้อมพูดว่า:“หลังจากที่ฉันไล่นายไป นายก็จะไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนใช่ไหม?”
เด็กน้อยคิดไปคิดมา
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่เขาก็กลัวมากจริงๆ
นอกจากจะไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว เขาก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะไปหาใคร จึงพยักหน้า
“อื้ม”
จี้จิ่งเชินมองดูเวลาอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่าแล้ว
เจ้าปัญหาตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้านี้ จะไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเที๋ยนเที๋ยนจะนอนยังไง?
เขาเบ้ปากอย่างไม่พอใจ ก็ที่จะยื่นมือไปจับที่ปกเสื้อของฝ่ายตรงข้าม แล้วยกขึ้นมา มุ่งหน้าไปที่เตียงนอน
“บอกชื่อของเธอมา”
“เสี่ยวชิ่ง ”
“ดีมาก คืนนี้เธออยู่ที่นี่ดีๆล่ะ ไม่อนุญาตให้วิ่งเล่นไปรอบๆ แล้วก็อย่าไปรบกวนคนพักผ่อน”
พอพูดจบ เขาก็โยนเด็กลงไปบนเตียง
ดูท่าแล้วเด็กคนนั้นท่าทางจะไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย เผชิญหน้ากับการกระทำที่หยาบคายของจี้จิ่งเชิน ก็ไม่ได้สนใจอะไร
พอกระทบเข้ากับที่เตียง เขาก็มุดตัวเข้าไปในผ้าห่มของจี้จิ่งเชินทันที ดูชำนาญมากกว่าใคร
จี้จิ่งเชินมองไปที่เขา เขารู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกไปชั่วขณะ
แต่ถ้าดูดีๆแล้ว ท่าทางของเด็กคนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้เสแสร้ง
เขาเดินไปปิดประตู และจึงเดินไปที่เตียง และใช้น้ำเสียงที่เย็นชาออกคำสั่ง
“นอนดีๆ คืนนี้ห้ามให้ร้องไห้ ห้ามพูด ห้ามหัวเราะ อยู่ห่างฉันอย่างน้อยยี่สิบเซนติเมตร ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนนายออกไป”
พอพูดจบ เขาก็นึกขึ้นมาได้อีกว่า ถ้าเขาไล่เด็กคนนี้ออกไป เด็กคนนี้ก็คงต้องไปหาเวินเที๋ยนเที๋ยนแน่ๆ
เขาเปลี่ยนคำพูดอย่างไม่พอใจ
“ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนนายไปที่โซฟา?เข้าใจชัดเจนไหม?”
เด็กน้อยที่ได้ยิน ก็รีบพยักหน้าทันที
“แต่ว่าคุณลุงจี้ครับ ยี่สิบเซนติเมตรคืออะไรครับ?”
เส้นเลือดก็ผุดออกมาจากหน้าผากของจี้จิ่งเชิน
“ก็คือออกห่างจากฉันหน่อย ห่างได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น!”
เสี่ยวชิ่งรีบพยักหน้า
จี้จิ่งเชินค่อยพอใจขึ้นมาหน่อย และออกคำสั่งขึ้นอีกครั้ง
“ตอนนี้ หลับตาลงแล้วนอนซะ”
เด็กน้อยตกใจจนรีบปิดตาลง โดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะหลับหรือไม่หลับ
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไป และนอนลงตรงข้างๆเขา ระหว่างพวกเขามีเส้นแบ่งเขตเอาไว้อย่างชัดเจน
เดิมทีเขาคิดว่าเด็กคนนี้ดูท่าทางแล้วจะนิ่งๆเงียบๆ และตอนนี้ก็ตีสองแล้ว เพียงแค่อีกสี่ห้าชั่วโมง เขาก็จะเป็นอิสระแล้ว
แต่ เพียงผ่านไปแค่ครู่หนึ่ง จี้จิ่งเชินก็สึกว่า ที่ตัวเองคิดนั้นเพอร์เฟคเกินไปแล้ว
เขายังไม่ทันจะได้หลับ ก็มีเสียงดังเกิดขึ้น!
เดิมทีคนที่ต้องนอนอยู่ข้างๆเขา และห่างจากเขายี่สิบเซนติเมตร จู่ๆก็กลิ้งเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
จี้จิ่งเชินรีบลืมตาขึ้นมาทันที กัดฟันไว้แน่น และก้มมองเด็กน้อยที่จับเสื้อผ้าและนอนหลับอย่างสนิทในอ้อมแขนของเขาอยู่
เขาผลักเด็กน้อยออกอย่างไม่แยแส แล้วโยนไปอีกฝั่งนึง
แต่ผ่านไปไม่นาน เด็กน้อยก็กลิ้งตัวเข้ามาอีก ราวกับว่าเป็นแม่เหล็กที่เดินได้
สีหน้าของจี้จิ่งเชินเปลี่ยนเป็นยิ่งรำคาญมากขึ้น และผลักเขาออกอีกครั้ง
แต่ผ่านไปไม่กี่นาที อีกฝ่ายก็ยังคงกลิ้งกลับมาในอ้อมแขนของเขาอย่างเดิม
ไม่ว่าเขาจะซ่อนอยู่ตรงไหน เสี่ยวชิ่งก็หาจนเจอ ราวกับว่าเป็นเรดาร์น้อย
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าดูท่าทางแล้วเสี่ยวชิ่งจะนอนหลับอย่างสนิทแล้วนั้น จี้จิ่งเชินก็คงรู้สึกว่าเขากำลังกวนประสาทอยู่แน่ๆ
ตลอดทั้งคืน จี้จิ่งเชินต้องผลักคนที่ตัวติดเขาอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน